กรรมกรอีสานนิสัยพาล ขี้อิจฉา ขี้นินทา ใส่ความทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ผมควรทำอย่างไรดีครับ?

กระทู้คำถาม
ตอนนี้ผมประสบปัญหาโดนคนงานอีสานนินทาว่าร้าย ใส่ความต่างๆนานาทั้งทีไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยคุยกันเลย

เรื่องมันเริ่มมาจากเมื่อ 2 ปีที่แล้วผม Admission ติดมหาลัยคณะหนึ่งในต่างจังหวัดแต่พ่อแม่ผมไม่สนับสนุนให้ไป ผมจึงตัดสินใจไม่ลงทะเบียนเป็นนักศึกษา และหยุดอยู่บ้านอ่านหนังสือสอบมหาลัยอื่นๆแทน เนื่องจากว่าผมอาศัยอยู่บ้านญาติซึ่งเป็นโรงงานและมีแต่คนงานต่างจังหวัด(อีสาน) ทำงานเช้าถึงเย็น เมื่อพวกเขารู้หรือได้ยินข่าวมาว่าผมไม่ได้ไปโรงเรียนหรือไปเรียนแต่อย่างไร พวกเขาก็คุยกันเองว่า "ทำไมผมถึงไม่ไปเรียนสักที" ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวกับพวกเขาเลย นานๆเข้าก็เริ่มด่าผมเสียๆหายๆว่า "หมดอนาคตแล้ว โง่..สอบไม่ติดมหาลัย กินหญ้า..!@#$%^&*()" ตอนนั้นผมโมโหมากและเก็บไปปรึกษาพ่อแม่จนทะเลาะกับพ่อแม่เพราะเรื่องนี้มาแล้ว พ่อแม่ได้แต่บอกผมว่า "อย่าไปสนใจ.." แต่ผมก็ยังโมโหอยู่ดี เมื่อพวกเขารู้ว่าผมรู้ภาษาและต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็เริ่มมีเสียงเล่าอ้างต่อๆมา อีกทั้งตอนผมขอพ่อแม่ชื้อของใช้ในการเรียน หนังสือ ก็มีเสียงว่า "เด็กน้อย สู้พวกเราไม่ได้ ทำงานเก็บเงินใช้เอง" ทั้งที่ผมไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งเมื่อปลายปีที่แล้วผมจึงไม่สนใจพวกเขาเหล่านั้นได้สำเร็จ เมื่อคนงานอีสานขี้นินทาเริ่มรู้สึกถึงความไม่สนใจพวกเขา ก็เริ่มมาแกล้งปิดน้ำบ่อยครั้งตอนผมอาบน้ำบ้างแล้วจนผมต้องโมโหอีกครั้งเพราะกำลังอาบน้ำมันๆ ดันทะลิ่งน้ำไม่ไหล ผมเลยระเบิดอารมณ์ไปหลายต่อหลายครั้ง พอมาถึงปีนี้ผมเลยหลับตาลงแล้วเริ่มคิดวิเคราะห์ ผมจึงลองเอาเครื่องอัดเสียงไปวางไว้ใกล้ที่ๆคนงานอีสานเหล่านั้นทำงาน  เมื่อผ่านไปได้สัปหาด์ 2 สัปดาห์ ผมลองเอากลับมาฟังดูพบว่า  จากการที่ผมไม่สนใจพวกเขา เดินไม่มองหน้าพวกเขา ไม่ใส่ใจทั้งสิ้น พบว่าพวกเขาเหล่านั้น ขี้อิจฉา ขี้นินทาและมีปมด้อย

อีกเรื่องที่ตลกคือมีช่วงหนึ่งพูดขึ้นว่า "น้องเขาหยิ่งเนอะ(เสียงสูง)" "อ่านหนังสือมากไป เลยหยิ่ง"
ตอนนี้พวกเขากำลังทำให้ญาติผมและเพื่อนบ้านรอบข้างเข้าใจผิดเรื่องที่ผมเดินไม่มองหน้าพวกเขา เข้าใจว่าไม่มองญาติและเพื่อนบ้านด้วย

ใจจริงผมทั้งสมเพชพวกเขาเหล่านั้นและสงสารไปด้วยในเวลาเดียวกัน
สมเพชที่ว่าชีวิตนี้เป็นได้แค่คนงาน ขี้อิจฉา ขี้นินทา นิสัยพาลสมแล้วที่ชีวิตนี้พวกเขาเหล่านั้นไม่มีค่าเสียเลย
น่าสงสารที่ว่าพวกเขาเหล่านั้นกระวนกระวานในใจที่ผมเดินไม่มองหน้าพวกเขา ทุกข์ใจเรื่องที่ผมตีค่าให้พวกเขาไร้ราคา

ผมยังรู้อีกว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการในตอนนี้คือต้องทำให้ผมสนใจพวกเขาให้ได้

ผมควรทำอย่างไรต่อครับ
ระหว่างเดินไม่มองหน้าและปล่อยผ่านให้พวกเขาเหล่านั้นนินทาไปและใส่ความผมข้างเดียว กับเอาไฟล์เสียงที่อัดไว้ไปเปิดให้ญาติฟังและปรึกษาเล่าความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ถ้ามีคำแนะนำอื่นๆ ผมยินดีครับ

update01 : ผมเปลี่ยนไปใช้คำว่า "คนงาน" แทน "กรรมกร" ให้ตามคห.16ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
อ่านข้อความของคุณแล้ว ผมกลับคิดว่าคนที่คิดมากและมีปมด้อยคือคุณนะครับ
ทองแท้ไม่กลัวไฟ คนดีไม่กลัวการติฉินนินทาครับ
ถ้าไม่ใช่ คุณจะไปสนใจสิ่งที่เขาพูดทำไมครับ
อีกอย่างทัศนะคติ แบบแบ่งชนชั้น กรรมมาชีพ กับ ปัญญาชน ผมว่ามันหมดสมัยไปนานแล้วครับ
คนเราก็เป็นเพื่อนมนุษย์เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าคุณจะแยกลักษณะนิสัยคนได้จากวิชาชีพที่เขาทำ
หรือการศึกษาของเขา   
คุณยายผมจบแค่ ป สี่ ครับ ปากกัดตีนถีบ และประสบการณ์ชีวิต ของท่านมากมาย
หลายหนที่หลานๆ ระดับปริญญาสูงๆ ได้รู้ว่าบางครั้งประสบการณ์มันก็มีค่ามากกว่า กระดาษปริญญาครับ
อยากให้คุณลองปรับแนวคิดดูนะครับ แล้วก็ทำใจสบายๆ
คุณมีดีให้คนอื่นอิจฉาก็ดีแล้ว คนร้อนใจไม่สมควรที่จะเป็นคุณนี่ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่