ภายหลังชายดูไบสไกป์ทางอินเตอร์เน็ต เข้ามาในศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) สั่งให้จัดการสลายการชุมนุมประชาชน จนเป็ดเหลิมที่โดนหลอกใช้ว่าจะมอบตำแหน่งนายกฯ ให้หลังเดินเกมส์ชนะ เร่งสั่งการด้วยว่าจาให้ชายชุดดำ สลายการชุมนุมเมื่อ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา จนเป็นการสั่งฆ่าบรรลือโลกนั้น ฝ่ายการเมืองใน ศรส.ก็ลอยแพให้ชายชุดดำผู้ปฏิบัติรับผิดไปเอง
ชายดูไบ พยายามยื่นเงื่อนไขต่อรองการเจรจาหลายครั้ง โดยล่าสุดเขาบ้าขนาดยื่นเงื่อนไขที่พิลึกกึกกือ นั่นคือ ต้องได้เงินคืน (ที่โกงชาติไปและถูกจับได้จนยึดไป 4.6 หมื่นล้าน) และคดีความต่างๆ ต้องนำไปพิจารณาในศาลปกติ ด้วยเปาบุ้นจิ้นคนเดียว และไม่ตัดสินโดยศาลฎีกา (เพื่อที่เขาจะได้ซื้อเพียงคนเดียว เขาขี้เหนียว และกลัวแพ้) แต่เงื่อนไขแบบนี้ ไม่มีใครบ้าเอาด้วยกับเขา เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ
เขาไม่ละความเอาเปรียบอีก โดยสั่งปึ้งเหม่งให้ทำหนังสือดึงสหประชาชาติ มาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย โดยให้มีกำลังทหาร UN ต่างชาติเข้ามารักษาความสงบ แต่ต้องเป็นทหาร UN จากกัมพูชาเท่านั้น..เออ เอากะมันซิ
เมื่อจนตรอกแก๊งค์อั้งยี่แดงจึงจงใจกดดันอารมณ์สังคม สั่งการให้สมุนก่อการร้านสากล โดยปาระเบิดถล่มใส่เด็กตายที่ จ.ตราด และยิง M79 ใส่แผงค้าที่หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ ใกล้แยกราชประสงค์ จนเด็กน้อยน้องเคนและน้องเค้กตาย 2 คน พ่อ (ที่สนิทกับ มีวันนี้เพราะพี่ให้) ปิ่มจะขาดใจที่สูญเสียลูกน้อยที่รัก และยังมีผู้หญิง คนแก่ และประชาชนทั่วไปได้รับบาดเจ็บกว่า 24 คน นั้น แล้วผลจากการตรวจสอบ “ห้างพาราเซตามอล” ก็พบว่าเป็นจุดยิง M79 เข้าใส่ผู้ชุมนุมนั่นเอง ที่ผ่านมาเจ้าของห้างประกาศตัวเป็นศัตรูกับประชาชนโดยชัดเจน ด้วยการส่งหนังสือถึงรถกระจายเสียงนำขบวนว่าห้ามมวลชน กปปส.เข้ามาใช้ห้องน้ำห้างฯ
ห้างนี้เดิมทีชื่อว่า "ประตูน้ำซับซ้อน " จ้าของคือ พรหมมหาราช เครือแก๊ส ที่มีพี่ชายดูไบ เป็นประธานกรรมการ ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดิน 3 งาน 44.4 ตารางวา ของห้างนี้ และถือหุ้นใหญ่ คือ " ปลอดเป็นศพ " ผู้เป็น รมต.เทียม ที่เป็นเจ้าของเมกกะโปรเจกโครงการบริหารจัดการน้ำ (..เลี้ยงของบริษัทเผาไทย) อันอื้อฉาว ด้วยการกู้มาโกง 3.5 แสนล้านบาทมาตั้งแต่ปี 2555 แล้วล๊อคเสปกงานได้บริษัทเกาหลี ที่ชายดูไบไปเจรจากินหัวคิวมาก่อนล่วงหน้าแล้ว แต่ผลผ่านไป 2 ปีกลับไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ และศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมก่อน จนระยะเวลาการกู้สิ้นสุด เกิดการอลเวงหนัก
เกิดปรากฎการณ์พิลึกพิลั่นโลกตะลึง คือ ไปทำประจาพิจารณ์ย้อนหลังประมูลได้บริษัทรับเหมา ตามจังหวัดที่โครงการผ่านหรือจะกระทำโครงการ มีการให้หัวคะแนนไปแกนชาวบ้านจากพื้นที่อื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโครงการเอาชื่อมาก่อน แล้วจัดรถรับ ส่ง คัดเอาเฉพาะคนกลุ่มนี้เข้าไปในหอประชุมแลกกับค่าจ้าง 400 บาทต่อหัว แต่พอชาวบ้านในพื้นที่ๆ เขาได้รับผลกระทบโดยตรงจะเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย ก็ไม่ยอมและถูกทุบตีทำร้ายร่างกายจาก อส.และชายชุดดำ จนเกิดจลาจลย่อยๆ ไปทั่วประเทศ ต่อมา สตง.ถึงกลับเรียกคืนเงินก้อนนี้ราว 400 ล้านบาท เพราะดันไปใช้งบประมาณปกติ แต่ไม่ยอมเบิกจากโครงการเงินกู้นี้โดยตรง
ดังนั้นการก่อวินาศกรรมที่บริษัทเผาไทยจ้าง แฝงตัวขึ้นไปบนห้างพาราฯ ประตูน้ำนี้ แล้วใช้ปืน M79 เล็งยิงจากชั้น 9 ที่มองเห็นเป้าหมายพื้นที่หน้าห้างบิ๊กซีพอดี จึงเป็นความจงใจฆ่าเด็กนั่นเอง ไม่ใช่การยิงพลาด และที่น่าแปลกแต่จริงก็คือ ในสมัยเผาเมืองปี 53 ที่แก๊งค์อั้งยี่ให้สมุนยิง M79 ใส่ชาวบ้านไปทั่วถึง 60 ลูก ห้างนี้ก็เคยใช้เป็นจุดยิง M79 ก่อเหตุร้ายใส่ประชาชน และชายชุดเขียว หลายครั้งบริเวณนั้นด้วย !!
ผู้ที่ยอมให้มือปืนใช้พื้นที่และอาคารนี้ปฏิบัติการ ก็คือผู้สมคบให้ก่อวินาศกรรม ก่อการร้ายสากล สังหารเด็กเล็กครั้งนี้นั่นเอง มันเชื่อมโยงได้ว่าบริษัทเผาไทยนี้ นอกจากจะโครตโกงแล้ว ยังชอบฆ่าเด็กอีกด้วย..งานนี้นายห้างปลอดเป็นศพก็เอาไม่อยู่แล้ว!!
ลองให้ไปดูการชุมนุมเผาเมืองของอเวจีแดงย้อนหลังที่ผ่านมาปี 53 ที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมแดงไม่เคยโดนระเบิด หรือการยิงด้วยอาวุธสงครามใดๆ วินาศกรรมใดๆ ทั้งสิ้น แต่ประชาชนรอบนอกที่ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ แม่ค้า เด็กๆ กลับโดนสร้างสถานการณ์เอาอาวุธ M79 มาโจมตีใส่อย่างหนัก นี่เป็นการพิสูจน์ว่าปี 53 กับ 57 ผู้ก่อการร้ายสากลคือแก๊งค์เดียวกัน
ที่ผ่านมาหัวหน้าบริษัทเผาไทยนี้เองแหละ ที่ประกาศเองให้ประชาชนเอาอาวุธปืน 10 ล้านกระบอกออกมาให้คนไทยต่อสู้กันให้เกิดสงครามกลางเมือง และมีแกนนำพรรคที่เป็นอดีต สส.เหนือสุด ชื่อ วิ เคยเป็นถึงรองประธานสภาโจ๊ก ออกมาเป็นแกนร่วมกับหมอแคนอีสาน ประกาศแบ่งแยกประเทศไทยออกไปเป็นประเทศล้านนาอีก ตามมาด้วยแกนนำคอมมิวนิสต์สายกลายพันธ์ และสายรู้แล้วรวย อีกหลายคนที่ผสานเสียงกัน มีการสังทำแบบป้ายไวนิล ออกมาจากแหล่งในบริษัทเผาไทย แล้วให้ค้างคาวอเวจีแดงตามจังหวัดต่างๆ ออกหากินกลางดึก ไปแอบลอบติดบนสะพานลอยถนนสายหลักตามจังหวัดต่างๆ
ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์บูมเบอแรงย้อนกลับจากประชาชน มาฟาดหน้าแก๊งค์อั้งยี่แดงเข้าเต็มจังเบอจนหน้าบวมเสียสูญ มวลชนทุยแดงเห็นลางหายนะอนาคตตัวเอง และลูกหลานชัดเจนแจ๋วแหว๋ว จึงออกมาก่นด่าพ่อ ล่อแม่ แก๊งค์อั้งยี่แดงชนิดขุดตระกูล 7 ชั่วโครตมาด่า เผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง มวลชนแดงที่เหลือน้อยนิดอยู่แล้ว กลับลดน้อยหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก
เพราะคนไทยไม่อยากถูกโจรมาชิง “ ปล้นเอาดินแดนไป” เนื่องจากมีประวัติศาสตร์วิวัฒนาการเล่าขานภูมิใจยาวนานกว่า 1 พันปี บรรพกษัตริย์ และบรรพบุรุษ สะสมอาณาจักรเล็กน้อย รวบรวมกว่าจะมาเป็นปึกแผ่นได้ อีกทั้งมีศูนย์กลางจิตใจบารมีท่วมหัวจากสถาบันให้อยู่เย็นเป็นสุขมานาน มีญาติพี่น้องข้ามภาคต่างๆ จู่ๆ ชายดูไบที่ไม่ได้มีเชื้อสายคนไทย จะมาตีชิงปล้นแบ่งแผ่นดินไป คนไทยจึงไม่ยอม..
ถ้าอยากตั้งประเทศใหม่ก็ย้ายออกจากประเทศนี้ไป แล้วไปหาแผ่นดินใหม่เอาเองซีเว้ย!! ถ้าหาไม่ได้ก็เอาเงินไปซื้อเกาะเล็กแถวแอฟริกาโน่น แล้วขนมวลชนทุยแดงไปตั้งรัฐบาลเทียมเอง ตั้งตนเป็นสมเด็จดูไบคนแรกของเกาะไปเลย แล้วเกณฑ์เหล่าบรรดาเมียของลูกน้องนั่นแหละ มาปรนเปรอเป็นเมียน้อยให้สิ้นเรื่องไป..(เรื่องนี้ต้องถามกีร์อมฮอลล์ เพราะมีประสบการณ์ด้วยตนเอง..ฮา)
การต่อต้านจากประชาชน เริ่มปรากฏเป็นรูปธรรมที่ อ.เมืองพิษณุโลก ที่ทุยแดงแอบติดป้ายไวนิลพื้นสีแดง เขียนข้อความว่า “ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กู ขอแยกเป็นประเทศล้านนา” ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร จำนวน 2 ผืน ติดขึงไว้ที่สะพานลอย ข้ามถนนสายพิษณุโลก-นครสวรรค์ ทั้งขาเข้าและขาออก ประชาชนจึงได้โวยวายโมโหจัด คว้าเคียวบ้าง อีโต้บ้าง มีดบ้าง กระหน่ำฟัน กรีดป้ายฯ จนขาดกลางร่องแรง เหวอะหวะ ด้วยความสะใจ เนื่องจากทนกับข้อความดังกล่าวไม่ได้
ชาวบ้านใกล้เคียงบอกว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้ยินเสียงหมาเห่าดังไปทั่วบริเวณ กระทั่งช่วงเช้าก็เห็นป้ายดังกล่าวแล้ว ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ ด่าพ่อ ล่อแม่ แก๊งค์อั้งยี่แดง ที่กล้ากระทำดังกล่าวที่ไม่เหมาะสม คนทำไม่น่าเกิดเป็นคนไทย เพราะคนไทยแต่ละคนมีความคิดเห็นต่างได้ แต่ไม่ควรคิดแยกประเทศเช่นนี้..ถ้าเอามาติดอีก พวกเขาก็จะเอามีดมาฟันอีก และจะเอาซากป้ายไปห่อขี้ควาย แล้วไปโยนใส่บ้าน ส.ส.แดงในพื้นที่ทันที (นี่ขนาดชาวบ้านธรรมดายังคิดได้ขาดนี้ )
ต่อมาชายชุดดำในเครื่องแบบได้มาทำการเก็บป้ายไวนิล พร้อมนำกลับไปเป็นหลักฐานสืบหาตัวผู้กระทำดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างความแตกแยก และมีความผิดทางด้านความมั่นคงของประเทศ..หา..รู้ได้ไงเนี่ย รก.รมต.คลองหลอด เขาประกาศแยกประเทศออกทีวีเลยนะ..ฮา
มีเรื่องที่น่าตระหนกสำหรับชาวนา คือ ตั้งแต่ปูเน่ากับเป็ดเหลิมตั้ง ศรส.เมื่อวันที่ 21 ม.ค. เป้นต้นมา จากการตรวจสอบการใช้เงินของศูนย์เถื่อนนี้แค่ 33 วัน ใช้งบกลางไปแล้ว 1 หมื่นล้านบาท (เฉลี่ยใช้วันละ 300 ล้านบาท).. ทั้ง ๆ ที่ ค่าเบี้ยเลี้ยงชายชุดดำวันละ 700 บาท จำนวน 2.5 หมื่นคน ( ที่ไม่ได้มาทุกวันเท่านี้อีกด้วย เต็มที่ต่อวันยังใช้ไม่เกิน 20 ล้านบาทเลย
นี่มันเท่ากับงบประมาณของกระทรวงขนาดกลางทั้งปี ที่บริการประชาชนไทย 65 ล้านคนเลย และสามารถจ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนาได้ถึง 6.7 แสนตัน หรือสามารถบรรเทาความเดือดร้อนจ่ายเงินที่ปูเน่าชักดาบชาวนามา เฉลี่ยคนละ 2 แสนบาท ได้ถึง 50,000 คน ที่เดียว..อุแม่เจ้า ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็นใดต้องเกณฑ์ชายชุดดำมามากขนาดนั้น เพราะประชาชน กปปส.ชุมนุมไม่ได้รุนแรงใด ๆ เหมือนเผาไทยชุมนุมปี 53 เพราะการก่อเหตุปี 57 ปาและยิงระเบิด M79 ก็เป้นจากฝ่ายแก๊งค์อั้งยี่เองที่ก่อวินาสกรรม ฆ่าเด็กและผู้หญิงที่บริสุทธิ์
เมื่อวันที่ 26-27 ก.พ.มีเหตุการณ์ที่ฟิตขึ้นอย่างผิดหูผิดตาของชายชุดดำ หลังจากการเจรจาข้อตกลงลับของอับดุล กับบิ๊กชายชุดเขียว แต่กลับเป็นที่น่าหวาดหวั่น ชวนจิตตก ของแก๊งค์อั้งยี่แดง คือ
1. ในส่วนชายชุดดำ
- ชายชุดดำปราบจลาจล รวมตัวกันขอกลับบ้าน บอกให้ ศรส. เอาเบี้ยเลี้ยงไปจ่ายชาวนาที่จำนำขาวดีกว่า
- ผบ.ชายชุดดำ ก็เปิดประตูหน่วยงาน ผสานใจรับดอกไม้จากมวลชน กปปส. ที่ไปเยี่ยม และรับปากว่าจะตามจับ แก๊งค์แดงที่ฆ่าเด็กตายที่ราชประสงค์ด้วยระเบิด M79
- สั่งการชายชุดดำ ให้เอากำลังไปล้อมทำท่าจะสลายมวลชนอันธพาลแดง ที่หน้า ปปช.จนอันธพาลแดงขี้หด ขอเจรจาปิดแค่ประตูเดียว
- ชายชุดดำ ผบ.น.2 มีคำสั่งระดมกำลังชายชุดดำในเครื่องแบบ ดูแลพื้นที่ชุมนุมเวที กปปส. ตั้งแต่เวลา 18.00 ถึง 06.00 น. ของทุกวัน จนกว่าจะยุติการชุมนุม โดยสับเปลี่ยนกำลังไปเรื่อยๆ และนำกำลังต่างจังหวัดมาผลัดเปลี่ยนทำหน้าที่ และจัดกำลังประจำจุดภายในตลาดซอยแจ้งวัฒนะ 14 ลานจอดรถฝั่งตรงข้าม และปากซอยแจ้งวัฒนะ 12 แยก 1
- ชายชุดดำแถลง ศาลอนุมัติหมายจับ มือปืนยิง "สุทิน" เสียชีวิตวัดศรีเอี่ยมเมื่อ 26 มค. 57
- ชายชุดดำตั้งรางวัล นำจับ 7 แสนบาท "กฤษดา ไชยแค" อายุ 43 ปี ข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ ปาระเบิดอนุเสาวรีย์ชัยฯ หมายสังหารถาวร
** ลูกชายดูไบ เขียนเฟซบุ๊ก ว่าถ้าจับมือระเบิดนี้ได้จะจ่าย 10 ล้านบาท..ดังนั้นใครรู้จักคนเขมร หรือมีคนงานเป็นเขมร ให้รับส่งข่าวนี้ต่อๆ กันไปให้เขาบอกญาติในเขมรว่าจะถูกหวยแล้วได้เงิน 10.7 ล้าน ให้ส่งข่าวและรูปถ่ายยายกฤษดา ที่แฝงตัวประกอบอาชีพพ่อครัว หรือช่างตัดผม ไปทั้งประเทศ ให้รีบจับมือระเบิดนี้ แล้วมาให้ชายชุดขาว หรือชุดเขียวที่ชายแดน..ฮา เผลอโพส อีคซวยแล้ว
2. ในส่วนชายชุดเขียว
- ผบ.พล1 รอ. ลงพื้นที่ตรวจกำชับให้กำลังใจกำลังพล ปรับเพิ่มจุดดูแลประชาชนจาก 29 เป็น 176 จุด (เพิ่มรวดเดียว 147 ชุด ) และฝากความห่วงใยจากชายที่ออกทีวีแล้วไม่ค่อยยิ้ม ให้ระวังการใช้อาวุธวิถีโค้ง
- นกแสกออกทีวีสั่งบิ๊กชายชุดเขียว ให้ถอนกำลังพลออกจากจุดชุมนุม กปปส. อ้างว่าทำลายบรรยากาศประชาธิไตย (เพราะสมุนที่จ้างมาฟ้องว่า โจมตีด้วยอาวุธไม่ได้) บิ๊กชายชุดเขียวผู้ใจดีไฉนเลยเมื่อนกแสกร้องขอจะกล้าขัด..เลยสั่งให้ไปตั้งบังเกอร์ พร้อมจัดกำลังอาวุธหนักครบมือเพียบๆ ที่ด้านหน้าตึกบริษัทเผาไทยซะเลย..ฮา
- ชายชุดเขียวที่ จ.อุดรฯ ได้ส่งกำลังจำนวนมากออกไปควบคุมการจราจร โบกรถ และตรวจค้นสอดส่อง รถยนต์ที่สัญจรไปมา
- มีการทะยอยขนรถคั่วข้าวโพดคันดำทมึนจำนวนมาก จากทัพภาค 2 เข้า กทม.มาทางรถไฟ นัยยะว่าร้านคาร์แคร์ใน กทม.มีคุณภาพดี เลยจะส่งรถฯ มาล้างเพิ่มจากเดิมอีกเรื่อยๆ
27 ก.พ.57 แฉ..แยกประเทศฉีกไม่มีชิ้นดี จุดยิงเด็กเผย นายห้างปลอดเอาไม่อยู่แล้ว
ชายดูไบ พยายามยื่นเงื่อนไขต่อรองการเจรจาหลายครั้ง โดยล่าสุดเขาบ้าขนาดยื่นเงื่อนไขที่พิลึกกึกกือ นั่นคือ ต้องได้เงินคืน (ที่โกงชาติไปและถูกจับได้จนยึดไป 4.6 หมื่นล้าน) และคดีความต่างๆ ต้องนำไปพิจารณาในศาลปกติ ด้วยเปาบุ้นจิ้นคนเดียว และไม่ตัดสินโดยศาลฎีกา (เพื่อที่เขาจะได้ซื้อเพียงคนเดียว เขาขี้เหนียว และกลัวแพ้) แต่เงื่อนไขแบบนี้ ไม่มีใครบ้าเอาด้วยกับเขา เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ
เขาไม่ละความเอาเปรียบอีก โดยสั่งปึ้งเหม่งให้ทำหนังสือดึงสหประชาชาติ มาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย โดยให้มีกำลังทหาร UN ต่างชาติเข้ามารักษาความสงบ แต่ต้องเป็นทหาร UN จากกัมพูชาเท่านั้น..เออ เอากะมันซิ
เมื่อจนตรอกแก๊งค์อั้งยี่แดงจึงจงใจกดดันอารมณ์สังคม สั่งการให้สมุนก่อการร้านสากล โดยปาระเบิดถล่มใส่เด็กตายที่ จ.ตราด และยิง M79 ใส่แผงค้าที่หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ ใกล้แยกราชประสงค์ จนเด็กน้อยน้องเคนและน้องเค้กตาย 2 คน พ่อ (ที่สนิทกับ มีวันนี้เพราะพี่ให้) ปิ่มจะขาดใจที่สูญเสียลูกน้อยที่รัก และยังมีผู้หญิง คนแก่ และประชาชนทั่วไปได้รับบาดเจ็บกว่า 24 คน นั้น แล้วผลจากการตรวจสอบ “ห้างพาราเซตามอล” ก็พบว่าเป็นจุดยิง M79 เข้าใส่ผู้ชุมนุมนั่นเอง ที่ผ่านมาเจ้าของห้างประกาศตัวเป็นศัตรูกับประชาชนโดยชัดเจน ด้วยการส่งหนังสือถึงรถกระจายเสียงนำขบวนว่าห้ามมวลชน กปปส.เข้ามาใช้ห้องน้ำห้างฯ
ห้างนี้เดิมทีชื่อว่า "ประตูน้ำซับซ้อน " จ้าของคือ พรหมมหาราช เครือแก๊ส ที่มีพี่ชายดูไบ เป็นประธานกรรมการ ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดิน 3 งาน 44.4 ตารางวา ของห้างนี้ และถือหุ้นใหญ่ คือ " ปลอดเป็นศพ " ผู้เป็น รมต.เทียม ที่เป็นเจ้าของเมกกะโปรเจกโครงการบริหารจัดการน้ำ (..เลี้ยงของบริษัทเผาไทย) อันอื้อฉาว ด้วยการกู้มาโกง 3.5 แสนล้านบาทมาตั้งแต่ปี 2555 แล้วล๊อคเสปกงานได้บริษัทเกาหลี ที่ชายดูไบไปเจรจากินหัวคิวมาก่อนล่วงหน้าแล้ว แต่ผลผ่านไป 2 ปีกลับไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ และศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมก่อน จนระยะเวลาการกู้สิ้นสุด เกิดการอลเวงหนัก
เกิดปรากฎการณ์พิลึกพิลั่นโลกตะลึง คือ ไปทำประจาพิจารณ์ย้อนหลังประมูลได้บริษัทรับเหมา ตามจังหวัดที่โครงการผ่านหรือจะกระทำโครงการ มีการให้หัวคะแนนไปแกนชาวบ้านจากพื้นที่อื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโครงการเอาชื่อมาก่อน แล้วจัดรถรับ ส่ง คัดเอาเฉพาะคนกลุ่มนี้เข้าไปในหอประชุมแลกกับค่าจ้าง 400 บาทต่อหัว แต่พอชาวบ้านในพื้นที่ๆ เขาได้รับผลกระทบโดยตรงจะเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย ก็ไม่ยอมและถูกทุบตีทำร้ายร่างกายจาก อส.และชายชุดดำ จนเกิดจลาจลย่อยๆ ไปทั่วประเทศ ต่อมา สตง.ถึงกลับเรียกคืนเงินก้อนนี้ราว 400 ล้านบาท เพราะดันไปใช้งบประมาณปกติ แต่ไม่ยอมเบิกจากโครงการเงินกู้นี้โดยตรง
ดังนั้นการก่อวินาศกรรมที่บริษัทเผาไทยจ้าง แฝงตัวขึ้นไปบนห้างพาราฯ ประตูน้ำนี้ แล้วใช้ปืน M79 เล็งยิงจากชั้น 9 ที่มองเห็นเป้าหมายพื้นที่หน้าห้างบิ๊กซีพอดี จึงเป็นความจงใจฆ่าเด็กนั่นเอง ไม่ใช่การยิงพลาด และที่น่าแปลกแต่จริงก็คือ ในสมัยเผาเมืองปี 53 ที่แก๊งค์อั้งยี่ให้สมุนยิง M79 ใส่ชาวบ้านไปทั่วถึง 60 ลูก ห้างนี้ก็เคยใช้เป็นจุดยิง M79 ก่อเหตุร้ายใส่ประชาชน และชายชุดเขียว หลายครั้งบริเวณนั้นด้วย !!
ผู้ที่ยอมให้มือปืนใช้พื้นที่และอาคารนี้ปฏิบัติการ ก็คือผู้สมคบให้ก่อวินาศกรรม ก่อการร้ายสากล สังหารเด็กเล็กครั้งนี้นั่นเอง มันเชื่อมโยงได้ว่าบริษัทเผาไทยนี้ นอกจากจะโครตโกงแล้ว ยังชอบฆ่าเด็กอีกด้วย..งานนี้นายห้างปลอดเป็นศพก็เอาไม่อยู่แล้ว!!
ลองให้ไปดูการชุมนุมเผาเมืองของอเวจีแดงย้อนหลังที่ผ่านมาปี 53 ที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมแดงไม่เคยโดนระเบิด หรือการยิงด้วยอาวุธสงครามใดๆ วินาศกรรมใดๆ ทั้งสิ้น แต่ประชาชนรอบนอกที่ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ แม่ค้า เด็กๆ กลับโดนสร้างสถานการณ์เอาอาวุธ M79 มาโจมตีใส่อย่างหนัก นี่เป็นการพิสูจน์ว่าปี 53 กับ 57 ผู้ก่อการร้ายสากลคือแก๊งค์เดียวกัน
ที่ผ่านมาหัวหน้าบริษัทเผาไทยนี้เองแหละ ที่ประกาศเองให้ประชาชนเอาอาวุธปืน 10 ล้านกระบอกออกมาให้คนไทยต่อสู้กันให้เกิดสงครามกลางเมือง และมีแกนนำพรรคที่เป็นอดีต สส.เหนือสุด ชื่อ วิ เคยเป็นถึงรองประธานสภาโจ๊ก ออกมาเป็นแกนร่วมกับหมอแคนอีสาน ประกาศแบ่งแยกประเทศไทยออกไปเป็นประเทศล้านนาอีก ตามมาด้วยแกนนำคอมมิวนิสต์สายกลายพันธ์ และสายรู้แล้วรวย อีกหลายคนที่ผสานเสียงกัน มีการสังทำแบบป้ายไวนิล ออกมาจากแหล่งในบริษัทเผาไทย แล้วให้ค้างคาวอเวจีแดงตามจังหวัดต่างๆ ออกหากินกลางดึก ไปแอบลอบติดบนสะพานลอยถนนสายหลักตามจังหวัดต่างๆ
ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์บูมเบอแรงย้อนกลับจากประชาชน มาฟาดหน้าแก๊งค์อั้งยี่แดงเข้าเต็มจังเบอจนหน้าบวมเสียสูญ มวลชนทุยแดงเห็นลางหายนะอนาคตตัวเอง และลูกหลานชัดเจนแจ๋วแหว๋ว จึงออกมาก่นด่าพ่อ ล่อแม่ แก๊งค์อั้งยี่แดงชนิดขุดตระกูล 7 ชั่วโครตมาด่า เผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง มวลชนแดงที่เหลือน้อยนิดอยู่แล้ว กลับลดน้อยหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก
เพราะคนไทยไม่อยากถูกโจรมาชิง “ ปล้นเอาดินแดนไป” เนื่องจากมีประวัติศาสตร์วิวัฒนาการเล่าขานภูมิใจยาวนานกว่า 1 พันปี บรรพกษัตริย์ และบรรพบุรุษ สะสมอาณาจักรเล็กน้อย รวบรวมกว่าจะมาเป็นปึกแผ่นได้ อีกทั้งมีศูนย์กลางจิตใจบารมีท่วมหัวจากสถาบันให้อยู่เย็นเป็นสุขมานาน มีญาติพี่น้องข้ามภาคต่างๆ จู่ๆ ชายดูไบที่ไม่ได้มีเชื้อสายคนไทย จะมาตีชิงปล้นแบ่งแผ่นดินไป คนไทยจึงไม่ยอม..
ถ้าอยากตั้งประเทศใหม่ก็ย้ายออกจากประเทศนี้ไป แล้วไปหาแผ่นดินใหม่เอาเองซีเว้ย!! ถ้าหาไม่ได้ก็เอาเงินไปซื้อเกาะเล็กแถวแอฟริกาโน่น แล้วขนมวลชนทุยแดงไปตั้งรัฐบาลเทียมเอง ตั้งตนเป็นสมเด็จดูไบคนแรกของเกาะไปเลย แล้วเกณฑ์เหล่าบรรดาเมียของลูกน้องนั่นแหละ มาปรนเปรอเป็นเมียน้อยให้สิ้นเรื่องไป..(เรื่องนี้ต้องถามกีร์อมฮอลล์ เพราะมีประสบการณ์ด้วยตนเอง..ฮา)
การต่อต้านจากประชาชน เริ่มปรากฏเป็นรูปธรรมที่ อ.เมืองพิษณุโลก ที่ทุยแดงแอบติดป้ายไวนิลพื้นสีแดง เขียนข้อความว่า “ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กู ขอแยกเป็นประเทศล้านนา” ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร จำนวน 2 ผืน ติดขึงไว้ที่สะพานลอย ข้ามถนนสายพิษณุโลก-นครสวรรค์ ทั้งขาเข้าและขาออก ประชาชนจึงได้โวยวายโมโหจัด คว้าเคียวบ้าง อีโต้บ้าง มีดบ้าง กระหน่ำฟัน กรีดป้ายฯ จนขาดกลางร่องแรง เหวอะหวะ ด้วยความสะใจ เนื่องจากทนกับข้อความดังกล่าวไม่ได้
ชาวบ้านใกล้เคียงบอกว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้ยินเสียงหมาเห่าดังไปทั่วบริเวณ กระทั่งช่วงเช้าก็เห็นป้ายดังกล่าวแล้ว ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ ด่าพ่อ ล่อแม่ แก๊งค์อั้งยี่แดง ที่กล้ากระทำดังกล่าวที่ไม่เหมาะสม คนทำไม่น่าเกิดเป็นคนไทย เพราะคนไทยแต่ละคนมีความคิดเห็นต่างได้ แต่ไม่ควรคิดแยกประเทศเช่นนี้..ถ้าเอามาติดอีก พวกเขาก็จะเอามีดมาฟันอีก และจะเอาซากป้ายไปห่อขี้ควาย แล้วไปโยนใส่บ้าน ส.ส.แดงในพื้นที่ทันที (นี่ขนาดชาวบ้านธรรมดายังคิดได้ขาดนี้ )
ต่อมาชายชุดดำในเครื่องแบบได้มาทำการเก็บป้ายไวนิล พร้อมนำกลับไปเป็นหลักฐานสืบหาตัวผู้กระทำดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างความแตกแยก และมีความผิดทางด้านความมั่นคงของประเทศ..หา..รู้ได้ไงเนี่ย รก.รมต.คลองหลอด เขาประกาศแยกประเทศออกทีวีเลยนะ..ฮา
มีเรื่องที่น่าตระหนกสำหรับชาวนา คือ ตั้งแต่ปูเน่ากับเป็ดเหลิมตั้ง ศรส.เมื่อวันที่ 21 ม.ค. เป้นต้นมา จากการตรวจสอบการใช้เงินของศูนย์เถื่อนนี้แค่ 33 วัน ใช้งบกลางไปแล้ว 1 หมื่นล้านบาท (เฉลี่ยใช้วันละ 300 ล้านบาท).. ทั้ง ๆ ที่ ค่าเบี้ยเลี้ยงชายชุดดำวันละ 700 บาท จำนวน 2.5 หมื่นคน ( ที่ไม่ได้มาทุกวันเท่านี้อีกด้วย เต็มที่ต่อวันยังใช้ไม่เกิน 20 ล้านบาทเลย
นี่มันเท่ากับงบประมาณของกระทรวงขนาดกลางทั้งปี ที่บริการประชาชนไทย 65 ล้านคนเลย และสามารถจ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนาได้ถึง 6.7 แสนตัน หรือสามารถบรรเทาความเดือดร้อนจ่ายเงินที่ปูเน่าชักดาบชาวนามา เฉลี่ยคนละ 2 แสนบาท ได้ถึง 50,000 คน ที่เดียว..อุแม่เจ้า ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็นใดต้องเกณฑ์ชายชุดดำมามากขนาดนั้น เพราะประชาชน กปปส.ชุมนุมไม่ได้รุนแรงใด ๆ เหมือนเผาไทยชุมนุมปี 53 เพราะการก่อเหตุปี 57 ปาและยิงระเบิด M79 ก็เป้นจากฝ่ายแก๊งค์อั้งยี่เองที่ก่อวินาสกรรม ฆ่าเด็กและผู้หญิงที่บริสุทธิ์
เมื่อวันที่ 26-27 ก.พ.มีเหตุการณ์ที่ฟิตขึ้นอย่างผิดหูผิดตาของชายชุดดำ หลังจากการเจรจาข้อตกลงลับของอับดุล กับบิ๊กชายชุดเขียว แต่กลับเป็นที่น่าหวาดหวั่น ชวนจิตตก ของแก๊งค์อั้งยี่แดง คือ
1. ในส่วนชายชุดดำ
- ชายชุดดำปราบจลาจล รวมตัวกันขอกลับบ้าน บอกให้ ศรส. เอาเบี้ยเลี้ยงไปจ่ายชาวนาที่จำนำขาวดีกว่า
- ผบ.ชายชุดดำ ก็เปิดประตูหน่วยงาน ผสานใจรับดอกไม้จากมวลชน กปปส. ที่ไปเยี่ยม และรับปากว่าจะตามจับ แก๊งค์แดงที่ฆ่าเด็กตายที่ราชประสงค์ด้วยระเบิด M79
- สั่งการชายชุดดำ ให้เอากำลังไปล้อมทำท่าจะสลายมวลชนอันธพาลแดง ที่หน้า ปปช.จนอันธพาลแดงขี้หด ขอเจรจาปิดแค่ประตูเดียว
- ชายชุดดำ ผบ.น.2 มีคำสั่งระดมกำลังชายชุดดำในเครื่องแบบ ดูแลพื้นที่ชุมนุมเวที กปปส. ตั้งแต่เวลา 18.00 ถึง 06.00 น. ของทุกวัน จนกว่าจะยุติการชุมนุม โดยสับเปลี่ยนกำลังไปเรื่อยๆ และนำกำลังต่างจังหวัดมาผลัดเปลี่ยนทำหน้าที่ และจัดกำลังประจำจุดภายในตลาดซอยแจ้งวัฒนะ 14 ลานจอดรถฝั่งตรงข้าม และปากซอยแจ้งวัฒนะ 12 แยก 1
- ชายชุดดำแถลง ศาลอนุมัติหมายจับ มือปืนยิง "สุทิน" เสียชีวิตวัดศรีเอี่ยมเมื่อ 26 มค. 57
- ชายชุดดำตั้งรางวัล นำจับ 7 แสนบาท "กฤษดา ไชยแค" อายุ 43 ปี ข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ ปาระเบิดอนุเสาวรีย์ชัยฯ หมายสังหารถาวร
** ลูกชายดูไบ เขียนเฟซบุ๊ก ว่าถ้าจับมือระเบิดนี้ได้จะจ่าย 10 ล้านบาท..ดังนั้นใครรู้จักคนเขมร หรือมีคนงานเป็นเขมร ให้รับส่งข่าวนี้ต่อๆ กันไปให้เขาบอกญาติในเขมรว่าจะถูกหวยแล้วได้เงิน 10.7 ล้าน ให้ส่งข่าวและรูปถ่ายยายกฤษดา ที่แฝงตัวประกอบอาชีพพ่อครัว หรือช่างตัดผม ไปทั้งประเทศ ให้รีบจับมือระเบิดนี้ แล้วมาให้ชายชุดขาว หรือชุดเขียวที่ชายแดน..ฮา เผลอโพส อีคซวยแล้ว
2. ในส่วนชายชุดเขียว
- ผบ.พล1 รอ. ลงพื้นที่ตรวจกำชับให้กำลังใจกำลังพล ปรับเพิ่มจุดดูแลประชาชนจาก 29 เป็น 176 จุด (เพิ่มรวดเดียว 147 ชุด ) และฝากความห่วงใยจากชายที่ออกทีวีแล้วไม่ค่อยยิ้ม ให้ระวังการใช้อาวุธวิถีโค้ง
- นกแสกออกทีวีสั่งบิ๊กชายชุดเขียว ให้ถอนกำลังพลออกจากจุดชุมนุม กปปส. อ้างว่าทำลายบรรยากาศประชาธิไตย (เพราะสมุนที่จ้างมาฟ้องว่า โจมตีด้วยอาวุธไม่ได้) บิ๊กชายชุดเขียวผู้ใจดีไฉนเลยเมื่อนกแสกร้องขอจะกล้าขัด..เลยสั่งให้ไปตั้งบังเกอร์ พร้อมจัดกำลังอาวุธหนักครบมือเพียบๆ ที่ด้านหน้าตึกบริษัทเผาไทยซะเลย..ฮา
- ชายชุดเขียวที่ จ.อุดรฯ ได้ส่งกำลังจำนวนมากออกไปควบคุมการจราจร โบกรถ และตรวจค้นสอดส่อง รถยนต์ที่สัญจรไปมา
- มีการทะยอยขนรถคั่วข้าวโพดคันดำทมึนจำนวนมาก จากทัพภาค 2 เข้า กทม.มาทางรถไฟ นัยยะว่าร้านคาร์แคร์ใน กทม.มีคุณภาพดี เลยจะส่งรถฯ มาล้างเพิ่มจากเดิมอีกเรื่อยๆ