เอเจนซีส์ - หลังจากการล่องหนของอดีตประธานาธิบดียูเครน วิกเตอร์ ยานูโควิช หลังจากโดนปลดออกจากตำแหน่ง ล่าสุดชาวรัสเซียจำนวนเกือบ 100,000 คนร่วมลงชื่อยื่นคำร้องออนไลน์ เรียกร้องให้ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ประกาศรวมเขตแหลมไครเมียของยูเครนให้เป็นส่วนหนึ่งในรัสเซีย ท่ามกลางความวิตกของอำนาจใหม่ในกรุงเคียฟถึงภัยการประกาศแยกตัวระหว่างยูเครนฝ่ายอิงรัสเซีย และยูเครนอิงยุโรป
คำร้องออนไลน์เรียกร้องให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ส่งรถถังเข้าไปยึดทางตะวันออกของยูเครนได้ถูกลบออกจากระบบอย่างรวดเร็วเมื่อวานนี้(25) หลังจากที่คำร้องได้แพร่กระจายไปทั่วในโลกอินเตอร์เนตภาษารัสเซีย
โดยแผนที่ประกอบคำร้องได้แสดงให้เห็นภาพยูเครนใหม่หลังจากที่รัสเซียได้รวมภาคตะวันออกของยูเครนให้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเรียบร้อยแล้ว และจะทำให้รัสเซียกลายเป็น “ซุปเปอร์รัสเซีย” ที่เรียกภายใต้ชื่อว่า “รัสเซียใหม่”
ภายใน 24 ชั่วโมง ชาวรัสเซียร่วมเกือบ 100,000 คนได้ร่วมลงชื่อสนับสนุนการแบ่งแยกยูเครนอย่างเป็นทางการ ในขณะที่อำนาจใหม่ในกรุงเคียฟเห็นภัยการแยกประเทศ และเมื่อวานนี้(24)ได้ออกแถลงการณ์เตือนยูเครนในเขตอิทธิพลของรัสเซียไม่ให้คิดประกาศแยกตัว
ซึ่ง อาร์เซน อวาคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของยูเครนรักษาการ ได้ออกเตือนถึงสัญญาณ “ร้ายแรง” ในการประกาศขอแยกตัวในหลายแห่ง และในวันจันทร์(24)ได้ปิดห้องประชุมกับฝ่ายความมั่นคงประเทศในการวางแผนป้องกันภัยครั้งร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้นนี้
ทางด้านอาร์ซีนี ยัตเซนยุก ผู้นำฝ่ายค้านโค่นล้มอดีตประธานาธิบดียูเครน วิเตอร์ ยานูโควิช ได้เตือนถึงความน่าจะเป็นที่ปูตินอาจใช้กำลังทางทหารควบคุมเมืองเซวาสโตโปล ซึ่งในเมืองนี้เป็นที่ตั้งของศูนย์บัญชาการกองเรือรบของรัสเซีย และมีอาวุธนิวเคลียร์เก็บอยู่
“สถานการณ์ในเมืองเซวาสโตโปลนั้นซับซ้อนเสมอ และดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นในขณะนี้ และเราได้ร้องขอรัสเซียเพื่อนของเราไม่ให้ทำลายมัน” ยัตเซนยุกหัวหน้าพรรคฟาเธอร์แลนด์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าว และเสริมต่อว่า “รัสเซียมีกองทหารตั้งอยู่ในยูเครน ซึ่งยูเครนจะไม่ยอมให้มีการแยกประเทศเกิดขึ้น”
และในวันจันทร์(24)มีรายงานที่ได้รับการยืนยันว่า หน่วยกองกำลังทหารของรัสเซียในแหลมไครเมียอยู่ในขั้นเตรียมความพร้อมสูงสุด แต่ได้ปฎิเสธว่าทางกองกำลังรัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการแอบลักลอบนำยานูโควิชหนีออกนอกประเทศไปยังกรุงมอสโก
ในขณะที่จนถึงทุกวันนี้ปูติน ผู้นำสูงสุดของรัสเซียยังไม่ส่งสัญญาณใดออกมา แต่ทว่าในวันจันทร์(24)เขาได้เข้าประชุมกับที่ปรึกษาด้านความมั่นคงปรึกษาปัญหายูเครน
ทางด้านสส. เลโอนิด สลัตสกี ที่มีเชื้อสายรัสเซียที่เกิดนอกยูเครนได้เตือนว่า “ยูเครนเป็นเสมือนดินปืน ถ้าหากมีการยั่วยุขึ้น อาจเกิดการนองเลือดขึ้นได้” และเสริมว่า “ เมื่อคืนนี้(24)ทั่วเขตแหลมไครเมีย เรายังคิดว่า “ยานูโควิช” ยังเป็นประธานาธิบดีที่ถูกต้องตามกฏหมาย”
และสลัตสกีกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงความช่วยเหลือในภูมิภาคของยูเครนที่พูดภาษารัสเซียเป็นหลัก แต่ร่างรัฐธรรมนูญใหม่จะมีขึ้นในอนาคต
ซึ่งคำร้องของประชาชนรัสเซียนี้ที่ส่งตรงถึงปูตินในการรวมเขตตะวันออกของยูเครนเข้ากับรัสเซียถูกลบออกจากระบบกระทันหัน ซึ่งมีรายชื่อผู้ลงนามสนับสนุนอย่างน้อย 93,436 คนก่อนจะถูกลบไป
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้จัดทำคำร้องนี้ และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าได้มีการอนุญาตอย่างเป็นทางการหรือไม่ อย่างไรก็ตามในคืนวันจันทร์(24) เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้ประกาศว่า “รัสเซียไม่มีนโยบายเข้าแทรกแซงกิจการภายในของยูเครน”
ภายใน 24 ชม. “ชาวรัสเซีย” เกือบ 100,000 ลงชื่อร้อง “ปูติน” นำรถถังยึด “ไครเมีย” ให้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
คำร้องออนไลน์เรียกร้องให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ส่งรถถังเข้าไปยึดทางตะวันออกของยูเครนได้ถูกลบออกจากระบบอย่างรวดเร็วเมื่อวานนี้(25) หลังจากที่คำร้องได้แพร่กระจายไปทั่วในโลกอินเตอร์เนตภาษารัสเซีย
โดยแผนที่ประกอบคำร้องได้แสดงให้เห็นภาพยูเครนใหม่หลังจากที่รัสเซียได้รวมภาคตะวันออกของยูเครนให้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเรียบร้อยแล้ว และจะทำให้รัสเซียกลายเป็น “ซุปเปอร์รัสเซีย” ที่เรียกภายใต้ชื่อว่า “รัสเซียใหม่”
ภายใน 24 ชั่วโมง ชาวรัสเซียร่วมเกือบ 100,000 คนได้ร่วมลงชื่อสนับสนุนการแบ่งแยกยูเครนอย่างเป็นทางการ ในขณะที่อำนาจใหม่ในกรุงเคียฟเห็นภัยการแยกประเทศ และเมื่อวานนี้(24)ได้ออกแถลงการณ์เตือนยูเครนในเขตอิทธิพลของรัสเซียไม่ให้คิดประกาศแยกตัว
ซึ่ง อาร์เซน อวาคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของยูเครนรักษาการ ได้ออกเตือนถึงสัญญาณ “ร้ายแรง” ในการประกาศขอแยกตัวในหลายแห่ง และในวันจันทร์(24)ได้ปิดห้องประชุมกับฝ่ายความมั่นคงประเทศในการวางแผนป้องกันภัยครั้งร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้นนี้
ทางด้านอาร์ซีนี ยัตเซนยุก ผู้นำฝ่ายค้านโค่นล้มอดีตประธานาธิบดียูเครน วิเตอร์ ยานูโควิช ได้เตือนถึงความน่าจะเป็นที่ปูตินอาจใช้กำลังทางทหารควบคุมเมืองเซวาสโตโปล ซึ่งในเมืองนี้เป็นที่ตั้งของศูนย์บัญชาการกองเรือรบของรัสเซีย และมีอาวุธนิวเคลียร์เก็บอยู่
“สถานการณ์ในเมืองเซวาสโตโปลนั้นซับซ้อนเสมอ และดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นในขณะนี้ และเราได้ร้องขอรัสเซียเพื่อนของเราไม่ให้ทำลายมัน” ยัตเซนยุกหัวหน้าพรรคฟาเธอร์แลนด์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าว และเสริมต่อว่า “รัสเซียมีกองทหารตั้งอยู่ในยูเครน ซึ่งยูเครนจะไม่ยอมให้มีการแยกประเทศเกิดขึ้น”
และในวันจันทร์(24)มีรายงานที่ได้รับการยืนยันว่า หน่วยกองกำลังทหารของรัสเซียในแหลมไครเมียอยู่ในขั้นเตรียมความพร้อมสูงสุด แต่ได้ปฎิเสธว่าทางกองกำลังรัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการแอบลักลอบนำยานูโควิชหนีออกนอกประเทศไปยังกรุงมอสโก
ในขณะที่จนถึงทุกวันนี้ปูติน ผู้นำสูงสุดของรัสเซียยังไม่ส่งสัญญาณใดออกมา แต่ทว่าในวันจันทร์(24)เขาได้เข้าประชุมกับที่ปรึกษาด้านความมั่นคงปรึกษาปัญหายูเครน
ทางด้านสส. เลโอนิด สลัตสกี ที่มีเชื้อสายรัสเซียที่เกิดนอกยูเครนได้เตือนว่า “ยูเครนเป็นเสมือนดินปืน ถ้าหากมีการยั่วยุขึ้น อาจเกิดการนองเลือดขึ้นได้” และเสริมว่า “ เมื่อคืนนี้(24)ทั่วเขตแหลมไครเมีย เรายังคิดว่า “ยานูโควิช” ยังเป็นประธานาธิบดีที่ถูกต้องตามกฏหมาย”
และสลัตสกีกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงความช่วยเหลือในภูมิภาคของยูเครนที่พูดภาษารัสเซียเป็นหลัก แต่ร่างรัฐธรรมนูญใหม่จะมีขึ้นในอนาคต
ซึ่งคำร้องของประชาชนรัสเซียนี้ที่ส่งตรงถึงปูตินในการรวมเขตตะวันออกของยูเครนเข้ากับรัสเซียถูกลบออกจากระบบกระทันหัน ซึ่งมีรายชื่อผู้ลงนามสนับสนุนอย่างน้อย 93,436 คนก่อนจะถูกลบไป
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้จัดทำคำร้องนี้ และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าได้มีการอนุญาตอย่างเป็นทางการหรือไม่ อย่างไรก็ตามในคืนวันจันทร์(24) เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้ประกาศว่า “รัสเซียไม่มีนโยบายเข้าแทรกแซงกิจการภายในของยูเครน”