..ตั้งใจว่าอยากจะแชร์เรื่องราวของตัวเอง ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่มีลูกในวันที่ยังไม่พร้อม หรือเป็นอีก1อุทาหรณ์สำหรับวัยรุ่นคนอื่นที่ก่อนทำอะไร คิดให้ดีเสียก่อน ฮอร์โมนกำลังพุ่ง แต่เมื่อพลาดไปแล้วชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปตลอดกาล (ใช้คำล่นใหญ่อลังการมาก 55)
เราเด็กวัยรุ่นคนนึงอายุ 22 ปี เรียนราม ทำงานพาร์ทไทม์ ใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป กิน เที่ยว เล่นไปวันๆ คิดเรื่ออนาคตเล็กน้อยว่าถ้าเรียนจบแล้วจะทำอะไรต่อไปยังไง จากเครอบครัวที่เคยมีเงิน อยู่กินอย่างสบาย แต่แล้วครอบครัวก็เกิดล้มละลาย ทำให้เราต้องหาเงินใช้เองตั้งแต่อายุ 15 ปี เราทำงานหาเงินเองตลอด ไม่เคยขอพ่อกับแม่อีกเลย สิ่งนี้เองที่ทำให้เราออกมาใช้ชีวิตข้างนอก อยู่กับเพื่อน และสุดท้าย ก็มาอยู่กับแฟน
เราคบกับแฟนมา3ปี แฟนอายุ 30 ปี มีลูกติดหนึ่งคน (ตอนนี้น้องอายุ 10 ปี อยู่กับพ่อแม่แฟนค่ะ) เค้าเป็นคนที่ขยันมาก ทำงานหนัก หาเงินเก่ง ดูแลลูก เรา2คนไม่เคยเดือดร้อนเรื่องเงิน เรียกว่า ไม่รวย แต่ก็ไม่เดือดร้อนอะไร มีเงินเก็บกันนิดหน่อย วางแผนอนาคตกันนิดหน่อยตามประสาคนคบกัน ความรักที่ดีบ้างไม่ดีบ้างปะปนกันไป เรามีอะไรกันป้องกันตลอดโดยการใช้ถุงยาง มีอยู่ครั้งเดียวที่กำลังจะฟีเจอร์ริ่งกันแล้วถุงยางมันหมด เกิดนึกอะไรก้ไม่รู้บอกไปว่า"ครั้งเดียวไม่เป็นไรหรอก" เพราะถึงวันที่ประจำเดือนใกล้มาแล้ว แต่เมื่อเดือนสิงหาคม ปี56 ประจำเดือนเราขาดไป (ปกติประจำเดือนเรามาค่อนข้างตรง) ตามสเต็ปเลยค่ะ ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจครั้งแรก ขึ้น1ขีด เราทิ้งไป2อาทิตย์ซื้อมาตรวจใหม่ จำได้ว่าวันนั้นตื่นเช้าจะไปทำงาน คราวนี้ชัดเจนค่ะ 2ขีด เดินออกจากห้องน้ำมาหน้าซีดเลย จำความรู้สึกตอนนั้นได้ดีคือจะร้องไห้หรอ ร้องไม่ออก เหมือนกำลังช็อค!! มันงงๆ อึ้งๆ คิดอะไรไม่ออก บอกไม่ถูก บอกแฟนเบาๆว่า "2ขีดว่ะ" แฟนหน้าเสีย เราถามเค้าว่าจะเอายังไงดี สิ่งที่เค้าพูดออกว่าคำแรกคือ "ไม่เอาไว้นะ" อือหือออออ น้ำตาค่ะ มาเลย มาแบบไม่โฮนำค่ะ ไหลออกมานิ่งๆเหมือนตัวเองเป็นนางเอกมิวสิกวีดีโอ เหมือนในหนัง ในละคร เลยค่ะ เหมือนมีก่อนอะไรไม่รู้มาติดอยู่ที่คอ เราไม่ได้พูดอะไรออกไป ร้องไห้อย่างเดียว แต่ในหัวคิดตลอดเวลาว่าจะเอาอย่างไรดี ผ่านไปซักพักปาดน้ำตา แล้วก็นั่งรถไปทำงาน ระหว่างทางบนรถ เรากับแฟนก็ไม่ได้พูดอะไรกัน ต่างคนต่างเครียด บรรยากาศมาคุสุดๆ เราโกรธเค้ามาก เค้ามาส่งถึงที่ทำงานเราก็ลงจากรถไปเลย ไม่พูดอะไรกันอีก...
..คิด คิด คิด โทรหาเพื่อนที่เราสนิทที่สุดในชีวิต มีอยู่คนเดียว ปรึกษาว่าจะเอาไงดี พูดไปร้องไห้ไป เพื่อนได้ยินก็ช็อค!! ได้แต่ปลอบเราว่าใจเย็นๆนะ ค่อยๆคิด วางสายไปก็ทำงานตามปกติ เครียดมากกกกกก อยากจะสูบบุหรี่ซัก10ซอง แต่ในใจก็คิดถึงก้อนเล้กๆในท้อง บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แต่ไม่กล้าสูบบุหรี่ เวลาผ่านไป 2 วัน โดยที่หลังจากวันนั้นเรากับแฟนเราก็ยังไม่คุยกัน ต่างคนต่างเงียบ เค้าไม่ถามเราซักคำเรื่องลูก บบรยากาศเวลาอยู่ด้วยกันมันตึงเครียดไปหมด ในใจก็คิดตลอดว่าจะเอาไงดี "ทำแท้ง" หรือไม่ทำดี คิดวนอยู่ในหัวตลอดเวลา ตัดสินใจไปนั่งเล่นสวนสาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยามีอยู่แว็บนึงที่คิดว่าเออ ทำก็ได้ แต่ถ้าทำเราจะเลิกกับแฟนเราด้วย เรารับไม่ได้ เริ่มต้นใหม่ เดินไปเซเว่นซื้อบุหรี่มาซองนึง จำได้ว่าสูบบุหรี่ไป1ตัว แล้วเราก็ถามตัวเองว่า คิดอย่างนั้นจริงๆหรอ?? กล้าทำเหรอ?? หายใจเข้าลึกๆนั่งมองไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ซักพัก เดินเอาบุหรี่ไปทิ้งทั้งซอง เราตัดสินใจโทรหาพ่อ บอกพ่อว่า"ป๊า ป๊ากำลังจะมีหลานนะ" พ่อตอบมาว่า "หรอ อืม หนูโอเครึป่าว ไม่เป็นไรหรอก แค่หลานคนเดียวเอง ทำไมจะเลี้ยงไม่ได้" แค่นั้นแหละค่ะ น้ำตามาเลย ร้องไห้โฮ (กำลังพิมพ์อยู่นี่น้ำตายังซึมเลยค่ะ ขอบอก) วางสายจากพ่อเสร็จ เดินไปบอกแฟนว่าขอคุยด้วยหน่อย เราบอกเค้าว่า "เราจะเอาลูกเราไว้นะ เธอไม่รับผิดชอบไม่เป็นไร เราเข้าใจ เธอก็มีภาระ มีลูกที่เธอต้องดูแล เธอรักลูกเธอมากเรารู้ แต่เราก็รักลุกเราเหมือนกัน เราเลี้ยงลูกเราเองได้ ไม่เป็นไรนะ" พูดจบน้ำตาก็ค่อยๆไหล เค้าเงียบไปพักใหญ่ เดินออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงห้อง แล้วเค้าก็เข้ามาในห้องดึงเราเข้าไปกอด แล้วบอกไม่เป็นไรเนอะ สู้ๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป กอดกันร้องไห้2คน
เช้าวนรุ่งขึ้นเราทั้งคู่หยุดงาน ขับรถไปหาพ่อแม่เค้าบอกเรื่องเราให้ที่บ้านเค้ารับรู้ โชคดีที่ที่บ้านเค้าค่อนข้างที่จะเอ็นดูเรา บอกบ้านเค้าเสร็จก็ขับรถไปหาพ่อแม่เรา เค้าก็ไปคุยกับพ่อแม่เรากราบขอโทษและจะขอเราแต่งงาน พ่อเราบอกว่า"สินสอดไม่ต้องเอามาให้เค้าหรอก แค่เลี้ยงลูกกับหลานเค้าก็พอ" น้ำตามาอีกแล้ว ในวันนั้นรู้ได้เลยว่าพ่อกับแม่รักเรามากแค่ไหน กราบท่านเสร็จในใจสัญญากับตัวเองเลยว่าจะไม่ทำให้ท่านเสียใจอีก จะทำให้ท่านภูมิใจให้ได้ หลังจากนั้นเราก็ดำเนินการจัดงานแต่งงาน เราเพิ่งเป็นเจ้าสาวหมาดๆไปเมื่อเดือนมกราที่ผ่านมาค่ะ
มีบ้างที่บางทีอิจฉาเพื่อนไปเที่ยว ลั้ลลาตามประสาวัยรุ่น แต่เรามานั่งท้องโตอยู่นี่ เราเลิกเหล้า เลิกสูบบุหรี่ห็เพราะเจ้าตัวน้อยคนนี้ เก็บเงินไปเที่ยวกินเหล้าไปเอาให้ลูก ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 26 weeks แล้วค่ะ เจ้าตัวน้อยเริ่มดิ้นเก่งแล้ว เป็นความสุขเล็กๆที่มีค่าจริงๆนะคะ เราใจเย็นมากขึ้น มีการวางแผนในอนาคตมากขึ้น เราเรียนรามใกล้จบแล้ว มีลูกปุ๊บทำให้เรามีกำลังใจที่จะตั้งใจเรียนจบให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะได้มีวุฒิ มีงานดีๆทำหาเงินสร้างครอบครัว ช่วยแฟนเราอีกทาง เพราะทำงานพาร์ทไทม์เงินค่อนข้างที่จะน้อย แล้วก็อยากใส่ชุดครุยถ่ายรูปกับพ่อแม่ให้ท่านภูมิใจ ชีวิตกับแฟนก็ดีขึ้น พูดจาให้กำลังใจกัน ค่อยๆสร้างอนาคตกันไป หลังจากนี้เรารู้ว่าชีวิตคงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ คงมีเรื่องที่ต้องฝ่าฟันอีกมากมาย แต่ในเมื่อเรามีเป้าหมายแล้ว เราก็จะสู้ค่ะ
**การทำ"แท้ง" ไม่ใช่การแก้ปัญหา ปต่เป็นการหนีปัญหาต่างหาก ก่อนจะทำอะไรขอให้ทุกคนมีสตินะคะ อยุ่กับตัวเอง แล้วถามใจตัวเองให้ดีเสียก่อนที่จะทำอะไรลงไป เพราะเราไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆได้ **
....ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ เชื่อว่าชีวิตแต่ละคนก็ไม่ได้สวยหรู เพียงแต่อย่าท้อนะคะ ยังมีคนอีกมากมายที่เค้ากำลังแย่ หรือลำบากกว่าเรา หวังว่ากระทู้เราคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ...
ปล.เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ // ว่าที่คุณแม่มือใหม่ค่ะ


..
ปล.2 แก้ไข พิมพ์ผิดค่ะ
ชีวิตหลังจากที่ตัดสินใจไม่ทำ"แท้ง"!!!
เราคบกับแฟนมา3ปี แฟนอายุ 30 ปี มีลูกติดหนึ่งคน (ตอนนี้น้องอายุ 10 ปี อยู่กับพ่อแม่แฟนค่ะ) เค้าเป็นคนที่ขยันมาก ทำงานหนัก หาเงินเก่ง ดูแลลูก เรา2คนไม่เคยเดือดร้อนเรื่องเงิน เรียกว่า ไม่รวย แต่ก็ไม่เดือดร้อนอะไร มีเงินเก็บกันนิดหน่อย วางแผนอนาคตกันนิดหน่อยตามประสาคนคบกัน ความรักที่ดีบ้างไม่ดีบ้างปะปนกันไป เรามีอะไรกันป้องกันตลอดโดยการใช้ถุงยาง มีอยู่ครั้งเดียวที่กำลังจะฟีเจอร์ริ่งกันแล้วถุงยางมันหมด เกิดนึกอะไรก้ไม่รู้บอกไปว่า"ครั้งเดียวไม่เป็นไรหรอก" เพราะถึงวันที่ประจำเดือนใกล้มาแล้ว แต่เมื่อเดือนสิงหาคม ปี56 ประจำเดือนเราขาดไป (ปกติประจำเดือนเรามาค่อนข้างตรง) ตามสเต็ปเลยค่ะ ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจครั้งแรก ขึ้น1ขีด เราทิ้งไป2อาทิตย์ซื้อมาตรวจใหม่ จำได้ว่าวันนั้นตื่นเช้าจะไปทำงาน คราวนี้ชัดเจนค่ะ 2ขีด เดินออกจากห้องน้ำมาหน้าซีดเลย จำความรู้สึกตอนนั้นได้ดีคือจะร้องไห้หรอ ร้องไม่ออก เหมือนกำลังช็อค!! มันงงๆ อึ้งๆ คิดอะไรไม่ออก บอกไม่ถูก บอกแฟนเบาๆว่า "2ขีดว่ะ" แฟนหน้าเสีย เราถามเค้าว่าจะเอายังไงดี สิ่งที่เค้าพูดออกว่าคำแรกคือ "ไม่เอาไว้นะ" อือหือออออ น้ำตาค่ะ มาเลย มาแบบไม่โฮนำค่ะ ไหลออกมานิ่งๆเหมือนตัวเองเป็นนางเอกมิวสิกวีดีโอ เหมือนในหนัง ในละคร เลยค่ะ เหมือนมีก่อนอะไรไม่รู้มาติดอยู่ที่คอ เราไม่ได้พูดอะไรออกไป ร้องไห้อย่างเดียว แต่ในหัวคิดตลอดเวลาว่าจะเอาอย่างไรดี ผ่านไปซักพักปาดน้ำตา แล้วก็นั่งรถไปทำงาน ระหว่างทางบนรถ เรากับแฟนก็ไม่ได้พูดอะไรกัน ต่างคนต่างเครียด บรรยากาศมาคุสุดๆ เราโกรธเค้ามาก เค้ามาส่งถึงที่ทำงานเราก็ลงจากรถไปเลย ไม่พูดอะไรกันอีก...
..คิด คิด คิด โทรหาเพื่อนที่เราสนิทที่สุดในชีวิต มีอยู่คนเดียว ปรึกษาว่าจะเอาไงดี พูดไปร้องไห้ไป เพื่อนได้ยินก็ช็อค!! ได้แต่ปลอบเราว่าใจเย็นๆนะ ค่อยๆคิด วางสายไปก็ทำงานตามปกติ เครียดมากกกกกก อยากจะสูบบุหรี่ซัก10ซอง แต่ในใจก็คิดถึงก้อนเล้กๆในท้อง บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แต่ไม่กล้าสูบบุหรี่ เวลาผ่านไป 2 วัน โดยที่หลังจากวันนั้นเรากับแฟนเราก็ยังไม่คุยกัน ต่างคนต่างเงียบ เค้าไม่ถามเราซักคำเรื่องลูก บบรยากาศเวลาอยู่ด้วยกันมันตึงเครียดไปหมด ในใจก็คิดตลอดว่าจะเอาไงดี "ทำแท้ง" หรือไม่ทำดี คิดวนอยู่ในหัวตลอดเวลา ตัดสินใจไปนั่งเล่นสวนสาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยามีอยู่แว็บนึงที่คิดว่าเออ ทำก็ได้ แต่ถ้าทำเราจะเลิกกับแฟนเราด้วย เรารับไม่ได้ เริ่มต้นใหม่ เดินไปเซเว่นซื้อบุหรี่มาซองนึง จำได้ว่าสูบบุหรี่ไป1ตัว แล้วเราก็ถามตัวเองว่า คิดอย่างนั้นจริงๆหรอ?? กล้าทำเหรอ?? หายใจเข้าลึกๆนั่งมองไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ซักพัก เดินเอาบุหรี่ไปทิ้งทั้งซอง เราตัดสินใจโทรหาพ่อ บอกพ่อว่า"ป๊า ป๊ากำลังจะมีหลานนะ" พ่อตอบมาว่า "หรอ อืม หนูโอเครึป่าว ไม่เป็นไรหรอก แค่หลานคนเดียวเอง ทำไมจะเลี้ยงไม่ได้" แค่นั้นแหละค่ะ น้ำตามาเลย ร้องไห้โฮ (กำลังพิมพ์อยู่นี่น้ำตายังซึมเลยค่ะ ขอบอก) วางสายจากพ่อเสร็จ เดินไปบอกแฟนว่าขอคุยด้วยหน่อย เราบอกเค้าว่า "เราจะเอาลูกเราไว้นะ เธอไม่รับผิดชอบไม่เป็นไร เราเข้าใจ เธอก็มีภาระ มีลูกที่เธอต้องดูแล เธอรักลูกเธอมากเรารู้ แต่เราก็รักลุกเราเหมือนกัน เราเลี้ยงลูกเราเองได้ ไม่เป็นไรนะ" พูดจบน้ำตาก็ค่อยๆไหล เค้าเงียบไปพักใหญ่ เดินออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงห้อง แล้วเค้าก็เข้ามาในห้องดึงเราเข้าไปกอด แล้วบอกไม่เป็นไรเนอะ สู้ๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป กอดกันร้องไห้2คน
เช้าวนรุ่งขึ้นเราทั้งคู่หยุดงาน ขับรถไปหาพ่อแม่เค้าบอกเรื่องเราให้ที่บ้านเค้ารับรู้ โชคดีที่ที่บ้านเค้าค่อนข้างที่จะเอ็นดูเรา บอกบ้านเค้าเสร็จก็ขับรถไปหาพ่อแม่เรา เค้าก็ไปคุยกับพ่อแม่เรากราบขอโทษและจะขอเราแต่งงาน พ่อเราบอกว่า"สินสอดไม่ต้องเอามาให้เค้าหรอก แค่เลี้ยงลูกกับหลานเค้าก็พอ" น้ำตามาอีกแล้ว ในวันนั้นรู้ได้เลยว่าพ่อกับแม่รักเรามากแค่ไหน กราบท่านเสร็จในใจสัญญากับตัวเองเลยว่าจะไม่ทำให้ท่านเสียใจอีก จะทำให้ท่านภูมิใจให้ได้ หลังจากนั้นเราก็ดำเนินการจัดงานแต่งงาน เราเพิ่งเป็นเจ้าสาวหมาดๆไปเมื่อเดือนมกราที่ผ่านมาค่ะ
**การทำ"แท้ง" ไม่ใช่การแก้ปัญหา ปต่เป็นการหนีปัญหาต่างหาก ก่อนจะทำอะไรขอให้ทุกคนมีสตินะคะ อยุ่กับตัวเอง แล้วถามใจตัวเองให้ดีเสียก่อนที่จะทำอะไรลงไป เพราะเราไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆได้ **
....ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ เชื่อว่าชีวิตแต่ละคนก็ไม่ได้สวยหรู เพียงแต่อย่าท้อนะคะ ยังมีคนอีกมากมายที่เค้ากำลังแย่ หรือลำบากกว่าเรา หวังว่ากระทู้เราคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ...
ปล.เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ // ว่าที่คุณแม่มือใหม่ค่ะ
ปล.2 แก้ไข พิมพ์ผิดค่ะ