สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของดิชั้น ที่อยากจะระบายความรู้สึกและแชร์เรื่องราวให้ใครซักคนได้รับรู้ เพราะตอนนี้รู้สึกอึดอัด และไม่มีทางออก
ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ปรึกษาคนรอบตัวแล้วก็มีความเห็นไม่ต่างกันเท่าไหร่ หากใครเคยมีประสบการณ์คล้ายๆกัน รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
เริ่มเรื่องเลยแล้วกันนะคะ ขอย้อนกลับไปเมื่อประมาณหลายปีก่อน สมัยยังอยู่มหาวิทยาลัย ดิชั้นเป็นผู้หญิงโลกสวยค่ะ
ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีความรักมาก่อน เพราะอยู่โรงเรียนสตรีล้วนมา วันๆอ่านแต่นิสัยรักหวานแหวว แอบชอบแอบปลื้มคนนั้นคนนี้อยู่ห่างๆ
แต่ก็ไม่ได้บอกเค้าไป ชอบดาราตามดารา เหมือนนิสัยของของเด็กผู้หญิงทั่วๆไป จึงมองภาพลักษณ์ของความรักไว้สวยงามมาก แต่พอเมื่อได้เข้ามหาวิทยาลัย ก็มีหนุ่มมากหน้าหลายตาเข้ามาจีบเข้ามาชอบเรา แต่เรามาจากสังคมค่อนข้างดีค่ะ เลยเป็นคนเลือกมากหน่อย ก็ได้แต่รับรู้ความรู้สึก
พวกเค้า แต่ก็ไม่ได้ตอบรับความรู้สึกใคร จนกระทั่งดิชั้นเจอกับผู้ชายคนนึง ตอนแรกเราไม่รู้จักกันค่ะ เขาอยู่คณะอื่น แต่เวลาอยู่ที่มหาลัยเห็นเขาบ่อย
ก็เกิดความรู้สึกแอบชอบเขาขึ้นมา ก็ไม่ได้ทำอะไรค่ะ เวลาเจอก็ได้แต่แอบมอง แต่พอยิ่งมองก็ยิ่งชอบ จนสุดท้ายเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนสนิทฟัง
เพื่อนสนิทเห็นว่าเราชอบมาก พอดีว่าเขามีเพื่อนที่รู้จักกับผู้ชายคนนี้ก็เลยฝากไปแย็บๆถามว่าเค้ามีแฟนรึยัง ปรากฏว่ายังไม่มีค่ะ
และที่บังเอิญกว่านั้น เพื่อนของเพื่อนเค้าไปหลอกถามมาว่าปลื้มใครอยู่บ้างรึป่าว ปรากฏว่าเค้าปลื้มเราอยู่เหมือนกันค่ะ ตอนแรกคิดว่าเพื่อนหลอก
ไม่คิดไม่ฝันว่าเหตุการณ์แบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับคนอย่างเราได้ พูดตรงๆว่าดีใจมากค่ะ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร แล้วตอนนั้นเค้าก็แอด msn มา
มาคุยมาจีบ ไม่ต้องสืบนะคะว่าติดรึป่าว คุยกันได้อาทิตนึงเราก็เป็นแฟนกันค่ะ ตอนนั้นพอทุกคนรู้ว่าเราเป็นแฟนกับเค้า ทุกคนก็ฝากมาเตือนบ้าง
มาเตือนเองบ้าง ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ดี เพื่อนจากโรงเรียนเก่าที่เข้ามาอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันก็บอกว่าผู้ชายคนนี้เรื่องผู้หญิงไม่ดีเอามากๆอยากให้เราระวัง
ไม่แนะนำให้คบเลย ด้วยความใสซื่อค่ะ เราก็เลยไปถามเค้าตรงๆว่าเค้าเป็นอย่างที่ทุกคนพูดรึเปล่า เค้าก็ยอมรับค่ะ แต่เค้าบอกว่ามันเป็นอดีต
แต่ตอนนี้เค้าเลิกทำแล้ว อยากให้เราเชื่อใจเค้าดู ด้วยความที่เราก็รักก็ชอบ ก็เลยลองให้โอกาสเค้าดู ทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างดีค่ะ
อาจมีทะเลาะกันบ้าง แต่สุดท้ายก็คืนดีกันได้ปรกติ เค้าเหมือนเข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดของเราได้จริงๆ เค้าอาจจะไม่ใช่คนดีมากเท่าไหร่แต่เค้าก็ทำให้เรารักเค้ามาก แต่พออยู่ๆไปนิสัยความเป็นตัวตนของเค้าก็เริ่มเปิดเผย เค้าเป็นคนที่เรียกได้ว่าค่อนข้างขี้เกียจ ไม่ค่อยจะตื่นไปเรียน เพราะเป็นคนชอบเที่ยว
กินเหล้า แล้วก็จะตื่นไปเรียนไม่ไหว แรกๆเราก็พยายามโทรปลุกให้เค้าไปเรียน ก็ไปบ้างขาดบ้าง จนหนักๆเข้าตื่นไปสอบไม่ทัน เค้าเลยโทรบอกให้เราเข้าไปสอบแทนให้ ตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ถูกค่ะ ก็ยินดีที่จะทำให้เพราะรักและเข้าใจเค้าค่ะ พอเหตุการณ์นี้ผ่านไป เค้ากลับกลายเป็นคนขี้เกียจมากขึ้น
อะไรๆก็กลายเป็นให้เราทำไปซะหมด ไม่ว่าจะไปเรียนหรือทำงานส่งอาจารย์ แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ เพราะคิดว่าก็อาจจะเป็นสิ่งที่แฟนเค้าต้องช่วยกัน ถ้าเราไม่ทำให้แล้วเค้าไม่ทำ ถ้าเค้าเรียนไม่จบ เราก็คงไม่สบายใจ สุดท้ายเราเลยตัดสินใจมาอยู่หอด้วยกันค่ะ เพราะด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้
ทำให้ชีวิตของดิชั้นไม่สวยงามเหมือนเคย ดิชั้นเริ่มจับได้ว่าเค้ามีคุยกับคนอื่น เพราะเค้าเป็นคนเที่ยวกลางคืน เราเริ่มทะเลาะกันรุนแรง จากคนที่เคยเชื่อใจ กลายเป็นคนระแวงเค้าทุกฝีก้าว รู้สึกได้เลยค่ะ ว่าเค้าอึดอัดมาก เค้าทั้งพูดแล้วก็บอกเราให้เราเชื่อใจ พอเราเริ่มดีขึ้น เราก็จับได้อีก เคยเสียใจมาก จนถึงขั้นฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จค่ะ สุดท้ายตัวเค้าคงอึดอัดมาก เลยเอาเรื่องทั้งหมดนี้ไปเล่าให้แม่ของดิชั้นฟัง แม่เครียดมากค่ะ ที่เราเป็นแบบนี้ แม่เคยคิดมาตลอดว่าดิชั้นเป็นคนเก่ง ดูแลตัวเองได้ แม่คุยกับดิชั้นและแฟนบอกให้รักกันดีๆ ดูแลกันและกัน เห็นใจซึ่งกันและกัน แม่บอกดิชั้นว่าอยากเห็นดิชั้นมีความสุข ไม่ใช่ร้องไห้ฟูมฟายทุกวัน สุดท้ายดิชั้นก็ตัดสินใจกลับบ้านค่ะ ส่วนเค้าก็อยู่หอต่อ ตอนแรกดิชั้นคิดว่าอะไรๆเดี๋ยวก็คงจะดีขึ้นเอง กลับกลายเป็นว่าเมื่อเค้าได้อยู่หอคนเดียว มีอิสระ เค้าออกไปเที่ยวกลางคืนทุกวัน เหมือนเสพติด ตอนนั้นความระแวงก็อยู่ค่ะ ก็ตามเช็คโทรเช็คตลอดว่าอยู่ไหนกับใครอะไรยังไง จนครั้งสุดท้ายเค้าคงรำคานมากทนเราไม่ไหวเลยบอกเลิก พอเราถูกบอกเลิก เหมือนโลกทั้งโลกมันทลายไปต่อหน้าน่ะค่ะ ชีวิตเหมือนพัง เหมือนตายทั้งเป็น รู้สึกเศร้าเสียใจมาก ตอนนั้นเครียดมากจริงๆค่ะ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะติดต่อเค้าไม่ได้เลย โทรไปเค้าไม่เคยรับสาย เค้าลบเราออกจากชีวิตทุกอย่าง เราทำได้เพียงอย่างเดียวตอนนั้นคือไปรอหน้าห้องพักเค้าถ้าอยากเจอ เคยรอเป็นวันๆ ก็ไม่เจอเค้าค่ะ ถ้าเค้ารู้เค้าจะหนีเค้าจะหลบหลีก แต่พอเราทำบ่อยๆเข้า เค้าก็เกิดอาการใจอ่อนหรือสงสารขึ้นมา สุดท้ายก็กลับมาคบกัน แต่กลับมาคบกันทุกๆอย่างมันก็เหมือนเดิมค่ะ ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นในเฟสบุคของเค้า มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเป็นเฟรนอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นเพื่อนที่รู้จักจากการไปเที่ยวกลางคืน ดิชั้นก็จับได้อีกว่าเค้าแอบคุยกะคนในเฟสบุค จับได้จนปลงค่ะ พูดตรงๆตอนนั้นเหนื่อยมาก ไม่อยากจะเล่าเรื่องราวให้ใครฟัง ได้แต่เสียใจ เพราะตัวเราก็ไม่เคยคุยกับใครซื่อตรงกับเค้าตลอดมา เราก็พยายามอธิบายจุดยืนของเราให้เค้าฟัง เค้าพูดตอกกลับเรามาว่า การที่เค้าไปคุยกับคนอื่น เป็นเพราะเค้าอยู่กับเราแล้วเค้าไม่สบายใจ เค้าเลยจำเป็นที่จะต้องหาคนที่คุยแล้วสบายใจมาระบายแทน ตอนนั้นเมื่อฟังจบก็รู้สึกผิดค่ะ รู้สึกว่าเราทำหน้าที่บกพร่องไป หลังจากนั้นเวลาเค้าไปไหน ไปเที่ยวกลางคืน เราไม่เคยมีปัญหาเลย คิดซะว่ามันเป็นความสุขของเค้า เพราะเค้าให้สัญญากับเราว่าเค้าอาจจะมีคุยบ้างตามประสาผู้ชาย แต่เค้าสัญญาว่าจะไม่เลยเถิดกับใคร เราเชื่อค่ะ เพราะเรารักเค้ามากๆ แต่พอเราทำตัวดี ก็เหมือนเค้าจะหาเรื่องบีบให้เราหงุดหงิดไม่พอใจ มีปากเสียงจนหนักๆเข้าเค้าก็บอกเลิกเรา ความรู้สึกตอนนั้น
เหมือนเค้าเบื่อเรา เลยพยายามจะบีบเราเพื่อไปมีคนอื่น ตอนนั้นก็เข้าสู่อีหรอบเดิมค่ะ เหมือนตายทั้งเป็น กินข้าววันละมื้อ ร้องไห้ทุกวัน ตอนนั้นโทรมมากค่ะ ใครเจอก็มีแต่คนเป็นห่วง ตอนนั้นคิดว่าคงไม่มีอะไรจะช่วยให้เราดีขึ้นได้นอกจากเค้าจริงๆ เค้าตัดดิชั้นออกจากชีวิตเค้าทุกทาง แต่ดิชั้นก็ยังคอยวนเวียนอยู่รอบๆตัวเค้าให้เค้ารู้ว่าดิชั้นยังคงรอคอยเค้าอยู่ ง่ายๆว่าทำตัวเป็นของตาย รู้ตัวค่ะ หลายๆคนตอนนั้นคงด่าดิชั้นในใจว่าโง่ ยอมรับค่ะ แต่เพราะรักมากไม่อยากจะจากเค้าไปไหน แล้วก็ไม่พร้อมจะมีใครใหม่ ระหว่างที่เลิกดิชั้นก็สืบเรื่องราวของเค้าอยู่ตลอด รับรู้ตลอดว่าเค้ามีแฟนใหม่กี่คน คุยกี่คน รวมๆแล้วประมาณ 5 คนได้ค่ะในระยะเวลา 8 เดือน และสุดท้ายระยะเวลาที่ดิชั้นรอคอยก็มาถึง อยู่ๆเค้าก็กลับมาติดต่อดิชั้น ตอนนั้นดีใจมากเลยค่ะ ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น ตอนนั้นก็รีบไปหาเค้าเลยค่ะ แต่สิ่งที่ทำร้ายจิตใจของดิชั้นที่สุดก็คือ เค้าบอกกับดิชั้นว่า ตอนนี้เค้าคบกับผู้หญิงคนนึงอยู่ ซึ่งแก่กว่ามากและผู้หญิงคนนี้มีเงินให้เค้า เค้าไม่ได้รักหรือพิสวาทอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้ เค้าคิดถึงเราถึงได้ตามตัวกลับมา เค้าถามเราว่าเรายังอยากที่จะอยู่กับเค้าอยู่ไหม ถ้าอยากอยู่ก็ต้องรับสภาพที่เค้าคบกับผู้หญิงคนนี้ซ้อนไปด้วยเค้าให้สัญญาว่าเค้าจะเลิก แต่เค้าต้องได้เงินก้อนนึงที่ผู้หญิงคนนี้สัญญาว่าจะให้เป็นของขวัญวันเกิดก่อน แต่ถ้ารับไม่ได้ก็ให้เราตัดใจซะ ตอนนั้นสมองตื้อค่ะ แต่ก็ตอบตกลงไปเพราะเหตุผลคำว่ารักคำเดียวจริงๆ อยากได้เค้ากลับมาอยากอยู่กับเค้าอย่างมีความสุข ตอนนั้นเหมือนตกนรกทั้งเป็นค่ะ เพราะตัวเค้าอาศัยและพักอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แบ่งเวลามาเจอเราบ้างมาทำอะไรด้วยกันบ้าง
แต่ยอมรับค่ะ ว่าช่วงนั้นเค้าเห็นใจเรา ทำดีกับเรามากเป็นพิเศษ เราต้องใช้ความอดทนมากในเวลาที่เค้าใช้กับผู้หญิงคนนั้นแล้วหายไปทั้งวัน ทั้งๆที่มาก่อนแต่กลับต้องมาคบกับเค้าแบบหลบๆซ่อนๆ คิดว่ามันน่าตลกไหมคะ ทั้งเสียใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่อดทนอย่างเดียว วันดีคืนดี ผู้หญิงคนนั้นก็จับได้ขึ้นมาว่าแฟนเราคบกับเราซ้อน คราวนี้ก็เรื่องใหญ่เลยค่ะ เราต้องแสดงละครเพื่อช่วยแฟน เพราะเค้าขอร้องว่าอย่าให้ผู้หญิงคนนี้จับได้ เราก็พูดกับพี่เค้าดีๆค่ะ
ว่าเราเป็นแค่แฟนเก่าที่มาคุยกันตามประสาคนเคยรู้ใจกัน แต่มันไม่มีอะไรแล้ว กลายเป็นว่าเราต้องโกหกเพื่อช่วยให้ความสัมพันธ์เค้าอยู่รอด ตอนนั้นทรมานใจมากๆค่ะ และสุดท้ายระยะเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึง ผู้หญิงได้ให้เงินก้อนกับเค้าและในระยะต่อมาเค้าก็เลิกกัน คือต้องบอกก่อนว่าผู้หญิงคนนี้เค้าขี้ระแวงมากค่ะ เพราะแฟนมาเล่าให้ฟังว่าเค้าคอยจิกตลอดเวลา ตอนนั้นก็สงสัยค่ะว่าทำไมถึงได้เป็นอะไรมากมายขนาดนั้น แต่ตอนนี้ไม่ข้องใจเลยค่ะ แต่ที่รู้ๆนะคะ พอเลิกกันผู้หญิงคนนั้นเกลียดดิชั้นมากค่ะ เพราะเค้าคิดว่าการที่แฟนเลิกกับเค้าเป็นเพราะดิชั้น(ซึ่งก็จริง) แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ ได้แต่ก้มหน้ารับสภาพไป พอได้กลับมาอยู่ด้วยกันเต็มตัว ดิชั้นก็พยายามวางตัวให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไม่ถือสาเค้า คอยรับฟัง ดูแลเอาใจใส่เค้าทุกอย่าง อยากได้อะไรก็พยายามเก็บเงินซื้อให้เค้า เท่าที่ทำได้ แต่เค้าก็ยังคงเหมือนเดิมค่ะ ยังคงเที่ยวกลางคืนกินเหล้า เหมือนเดิม แต่เค้าดีขึ้นตรงที่เค้าไปเรียนค่ะ เพราะดิชั้นโทรไปปลุกเค้าทุกวัน จะว่าปรกติมันก็ไม่ปรกติซะทีเดียว เพราะโทรศัพท์เค้าดิชั้นแตะต้องไม่ได้เลยค่ะ แต่ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าก็ไม่รู้ว่าจะดูไปทำไม ถ้าเจออะไรแย่ๆเดี๋ยวก็เสียใจอีก ส่วนเฟซบุคตั้งแต่เค้าลบเฟรนออกก็ไม่ได้แอดกันอีกเลย เวลาอยากรู้อะไรก็ต้องใช้ของเพื่อนเข้าไป แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก พูดตรงๆว่าตอนนั้นปลงค่ะ คิดแค่ว่าได้อยู่กับเค้าอย่างที่ใจต้องการแต่แรกก็ดีแล้ว แล้วอีกอย่างก็อยากจะลองเชื่อใจเค้าดูใหม่ อาจจะไม่เสียหายอะไรถ้าเราลองทำให้เค้าเห็นจุดยืนเราอีกครั้ง เหมือนเค้าจะชอบค่ะ ที่เราไม่จุกจิกกวนใจ ไม่ระแวง ไม่โวยวาย เวลาเราเครียดหรือไม่สบายใจเราก็เลือกที่จะนิ่งแล้วค่ะ เพราะมันคงไม่มีประโยชน์ถ้าจะต้องทะเลาะให้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตอีก และคิดว่าอยากจะดัดนิสัยผู้ชายคนนี้ให้ได้ ไม่ได้จะเอาชนะนะคะ แต่อยากให้เค้ารู้ว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำทุกวันนี้คือเราอยากอยู่กับเค้าจริงๆ แต่พอเราวางตัวไม่อะไรกับเค้ามากๆ ก็เหมือนเค้าจะพยายามหาเรื่องมาบีบให้เราต้องเลิกกับเค้าค่ะ ทุกครั้งเวลาง้อเค้าเหนื่อยมากค่ะ เปรียบเหมือนขอคนใกล้ตายให้ฟื้นคืนมาอะไรแบบนั้นเลยค่ะ จนครั้งสุดท้ายเค้าบีบแล้วก็บอกเลิกดิชั้นด้วยสาเหตุที่เล็กน้อยมากๆ แต่ครั้งนี้ดิชั้นคิดไว้แล้วค่ะ ถ้าเลิกกันดิชั้นจะไม่ทำอะไรแบบเดิมอีกแล้ว เหนื่อยเต็มที ถ้าเค้าอยากจะมีคนอื่น ดิชั้นก็จะปล่อยไปค่ะ พูดเหมือนจะทำได้นะคะ แรกๆก็เข้าสู้สภาพเดิมค่ะ ดิชั้นก็ง้อเค้าตามระเบียบ แต่ตัวเค้ากลับเป็นคนที่ไม่เอาดิชั้นแล้ว พอพ้น 1 เดือนก็ทราบว่าเค้ามีแฟนใหม่เป็นตัวเป็นตน เปิดเผยให้คนอื่นรู้จักอย่างออกหน้าออกตา ดิชั้นก็พยายามตัดใจค่ะ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานไป
เดี๋ยวมาต่อนะคะ
ถ้าชีวิตต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้จะทำยังไงดีค่ะ?
ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ปรึกษาคนรอบตัวแล้วก็มีความเห็นไม่ต่างกันเท่าไหร่ หากใครเคยมีประสบการณ์คล้ายๆกัน รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
เริ่มเรื่องเลยแล้วกันนะคะ ขอย้อนกลับไปเมื่อประมาณหลายปีก่อน สมัยยังอยู่มหาวิทยาลัย ดิชั้นเป็นผู้หญิงโลกสวยค่ะ
ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีความรักมาก่อน เพราะอยู่โรงเรียนสตรีล้วนมา วันๆอ่านแต่นิสัยรักหวานแหวว แอบชอบแอบปลื้มคนนั้นคนนี้อยู่ห่างๆ
แต่ก็ไม่ได้บอกเค้าไป ชอบดาราตามดารา เหมือนนิสัยของของเด็กผู้หญิงทั่วๆไป จึงมองภาพลักษณ์ของความรักไว้สวยงามมาก แต่พอเมื่อได้เข้ามหาวิทยาลัย ก็มีหนุ่มมากหน้าหลายตาเข้ามาจีบเข้ามาชอบเรา แต่เรามาจากสังคมค่อนข้างดีค่ะ เลยเป็นคนเลือกมากหน่อย ก็ได้แต่รับรู้ความรู้สึก
พวกเค้า แต่ก็ไม่ได้ตอบรับความรู้สึกใคร จนกระทั่งดิชั้นเจอกับผู้ชายคนนึง ตอนแรกเราไม่รู้จักกันค่ะ เขาอยู่คณะอื่น แต่เวลาอยู่ที่มหาลัยเห็นเขาบ่อย
ก็เกิดความรู้สึกแอบชอบเขาขึ้นมา ก็ไม่ได้ทำอะไรค่ะ เวลาเจอก็ได้แต่แอบมอง แต่พอยิ่งมองก็ยิ่งชอบ จนสุดท้ายเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนสนิทฟัง
เพื่อนสนิทเห็นว่าเราชอบมาก พอดีว่าเขามีเพื่อนที่รู้จักกับผู้ชายคนนี้ก็เลยฝากไปแย็บๆถามว่าเค้ามีแฟนรึยัง ปรากฏว่ายังไม่มีค่ะ
และที่บังเอิญกว่านั้น เพื่อนของเพื่อนเค้าไปหลอกถามมาว่าปลื้มใครอยู่บ้างรึป่าว ปรากฏว่าเค้าปลื้มเราอยู่เหมือนกันค่ะ ตอนแรกคิดว่าเพื่อนหลอก
ไม่คิดไม่ฝันว่าเหตุการณ์แบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับคนอย่างเราได้ พูดตรงๆว่าดีใจมากค่ะ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร แล้วตอนนั้นเค้าก็แอด msn มา
มาคุยมาจีบ ไม่ต้องสืบนะคะว่าติดรึป่าว คุยกันได้อาทิตนึงเราก็เป็นแฟนกันค่ะ ตอนนั้นพอทุกคนรู้ว่าเราเป็นแฟนกับเค้า ทุกคนก็ฝากมาเตือนบ้าง
มาเตือนเองบ้าง ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ดี เพื่อนจากโรงเรียนเก่าที่เข้ามาอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันก็บอกว่าผู้ชายคนนี้เรื่องผู้หญิงไม่ดีเอามากๆอยากให้เราระวัง
ไม่แนะนำให้คบเลย ด้วยความใสซื่อค่ะ เราก็เลยไปถามเค้าตรงๆว่าเค้าเป็นอย่างที่ทุกคนพูดรึเปล่า เค้าก็ยอมรับค่ะ แต่เค้าบอกว่ามันเป็นอดีต
แต่ตอนนี้เค้าเลิกทำแล้ว อยากให้เราเชื่อใจเค้าดู ด้วยความที่เราก็รักก็ชอบ ก็เลยลองให้โอกาสเค้าดู ทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างดีค่ะ
อาจมีทะเลาะกันบ้าง แต่สุดท้ายก็คืนดีกันได้ปรกติ เค้าเหมือนเข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดของเราได้จริงๆ เค้าอาจจะไม่ใช่คนดีมากเท่าไหร่แต่เค้าก็ทำให้เรารักเค้ามาก แต่พออยู่ๆไปนิสัยความเป็นตัวตนของเค้าก็เริ่มเปิดเผย เค้าเป็นคนที่เรียกได้ว่าค่อนข้างขี้เกียจ ไม่ค่อยจะตื่นไปเรียน เพราะเป็นคนชอบเที่ยว
กินเหล้า แล้วก็จะตื่นไปเรียนไม่ไหว แรกๆเราก็พยายามโทรปลุกให้เค้าไปเรียน ก็ไปบ้างขาดบ้าง จนหนักๆเข้าตื่นไปสอบไม่ทัน เค้าเลยโทรบอกให้เราเข้าไปสอบแทนให้ ตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ถูกค่ะ ก็ยินดีที่จะทำให้เพราะรักและเข้าใจเค้าค่ะ พอเหตุการณ์นี้ผ่านไป เค้ากลับกลายเป็นคนขี้เกียจมากขึ้น
อะไรๆก็กลายเป็นให้เราทำไปซะหมด ไม่ว่าจะไปเรียนหรือทำงานส่งอาจารย์ แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ เพราะคิดว่าก็อาจจะเป็นสิ่งที่แฟนเค้าต้องช่วยกัน ถ้าเราไม่ทำให้แล้วเค้าไม่ทำ ถ้าเค้าเรียนไม่จบ เราก็คงไม่สบายใจ สุดท้ายเราเลยตัดสินใจมาอยู่หอด้วยกันค่ะ เพราะด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้
ทำให้ชีวิตของดิชั้นไม่สวยงามเหมือนเคย ดิชั้นเริ่มจับได้ว่าเค้ามีคุยกับคนอื่น เพราะเค้าเป็นคนเที่ยวกลางคืน เราเริ่มทะเลาะกันรุนแรง จากคนที่เคยเชื่อใจ กลายเป็นคนระแวงเค้าทุกฝีก้าว รู้สึกได้เลยค่ะ ว่าเค้าอึดอัดมาก เค้าทั้งพูดแล้วก็บอกเราให้เราเชื่อใจ พอเราเริ่มดีขึ้น เราก็จับได้อีก เคยเสียใจมาก จนถึงขั้นฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จค่ะ สุดท้ายตัวเค้าคงอึดอัดมาก เลยเอาเรื่องทั้งหมดนี้ไปเล่าให้แม่ของดิชั้นฟัง แม่เครียดมากค่ะ ที่เราเป็นแบบนี้ แม่เคยคิดมาตลอดว่าดิชั้นเป็นคนเก่ง ดูแลตัวเองได้ แม่คุยกับดิชั้นและแฟนบอกให้รักกันดีๆ ดูแลกันและกัน เห็นใจซึ่งกันและกัน แม่บอกดิชั้นว่าอยากเห็นดิชั้นมีความสุข ไม่ใช่ร้องไห้ฟูมฟายทุกวัน สุดท้ายดิชั้นก็ตัดสินใจกลับบ้านค่ะ ส่วนเค้าก็อยู่หอต่อ ตอนแรกดิชั้นคิดว่าอะไรๆเดี๋ยวก็คงจะดีขึ้นเอง กลับกลายเป็นว่าเมื่อเค้าได้อยู่หอคนเดียว มีอิสระ เค้าออกไปเที่ยวกลางคืนทุกวัน เหมือนเสพติด ตอนนั้นความระแวงก็อยู่ค่ะ ก็ตามเช็คโทรเช็คตลอดว่าอยู่ไหนกับใครอะไรยังไง จนครั้งสุดท้ายเค้าคงรำคานมากทนเราไม่ไหวเลยบอกเลิก พอเราถูกบอกเลิก เหมือนโลกทั้งโลกมันทลายไปต่อหน้าน่ะค่ะ ชีวิตเหมือนพัง เหมือนตายทั้งเป็น รู้สึกเศร้าเสียใจมาก ตอนนั้นเครียดมากจริงๆค่ะ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะติดต่อเค้าไม่ได้เลย โทรไปเค้าไม่เคยรับสาย เค้าลบเราออกจากชีวิตทุกอย่าง เราทำได้เพียงอย่างเดียวตอนนั้นคือไปรอหน้าห้องพักเค้าถ้าอยากเจอ เคยรอเป็นวันๆ ก็ไม่เจอเค้าค่ะ ถ้าเค้ารู้เค้าจะหนีเค้าจะหลบหลีก แต่พอเราทำบ่อยๆเข้า เค้าก็เกิดอาการใจอ่อนหรือสงสารขึ้นมา สุดท้ายก็กลับมาคบกัน แต่กลับมาคบกันทุกๆอย่างมันก็เหมือนเดิมค่ะ ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นในเฟสบุคของเค้า มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเป็นเฟรนอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นเพื่อนที่รู้จักจากการไปเที่ยวกลางคืน ดิชั้นก็จับได้อีกว่าเค้าแอบคุยกะคนในเฟสบุค จับได้จนปลงค่ะ พูดตรงๆตอนนั้นเหนื่อยมาก ไม่อยากจะเล่าเรื่องราวให้ใครฟัง ได้แต่เสียใจ เพราะตัวเราก็ไม่เคยคุยกับใครซื่อตรงกับเค้าตลอดมา เราก็พยายามอธิบายจุดยืนของเราให้เค้าฟัง เค้าพูดตอกกลับเรามาว่า การที่เค้าไปคุยกับคนอื่น เป็นเพราะเค้าอยู่กับเราแล้วเค้าไม่สบายใจ เค้าเลยจำเป็นที่จะต้องหาคนที่คุยแล้วสบายใจมาระบายแทน ตอนนั้นเมื่อฟังจบก็รู้สึกผิดค่ะ รู้สึกว่าเราทำหน้าที่บกพร่องไป หลังจากนั้นเวลาเค้าไปไหน ไปเที่ยวกลางคืน เราไม่เคยมีปัญหาเลย คิดซะว่ามันเป็นความสุขของเค้า เพราะเค้าให้สัญญากับเราว่าเค้าอาจจะมีคุยบ้างตามประสาผู้ชาย แต่เค้าสัญญาว่าจะไม่เลยเถิดกับใคร เราเชื่อค่ะ เพราะเรารักเค้ามากๆ แต่พอเราทำตัวดี ก็เหมือนเค้าจะหาเรื่องบีบให้เราหงุดหงิดไม่พอใจ มีปากเสียงจนหนักๆเข้าเค้าก็บอกเลิกเรา ความรู้สึกตอนนั้น
เหมือนเค้าเบื่อเรา เลยพยายามจะบีบเราเพื่อไปมีคนอื่น ตอนนั้นก็เข้าสู่อีหรอบเดิมค่ะ เหมือนตายทั้งเป็น กินข้าววันละมื้อ ร้องไห้ทุกวัน ตอนนั้นโทรมมากค่ะ ใครเจอก็มีแต่คนเป็นห่วง ตอนนั้นคิดว่าคงไม่มีอะไรจะช่วยให้เราดีขึ้นได้นอกจากเค้าจริงๆ เค้าตัดดิชั้นออกจากชีวิตเค้าทุกทาง แต่ดิชั้นก็ยังคอยวนเวียนอยู่รอบๆตัวเค้าให้เค้ารู้ว่าดิชั้นยังคงรอคอยเค้าอยู่ ง่ายๆว่าทำตัวเป็นของตาย รู้ตัวค่ะ หลายๆคนตอนนั้นคงด่าดิชั้นในใจว่าโง่ ยอมรับค่ะ แต่เพราะรักมากไม่อยากจะจากเค้าไปไหน แล้วก็ไม่พร้อมจะมีใครใหม่ ระหว่างที่เลิกดิชั้นก็สืบเรื่องราวของเค้าอยู่ตลอด รับรู้ตลอดว่าเค้ามีแฟนใหม่กี่คน คุยกี่คน รวมๆแล้วประมาณ 5 คนได้ค่ะในระยะเวลา 8 เดือน และสุดท้ายระยะเวลาที่ดิชั้นรอคอยก็มาถึง อยู่ๆเค้าก็กลับมาติดต่อดิชั้น ตอนนั้นดีใจมากเลยค่ะ ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น ตอนนั้นก็รีบไปหาเค้าเลยค่ะ แต่สิ่งที่ทำร้ายจิตใจของดิชั้นที่สุดก็คือ เค้าบอกกับดิชั้นว่า ตอนนี้เค้าคบกับผู้หญิงคนนึงอยู่ ซึ่งแก่กว่ามากและผู้หญิงคนนี้มีเงินให้เค้า เค้าไม่ได้รักหรือพิสวาทอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้ เค้าคิดถึงเราถึงได้ตามตัวกลับมา เค้าถามเราว่าเรายังอยากที่จะอยู่กับเค้าอยู่ไหม ถ้าอยากอยู่ก็ต้องรับสภาพที่เค้าคบกับผู้หญิงคนนี้ซ้อนไปด้วยเค้าให้สัญญาว่าเค้าจะเลิก แต่เค้าต้องได้เงินก้อนนึงที่ผู้หญิงคนนี้สัญญาว่าจะให้เป็นของขวัญวันเกิดก่อน แต่ถ้ารับไม่ได้ก็ให้เราตัดใจซะ ตอนนั้นสมองตื้อค่ะ แต่ก็ตอบตกลงไปเพราะเหตุผลคำว่ารักคำเดียวจริงๆ อยากได้เค้ากลับมาอยากอยู่กับเค้าอย่างมีความสุข ตอนนั้นเหมือนตกนรกทั้งเป็นค่ะ เพราะตัวเค้าอาศัยและพักอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แบ่งเวลามาเจอเราบ้างมาทำอะไรด้วยกันบ้าง
แต่ยอมรับค่ะ ว่าช่วงนั้นเค้าเห็นใจเรา ทำดีกับเรามากเป็นพิเศษ เราต้องใช้ความอดทนมากในเวลาที่เค้าใช้กับผู้หญิงคนนั้นแล้วหายไปทั้งวัน ทั้งๆที่มาก่อนแต่กลับต้องมาคบกับเค้าแบบหลบๆซ่อนๆ คิดว่ามันน่าตลกไหมคะ ทั้งเสียใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่อดทนอย่างเดียว วันดีคืนดี ผู้หญิงคนนั้นก็จับได้ขึ้นมาว่าแฟนเราคบกับเราซ้อน คราวนี้ก็เรื่องใหญ่เลยค่ะ เราต้องแสดงละครเพื่อช่วยแฟน เพราะเค้าขอร้องว่าอย่าให้ผู้หญิงคนนี้จับได้ เราก็พูดกับพี่เค้าดีๆค่ะ
ว่าเราเป็นแค่แฟนเก่าที่มาคุยกันตามประสาคนเคยรู้ใจกัน แต่มันไม่มีอะไรแล้ว กลายเป็นว่าเราต้องโกหกเพื่อช่วยให้ความสัมพันธ์เค้าอยู่รอด ตอนนั้นทรมานใจมากๆค่ะ และสุดท้ายระยะเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึง ผู้หญิงได้ให้เงินก้อนกับเค้าและในระยะต่อมาเค้าก็เลิกกัน คือต้องบอกก่อนว่าผู้หญิงคนนี้เค้าขี้ระแวงมากค่ะ เพราะแฟนมาเล่าให้ฟังว่าเค้าคอยจิกตลอดเวลา ตอนนั้นก็สงสัยค่ะว่าทำไมถึงได้เป็นอะไรมากมายขนาดนั้น แต่ตอนนี้ไม่ข้องใจเลยค่ะ แต่ที่รู้ๆนะคะ พอเลิกกันผู้หญิงคนนั้นเกลียดดิชั้นมากค่ะ เพราะเค้าคิดว่าการที่แฟนเลิกกับเค้าเป็นเพราะดิชั้น(ซึ่งก็จริง) แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ ได้แต่ก้มหน้ารับสภาพไป พอได้กลับมาอยู่ด้วยกันเต็มตัว ดิชั้นก็พยายามวางตัวให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไม่ถือสาเค้า คอยรับฟัง ดูแลเอาใจใส่เค้าทุกอย่าง อยากได้อะไรก็พยายามเก็บเงินซื้อให้เค้า เท่าที่ทำได้ แต่เค้าก็ยังคงเหมือนเดิมค่ะ ยังคงเที่ยวกลางคืนกินเหล้า เหมือนเดิม แต่เค้าดีขึ้นตรงที่เค้าไปเรียนค่ะ เพราะดิชั้นโทรไปปลุกเค้าทุกวัน จะว่าปรกติมันก็ไม่ปรกติซะทีเดียว เพราะโทรศัพท์เค้าดิชั้นแตะต้องไม่ได้เลยค่ะ แต่ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าก็ไม่รู้ว่าจะดูไปทำไม ถ้าเจออะไรแย่ๆเดี๋ยวก็เสียใจอีก ส่วนเฟซบุคตั้งแต่เค้าลบเฟรนออกก็ไม่ได้แอดกันอีกเลย เวลาอยากรู้อะไรก็ต้องใช้ของเพื่อนเข้าไป แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก พูดตรงๆว่าตอนนั้นปลงค่ะ คิดแค่ว่าได้อยู่กับเค้าอย่างที่ใจต้องการแต่แรกก็ดีแล้ว แล้วอีกอย่างก็อยากจะลองเชื่อใจเค้าดูใหม่ อาจจะไม่เสียหายอะไรถ้าเราลองทำให้เค้าเห็นจุดยืนเราอีกครั้ง เหมือนเค้าจะชอบค่ะ ที่เราไม่จุกจิกกวนใจ ไม่ระแวง ไม่โวยวาย เวลาเราเครียดหรือไม่สบายใจเราก็เลือกที่จะนิ่งแล้วค่ะ เพราะมันคงไม่มีประโยชน์ถ้าจะต้องทะเลาะให้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตอีก และคิดว่าอยากจะดัดนิสัยผู้ชายคนนี้ให้ได้ ไม่ได้จะเอาชนะนะคะ แต่อยากให้เค้ารู้ว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำทุกวันนี้คือเราอยากอยู่กับเค้าจริงๆ แต่พอเราวางตัวไม่อะไรกับเค้ามากๆ ก็เหมือนเค้าจะพยายามหาเรื่องมาบีบให้เราต้องเลิกกับเค้าค่ะ ทุกครั้งเวลาง้อเค้าเหนื่อยมากค่ะ เปรียบเหมือนขอคนใกล้ตายให้ฟื้นคืนมาอะไรแบบนั้นเลยค่ะ จนครั้งสุดท้ายเค้าบีบแล้วก็บอกเลิกดิชั้นด้วยสาเหตุที่เล็กน้อยมากๆ แต่ครั้งนี้ดิชั้นคิดไว้แล้วค่ะ ถ้าเลิกกันดิชั้นจะไม่ทำอะไรแบบเดิมอีกแล้ว เหนื่อยเต็มที ถ้าเค้าอยากจะมีคนอื่น ดิชั้นก็จะปล่อยไปค่ะ พูดเหมือนจะทำได้นะคะ แรกๆก็เข้าสู้สภาพเดิมค่ะ ดิชั้นก็ง้อเค้าตามระเบียบ แต่ตัวเค้ากลับเป็นคนที่ไม่เอาดิชั้นแล้ว พอพ้น 1 เดือนก็ทราบว่าเค้ามีแฟนใหม่เป็นตัวเป็นตน เปิดเผยให้คนอื่นรู้จักอย่างออกหน้าออกตา ดิชั้นก็พยายามตัดใจค่ะ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานไป
เดี๋ยวมาต่อนะคะ