อย่างนี้ไม่เรียกจีบอีกเหรอคะ ช่วยวิเคราะห์หน่อยค่ะ ว่าต้องทำยังไงต่อไป

ตอนนี้ทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ แต่บริษัทแห่งนี้มีตัวโรงงานอยู่ที่จังหวัดระยอง ก็เลยต้องไปๆมาๆกรุงเทพฯ-ระยองบ้าง ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ปัจจุบันมีแฟนแล้ว รักกันดี คบกันมาได้เกือบ3ปีแล้วค่ะ

ทำงานที่นี่มาได้สักระยะ ก็มีหนุ่มวิศวะกรที่ระยองเข้ามาคุยด้วยโดยการที่เขาadd เบอร์มือถือเราที่ได้จากที่ทำงาน ก็จะได้line เรามาปรากฎโดยอัตโนมัติ เราก็คุยกับเขาในฐานะพี่ชาย คุยในเรื่องงาน คุยเล่นบ้าง บวกกับปรึกษาปัญหาชีวิตบ้างเพราะตอนนั้นเข้างานใหม่ ยังไม่สนิทกับใคร และเนื่องจากตัวงานที่ค่อนข้างจะเกี่ยวเนื่องกัน ทำให้ต้องคุยกันบ่อย เราเองก็ต้องอาศัยวิชาความรู้จากงานที่เขาทำ ทำให้สนิทกันมากขึ้น ส่วนตัวแล้วเราไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเขาเลย และเราก็บอกเขาก่อนหน้าอย่างชัดเจนว่าเรามีแฟนแล้ว ไม่มีปิดบัง เพราะเราเป็นคนรักเดียวใจเดียว ไม่ชอบมีกิ๊กชอบคบที่ละคน

คุยไปคุยมาอยู่มาวันหนึ่งหนุ่มวิศวะกรคนนี้ก็บอกรักเรา อิชั้นก็งงเป็นไก่ตาแตกสิค่ะ ถ้าบอกชอบก็ว่าไปอย่าง แต่นี่บอกรัก เราก็ว่ามันไม่น่าจะมีstoryอะไรที่ทำใหัเขารักเราได้แต่เขาก็อธิบายว่า รักเราเพราะประทับใจที่เราเป็นคนดี รักเดียวใจเดียว เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้สวยแค่ภายนอก แต่สวยไปถึงความคิด แล้วก็ฉลาด เก่ง หึหึ อายุเราก็ปาเข้าไป28 ปูนนี้ล้ว ก็ไม่หลงคารมผู้ชายง่ายๆหรอกนะคะ
เราก็ตอบเขากลับไปตรงๆว่าเรามีแฟนแลเว รักแฟน ติดแฟนด้วย เขาก็บอกว่าเขารู้ตัวดี ว่าเขาต้องยืนอยู่ที่ไหน ส่วนตัวเราก็เล่าเรื่องนี้ให้แฟนฟัง เพราะไม่อยากให้แฟนเราเข้าใจผิด อยากให้เคลียร์ๆ ตั้งแต่ต้น

เนื่องจากพี่เขาทำงานที่ระยอง ดังนั้นเขาจึงจะได้เข้ากรุงเทพในวันศุกร์เย็น ทุกวันศุกร์ พี่เขาจึงพยายามมาให้ทันเราเลิกงาน เพื่อที่จะเดินไปส่งเราข้ามถนนไปขึ้นรถฝั่งตรงข้าม เขาจะให้เรารอเขาโดยให้เหตุผลว่า ข้ามถนนไปคนเดียว มันไม่ปลอดภัย (สะพานข้ามตรงcentral ลาดพร้าว) แต่เราเห็นว่า การรอเขากลับจากระยองเพียงแค่เพื่อข้ามถนนไปอีกฝาก เราน่าจะอันตรายกว่า เพราะกว่าเขาจะมาก็สามทุ่ม และคงไม่ดีแน่หากแฟนเราทราบ แฟนเราคงไม่สบายใจ เราจึงกลับบ้านไปแบบไม่คอยพี่วิศวะกรมาส่งเพื่อข้ามสะพานลอย มันดูไม่make sense อ่ะ

ส่วนวันธรรมดาอื่นๆ พี่เขาก็จะคอยส่งขนมมาให้ ส่งหนังสือมาให้อ่าน ส่งวิตามินมาบ้าง ผ่านไปรษณีย์ของบริษัท  เราก็เล่าเรื่องนี้ให้แฟนเราฟัง แฟนเราไม่พอใจและขอให้บอกพี่คนนี้ว่าไม่ต้องส่งอะไรมาให้เราอีก   เราก็โอเค ยินดีจะไปบอกพี่เขา เพื่อให้แฟนเราสบายใจ  พอบอกไป ก็ดูเหมือนพี่เขาจะให้ความร่วมมือดี  ไม่ส่งขนมหรือวิตามินอะไรมาอีก  แต่นานๆจะมีส่งหนังสือ หรือของอื่นๆมาให้สักที  ก็โอเค เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเห็นว่านานๆจะมีขอสักครั้ง

มีอยู่วันหนึ่งที่เป็นวันรับปริญญาตอนจบป.โท เราก็ชวนพี่วิศวะกรคนนี้ไปงานรับปริญญา คือชวนไปตามมารยาทอ่ะนะคะ เพราะเรารับวันธรรมดา ที่กรุงเทพฯอีกตั้งหาก พี่เขาคงมาไม่ได้ ปรากฎว่าที่ไหนได้ พี่เขาลางานมาเพื่อมางานรับปริญญาเราโดยเฉพาะ วันนั้นไม่ธรรมดาอ่ะค่ะ พี่เขาคอยช่วยถือของ อำนวยความสะดวกให้พ่อกับแม่เราอีก แต่พอถึงเวลาที่เราจะเดินไปเจอแฟน พี่เขาก็กลับ ทำเอาตากล้องงงเลยค่ะ คิดว่าเราคบสองคนซ้อน ต้องอธิบายพี่ตากล้องเป็นการใหญ่  

หลังจากวันนั้นเขาก็เริ่มพูดคุยถามว่าพ่อแม่เป็นไงบ้างสบายดีไหม เราหาแม่บ้านมาทำความสะอาดที่บ้าน เขาก็เป็นคนอาสาจะมาทำความสะอาดให้ที่บ้านแบบไม่คิดตังค์ ขอแค่ข้าวมื้อนึง จนแม่ถามว่าพี่คนนี้มาจีบเราเหรอ. เราเห็นว่าเริ่มจะไม่ดีแล้ว เขาเริ่มล้ำเส้น ไม่อยู่ในที่ที่ควรจะอยู่ และอีกอย่าง เขาเคยมีประวัติเกี่ยวกับแฟนเก่าของเขาว่าเขาก็ไปแย่งแฟนคนอื่นเขามา เราก็เลยถามเขาไปตรงๆว่า "นี่พี่คิดจะทำอะไรอยู่คะ มาตีสนิทกับพ่อแม่หนู พี่กำลังจะแย่งเหรอคะ"   (เป็นคนตรงอ่ะค่ะ เพราะคิดว่าเรื่องอย่างนี้ไม่รู้จะอ้อมค้อมไปทำไม)
พี่เขาก็ตอบว่า "เขารู้ตัวดีว่าเขาควรจะอยู่ตรงไหน ไม่ทำให้ลำบากใจหรอก กับผู้หญิงคนก่อนๆ ที่มีแฟนแล้ว มาชวนเขาไปเที่ยว เขายังไม่ไปเลย เพราะรู้จักยับยั้งชั่งใจ และรู้ว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง" หลังจากนั้น เราก็ไม่เห็นท่าทีที่เขาจะมาเข้าหาครอบครัวเราอีก ก็อุ่นใจ ใครๆที่office ก็พากันถามเขาว่า เขาจีบหนูเหรอ หรือ จีบสำเร็จหรือยัง เขาก็จะตอบกลับไปว่า "เขาชอบน้อง แต่ไม่ได้จีบ ตัวน้องเองก็ไม่ได้อะไรกับเขา น้องเขามีแฟนแล้ว อย่าถามอย่างนี้อีก เดี๋ยวน้องจะเสียหาย" เราก็เบาใจมาหน่อย  แต่เขาก็ยังคุยlineทุกวันกับเรา เราก็ตอบไปมั่ง ไม่ตอบมั่ง  เขาก็บอกว่าเขาขอดูแลอยู่ห่างๆ จะทำเพื่อเรา ไม่คิดแย่งของใครและรักของเขาไม่ต้องการสิ่งตอบแทน

ไม่กี่เดือนถัดมาก็เป็นวันเกิดเรา พี่วิศวะกรคนนี้ก็แอบมาเซอร์ไพส์ด้วยการเอาสติ๊กเกอร์คำว่า Happy Birthday. ตัวเบ้อเร่อมาแปะบนโต๊ะทำงานของเราที่ office. ทำเอาที่ทำงานแซวกันว่า "นี่พี่เขามาฉี่รดไว้ที่เสาทุกต้นที่ทำงานเลยนะเนี่ย"

เมื่อถึงเวลาที่ไประยอง ทุกครั้งเขาก็จะชวนไปกินข้าวกับเขา หรือไม่ก็จะชวนไปเดินเล่น ขับรถชมวิวระยอง เราก็ปฎิเสธไปทุกครั้งว่าเรามากับทีม เราก็ต้องไปกับทีม เขาก็จะแสดงท่าทีหงุดหงิด หัวเสียใส่เราที่ทำไมเราไม่ไปกับเขา และพอเขาเริ่มมีสติว่าเขากำลังหงุดหงิด เขาก็จะปรับอารมณ์แล้วพูดว่า "ไม่เป็นไร เขาเข้าใจ"
ทุกครั้งที่เขาทำอย่างนี้ เราก็จะไม่คุยกับเขา เพราะเรารู้สึกว่าเขาเริ่มล้ำเส้น และทุกครั้งเวลาเราไม่คุยด้วย เขาก็จะเริ่มดราม่าว่า "เขาไม่ได้จีบ รู้ตัวดี ไม่อยากทำให้เราลำบากใจ เขาเข้าใจที่เราปฎิเสธเขา รู้สึกใจหายที่เราหายไป และไม่อยากให้เราเป็นอย่างนี้"

มีอยู่วันหนึ่งเป็นวันไหว้ตรุษจีน เขาลางาน แต่เราต้องไประยอง เพราะที่ทำงานที่กรุงเทพทำงานไม่ได้ โดนปิดตึกจ้า ทำให้รถบริษัทไม่เพียงพอที่จะให้บริการพนักงานได้ทุกคน ต้องเกาะชาวบ้านเขาไปมาระหว่างที่พักที่ระยองกับตัวโรงงาน วันนั้นเขาก็หัวเสียอีกครั้ง โวยวายว่าทำไมเราไม่บอกเขาตั้งแต่เนิ่นๆว่าเราจะมาระยองวันนี้เพราะเหมือนเขาเสียโอกาสจากการลางานในวันที่เราไประยอง อยากถามว่าเป็นหน้าที่เราเหรอที่จะต้องรายงานเขาตลอดว่าจะไปจะมาระยองเมื่อไหร่

ช่วงวันหลังวาเลนไทน์เล็กน้อย เราไปทำงานที่ระยองอีกครั้ง ครั้งนี้ไป4วัน เขาถามเราอีกครั้งว่า มีรถไปรับไปส่งไหม เราก็บอกว่าพอดีติดต่อพี่ๆที่ระยองคนอื่นไว้แล้ว. ทำเอาเขาหงุดหงิดหัวเสียใหญ่ว่าทำไมไม่บอกเขาก่อน เราเลยสวนเขากลับไปว่า ปกติพี่ก็ไม่ขับรถนี่คะ. เขาก็บอก "ปกติไม่ขับ แต่ถ้าเรามา เขาก็ขับให้ได้"
ตกเย็นวันแรก เขาก็ชวนเราไปกินข้าวกับเขาอีก เราบอกว่าเราไปกับแกงค์พี่ๆที่ทำงานแล้ว แต่เหมือนเขาทราบว่าเราไปทานที่ไหน เขาก็ตามมานั่งที่โต๊ะด้วย โดยไม่ทานอะไรเลย ใครๆถามเขาก็บอกว่าปกติเขาไม่กินข้าวเย็น

เช้าวันที่สอง เขาก็เอาช็อคโกแลตมาให้พร้อมกับบอกhappy valentine ย้อนหลัง. เย็นวันที่สอง เขาก็ชวนเราไปกินข้าวอีก เราก็เลยถามเขากลับไปว่า ปกติพี่ไม่ทานข้าวเย็นนี่คะ. แล้วเมื่อวานพี่ชวนหนูกินข้าวเย็นทั้งๆที่พี่ไม่กินข้าวเนี่ยนะ?  ทำเอาเขาไปต่อไม่เป็น

เย็นวันที่สาม วันนี้รอดตัวเพราะเราไปกินข้าวกับหัวหน้า แต่เขาก็มิวาย ถามคนในทีมเราว่าจะไปกินข้าวที่ไหน ส่วนวันที่สี่ก็กลับ กทม รอดตัวจ้า

เราพยายามคุยกับเขาว่าสิ่งที่เขาทำ คนอื่นเขาเรียกว่าจีบ. ให้เขากลับไปยืนที่จุดที่เขาควรอยู่. เขาก็บอกว่าเขาไม่ได้จีบ และอยากให้ดูที่เจตนาของเขา. เลยอยากถามชาวพันทิพว่า

1. สำหรับผู้ชาย อย่างไหนที่เรียกว่าจีบคะ
2. ดูจากเจตนาของพี่คนนี้ คิดว่าพี่เขาเป็นยังไงคะ แย่งไหม? เขาทำเพื่อเราหรือทำเพื่อตัวเอง?
3. เราใจร้ายไหม และทำอย่างไรให้พี่คนนี้ยังรู้สึกดีกับเราแต่ไม่คิดเกินเลย อยู่ในที่ๆควรอยู่ เพื่อไม่ให้เสียการงานและมิตรภาพ

มีเรื่องราวต่อ อ่านต่อได้จากกระทู้นี้ค่ะ http://pantip.com/topic/32858353
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่