นปช.เปรียบกทม.เป็น 3 จ.ใต้บังเกอร์-ทหารเต็มเมือง “ตู่ ” ลั่น ยกพลเสื้อแดงเข้ากทม.แน่...
ขณะที่ “ณัฐวุฒิ ” โชว์ เหนือ ได้ข้อมูลจากคนที่ ป.ป.ช.คาดไม่ถึง
เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าวแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมกันแถลงข่าว ขณะนี้มีบังเกอร์ทหารทั่วกทม.กว่า 100 จุด แต่มีการเอาตราพยาบาลกาชาดสากลมาติดไว้ พร้อมเขียนข้อความว่าเป็นการรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นการผิดกฎหมายสากลระหว่างประเทศเขาห้ามเอาเครื่องหมายกาชาดมาติดโดยผิดวัตถุประสงค์ แม้ไม่มีรัฐประหารแต่บังเกอร์เต็ม กทม.ไปหมด
นางธิดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. มีการประชุมเรียกผวจ. ในภาคอีสาน 11 จังหวัด เพื่อให้สอดส่องดูแลการยุยงปลุกปั่นประชาชนให้เกิดความแตกแยกเหตุใดไม่เรียกประชุมผวจ.ใต้ 8-9 จังหวัดด้วย การยุยงปลุกปั่นทั้งหมดนั้นอยู่บนเวทีกปปส. ไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทนได้อย่างไร เพราะเป็นการพูดจาโจมตี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นนายของทหารเอง
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ขณะนี้ กทม.มีสภาพเหมือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีกองกำลังทั้งของนายสุเทพ พุทธะอิสระ และบังเกอร์ของทหารรอเพียงการประกาศของคณะปฏิวัติเท่านั้นเอง ทั้งนี้อยากบอกนายสุเทพ ว่า ที่คนเสื้อแดงใช้ธงแดสัญลักษณ์สีแดงนั้น เพราะธงชาติเป็นของคนไทย 60 ล้านคน การที่นายสุเทพ ไปยึดธงชาติเป็นของ กปปส.เป็นเรื่องที่ควรประณามมากที่สุด ทุกอย่างเป็นธงชาติตั้งแต่เสื้อลามปามไปถึงรองเท้าถ้าเช่นนั้นก็เอาธงชาติคลุมหน้านายสุเทพเสียเลย คนเสื้อแดงใช้สีที่ไม่กระทบสีส่วนรวมและสีแดงก็เป็นสีหนึ่งในธงชาติ
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์และแกนนำ นปช.กล่าว ว่า สำหรับ ป.ป.ช. ข้างนอกมี กวป.ปิดล้อมอยู่แต่ ข้างในกำลังจ้าละหวั่น ว่า ใครเอาข้อมูลเรื่องการรับสมัครเจ้าหน้าที่โดยไม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษามาให้ตนซึ่งนักกฎหมายใหญ่หลายคนบอกตนว่ารอดยาก ทราบว่าคนข้างใน ป.ป.ช.นำเทปที่ตนพูดเรื่องนี้มาดูวนซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบเพื่อดูเอกสารที่ตนนำมาอ่าน ดูกระทั่งกระดาษโน๊ตหรือกระดาษโพสต์อิทเหลือง ซึ่งเป็นกระดาษที่มีใช้ในหมู่กรรมการป.ป.ช. เสียด้วย เพื่อดูว่าตนเอามาจากไหน เรื่องอะไรตนจะบอก
“ ขอส่งข่าวคราวไปยังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. 200 กว่าคนที่เข้าชื่อคัดค้านเรื่องนี้ เมื่อถึงขั้นตอนการดำเนินคดีมีการเชิญไปเป็นพยานขอให้ท่านให้ความร่วมมือไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้น ท่านอาจจะเจอผู้หลักผู้ใหญ่ของท่านมาเป็นพยานด้วยป.ป.ช.มาตรฐานต้องสูงลิ่ว จะด่างพร้อยไม่ได้ ท่านไม่ต้องหาว่าใครเอาเอกสารมาให้ผม เพราะผมเห็นหมดไส้หมดพุงแล้วอยู่กับผมตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้าย ซึ่งผมยื่นให้ดีเอสไอแล้ว ได้ข่าวว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา เขาอยากได้ผมก็จะให้ไปด้วยไม่มีปัญหา วันนี้หาตัวกันใหญ่ว่า ใครเอาข้อมูลมาให้ผม ผมบอกอีกทีว่า เป็นคนที่คุณก็คาดไม่ถึงก็แล้วกัน ” นายณัฐวุฒิ กล่าว.
ผบ.ทบ. กร้าว ไม่สัญญา จะไม่มีปฏิวัติ...
“ประยุทธ์” ไม่สัญญาไม่มีปฏิวัติ ชี้ทุกอย่างอยู่ที่สถานการณ์ เตือนตำรวจบ้านอย่าใช้ธงแดงสวนสนามแทนธงชาติ เตือนอย่าให้เห็นอีก...
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่สนามมวยลุมพินี ถ.รามอินทรา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานเปิดเวทีมวยลุมพินีแห่งใหม่ ถึงกรณีที่มีรายชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนกลางเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองว่า อย่าไปพูดถึง ยังไม่ไปถึงตรงนั้น เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการใช้เอ็ม 79 ก่อเหตุเป็นจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ แต่ไม่ได้มาจากหน่วยทหาร เพราะยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของกองทัพต้องอยู่ในคลัง มีการตรวจเช็กทุกวัน ทั้งนี้การใช้อาวุธเอ็ม 79 เป็นการลักลอบเข้ามามากกว่า เพราะในห้วงที่ผ่านมามีการจับกุมการลักลอบ อาวุธสงครามได้ตลอด พอมีการชุมนุมก็นำมาใช้ ซึ่งพวกนี้ไม่ค่อยมีจิตใจเป็นมนุษย์ เพราะเอ็ม 79 เอาไว้ใช้ในสงครามต่อสู้กับศัตรู แต่เอามายิงประชาชนทั้งเด็ก ผู้หญิง และคนชราเสียชีวิต เราต้องประณามคนพวกนี้ จิตใจมันไม่ใช่มนุษย์ หากจับกุมได้ต้องดำเนินคดีในสถานหนัก
เมื่อถามว่า หากปลุกระดมคนเสื้อแดงเข้ามาใน กทม. พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า มันผิดกฎหมายหรือไม่ ขณะนี้มีฝ่ายหนึ่งที่ทำผิดกฎหมายดำเนินการทางกฎหมายอยู่ แต่อีกกลุ่มหนึ่งจะมาบอกว่าการเคลื่อนไหวได้ แล้วจะเคลื่อนไหวบ้างก็ผิดกันทุกกลุ่ม เมื่อมาเผชิญหน้ากันก็จะทำให้เกิดความรุนแรง แก้ปัญหายากวันนี้ เมื่อถามว่า มีทหารบางรายเข้าไปเกี่ยวกับการชุมนุม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ทหารไม่มีกฎห้ามชุมนุม หากไปนอกเวลาราชการมีอิสระเต็มที่เพียงแต่ห้ามพกอาวุธทางราชการ หากพบก็ถูกจับ เราเตือนให้วางตัวเหมาะสม แต่ถ้าเอาเวลาราชการพกอาวุธไปด้วย ถูกจับได้ก็ต้องปลดออกจากราชการ ทุกกองทัพเป็นแบบนี้ ส่วนกรณีที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะครบวาระการประกาศใช้นั้นเป็นเรื่องของ ศรส. ที่จะพิจารณาว่าจะใช้ต่อหรือไม่ หรือถ้าไม่ใช่ก็จะกลับมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเหมือนเดิม ส่วนโอกาสที่จะใช้กฎอัยการศึกนั้น ก็จะต้องรอให้เกิดจลาจล ถ้าไม่เกิดก็ใช้ไม่ได้
เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายกรัฐมนตรี กรณีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศในนามรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะนำข้อเสนอแบ่งแยกประเทศ และให้ประชาชนจับอาวุธต่อสู้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาทำหรือยัง ตามกฎหมายทำไม่ได้ ถามว่าสื่อมวลชนยอมให้แบ่งแยกประเทศหรือไม่ ถ้าสื่อไม่ยอมตนก็ไม่ยอม ส่วนกรณีการสวนสนามตำรวจบ้านที่ จ.พะเยา โดยใช้ธงสีแดงแทนธงชาติไทยนั้น เรื่องนี้ตนได้เตือนไปหมดแล้วว่าอย่าทำอย่างนั้นอีก
เมื่อถามว่าหากเกิดสงครามกลางเมืองจะรับมืออย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ทหารออกมา 56 กองร้อย นอนอยู่ข้างถนนไม่ใช่น้อยแล้วจะให้ทำอย่างไร ส่วนจะประกาศกฎอัยการศึกหรือไม่นั้น ก็เป็นเพียงให้ทหารออกมาสั่งการแทน ซึ่งถ้าตนสั่งการก็จะสั่งให้กลับบ้านกันหมดทุกพวก แล้วเขาจะกลับหรือไม่ เมื่อถามว่าปฏิวัติรัฐประหารเลิกคิดไปเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนคงไม่สัญญาว่าการปฏิวัติจะมีหรือไม่มี แต่การดำเนินการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในทางนิตินัย ซึ่งการปฏิวัติทุกครั้งเพื่อให้สถานการณ์ยุติ แล้วยุติได้หรือไม่ก็ต้องไปนั่งวิเคราะห์กัน ทุกสถานการณ์ต้องแก้ไขด้วยกฎหมาย หากแก้ไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีพิเศษ ส่วนจะเป็นวิธีพิเศษอย่างไรก็ต้องไปว่ากัน อย่ามาโจมตีทหาร
กทม.บังเกอร์-ทหารเต็มเมือง ตู่ลั่นยกพลเสื้อแดงเข้ากทม - ผบ.ทบ.กร้าวไม่สัญญาจะไม่มีปฏิวัติ เตือนตำรวจอย่าใช้ธงแดงสวนสนาม
ขณะที่ “ณัฐวุฒิ ” โชว์ เหนือ ได้ข้อมูลจากคนที่ ป.ป.ช.คาดไม่ถึง
เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าวแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมกันแถลงข่าว ขณะนี้มีบังเกอร์ทหารทั่วกทม.กว่า 100 จุด แต่มีการเอาตราพยาบาลกาชาดสากลมาติดไว้ พร้อมเขียนข้อความว่าเป็นการรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นการผิดกฎหมายสากลระหว่างประเทศเขาห้ามเอาเครื่องหมายกาชาดมาติดโดยผิดวัตถุประสงค์ แม้ไม่มีรัฐประหารแต่บังเกอร์เต็ม กทม.ไปหมด
นางธิดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. มีการประชุมเรียกผวจ. ในภาคอีสาน 11 จังหวัด เพื่อให้สอดส่องดูแลการยุยงปลุกปั่นประชาชนให้เกิดความแตกแยกเหตุใดไม่เรียกประชุมผวจ.ใต้ 8-9 จังหวัดด้วย การยุยงปลุกปั่นทั้งหมดนั้นอยู่บนเวทีกปปส. ไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทนได้อย่างไร เพราะเป็นการพูดจาโจมตี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นนายของทหารเอง
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ขณะนี้ กทม.มีสภาพเหมือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีกองกำลังทั้งของนายสุเทพ พุทธะอิสระ และบังเกอร์ของทหารรอเพียงการประกาศของคณะปฏิวัติเท่านั้นเอง ทั้งนี้อยากบอกนายสุเทพ ว่า ที่คนเสื้อแดงใช้ธงแดสัญลักษณ์สีแดงนั้น เพราะธงชาติเป็นของคนไทย 60 ล้านคน การที่นายสุเทพ ไปยึดธงชาติเป็นของ กปปส.เป็นเรื่องที่ควรประณามมากที่สุด ทุกอย่างเป็นธงชาติตั้งแต่เสื้อลามปามไปถึงรองเท้าถ้าเช่นนั้นก็เอาธงชาติคลุมหน้านายสุเทพเสียเลย คนเสื้อแดงใช้สีที่ไม่กระทบสีส่วนรวมและสีแดงก็เป็นสีหนึ่งในธงชาติ
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์และแกนนำ นปช.กล่าว ว่า สำหรับ ป.ป.ช. ข้างนอกมี กวป.ปิดล้อมอยู่แต่ ข้างในกำลังจ้าละหวั่น ว่า ใครเอาข้อมูลเรื่องการรับสมัครเจ้าหน้าที่โดยไม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษามาให้ตนซึ่งนักกฎหมายใหญ่หลายคนบอกตนว่ารอดยาก ทราบว่าคนข้างใน ป.ป.ช.นำเทปที่ตนพูดเรื่องนี้มาดูวนซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบเพื่อดูเอกสารที่ตนนำมาอ่าน ดูกระทั่งกระดาษโน๊ตหรือกระดาษโพสต์อิทเหลือง ซึ่งเป็นกระดาษที่มีใช้ในหมู่กรรมการป.ป.ช. เสียด้วย เพื่อดูว่าตนเอามาจากไหน เรื่องอะไรตนจะบอก
“ ขอส่งข่าวคราวไปยังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. 200 กว่าคนที่เข้าชื่อคัดค้านเรื่องนี้ เมื่อถึงขั้นตอนการดำเนินคดีมีการเชิญไปเป็นพยานขอให้ท่านให้ความร่วมมือไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้น ท่านอาจจะเจอผู้หลักผู้ใหญ่ของท่านมาเป็นพยานด้วยป.ป.ช.มาตรฐานต้องสูงลิ่ว จะด่างพร้อยไม่ได้ ท่านไม่ต้องหาว่าใครเอาเอกสารมาให้ผม เพราะผมเห็นหมดไส้หมดพุงแล้วอยู่กับผมตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้าย ซึ่งผมยื่นให้ดีเอสไอแล้ว ได้ข่าวว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา เขาอยากได้ผมก็จะให้ไปด้วยไม่มีปัญหา วันนี้หาตัวกันใหญ่ว่า ใครเอาข้อมูลมาให้ผม ผมบอกอีกทีว่า เป็นคนที่คุณก็คาดไม่ถึงก็แล้วกัน ” นายณัฐวุฒิ กล่าว.
ผบ.ทบ. กร้าว ไม่สัญญา จะไม่มีปฏิวัติ...
“ประยุทธ์” ไม่สัญญาไม่มีปฏิวัติ ชี้ทุกอย่างอยู่ที่สถานการณ์ เตือนตำรวจบ้านอย่าใช้ธงแดงสวนสนามแทนธงชาติ เตือนอย่าให้เห็นอีก...
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่สนามมวยลุมพินี ถ.รามอินทรา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานเปิดเวทีมวยลุมพินีแห่งใหม่ ถึงกรณีที่มีรายชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนกลางเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองว่า อย่าไปพูดถึง ยังไม่ไปถึงตรงนั้น เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการใช้เอ็ม 79 ก่อเหตุเป็นจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ แต่ไม่ได้มาจากหน่วยทหาร เพราะยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของกองทัพต้องอยู่ในคลัง มีการตรวจเช็กทุกวัน ทั้งนี้การใช้อาวุธเอ็ม 79 เป็นการลักลอบเข้ามามากกว่า เพราะในห้วงที่ผ่านมามีการจับกุมการลักลอบ อาวุธสงครามได้ตลอด พอมีการชุมนุมก็นำมาใช้ ซึ่งพวกนี้ไม่ค่อยมีจิตใจเป็นมนุษย์ เพราะเอ็ม 79 เอาไว้ใช้ในสงครามต่อสู้กับศัตรู แต่เอามายิงประชาชนทั้งเด็ก ผู้หญิง และคนชราเสียชีวิต เราต้องประณามคนพวกนี้ จิตใจมันไม่ใช่มนุษย์ หากจับกุมได้ต้องดำเนินคดีในสถานหนัก
เมื่อถามว่า หากปลุกระดมคนเสื้อแดงเข้ามาใน กทม. พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า มันผิดกฎหมายหรือไม่ ขณะนี้มีฝ่ายหนึ่งที่ทำผิดกฎหมายดำเนินการทางกฎหมายอยู่ แต่อีกกลุ่มหนึ่งจะมาบอกว่าการเคลื่อนไหวได้ แล้วจะเคลื่อนไหวบ้างก็ผิดกันทุกกลุ่ม เมื่อมาเผชิญหน้ากันก็จะทำให้เกิดความรุนแรง แก้ปัญหายากวันนี้ เมื่อถามว่า มีทหารบางรายเข้าไปเกี่ยวกับการชุมนุม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ทหารไม่มีกฎห้ามชุมนุม หากไปนอกเวลาราชการมีอิสระเต็มที่เพียงแต่ห้ามพกอาวุธทางราชการ หากพบก็ถูกจับ เราเตือนให้วางตัวเหมาะสม แต่ถ้าเอาเวลาราชการพกอาวุธไปด้วย ถูกจับได้ก็ต้องปลดออกจากราชการ ทุกกองทัพเป็นแบบนี้ ส่วนกรณีที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะครบวาระการประกาศใช้นั้นเป็นเรื่องของ ศรส. ที่จะพิจารณาว่าจะใช้ต่อหรือไม่ หรือถ้าไม่ใช่ก็จะกลับมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเหมือนเดิม ส่วนโอกาสที่จะใช้กฎอัยการศึกนั้น ก็จะต้องรอให้เกิดจลาจล ถ้าไม่เกิดก็ใช้ไม่ได้
เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายกรัฐมนตรี กรณีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศในนามรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะนำข้อเสนอแบ่งแยกประเทศ และให้ประชาชนจับอาวุธต่อสู้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาทำหรือยัง ตามกฎหมายทำไม่ได้ ถามว่าสื่อมวลชนยอมให้แบ่งแยกประเทศหรือไม่ ถ้าสื่อไม่ยอมตนก็ไม่ยอม ส่วนกรณีการสวนสนามตำรวจบ้านที่ จ.พะเยา โดยใช้ธงสีแดงแทนธงชาติไทยนั้น เรื่องนี้ตนได้เตือนไปหมดแล้วว่าอย่าทำอย่างนั้นอีก
เมื่อถามว่าหากเกิดสงครามกลางเมืองจะรับมืออย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ทหารออกมา 56 กองร้อย นอนอยู่ข้างถนนไม่ใช่น้อยแล้วจะให้ทำอย่างไร ส่วนจะประกาศกฎอัยการศึกหรือไม่นั้น ก็เป็นเพียงให้ทหารออกมาสั่งการแทน ซึ่งถ้าตนสั่งการก็จะสั่งให้กลับบ้านกันหมดทุกพวก แล้วเขาจะกลับหรือไม่ เมื่อถามว่าปฏิวัติรัฐประหารเลิกคิดไปเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนคงไม่สัญญาว่าการปฏิวัติจะมีหรือไม่มี แต่การดำเนินการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในทางนิตินัย ซึ่งการปฏิวัติทุกครั้งเพื่อให้สถานการณ์ยุติ แล้วยุติได้หรือไม่ก็ต้องไปนั่งวิเคราะห์กัน ทุกสถานการณ์ต้องแก้ไขด้วยกฎหมาย หากแก้ไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีพิเศษ ส่วนจะเป็นวิธีพิเศษอย่างไรก็ต้องไปว่ากัน อย่ามาโจมตีทหาร