พาณิชย์ ยังคงเป้าส่งออกปี 57 อยู่ที่ 5% ชี้ การเมืองเป็นปัจจัยเสี่ยง หลังส่งออกม.ค.57 ติดลบ 1.98 % ขาดดุลการค้า 2.5 พันล้านเหรียญ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -25 ก.พ. 57 12:56 น.
พาณิชย์ ยังคงเป้าส่งออกปี 57 อยู่ที่ 5% ชี้ ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองเป็นปัจจัยเสี่ยง โดยส่งออกเดือนม.ค.57 ติดลบ 1.98 % จาก ธ.ค.56 ที่โต 1.87% นำเข้าติดลบ 15.50% ส่งผลขาดดุลการค้า 2.5 พันล้านเหรียญ คาดส่งออกจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในตลาดหลักของไทย
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ยังคงเป้าการส่งออกของไทย ปี 2557 จะสามารถขยายตัวได้ 5% โดยมีสมติฐานจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ตามที่ IMF ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวอยู่ที่ 3.7% โดยมีราคาสินค้าวัตถุดิบอุตสาหกรรมโลกสูงขึ้น 1.3% และอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 31.5บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตามคาดว่าการส่งออกจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ในไตรมาสที่ 2/2557 เป็นต้นไป ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในตลาดคู่ค้าหลักของไทย
ส่วน ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อการส่งออกของไทย
1. ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้นำเข้าสินค้าจากประเทศไทย ที่ไม่เชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งมอบสินค้าได้ทันเวลา และอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตและ โลจิสติกส์
2. ภาวะภัยแล้ง จะส่งผลให้ภาวะราคาสินค้าเกษตรของไทยประสบปัญหา โดยเฉพาะการผลิตสินค้า
จำพวกพืชและปศุสัตว์ อันจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตสินค้า และขณะเดียวกันอาจจะทำให้ราคาขยับตัวสูงขึ้น และ ส่งผลกระทบถึงความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
3. การขยายการลงทุน โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยี เช่น สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม จะกระทบต่อการส่งออกของไทยในระยะต่อไป
สำหรับ การส่งออกสินค้าเดือน ม.ค.2557 ติดลบ 1.98% จากเดือน ธ.ค.2556 ที่โต 1.87% โดยมีมูลค่า 17,907 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการส่งออกกลุ่มสินค้าที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์หดตัว 22% วัสดุก่อสร้างหดตัว 40.8% ทำให้สินค้าส่งออกกลุ่มอุตสาหกรรมโดยรวมลดลง 0.2%
ในขณะเดียวกันสินค้าในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรยังคงลดลง 7.5% โดยข้าวลดลง 6.8% ยางพาราลดลง 11.7% อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ลดลง 12.2% รวมไปถึงไก่สดแช่แข็งและแปรรูปผู้ซื้อจากตลาดญี่ปุ่นมีการต่อรองให้ไทยลดราคาไก่สดแช่เย็นและแปรรูปลง เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินบาท
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดว่า การส่งออกจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในตลาดหลักของไทย
การนำเข้าสินค้าเดือน ม.ค.2557 ติดลบ 15.50% จากเดือน ธ.ค.2556 ติดลบ 9.90% โดยมีมูลค่า 20,428 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการนำเข้าสินค้าในกลุ่มเชื้อเพลิงสูงขึ้น 15% ขณะที่การนำเข้าในกลุ่มสินค้าอื่นๆลดลงทั้งสิ้น ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบลดลง 16% เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบลดลง 6% เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ลดลง 19% เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ลดลง 14%
ส่งผล ดุลการค้าเดือน ม.ค.2557 ขาดดุล 2,521 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดือน ธ.ค.2556 ขาดดุล 285 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากการส่งออกในเดือน ม.ค.2557 มีมูลค่า 17,907 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 20,428 ล้านเหรียญสหรัฐ จึงส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศเดือน ม.ค.ขาดดุลการค้า
รายงาน โดย สันติภาพ เกตุสร้อย
เรียบเรียง โดย อิทธิพล พันธ์ธรรม
อีเมล์. reporter@efinancethai.com
อนุมัติ โดย ดวงสุรีย์ วายุบุตร์
ส่งออกม.ค.57 ติดลบ 1.98 % ขาดดุลการค้า 2.5 พันล้านเหรียญ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -25 ก.พ. 57 12:56 น.
พาณิชย์ ยังคงเป้าส่งออกปี 57 อยู่ที่ 5% ชี้ ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองเป็นปัจจัยเสี่ยง โดยส่งออกเดือนม.ค.57 ติดลบ 1.98 % จาก ธ.ค.56 ที่โต 1.87% นำเข้าติดลบ 15.50% ส่งผลขาดดุลการค้า 2.5 พันล้านเหรียญ คาดส่งออกจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในตลาดหลักของไทย
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ยังคงเป้าการส่งออกของไทย ปี 2557 จะสามารถขยายตัวได้ 5% โดยมีสมติฐานจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ตามที่ IMF ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวอยู่ที่ 3.7% โดยมีราคาสินค้าวัตถุดิบอุตสาหกรรมโลกสูงขึ้น 1.3% และอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 31.5บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตามคาดว่าการส่งออกจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ในไตรมาสที่ 2/2557 เป็นต้นไป ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในตลาดคู่ค้าหลักของไทย
ส่วน ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อการส่งออกของไทย
1. ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้นำเข้าสินค้าจากประเทศไทย ที่ไม่เชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งมอบสินค้าได้ทันเวลา และอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตและ โลจิสติกส์
2. ภาวะภัยแล้ง จะส่งผลให้ภาวะราคาสินค้าเกษตรของไทยประสบปัญหา โดยเฉพาะการผลิตสินค้า
จำพวกพืชและปศุสัตว์ อันจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตสินค้า และขณะเดียวกันอาจจะทำให้ราคาขยับตัวสูงขึ้น และ ส่งผลกระทบถึงความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
3. การขยายการลงทุน โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยี เช่น สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม จะกระทบต่อการส่งออกของไทยในระยะต่อไป
สำหรับ การส่งออกสินค้าเดือน ม.ค.2557 ติดลบ 1.98% จากเดือน ธ.ค.2556 ที่โต 1.87% โดยมีมูลค่า 17,907 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการส่งออกกลุ่มสินค้าที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์หดตัว 22% วัสดุก่อสร้างหดตัว 40.8% ทำให้สินค้าส่งออกกลุ่มอุตสาหกรรมโดยรวมลดลง 0.2%
ในขณะเดียวกันสินค้าในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรยังคงลดลง 7.5% โดยข้าวลดลง 6.8% ยางพาราลดลง 11.7% อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ลดลง 12.2% รวมไปถึงไก่สดแช่แข็งและแปรรูปผู้ซื้อจากตลาดญี่ปุ่นมีการต่อรองให้ไทยลดราคาไก่สดแช่เย็นและแปรรูปลง เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินบาท
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดว่า การส่งออกจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในตลาดหลักของไทย
การนำเข้าสินค้าเดือน ม.ค.2557 ติดลบ 15.50% จากเดือน ธ.ค.2556 ติดลบ 9.90% โดยมีมูลค่า 20,428 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการนำเข้าสินค้าในกลุ่มเชื้อเพลิงสูงขึ้น 15% ขณะที่การนำเข้าในกลุ่มสินค้าอื่นๆลดลงทั้งสิ้น ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบลดลง 16% เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบลดลง 6% เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ลดลง 19% เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ลดลง 14%
ส่งผล ดุลการค้าเดือน ม.ค.2557 ขาดดุล 2,521 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดือน ธ.ค.2556 ขาดดุล 285 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากการส่งออกในเดือน ม.ค.2557 มีมูลค่า 17,907 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 20,428 ล้านเหรียญสหรัฐ จึงส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศเดือน ม.ค.ขาดดุลการค้า
รายงาน โดย สันติภาพ เกตุสร้อย
เรียบเรียง โดย อิทธิพล พันธ์ธรรม
อีเมล์. reporter@efinancethai.com
อนุมัติ โดย ดวงสุรีย์ วายุบุตร์