สวัสดีค่ะ สมาชิกชาวพันทิป
เรื่องนี้เป็นประสบการณ์โดยตรงของเราเลย ในการเลือกช่างภาพวันรับปริญญา
หลายคนก็คงเคยเจอปัญหาแบบเดียวกัน ใกล้วันงานแล้ว แต่ยังไม่มีช่างภาพ กลัวถ่ายออกมาไม่สวยถูกใจ ฯลฯ
เราเลยถามรุ่นน้องที่สนิทกันค่ะ (รุ่นน้องเป็นช่างภาพสมัครเล่น) น้องบอกว่าจะช่วยโพสต์ในกลุ่มเฟสบุ๊คหาให้อีกแรง
พอน้องโพสต์ เราก็เข้าไปเลือกช่างภาพที่มาตอบค่ะ พิจารณาดูหลายๆ อย่าง เช่น ฝีมือช่างภาพ ราคา...
สุดท้าย เราก็ถูกใจเพจของช่างภาพท่านนึง ราคาเต็มวันคือ 5,000 บาท .. ในความคิดเราถือว่าภาพก็สวยสมราคา
ครั้งแรกในชีวิตที่จะได้สวมชุดครุย ขอสวยที่สุด
เลยตัดสินใจที่จะทักไปในข้อความเพจ คนที่คุยกับเราไม่ใช่ช่างภาพค่ะ เป็นผู้หญิง ซึ่งไม่ได้ถามว่าเป็นใคร ยังไง
สรุปตกลงราคากันที่ 5,500 บาท เพราะเป็นวันโฟโต้เดย์ (ไม่มีการเข้าหอประชุม) ช่างภาพต้องถ่ายทั้งวัน
เราก็โอเคเลยค่ะ เพิ่มอีก 500 ช่างมันเถอะ ได้ภาพสวยๆ ก็ดีใจ
เค้าบอกว่า ใกล้ถึงวัน ช่างภาพจะติดต่อเรามาอีกครั้งนึง..
ผ่านไปเป็นเดือน... ก่อนถึงวันที่นัดกับช่างภาพไว้ 2 วัน ช่างภาพก็โทรมาหาเรา ตกลงสถานที่และเวลากันเรียบร้อยค่ะ
วัน Photo day ... มาถึงวันที่เรานัดช่างภาพไว้ค่ะ
เรานัดช่างไว้ 8 โมงเช้า ช่างภาพมาสายนิดหน่อย ไม่มาก ถือว่าไม่ว่ากันค่ะ เพราะเราก็สายนิดหน่อยเช่นกัน
สิ่งที่เราคาดหวังจากการต้องจ่ายเงิน 5,500 บาทคือ
1. ช่างภาพเฟรนด์ลี่ ช่วยเราคิดท่าทางเวลาถ่ายกับเพื่อนๆ
2. รูปที่สวยเหมาะสมกันราคา
3. ถ่ายรูปเสร็จ กลับบ้านไปพร้อมความประทับใจ และอยากบอกต่อๆ ถึงคนที่อยากหาช่างภาพรับปริญญา
แต่สิ่งที่เราคาดหวัง กลับตรงกันข้าม..
ช่างภาพมาพบเรา พร้อมกล้อง 1 ตัว แล้วกระเป๋าคาดเอวไว้ใส่อุปกรณ์ ไม่มีผู้ช่วย ไม่มีพร็อพ .. เราไม่ค่อยรู้เรื่องการถ่ายภาพ เราไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ
มาถึงก็คงเขินๆ กันนิดหน่อย เพิ่งเจอกัน อันนี้เราเข้าใจค่ะ
แต่หน้าตาเค้าตลอดเวลาคือ เหมือนไม่พร้อมจะทำงาน ไม่อยากถ่าย
เราไปเจอเพื่อน เราก็อยากถ่ายกับเพื่อน .. ปกติช่างภาพควรจะเดินตามเราใช่มั้ยคะ แต่นี่ เราต้องคอยบอกว่า.. "พี่คะ ถ่ายรูปหนูหน่อยค่ะ" ... "พี่คะ ถ่ายหนูกับเพื่อนหน่อยค่ะ"
ยังไม่ถึง 2 ชม. ในการถ่ายรูปกับช่างภาพคนนี้ เรารู้สึกไม่ประทับใจเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ อยากเปลี่ยนช่างภาพมาก แต่ถึงวันนั้นก็คงไม่ทันแล้ว
หลังจากนั้น .. ถึงเวลาที่เราต้องไปเข้าแถวถ่ายรูปหมู่
เราเลยให้แฟนเรา พาช่างภาพไปทานข้าว คือเราคิดว่า ผู้ชายอาจจะคุยกันง่าย ทานข้าวอิ่ม เค้าคงจะอารมณ์ดีขึ้น
แต่ก็ยังเหมือนเดิม
จนพ่อกับแม่และพี่ชายเรามาประมาณเที่ยงๆ เค้าถึงกระตือรือร้นที่จะถ่ายภาพเราขึ้นมาบ้าง (เพราะพ่อเราหน้าดุรึเปล่าก็ไม่รู้ 555)
ก็ได้ถ่ายหลายมุม หลายรูปค่ะ กับครอบครัว
ประมาณ บ่าย 2 โมง พ่อกับแม่เราก็กลับไป .. เราตัดสินใจบอกช่างภาพว่า เราเหนื่อยแล้ว พอแค่นี้แล้วกัน เพราะเราเหนื่อยจริงๆ แดดร้อนมาก
เค้า alert ขึ้นมาเลย มาๆ พี่ขอถ่ายรูปอีกหน่อย จัดมุม จัดท่า นิดๆ หน่อยๆ แถมนัดกับเราว่า อีก 2-3 วัน ขอถ่ายนอกรอบเดี่ยวให้เราฟรี ทั้งวัน ไม่คิดเงิน
เราก็ขอบคุณเค้า มีการต่อรองราคาเหลือ 5000 แต่พี่เค้าไม่ยอม.. เราก็เลยไม่ตอแย ถือว่าจะได้ถ่ายนอกรอบอีกทั้งวัน ก็คุ้มมาก
แต่วันนั้น เราก็กลับบ้านไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีมากๆ ที่เราได้ถ่ายรูปกับเพื่อนน้อยมาก วันนั้นเป็นวันเดียวที่เราควรจะได้ถ่ายรูปกับเพื่อนเยอะที่สุด..
มาถึงวันที่พี่เค้านัดเราถ่ายนอกรอบค่ะ..
เราออกจากบ้านมารอพี่เค้าที่สถาบันตอนประมาณ 8 โมง เราโทรหาแล้วพี่เค้าไม่รับโทรศัพท์ เลยรออยู่ซักพัก คุยกับอาจารย์ไปพลางๆ
จนถึง 10 โมง .. มีผู้หญิงโทรมาหาเรา บอกว่า คุณพ่อของพี่ช่างภาพ ประสบอุบัติเหตุกะทันหัน ขอเลื่อนไปก่อน
เราเคืองมากค่ะ โกรธมาก ผิดนัดเราไม่ว่า เหตุสุดวิสัย .. แต่ทำไมพี่เค้าไม่โทรมาหาเราเอง เราโทรไปก็ไม่รับสาย..
เวลาผ่านไป เป็นเดือน.. ไม่มีการติดต่อมาจากช่างภาพอีกเลย หายเงียบไป เราก็ไม่ได้ตามรูปอ่ะนะคะ
ช่วงกลางเดือนถัดไป หลังจากวันที่เราถ่ายรูป (ผ่านไปหนึ่งเดือนพอดี) พี่ช่างภาพแอดเฟสบุคเรามา พร้อมบอกว่า จะนัดวันถ่ายนอกรอบอีกครั้ง และจะรีบทำรูปให้ เพราะเค้าติดงานถ่ายที่อื่นอีก .. แล้วก็เงียบหายไป
ก่อนวันปีใหม่ แฟนเราไปเจอกระทู้นึงเกี่ยวกับช่างภาพรับปริญญาที่เกิดเหตุการณ์คล้ายกัน ก็เลยมาโพสท์ในเฟสบุคเราค่ะ
ช่างภาพคงเห็น แล้วรีบโทร.มาหาเราทันทีเลย ว่าพี่อยู่ต่างจังหวัด หลังปีใหม่จะนำรูปที่เสร็จแล้วมาให้ เราเลยให้ไปฝากไว้ที่แฟนเราค่ะ
พี่เค้าจะติดต่อกับแฟนเราเอง
จนถึงวันที่นัดหมาย .. ก็ยังไม่มีคนฝากของไว้ให้ จนแฟนเราต้องโทร.ไปตาม สรุปว่า พี่เค้ายังล้างรูปไม่เสร็จ
เลยต้องมารับอีกทีวันหลัง
หลังจากนั้น 1 วัน เราก็ได้เซตรูปค่ะ มีซีดี รูปที่อัด ใส่กล่องอย่างดี
แต่ยังไม่จบ .. แฟนเราอยากดูรูป เลยเปิดซีดีเดี๋ยวนั้นเลย สรุปว่าซีดีไม่มีร่องรอยการไรท์แผ่นเลย ต้องโทรตามพี่เค้าให้ไปทำมาใหม่
เค้าอ้างว่า พี่คงรีบ เลยลืมไรท์แผ่น.. ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น พี่ช่างภาพเคยส่งรูปซีดี พร้อมกล่อง ทุกอย่างครบ
ที่ผ่านมา เราไม่เคยเร่งพี่เค้าเลยนะคะ มีแต่เค้ามาบอกเองว่า กระบวนการตอนนี้ทำรูปไปถึงไหนแล้ว
เราเข้าใจในกระบวนการทำรูป แต่งสี และอีกหลายๆ อย่างของช่างภาพ ว่ามันต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก
สุดท้าย.. เราก็ได้รูปซักทีค่ะ รูปสวยดี และมันก็เป็นไปตามที่เราคิด ในซีดี มีรูปทั้งหมดประมาน 300 กว่ารูป
ถ้าตัดรูปที่แต่งสี รูปซ้ำ จะเหลือประมาณ 200 รูป ซึ่งเราคิดว่า มันเป็นจำนวนที่น้อยมากๆ สำหรับการถ่ายรูปวัน Photo day ซึ่งมีเวลาถ่ายทั้งวัน
เราไม่ได้ถ่ายรูปกับเพื่อนอีกเยอะมาก พูดง่ายๆ คือ ในอัลบั้ม แทบจะไม่มีเพื่อนเราเลย
ปล. สรุปว่า เราก็ไม่ได้ไปถ่ายรูปนอกรอบค่ะ เพราะวันที่พี่เค้านำรูปมาให้ พี่เค้าก็ไม่ได้พูดเลย
แถมบอกแฟนเราว่า ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทร.มาได้นะ แต่ไม่โทร.จะดีกว่า -"-
เราอยากเตือนเพื่อนๆ ที่มองหาช่างภาพในวันสำคัญ ฝีมือไม่จำเป็นต้องดีมาก (แต่ถ้าได้ก็ดี) ควรจะเป็นคนที่ค่อนข้างสนิทกัน คุยง่าย สามารถจัดท่า ถ่ายรูปให้เราได้ตลอด
และฝากถึงช่างภาพนะคะ .. คุณเป็นคนให้บริการ เรายอมจ่ายเงินแพงเพื่อวันสำคัญครั้งแรกในชีวิตเรา
แค่สร้างความประทับใจเองค่ะ ฝีมือคุณไม่ต้องเลิศเลอมาจากไหน เราก็อยากจะให้คุณมาถ่ายรูปให้เราทุกงาน อยากจะบอกต่อๆ ไปถึงเพื่อน
แต่เจอแบบนี้ ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ เสียความรู้สึกนิดนิด
บอกเล่าประสบการณ์ ช่างภาพวันรับปริญญา
เรื่องนี้เป็นประสบการณ์โดยตรงของเราเลย ในการเลือกช่างภาพวันรับปริญญา
หลายคนก็คงเคยเจอปัญหาแบบเดียวกัน ใกล้วันงานแล้ว แต่ยังไม่มีช่างภาพ กลัวถ่ายออกมาไม่สวยถูกใจ ฯลฯ
เราเลยถามรุ่นน้องที่สนิทกันค่ะ (รุ่นน้องเป็นช่างภาพสมัครเล่น) น้องบอกว่าจะช่วยโพสต์ในกลุ่มเฟสบุ๊คหาให้อีกแรง
พอน้องโพสต์ เราก็เข้าไปเลือกช่างภาพที่มาตอบค่ะ พิจารณาดูหลายๆ อย่าง เช่น ฝีมือช่างภาพ ราคา...
สุดท้าย เราก็ถูกใจเพจของช่างภาพท่านนึง ราคาเต็มวันคือ 5,000 บาท .. ในความคิดเราถือว่าภาพก็สวยสมราคา
ครั้งแรกในชีวิตที่จะได้สวมชุดครุย ขอสวยที่สุด
เลยตัดสินใจที่จะทักไปในข้อความเพจ คนที่คุยกับเราไม่ใช่ช่างภาพค่ะ เป็นผู้หญิง ซึ่งไม่ได้ถามว่าเป็นใคร ยังไง
สรุปตกลงราคากันที่ 5,500 บาท เพราะเป็นวันโฟโต้เดย์ (ไม่มีการเข้าหอประชุม) ช่างภาพต้องถ่ายทั้งวัน
เราก็โอเคเลยค่ะ เพิ่มอีก 500 ช่างมันเถอะ ได้ภาพสวยๆ ก็ดีใจ
เค้าบอกว่า ใกล้ถึงวัน ช่างภาพจะติดต่อเรามาอีกครั้งนึง..
ผ่านไปเป็นเดือน... ก่อนถึงวันที่นัดกับช่างภาพไว้ 2 วัน ช่างภาพก็โทรมาหาเรา ตกลงสถานที่และเวลากันเรียบร้อยค่ะ
วัน Photo day ... มาถึงวันที่เรานัดช่างภาพไว้ค่ะ
เรานัดช่างไว้ 8 โมงเช้า ช่างภาพมาสายนิดหน่อย ไม่มาก ถือว่าไม่ว่ากันค่ะ เพราะเราก็สายนิดหน่อยเช่นกัน
สิ่งที่เราคาดหวังจากการต้องจ่ายเงิน 5,500 บาทคือ
1. ช่างภาพเฟรนด์ลี่ ช่วยเราคิดท่าทางเวลาถ่ายกับเพื่อนๆ
2. รูปที่สวยเหมาะสมกันราคา
3. ถ่ายรูปเสร็จ กลับบ้านไปพร้อมความประทับใจ และอยากบอกต่อๆ ถึงคนที่อยากหาช่างภาพรับปริญญา
แต่สิ่งที่เราคาดหวัง กลับตรงกันข้าม..
ช่างภาพมาพบเรา พร้อมกล้อง 1 ตัว แล้วกระเป๋าคาดเอวไว้ใส่อุปกรณ์ ไม่มีผู้ช่วย ไม่มีพร็อพ .. เราไม่ค่อยรู้เรื่องการถ่ายภาพ เราไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ
มาถึงก็คงเขินๆ กันนิดหน่อย เพิ่งเจอกัน อันนี้เราเข้าใจค่ะ
แต่หน้าตาเค้าตลอดเวลาคือ เหมือนไม่พร้อมจะทำงาน ไม่อยากถ่าย
เราไปเจอเพื่อน เราก็อยากถ่ายกับเพื่อน .. ปกติช่างภาพควรจะเดินตามเราใช่มั้ยคะ แต่นี่ เราต้องคอยบอกว่า.. "พี่คะ ถ่ายรูปหนูหน่อยค่ะ" ... "พี่คะ ถ่ายหนูกับเพื่อนหน่อยค่ะ"
ยังไม่ถึง 2 ชม. ในการถ่ายรูปกับช่างภาพคนนี้ เรารู้สึกไม่ประทับใจเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ อยากเปลี่ยนช่างภาพมาก แต่ถึงวันนั้นก็คงไม่ทันแล้ว
หลังจากนั้น .. ถึงเวลาที่เราต้องไปเข้าแถวถ่ายรูปหมู่
เราเลยให้แฟนเรา พาช่างภาพไปทานข้าว คือเราคิดว่า ผู้ชายอาจจะคุยกันง่าย ทานข้าวอิ่ม เค้าคงจะอารมณ์ดีขึ้น
แต่ก็ยังเหมือนเดิม
จนพ่อกับแม่และพี่ชายเรามาประมาณเที่ยงๆ เค้าถึงกระตือรือร้นที่จะถ่ายภาพเราขึ้นมาบ้าง (เพราะพ่อเราหน้าดุรึเปล่าก็ไม่รู้ 555)
ก็ได้ถ่ายหลายมุม หลายรูปค่ะ กับครอบครัว
ประมาณ บ่าย 2 โมง พ่อกับแม่เราก็กลับไป .. เราตัดสินใจบอกช่างภาพว่า เราเหนื่อยแล้ว พอแค่นี้แล้วกัน เพราะเราเหนื่อยจริงๆ แดดร้อนมาก
เค้า alert ขึ้นมาเลย มาๆ พี่ขอถ่ายรูปอีกหน่อย จัดมุม จัดท่า นิดๆ หน่อยๆ แถมนัดกับเราว่า อีก 2-3 วัน ขอถ่ายนอกรอบเดี่ยวให้เราฟรี ทั้งวัน ไม่คิดเงิน
เราก็ขอบคุณเค้า มีการต่อรองราคาเหลือ 5000 แต่พี่เค้าไม่ยอม.. เราก็เลยไม่ตอแย ถือว่าจะได้ถ่ายนอกรอบอีกทั้งวัน ก็คุ้มมาก
แต่วันนั้น เราก็กลับบ้านไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีมากๆ ที่เราได้ถ่ายรูปกับเพื่อนน้อยมาก วันนั้นเป็นวันเดียวที่เราควรจะได้ถ่ายรูปกับเพื่อนเยอะที่สุด..
มาถึงวันที่พี่เค้านัดเราถ่ายนอกรอบค่ะ..
เราออกจากบ้านมารอพี่เค้าที่สถาบันตอนประมาณ 8 โมง เราโทรหาแล้วพี่เค้าไม่รับโทรศัพท์ เลยรออยู่ซักพัก คุยกับอาจารย์ไปพลางๆ
จนถึง 10 โมง .. มีผู้หญิงโทรมาหาเรา บอกว่า คุณพ่อของพี่ช่างภาพ ประสบอุบัติเหตุกะทันหัน ขอเลื่อนไปก่อน
เราเคืองมากค่ะ โกรธมาก ผิดนัดเราไม่ว่า เหตุสุดวิสัย .. แต่ทำไมพี่เค้าไม่โทรมาหาเราเอง เราโทรไปก็ไม่รับสาย..
เวลาผ่านไป เป็นเดือน.. ไม่มีการติดต่อมาจากช่างภาพอีกเลย หายเงียบไป เราก็ไม่ได้ตามรูปอ่ะนะคะ
ช่วงกลางเดือนถัดไป หลังจากวันที่เราถ่ายรูป (ผ่านไปหนึ่งเดือนพอดี) พี่ช่างภาพแอดเฟสบุคเรามา พร้อมบอกว่า จะนัดวันถ่ายนอกรอบอีกครั้ง และจะรีบทำรูปให้ เพราะเค้าติดงานถ่ายที่อื่นอีก .. แล้วก็เงียบหายไป
ก่อนวันปีใหม่ แฟนเราไปเจอกระทู้นึงเกี่ยวกับช่างภาพรับปริญญาที่เกิดเหตุการณ์คล้ายกัน ก็เลยมาโพสท์ในเฟสบุคเราค่ะ
ช่างภาพคงเห็น แล้วรีบโทร.มาหาเราทันทีเลย ว่าพี่อยู่ต่างจังหวัด หลังปีใหม่จะนำรูปที่เสร็จแล้วมาให้ เราเลยให้ไปฝากไว้ที่แฟนเราค่ะ
พี่เค้าจะติดต่อกับแฟนเราเอง
จนถึงวันที่นัดหมาย .. ก็ยังไม่มีคนฝากของไว้ให้ จนแฟนเราต้องโทร.ไปตาม สรุปว่า พี่เค้ายังล้างรูปไม่เสร็จ
เลยต้องมารับอีกทีวันหลัง
หลังจากนั้น 1 วัน เราก็ได้เซตรูปค่ะ มีซีดี รูปที่อัด ใส่กล่องอย่างดี
แต่ยังไม่จบ .. แฟนเราอยากดูรูป เลยเปิดซีดีเดี๋ยวนั้นเลย สรุปว่าซีดีไม่มีร่องรอยการไรท์แผ่นเลย ต้องโทรตามพี่เค้าให้ไปทำมาใหม่
เค้าอ้างว่า พี่คงรีบ เลยลืมไรท์แผ่น.. ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น พี่ช่างภาพเคยส่งรูปซีดี พร้อมกล่อง ทุกอย่างครบ
ที่ผ่านมา เราไม่เคยเร่งพี่เค้าเลยนะคะ มีแต่เค้ามาบอกเองว่า กระบวนการตอนนี้ทำรูปไปถึงไหนแล้ว
เราเข้าใจในกระบวนการทำรูป แต่งสี และอีกหลายๆ อย่างของช่างภาพ ว่ามันต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก
สุดท้าย.. เราก็ได้รูปซักทีค่ะ รูปสวยดี และมันก็เป็นไปตามที่เราคิด ในซีดี มีรูปทั้งหมดประมาน 300 กว่ารูป
ถ้าตัดรูปที่แต่งสี รูปซ้ำ จะเหลือประมาณ 200 รูป ซึ่งเราคิดว่า มันเป็นจำนวนที่น้อยมากๆ สำหรับการถ่ายรูปวัน Photo day ซึ่งมีเวลาถ่ายทั้งวัน
เราไม่ได้ถ่ายรูปกับเพื่อนอีกเยอะมาก พูดง่ายๆ คือ ในอัลบั้ม แทบจะไม่มีเพื่อนเราเลย
ปล. สรุปว่า เราก็ไม่ได้ไปถ่ายรูปนอกรอบค่ะ เพราะวันที่พี่เค้านำรูปมาให้ พี่เค้าก็ไม่ได้พูดเลย
แถมบอกแฟนเราว่า ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทร.มาได้นะ แต่ไม่โทร.จะดีกว่า -"-
เราอยากเตือนเพื่อนๆ ที่มองหาช่างภาพในวันสำคัญ ฝีมือไม่จำเป็นต้องดีมาก (แต่ถ้าได้ก็ดี) ควรจะเป็นคนที่ค่อนข้างสนิทกัน คุยง่าย สามารถจัดท่า ถ่ายรูปให้เราได้ตลอด
และฝากถึงช่างภาพนะคะ .. คุณเป็นคนให้บริการ เรายอมจ่ายเงินแพงเพื่อวันสำคัญครั้งแรกในชีวิตเรา
แค่สร้างความประทับใจเองค่ะ ฝีมือคุณไม่ต้องเลิศเลอมาจากไหน เราก็อยากจะให้คุณมาถ่ายรูปให้เราทุกงาน อยากจะบอกต่อๆ ไปถึงเพื่อน
แต่เจอแบบนี้ ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ เสียความรู้สึกนิดนิด