หมายเหตุ: ผมเคยตั้งกระทู้นี้ไว้ที่คลับซากุระเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาครับ
ทีแรกตั้งใจจะตั้งกระทู้ที่ห้องนี้ควบคู่ไปด้วย (เพราะตั้งกระทู้ในคลับมันแท็กห้องเฉลิมกรุงไม่ได้)
แต่ด้วยความที่เนื้อหาของกระทู้นี้ยาวมาก จึงตัดสินใจลงเนื้อหาในกระทู้นั้นให้เสร็จก่อน แล้วถึงค่อยมาลงที่นีต่อครับ
เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้เข้าร่วมงานจับมือทั่วประเทศที่ตึก Marine Messe
โดยหมายมั่นปั้นมือไว้ว่า จะได้เข้าจับมือและพูดคุยกับไอดอลขวัญใจของผม ยูโกะ โอชิม่า เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะสำเร็จการศึกษาออกจากวง AKB48 ก่อนมุ่งหน้าสู่วงการการแสดงอย่างเต็มตัวดังที่เธอใฝ่ฝัน
อาคาร Marine Messe (ด้านขวามือ)
ความรู้สึกที่ได้จากการเข้างานนั้นผสมปนเปหลายอย่าง มันเป็นวันที่ทั้งเหนื่อย ถึก กดดัน และมีเหตุพลิกผัน แต่ท้ายที่สุดก็จบลงด้วยความประทับใจและครับ ในโอกาสนี้ ผมจึงขอเล่าประสบการณ์ให้แฟนานุแฟนของ AKB48 ได้ฟังกันครับ เผื่อจะได้กลเม็ดเล็กๆน้อยๆ ในการไปงานจับมือทั่วประเทศของ AKB48 ครั้งต่อๆไป ถึงแม้ยูโกะจะไม่อยู่แล้วก็เถอะ (ยูโกะบอกในงานว่า นี่เป็นงานจับมือทั่วประเทศรอบสุดท้ายของแธอแล้วครับ) ต้องบอกว่าที่ผ่านมา ผมดำเนินการบางอย่างพลาดไปเหมือนกัน ไม่งั้นอาจจะได้เจอยูโกะมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
เช้าวันที่ 16 ผมออกเดินทางไปยังสถานที่ตั้งแต่เช้า ทั้งๆที่คืนก่อนวันนั้น ตัวเองก็ตื่นขึ้นมากลางดึกประมาณเกือบตีสาม จะนอนต่อก็ไม่หลับ ทั้งนี้เพราะ ก่อนหน้าวันงานไม่กี่วัน ผมเจอข่าวที่ไม่ค่อยดีนักอยู่สองเรื่อง
เรื่องแรกคือ ทางผู้จัดงานได้ประกาศผ่านทางเว็บไซต์ว่า เนื่องจากกมีคนมาจับมือยูโกะเป็นจำนวนมาก ทางผู้จัดจะอนุญาตให้ใช้ตั๋วจับมือกับยูโกะทีละใบเท่านั้น หากจับมือเสร็จแล้วให้ออกไปต่อคิวใหม่ ไม่อนุญาตให้มีการรวมตั๋วหลายๆใบไปจับมือกับเธอ ผมเองมีตั๋วอยู่แล้วหกใบและตั้งใจจะรวมตั๋วให้คุยกับยูโกะได้นานๆหน่อยก ได้ยินข่าวแล้วก็ใจหายเหมือนกัน
สำหรับเรื่องที่สอง ยูโกะได้เขียนในบล็อกของเธอว่า เธอรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถจับมือกับแฟนๆได้ทันเวลาปิดงานจับมือที่เคียวเซร่าโดม โอซาก้า ทำให้ผมทราบกลายๆว่า ช้าหมด อดแน่
ผมออกเดินทางจากที่พักด้วยรถบัส พอไปถึง Marine Messe ก็เป็นเวลาเจ็ดโมงนิดๆ
คนที่รอคอยอยู่มีเยอะพอสมควร แต่ก็ยังนับว่าน้อยกว่าตอนที่ผมมางานจับมือที่ Marine Messe ในคราวที่แล้วมาก โดยในวันนั้น ผมมาถึงที่งานช่วงเกือบๆเก้าโมงเช้า (ในกำหนดการ เราจะเข้าตึกได้ตอนสิบโมงเข้าครับ)
กลุ่มคนที่มาคอยต่อคิว ฉากหลังคือ Hakata Port Tower (ภาพถ่ายถ่ายตอนที่มา Marine Messe ครั้งแรก อากาศยังไม่หนาวมาก)
พออ่านถึงตอนนี้ ผมขออธิบายให้ผู้อ่านหายสงสัยก่อนครับว่า จริงๆแล้ว ผมเคยมางานจับมือที่ Marine Messe แล้วหนึ่งครั้ง แต่เข้างานไม่ได้ เพราะตั๋วที่ผมมีอยู่นั้นเป็นตั๋วสำหรับ Koi Suru Fortune Cookie แต่งานจับมือครั้งนั้นกำหนดให้ใช้ตั๋วจากซิงเกิ้ล So Long! เท่านั้น จะใช้ข้ามซิงเกิ้ลกันไม่ได้ นี่จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายเหมือนกันที่ผมไม่เช็คข้อมูลให้ดีก่อน ไม่งั้นก็คงไปซื้อ So Long! แทนและได้จับมือกับเธอมากกว่านี้ (หมายเหตุ: ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ร้านเพลงแถวๆบ้านก็ยังคงมี Koi Suru Fortune Cookie version ที่มีตั๋วจับมือมาวางขาย ทั้งๆที่ซิงเกิ้ลนั้นวางตลาดมาได้หลายเดือนแล้ว กรณีของ So Long! ก็ไม่น่าจะต่างกัน )
แถวสำหรับต่อคิวเข้างาน จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มคนทั่วไป ซึ่งจะต่อกันยาวมาก ส่วนกลุ่มที่สองจะเป็นกลุ่มสำหรับผู้หญิงและครอบครัวที่มีเด็กเล็กมาก กลุ่มสองจะได้เข้าไวกว่ากลุ่มแรก แต่ในแถวคนธรรมดาก็มีผู้หญิงและเด็กเล็กอยู่เหมือนกัน ไม่รู้แฮะว่าทำถึงมาอยู่ตรงนี้แทน
ช่วงนี้คอยกันนานมาก จนต้องนั่งรอกับพื้น แฟนๆบางคนที่รู้ทันหน่อยก็เอาพกเก้าอี้พับมาด้วยเสียเลย คนที่นั่งข้างหน้าผมพกหนังสือการ์ตูนมาอ่านหลายเล่ม คนที่ขยันๆหน่อยก็พกการบ้านมาทำ หรือไม่ก็เอาหนังสือเรียนมาอ่าน ผมเองก็ พกตำราภาษาญี่ปุ่นมาอ่านฆ่าเวลาเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ หลับผล็อยไปทั้งๆที่อากาศข้างนอกอยู่ที่หกองศา มาตื่นอีกทีก็เก้าโมงแล้ว โชคดีที่แถวไม่ได้ขยับอะไร
แฟนๆ ของ AKB48 ที่นี่มากันแบบจัดเต็ม บ้างพกรูปมาเป็นอัลบั้ม บ้างพกของชำร่วย AKB48 มาเป็นกระเป๋าเดินาทางเลย
บางคนประหยัดหน่อย ก็ทำถุงกระดาษแปะรูปของโอชิเมนตัวเองไว้จนเต็ม พอมองย้อนไปดูตัวเองแล้ว ผมไม่ได้เอาของสะสมอะไรมาแฮะ ตั้งใจแต่งแค่เสื้อเชิร์ตลายตารางฟ้าขาว (Gingham Check) มา โดยตั้งใจจะเล่นมุขกับยูโกะเป็นเนื้อเพลงว่า僕の迷いは ギンガムチェック (ใจผมสับสนเหมือนกับ Gingham Check) แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เล่นครับ แถมอากาศก็หนาวจึงต้องใส่เสื้อหนาวทับจน Gingham check โผล่มาแค่ข้อมือกับคอปกเสื้อเท่านั้น
หนังสือเรียน และถุงกระดาษลายยูกิรินของเด็กที่คอยอยู่ข้างหน้า
นอกจากนี้ ในบริเวณรอบนอก จะมีคนจำนวนหนึ่งมาเปิดแผงขายของที่ระลึกแก่นักสะสม อีกกระดาษทั้งยังมีบางคนมานั่งขาย"ตั๋วผี"ด้วย
ซึ่งขัดกับกฎกติกาในตั๋วจับมือว่าห้ามเอาไปขายต่อ แต่ก็ไม่มีใครทำอะไร แล้วก็ไม่ค่อยเห็นมีคนซื้อด้วย
ตอนที่มา Marine Masse แล้วเข้าไม่ได้นั้น ผมก็เดินผ่านพ่อค้าตั๋วผีเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ซื้อ เพราะไม่อยากสนับสนุนแล้วก็งกเงินด้วย
พอรอไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเก้าโมงครึ่ง staff ก็ขอให้แฟนๆที่นั่งคอยบนพื้นอยู่ยืนขึ้น จนกระทั่ง 10 โมงแถวก็เขยื้อนไปอย่างช้าๆ พอไปถึงทางเข้า พอเรายื่นบัตรจับมือให้สต๊าฟ (รอบแรก แลกได้แค่ใบเดียวเท่านั้น) เราก็จะได้ตั๋วมาสองใบ ใบแรกคือบัตรเข้างาน ใบที่สองคือบัตรคิวสำหรับจับมือ ขนาดมาเช้ามากแล้วนะ คิวที่ได้ก็ปาเข้าไปห้าพันกว่าๆแล้ว ตอนที่ได้บัตรคิวมาก็รู้สึกตุ๊มๆต่อมๆว่า เราจะเวียนไปจับมือยูโกะได้ครบหกรอบมั้ยเนี่ย
คำแนะนำสำหรับช่วงนี้:
1.เตรียมเก้าอี้พับมาด้วย จะได้นั่งสบายๆหน่อย
2.พกอาหาร ขนมและน้ำมาให้พร้อม เพราะจะต้องติดอยู่ตรงนี้นานเลยกว่าจะได้เข้าไปในตึก ยิ่งมีของอื่นๆมาฆ่าเวลาอย่างเกมพกพา การ์ตูน หรืออินเตอร์เน็ตได้ ก็จะยิ่งดี
3. ควรจิบน้ำแต่น้อย เฉพาะเมื่อคอแห้งจริงๆ จะได้ไม่ปวดปัสสาวะ ที่จริงแล้ว ตอนช่วงเช้ามากๆ ที่คนยังนั่งคอยได้ เราสามารถจองที่ได้โดยการวางของทิ้งไว้ตรงนั้น อาจฝากคนใกล้ให้ช่วยดูของก็ไม่เป็นไร แต่พอถึงช่วงทีให้เริ่มเข้างานเมื่อไรจะปลีกตัวได้ยากมาก
เมื่อข้าพเจ้าไปงานจับมือของยูโกะ โอชิม่าเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย [รีรันจากคลับซากุระ]
ทีแรกตั้งใจจะตั้งกระทู้ที่ห้องนี้ควบคู่ไปด้วย (เพราะตั้งกระทู้ในคลับมันแท็กห้องเฉลิมกรุงไม่ได้)
แต่ด้วยความที่เนื้อหาของกระทู้นี้ยาวมาก จึงตัดสินใจลงเนื้อหาในกระทู้นั้นให้เสร็จก่อน แล้วถึงค่อยมาลงที่นีต่อครับ
เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้เข้าร่วมงานจับมือทั่วประเทศที่ตึก Marine Messe
โดยหมายมั่นปั้นมือไว้ว่า จะได้เข้าจับมือและพูดคุยกับไอดอลขวัญใจของผม ยูโกะ โอชิม่า เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะสำเร็จการศึกษาออกจากวง AKB48 ก่อนมุ่งหน้าสู่วงการการแสดงอย่างเต็มตัวดังที่เธอใฝ่ฝัน
อาคาร Marine Messe (ด้านขวามือ)
ความรู้สึกที่ได้จากการเข้างานนั้นผสมปนเปหลายอย่าง มันเป็นวันที่ทั้งเหนื่อย ถึก กดดัน และมีเหตุพลิกผัน แต่ท้ายที่สุดก็จบลงด้วยความประทับใจและครับ ในโอกาสนี้ ผมจึงขอเล่าประสบการณ์ให้แฟนานุแฟนของ AKB48 ได้ฟังกันครับ เผื่อจะได้กลเม็ดเล็กๆน้อยๆ ในการไปงานจับมือทั่วประเทศของ AKB48 ครั้งต่อๆไป ถึงแม้ยูโกะจะไม่อยู่แล้วก็เถอะ (ยูโกะบอกในงานว่า นี่เป็นงานจับมือทั่วประเทศรอบสุดท้ายของแธอแล้วครับ) ต้องบอกว่าที่ผ่านมา ผมดำเนินการบางอย่างพลาดไปเหมือนกัน ไม่งั้นอาจจะได้เจอยูโกะมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
เช้าวันที่ 16 ผมออกเดินทางไปยังสถานที่ตั้งแต่เช้า ทั้งๆที่คืนก่อนวันนั้น ตัวเองก็ตื่นขึ้นมากลางดึกประมาณเกือบตีสาม จะนอนต่อก็ไม่หลับ ทั้งนี้เพราะ ก่อนหน้าวันงานไม่กี่วัน ผมเจอข่าวที่ไม่ค่อยดีนักอยู่สองเรื่อง
เรื่องแรกคือ ทางผู้จัดงานได้ประกาศผ่านทางเว็บไซต์ว่า เนื่องจากกมีคนมาจับมือยูโกะเป็นจำนวนมาก ทางผู้จัดจะอนุญาตให้ใช้ตั๋วจับมือกับยูโกะทีละใบเท่านั้น หากจับมือเสร็จแล้วให้ออกไปต่อคิวใหม่ ไม่อนุญาตให้มีการรวมตั๋วหลายๆใบไปจับมือกับเธอ ผมเองมีตั๋วอยู่แล้วหกใบและตั้งใจจะรวมตั๋วให้คุยกับยูโกะได้นานๆหน่อยก ได้ยินข่าวแล้วก็ใจหายเหมือนกัน
สำหรับเรื่องที่สอง ยูโกะได้เขียนในบล็อกของเธอว่า เธอรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถจับมือกับแฟนๆได้ทันเวลาปิดงานจับมือที่เคียวเซร่าโดม โอซาก้า ทำให้ผมทราบกลายๆว่า ช้าหมด อดแน่
ผมออกเดินทางจากที่พักด้วยรถบัส พอไปถึง Marine Messe ก็เป็นเวลาเจ็ดโมงนิดๆ
คนที่รอคอยอยู่มีเยอะพอสมควร แต่ก็ยังนับว่าน้อยกว่าตอนที่ผมมางานจับมือที่ Marine Messe ในคราวที่แล้วมาก โดยในวันนั้น ผมมาถึงที่งานช่วงเกือบๆเก้าโมงเช้า (ในกำหนดการ เราจะเข้าตึกได้ตอนสิบโมงเข้าครับ)
กลุ่มคนที่มาคอยต่อคิว ฉากหลังคือ Hakata Port Tower (ภาพถ่ายถ่ายตอนที่มา Marine Messe ครั้งแรก อากาศยังไม่หนาวมาก)
พออ่านถึงตอนนี้ ผมขออธิบายให้ผู้อ่านหายสงสัยก่อนครับว่า จริงๆแล้ว ผมเคยมางานจับมือที่ Marine Messe แล้วหนึ่งครั้ง แต่เข้างานไม่ได้ เพราะตั๋วที่ผมมีอยู่นั้นเป็นตั๋วสำหรับ Koi Suru Fortune Cookie แต่งานจับมือครั้งนั้นกำหนดให้ใช้ตั๋วจากซิงเกิ้ล So Long! เท่านั้น จะใช้ข้ามซิงเกิ้ลกันไม่ได้ นี่จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายเหมือนกันที่ผมไม่เช็คข้อมูลให้ดีก่อน ไม่งั้นก็คงไปซื้อ So Long! แทนและได้จับมือกับเธอมากกว่านี้ (หมายเหตุ: ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ร้านเพลงแถวๆบ้านก็ยังคงมี Koi Suru Fortune Cookie version ที่มีตั๋วจับมือมาวางขาย ทั้งๆที่ซิงเกิ้ลนั้นวางตลาดมาได้หลายเดือนแล้ว กรณีของ So Long! ก็ไม่น่าจะต่างกัน )
แถวสำหรับต่อคิวเข้างาน จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มคนทั่วไป ซึ่งจะต่อกันยาวมาก ส่วนกลุ่มที่สองจะเป็นกลุ่มสำหรับผู้หญิงและครอบครัวที่มีเด็กเล็กมาก กลุ่มสองจะได้เข้าไวกว่ากลุ่มแรก แต่ในแถวคนธรรมดาก็มีผู้หญิงและเด็กเล็กอยู่เหมือนกัน ไม่รู้แฮะว่าทำถึงมาอยู่ตรงนี้แทน
ช่วงนี้คอยกันนานมาก จนต้องนั่งรอกับพื้น แฟนๆบางคนที่รู้ทันหน่อยก็เอาพกเก้าอี้พับมาด้วยเสียเลย คนที่นั่งข้างหน้าผมพกหนังสือการ์ตูนมาอ่านหลายเล่ม คนที่ขยันๆหน่อยก็พกการบ้านมาทำ หรือไม่ก็เอาหนังสือเรียนมาอ่าน ผมเองก็ พกตำราภาษาญี่ปุ่นมาอ่านฆ่าเวลาเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ หลับผล็อยไปทั้งๆที่อากาศข้างนอกอยู่ที่หกองศา มาตื่นอีกทีก็เก้าโมงแล้ว โชคดีที่แถวไม่ได้ขยับอะไร
แฟนๆ ของ AKB48 ที่นี่มากันแบบจัดเต็ม บ้างพกรูปมาเป็นอัลบั้ม บ้างพกของชำร่วย AKB48 มาเป็นกระเป๋าเดินาทางเลย
บางคนประหยัดหน่อย ก็ทำถุงกระดาษแปะรูปของโอชิเมนตัวเองไว้จนเต็ม พอมองย้อนไปดูตัวเองแล้ว ผมไม่ได้เอาของสะสมอะไรมาแฮะ ตั้งใจแต่งแค่เสื้อเชิร์ตลายตารางฟ้าขาว (Gingham Check) มา โดยตั้งใจจะเล่นมุขกับยูโกะเป็นเนื้อเพลงว่า僕の迷いは ギンガムチェック (ใจผมสับสนเหมือนกับ Gingham Check) แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เล่นครับ แถมอากาศก็หนาวจึงต้องใส่เสื้อหนาวทับจน Gingham check โผล่มาแค่ข้อมือกับคอปกเสื้อเท่านั้น
หนังสือเรียน และถุงกระดาษลายยูกิรินของเด็กที่คอยอยู่ข้างหน้า
นอกจากนี้ ในบริเวณรอบนอก จะมีคนจำนวนหนึ่งมาเปิดแผงขายของที่ระลึกแก่นักสะสม อีกกระดาษทั้งยังมีบางคนมานั่งขาย"ตั๋วผี"ด้วย
ซึ่งขัดกับกฎกติกาในตั๋วจับมือว่าห้ามเอาไปขายต่อ แต่ก็ไม่มีใครทำอะไร แล้วก็ไม่ค่อยเห็นมีคนซื้อด้วย
ตอนที่มา Marine Masse แล้วเข้าไม่ได้นั้น ผมก็เดินผ่านพ่อค้าตั๋วผีเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ซื้อ เพราะไม่อยากสนับสนุนแล้วก็งกเงินด้วย
พอรอไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเก้าโมงครึ่ง staff ก็ขอให้แฟนๆที่นั่งคอยบนพื้นอยู่ยืนขึ้น จนกระทั่ง 10 โมงแถวก็เขยื้อนไปอย่างช้าๆ พอไปถึงทางเข้า พอเรายื่นบัตรจับมือให้สต๊าฟ (รอบแรก แลกได้แค่ใบเดียวเท่านั้น) เราก็จะได้ตั๋วมาสองใบ ใบแรกคือบัตรเข้างาน ใบที่สองคือบัตรคิวสำหรับจับมือ ขนาดมาเช้ามากแล้วนะ คิวที่ได้ก็ปาเข้าไปห้าพันกว่าๆแล้ว ตอนที่ได้บัตรคิวมาก็รู้สึกตุ๊มๆต่อมๆว่า เราจะเวียนไปจับมือยูโกะได้ครบหกรอบมั้ยเนี่ย
คำแนะนำสำหรับช่วงนี้:
1.เตรียมเก้าอี้พับมาด้วย จะได้นั่งสบายๆหน่อย
2.พกอาหาร ขนมและน้ำมาให้พร้อม เพราะจะต้องติดอยู่ตรงนี้นานเลยกว่าจะได้เข้าไปในตึก ยิ่งมีของอื่นๆมาฆ่าเวลาอย่างเกมพกพา การ์ตูน หรืออินเตอร์เน็ตได้ ก็จะยิ่งดี
3. ควรจิบน้ำแต่น้อย เฉพาะเมื่อคอแห้งจริงๆ จะได้ไม่ปวดปัสสาวะ ที่จริงแล้ว ตอนช่วงเช้ามากๆ ที่คนยังนั่งคอยได้ เราสามารถจองที่ได้โดยการวางของทิ้งไว้ตรงนั้น อาจฝากคนใกล้ให้ช่วยดูของก็ไม่เป็นไร แต่พอถึงช่วงทีให้เริ่มเข้างานเมื่อไรจะปลีกตัวได้ยากมาก