۞>>เรื่องน่ารู้ฟุตบอล<<۞ วันนี้จะพาไปพบกับ "งานศิลปะ" หรือแผ่นป้ายขนาดยักษ์ บนสนามฟุตบอล

“Die Gelbe Wand” (กำแพงเหลือง) ชื่ออัฒจรรย์ทิศใต้ของสนาม “ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค” บรรจุแฟนพันธุ์แท้ของดอร์ทมุนด์ 25,000 คน !! พวกเขามีลีลาการเชียร์ อยู่อันดับต้นๆของโลกแผ่นป้ายขนาดยักษ์ปรากฏข้อความ "100 Jahre Ballspielverein" เป็นการเฉลิมฉลอง 100 ปีของสโมสร เพิ่มรายละเอียดด้วยภาพนักเตะระดับตำนาน ที่พาทีมความแชมป์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นบุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล หรือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (ภาพนี้ถ่ายเมื่อปี 2009)





แฟนบอล "ห้างขายยา" ขึ้นชื่อเรื่องความคิดสร้างสรรค์ พวกเขาประดิษฐ์แผ่นป้ายขนาดปานกลางขึ้นมา เป็นรูปผู้ชายคนหนึ่ง กำลังถูกห้อมล้อมด้วยสาวสวยมากมาย หลายคนอาจยังไม่เข้าใจ หากไม่มีข้อความประกอบ "Ein Mann Kann Viele Fraueh Lieben, Aber Nur Einen Verein" ถอดความเป็นภาษาไทยว่า "ผู้ชายสามารถรักผู้หญิงได้มากมาย แต่กับสโมสรฟุตบอลแล้ว ผู้ชายรักเดียวใจเดียว" ... เรียกได้ว่าคมบาดใจเลยทีเดียว





ดาร์บี้ แมตช์ เมืองมิลาน ร้อนแรงไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งการฟาดฟันในสนาม จนถึงการกระทบกระทั่งระหว่างแฟนบอล โดยสาวก "รอสโซ่เนรี่" ที่ยึดอัฒจรรย์ฝั่งทิศใต้ (Curva Sud) ประกาศศักดาต่อแฟนบอลอินเตอร์ มิลาน ด้วยข้อความแสบๆคันๆ "Vedervi A Maggio E' Tornato Un Miraggio" ถอดความว่า "ผลสุดท้ายแล้ว "งูใหญ่" ไม่มีทางประสบความสำเร็จ หรือคว้าแชมป์อย่างแน่นอน" โดยมีปีศาจ ถือกล้องส่องทางไกลเฝ้ามองอยู่ พร้อมรอยยิ้มแบบโรคจิตสุดๆ (แผ่นป้ายรูปแบบนี้ดอร์ทมุนด์ เคยยืมไปใช้ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่พบกับมาลาก้า เมื่อฤดูกาล 2012-13)





"เบียงโคเนรี่" ยืดอกด้วยความภาคภูมิใจ ว่าเป็นทีมที่สามารถคว้าแชมป์ลีกอิตาลีได้มาก สุด (แม้จะโดนริบแชมป์จากคดีกัลโช่โปลี) พวกเขานำเสนอแผ่นป้ายด้วย "Mole Antonelliana" สัญลักษณ์สำคัญของเมืองตูริน (แถมเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสูงแห่งหนึ่งของโลก) และดาวแชมป์ลีก 3 ดวง เสริมด้วยการเหน็บแนมสองทีมจากเมืองมิลาน ทั้งเอซี และอินเตอร์ ได้แต่เฝ้ามองพวกเขาคว้าแชมป์เป็นว่าเล่น ปนด้วยความอิจฉาตาร้อน





ดาร์บี้ แมตช์ ของเมืองมาดริด อาจไม่เข้มข้นเท่าไหร่ หากวัดในแง่ของผลงานในสนาม  เมื่อเรอัล มาดริด แทบสะกดคำว่า "แพ้" ไม่เป็น ยามเผชิญหน้ากับแอตเลติโก้ มาดริด (แต่ปัจจุบันมันไม่ช่าย...ฮือ) ส่งผลให้พลพรรค "ราชันชุดขาว" จัดแผ่นป้ายแซวทีม “ตราหมี” ว่าเป็นพวกเด็กน้อยอมมือ ที่ไม่ยอมตื่นจากฝันร้ายในโลกของฟุตบอล แถมยังโดนบรรดาภูติผี-ปีศาจ ตามมาหลอกหลอนถึงหัวเตียง (ขนาดเจสัน จากภาพยนตร์เรื่องศุกร์ 13 ยังมากับเขาด้วย !!!)





"Kitalar Arasi Derbi" การเจอกันของศัตรูร่วมเมืองอิสตันบูล ที่ไม่มีวันเผาผีอย่าง กาลา ตาซาราย และเฟเนบาห์เช่ เมื่อฝ่ายแรกได้เปิดสนาม "เติร์ก เทเลคอม อารีน่า" เลยจัดหนักด้วยป้ายยักษ์สุดโหด นำเสนอด้วยสิงโต (กาลาตาซาราย มีชื่อเล่นว่า Aslan หรือสิงโต) ที่ไปขโมยถ้วยแชมป์จากเฟเนบาห์เช่ แถมด้วยการเผาสนามแบบไม่มีชิ้นดี หลงเหลือไว้เพียงแฟนบอลของคู่ปรับ ที่ยืนร้องไห้ด้วยความอ่อนแอ





ทีมดังจากปารีส นำจุดเด่นต่างๆของเมือง มารวมใส่แผ่นป้ายได้อย่างมีเรื่องราว เริ่มต้น ด้วยเป็ดร่างกายกำยำ กำลังคุ้มครองสนาม "พาร์ค เดส์ แพรงซ์" ที่ปักด้วยเทียนวันเกิด เป็นการ ฉลองให้สนามแห่งนี้ ที่มีอายุเกินกว่า 100 ปีแล้ว พร้อมกันนี้ ภาพยังแฝงด้วยสถานที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นหอไอเฟล, ถนนฌ็องเซลิเซ่ และประตูชัยนโปเลียน ทำให้แฟนบอลได้รับความภูมิใจ ควบคู่ไปกับความรู้ดีๆ





อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ยังคงเป็นโรงงานฝึกลูกหนัง ที่ปั้นนักเตะธรรมดา สู่ระดับซูเปอร์ สตาร์ มาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังเป็นทีมจากฮอลแลนด์ ที่คว้าแชมป์ยุโรปมากสุด 4 สมัย (1971, 1972, 1973, 1995) ส่วนผลงานในบ้านตัวเองไม่ต้องเอื้อนเอ่ย พวกเขาคว้าแชมป์ลีก32ครั้ง ทิ้งห่างผู้ที่ตามมาอย่าง พีเอสวี 21 สมัย หรือเฟเยนูร์ด 14 สมัย แบบไม่เห็นฝุ่น อันเป็นที่มาของแผ่นป้ายเชียร์ ที่หยิบถ้วยแชมป์ไปครองแบบชิลล์ๆ





ทีมเล็กๆจากภาคเหนือของประเทศฮอลแลนด์ ก่อตั้งสโมสรมาเพียง 42 ปี และไม่เคย คว้าแชมป์ใดมาครองได้เลย แต่เจ้าของฉายา "Pride of the North" (ความภาคภูมิใจของภาคเหนือ) กลับมีแฟนบอลตามเชียร์อย่างเหนียวแน่น แถมมีการประดิษฐ์แผ่นป้ายที่เต็มไปด้วยไอเดีย นำเสนอด้วยรูปแบบกล้องโพลารอยด์ ที่สามารถเปลี่ยนรูปไปเรื่อยๆ มีทั้งลีลาการเชียร์ของแฟนบอล รวมถึงการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวของเมือง เห็นแบบนี้ ต้องปรบมือให้กับความพยายามจริงๆ





ทีมดังจากโปแลนด์ มีกลุ่มแฟนบอลฮาร์ดคอร์ ที่พร้อมหนุนหลังทีมเสมอ โดยในศึกดาร์บี้ แมตช์ ท้องถิ่นกับ คราโอเวีย พวกเขามีการทำป้ายเชียร์ที่น่าสนใจ และแฝงไปด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า เริ่มต้นด้วยฉลามตัวโต กำลังต้มหม้อซุป เพื่อรอยำคู่แข่งแบบน้ำลายไหล เสริมด้วย สัญลักษณ์ประจำสโมสรอย่าง "Biala Gwiazda" (ดวงดาวสีขาว) ต่อด้วยข้อความ "ACAB" ทำเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับหน้าหงาย เพราะมันย่อมาจาก "All Cop Are Bastards" หรือกลุ่มแฟนบอลหัวรุนแรง ที่เกลียดตำรวจแบบเข้าไส้


ข้อมูลดีๆจาก football vintage