ตอนเป็นเด็กเรามักถูกถามเสมอว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร ซึ่งต่างก็มีคำตอบที่แตกต่างกันไป
คุณครู ตำรวจ หมอ วิศวกร สถาปนิก นักบิน นักธุรกิจ บลาๆๆ
ผมตอบคำถามเหล่านี้ไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆแล้วผมอยากเป็นอะไร และผมชอบอะไร
ผมใช้ชีวิตการเรียนมัธยมปลายในสายวิทย์-คณิตทั้งที่เกลียดคณิตศาสตร์ เรียนจบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ทั้งที่เกลียดการคำนวณทุกสิ่งอย่างที่แม้แต่สมการการเคลื่อนที่ธรรมดาๆในวิชาฟิสิกส์ผมก็ยังไม่เข้าใจ กว่าสามปีที่ผ่านมาผมทำงานเป็นวิศวกรในสายงานการตลาดโดยที่ไม่เคยมีความรู้ด้านนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ตลอดช่วงเวลาการทำงาน ผมมีคำถามที่แวบเข้ามาในหัวอยู่บ่อยๆ
คำถามคือผมรักที่จะทำอะไร ?
อะไรที่ผมยังยืนยันที่จะทำอย่างเต็มใจโดยไม่สนว่าผมจะได้เงินหรือไม่ ?
อะไรที่ทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งเวลาได้เข้าไปขลุกอยู่กับมัน ไม่ว่าจะต้องเหน็ดเหนื่อย หรือตัองใช้เวลากับมันตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนกระทั่งแปรงฟันเข้านอน ?
จุดเด่นของผมอยู่ตรงไหน ? สิ่งไหนที่ผมทำได้ดีกว่าคนอื่น ?
คำตอบที่ผมมีคือ ความเงียบ ความเงียบที่ยังคงดังก้องในหัวตลอดเวลา
บุคคลที่ผมควรจะรู้จักดีที่สุดกลับกลายเป็นคนที่แปลกหน้าที่สุดในเวลาเดียวกัน
โดยส่วนตัวผมมีคติหรือคำคมที่ชอบอยู่หลายประโยคซึ่งส่วนใหญ่จะถูกบอกเล่าโดยผู้ประสบความสำเร็จ
ในชีวิตหลากหลาย
แต่บุคคลที่คำพูดรวมถึงเส้นทางการใช้ชีวิตสามารถสร้างแรงกระตุ้นให้ผมได้ดีที่สุดคือ Steve Jobs
หนึ่งในนั้นคือประโยคที่กล่าวว่า "keep looking, don't settle"
บางทีวันนี้ผมอาจกำลังเดินเฉียดไปมาหรือ อาจอยู่ห่างไกลจากเส้นทางที่นำผมไปสู่สิ่งที่ผมกำลังค้นหาก็ไม่มีใครรู้ได้ นอกจากตัวของผมเอง
คุณหละ เคยลองย้อนถามตัวเองบ้างมั้ยว่าคุณรักที่จะทำอะไร ?
อะไรที่คุณยังยืนยันที่จะทำอย่างเต็มใจโดยไม่สนว่าคุณจะได้เงินหรือไม่ ?
อะไรที่ทำให้คุณมีความสุขทุกครั้งเวลาได้เข้าไปขลุกอยู่กับมัน ไม่ว่าจะต้องเหน็ดเหนื่อย หรือตัองใช้เวลากับมันตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนกระทั่งแปรงฟันเข้านอน ?
จุดเด่นของคุณอยู่ตรงไหน ? สิ่งไหนที่คุณทำได้ดีกว่าคนอื่น ?
ถ้าคุณตอบตัวเองได้ คุณ

โคตรโชคดีเลยหวะ
แต่ถ้าคำตอบของคุณไม่ต่างจากความเงียบที่เสียงดังของผมมากนัก...
So, keep looking, don't settle.
Keep looking, don't settle.
เราอาจกำลังเดินไปเจอสิ่งที่รักสิ่งเดียวกันในวันๆหนึ่งข้างหน้าก็เป็นได้
#decgen
https://www.facebook.com/decgeneration
Keep looking, don't settle
ตอนเป็นเด็กเรามักถูกถามเสมอว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร ซึ่งต่างก็มีคำตอบที่แตกต่างกันไป
คุณครู ตำรวจ หมอ วิศวกร สถาปนิก นักบิน นักธุรกิจ บลาๆๆ
ผมตอบคำถามเหล่านี้ไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆแล้วผมอยากเป็นอะไร และผมชอบอะไร
ผมใช้ชีวิตการเรียนมัธยมปลายในสายวิทย์-คณิตทั้งที่เกลียดคณิตศาสตร์ เรียนจบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ทั้งที่เกลียดการคำนวณทุกสิ่งอย่างที่แม้แต่สมการการเคลื่อนที่ธรรมดาๆในวิชาฟิสิกส์ผมก็ยังไม่เข้าใจ กว่าสามปีที่ผ่านมาผมทำงานเป็นวิศวกรในสายงานการตลาดโดยที่ไม่เคยมีความรู้ด้านนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ตลอดช่วงเวลาการทำงาน ผมมีคำถามที่แวบเข้ามาในหัวอยู่บ่อยๆ
คำถามคือผมรักที่จะทำอะไร ?
อะไรที่ผมยังยืนยันที่จะทำอย่างเต็มใจโดยไม่สนว่าผมจะได้เงินหรือไม่ ?
อะไรที่ทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งเวลาได้เข้าไปขลุกอยู่กับมัน ไม่ว่าจะต้องเหน็ดเหนื่อย หรือตัองใช้เวลากับมันตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนกระทั่งแปรงฟันเข้านอน ?
จุดเด่นของผมอยู่ตรงไหน ? สิ่งไหนที่ผมทำได้ดีกว่าคนอื่น ?
คำตอบที่ผมมีคือ ความเงียบ ความเงียบที่ยังคงดังก้องในหัวตลอดเวลา
บุคคลที่ผมควรจะรู้จักดีที่สุดกลับกลายเป็นคนที่แปลกหน้าที่สุดในเวลาเดียวกัน
โดยส่วนตัวผมมีคติหรือคำคมที่ชอบอยู่หลายประโยคซึ่งส่วนใหญ่จะถูกบอกเล่าโดยผู้ประสบความสำเร็จ
ในชีวิตหลากหลาย
แต่บุคคลที่คำพูดรวมถึงเส้นทางการใช้ชีวิตสามารถสร้างแรงกระตุ้นให้ผมได้ดีที่สุดคือ Steve Jobs
หนึ่งในนั้นคือประโยคที่กล่าวว่า "keep looking, don't settle"
บางทีวันนี้ผมอาจกำลังเดินเฉียดไปมาหรือ อาจอยู่ห่างไกลจากเส้นทางที่นำผมไปสู่สิ่งที่ผมกำลังค้นหาก็ไม่มีใครรู้ได้ นอกจากตัวของผมเอง
คุณหละ เคยลองย้อนถามตัวเองบ้างมั้ยว่าคุณรักที่จะทำอะไร ?
อะไรที่คุณยังยืนยันที่จะทำอย่างเต็มใจโดยไม่สนว่าคุณจะได้เงินหรือไม่ ?
อะไรที่ทำให้คุณมีความสุขทุกครั้งเวลาได้เข้าไปขลุกอยู่กับมัน ไม่ว่าจะต้องเหน็ดเหนื่อย หรือตัองใช้เวลากับมันตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนกระทั่งแปรงฟันเข้านอน ?
จุดเด่นของคุณอยู่ตรงไหน ? สิ่งไหนที่คุณทำได้ดีกว่าคนอื่น ?
ถ้าคุณตอบตัวเองได้ คุณ
แต่ถ้าคำตอบของคุณไม่ต่างจากความเงียบที่เสียงดังของผมมากนัก...
So, keep looking, don't settle.
Keep looking, don't settle.
เราอาจกำลังเดินไปเจอสิ่งที่รักสิ่งเดียวกันในวันๆหนึ่งข้างหน้าก็เป็นได้
#decgen https://www.facebook.com/decgeneration