สวัสดีค่ะ กลับมารีวิวอีกครั้งนะคะจากกระทู้รีวิวลิปสติกครั้งที่แล้ว
http://pantip.com/topic/31509893
ก่อนอื่นเลยนะคะ น้องเป็นคนที่มีผิวผสม ค่อนมัน รูขุมขนปกติไม่กว้างอะไรนักหนา
เพราะฉะนั้น ข้อมูลที่จะรีวิวต่อไปนี้ อาจจะไม่เหมือนหรือไม่ตรงกับความเห็นของคนที่มีผิวแตกต่างกันค่ะ
- ไพรเมอร์ คืออะไร ใช้ทำไม ดีอย่างไร
ไพรเมอร์คือสิ่งที่ใช้ก่อนลงรองพื้น หลังลงกันแดดหรือครีมบำรุงผิวต่างๆค่ะ
ไพรเมอร์มีหลายยี่ห้อ คุณสมบัติแตกต่างต่างกันไป ส่วนมาคนที่ใช้ไพรเมอร์ก็คือคนที่ต้องการ
1. ทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น 2. ควบคุบความมัน 3. ทำให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวไป บางยี่ห้อสามารถทำได้ และบางยี่ห้อทำได้แค่บางอย่างเท่านั้น
ส่วนใหญ่จะมีเนื้อใสเป็นซีลิโคน แต่อย่างตัวก็จะมีสีนมขุ่นๆ แล้วแต่คุณสมบัติของตัวนั้นๆค่ะ
น้องใช้ไพรเมอร์ก่อนลงรองพื้นทุกวันนะคะ เพราะมันช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานและปรับผิวหน้าให้เรียบเนียน
ช่วยให้การลงรองพื้นง่ายขึ้น ดูกลืนไปกับผิว ที่สำคัญมันช่วยลดความมันบนใบหน้าด้วยค่ะ
ดูรูปรวมหมู่ก่อนนะคะ
มาเริ่มกันเล้ยยย
1. No.7 : Stay Perfect Primer
สำหรับตัวนี้จะเน้นปกปิดรูขุมขน ซึ่งเค้าก้อเคลมไว้ว่าเป็นสูตร oil-free
น้องใช้แล้ว เนื้อครีมเป็นเนื้อกึ่งซีลิโคน สมูท ลื่น ทาแล้วปกปิดรูขุมขนได้ดีทีเดียว
รู้สึกว่าช่วยทำให้หน้าเรียบเนียนแต่หน้าง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยเรื่องควบคุมความมันเท่าไหร่นะคะ
แล้วก็ไม่ได้ช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น
สำหรับราคาซื้อมากจาก boots ประมาณ 550 บาทในปริมาณ 20ml. ค่ะ
ถามว่าคุ้มมั้ย ปริมาณก้ถือว่าคุ้มแต่ประสิทธิภาพไม่ค่อยโอเคค่ะ เพราะว่าเป็นไพรเมอร์ตัวแรกที่ซื้อ
เลยคาดหวังกับมันเอาไว้เยอะกว่านี้คะ
เครดิตรูปจาก google นะคะเพราะว่าใช้หมดไปนานแล้ว
2. Laura Mercier : Foundation Primer Oil-free
เนื้อเจลจะมี สีขาวขุ่น เบาบาง ซึมเร็วมาก ไม่ปกปิดอะไรใดๆบนใบหน้านะคะ
เพราะคุณสมบัติของเค้าคือช่วยเติมเต็มร่อง หรือรูขุมขน ควมคุมความมัน ช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทน
น้องว่าตัวนี้ทำหน้าที่ได้ดีมากค่ะ ความมันบนใบหน้าลดน้อยลง แบบเห็นได้ชัด
แทบไม่ต้องซับหน้าหรือเต็มแป้งระหว่างวัน แต่ก็ยังมีมันบ้างช่วง ทีโซนนะคะ
ไม่ใช่ว่าใช้แล้วหน้าแมทแบบ โอ้โห มันสุดยอด ก็ไม่ขนาดนั้น
ส่วนตัวแล้วน้องว่า มันคุ้มค่าคุ้มราคา ซื้อมา 800 กว่าบาทจากร้านในอินเตอร์เน็ตคะ ปริมาณ 30ml.
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบราคาและปริมาณ ตัวนี้กับ No.7 ตัวนี้คุ้มกว่าเห็นๆ เพราะคุณสมบัติทำได้หลายอย่างมากกว่าคะ
เนื่องจากมันควบคุมความมันบนใบหน้าแล้ว ก็เลยทำให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้นด้วยค่า
ข้อเสียของมันก็คือกลิ่นมันเหม็นง่ะ เหม็นเหมือนกลิ่นกาว ไม่ชอบกลิ่นมันเลยย
3. KMA : Satin Touch Primer
ตัวนี้ที่เค้าร่ำลือว่าเป๊นตัวตายตัวแทนของ smash boxได้ จริงหรือไม่ อย่างไร?
เริ่มที่เนื้อเจลค่ะ เป็นเนื้อซิลิโคนใสทาลงบนหน้าแล้วลื่นมากๆ ทำหน้าที่ปกปิดรูขุมขนได้ดีพอควร
ถ้าเทียบกับราคา 297 บาท ซื้อจากเจ็เล้งกับปริมาณ 30ml. น้องว่ามันก้อคุ้มสำหรับราคาของมันแล้วนะคะ
คือช่วยปกปิดรูขุมขนได้ดีพอสมควร แต่สำหรับคนที่รูขุมขนกว้าง ตัวนี้อาจเอาไม่อยู่
ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้นนิดหน่อย แต่เวลาลงไพรเมอร์ตัวนี้ไปแล้ว
ต้องรอซัก 1-2 นาทีนะคะให้เค้าเซตตัวดีๆก่อน ไม่งั้นทาลงรองพื้นตามเลย
จะกลายเป็นเหมือนมีขี้ไคลบนหน้าคะ ฮ่าๆๆ ชอบกลิ่นมันมาก หอมจริงๆ
เรื่องความคุมความมัน ตัวนี้ไม่ค่อยควบคุมความมันนะคะ น้องว่ามันเหมาะกับคนที่หน้าแห้งมากกว่า (คหสต.)
เดี๋ยวมาต่ออีก 2 ตัวที่เหลือนะคะ ขอตัวไปกินข้าวก่อนน
[CR] รีวิว primer ที่ใช้และอยากบอกต่อค่ะ ทั้งดี/ไม่ดี
http://pantip.com/topic/31509893
ก่อนอื่นเลยนะคะ น้องเป็นคนที่มีผิวผสม ค่อนมัน รูขุมขนปกติไม่กว้างอะไรนักหนา
เพราะฉะนั้น ข้อมูลที่จะรีวิวต่อไปนี้ อาจจะไม่เหมือนหรือไม่ตรงกับความเห็นของคนที่มีผิวแตกต่างกันค่ะ
- ไพรเมอร์ คืออะไร ใช้ทำไม ดีอย่างไร
ไพรเมอร์คือสิ่งที่ใช้ก่อนลงรองพื้น หลังลงกันแดดหรือครีมบำรุงผิวต่างๆค่ะ
ไพรเมอร์มีหลายยี่ห้อ คุณสมบัติแตกต่างต่างกันไป ส่วนมาคนที่ใช้ไพรเมอร์ก็คือคนที่ต้องการ
1. ทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น 2. ควบคุบความมัน 3. ทำให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวไป บางยี่ห้อสามารถทำได้ และบางยี่ห้อทำได้แค่บางอย่างเท่านั้น
ส่วนใหญ่จะมีเนื้อใสเป็นซีลิโคน แต่อย่างตัวก็จะมีสีนมขุ่นๆ แล้วแต่คุณสมบัติของตัวนั้นๆค่ะ
น้องใช้ไพรเมอร์ก่อนลงรองพื้นทุกวันนะคะ เพราะมันช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานและปรับผิวหน้าให้เรียบเนียน
ช่วยให้การลงรองพื้นง่ายขึ้น ดูกลืนไปกับผิว ที่สำคัญมันช่วยลดความมันบนใบหน้าด้วยค่ะ
ดูรูปรวมหมู่ก่อนนะคะ
มาเริ่มกันเล้ยยย
1. No.7 : Stay Perfect Primer
สำหรับตัวนี้จะเน้นปกปิดรูขุมขน ซึ่งเค้าก้อเคลมไว้ว่าเป็นสูตร oil-free
น้องใช้แล้ว เนื้อครีมเป็นเนื้อกึ่งซีลิโคน สมูท ลื่น ทาแล้วปกปิดรูขุมขนได้ดีทีเดียว
รู้สึกว่าช่วยทำให้หน้าเรียบเนียนแต่หน้าง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยเรื่องควบคุมความมันเท่าไหร่นะคะ
แล้วก็ไม่ได้ช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น
สำหรับราคาซื้อมากจาก boots ประมาณ 550 บาทในปริมาณ 20ml. ค่ะ
ถามว่าคุ้มมั้ย ปริมาณก้ถือว่าคุ้มแต่ประสิทธิภาพไม่ค่อยโอเคค่ะ เพราะว่าเป็นไพรเมอร์ตัวแรกที่ซื้อ
เลยคาดหวังกับมันเอาไว้เยอะกว่านี้คะ
เครดิตรูปจาก google นะคะเพราะว่าใช้หมดไปนานแล้ว
2. Laura Mercier : Foundation Primer Oil-free
เนื้อเจลจะมี สีขาวขุ่น เบาบาง ซึมเร็วมาก ไม่ปกปิดอะไรใดๆบนใบหน้านะคะ
เพราะคุณสมบัติของเค้าคือช่วยเติมเต็มร่อง หรือรูขุมขน ควมคุมความมัน ช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทน
น้องว่าตัวนี้ทำหน้าที่ได้ดีมากค่ะ ความมันบนใบหน้าลดน้อยลง แบบเห็นได้ชัด
แทบไม่ต้องซับหน้าหรือเต็มแป้งระหว่างวัน แต่ก็ยังมีมันบ้างช่วง ทีโซนนะคะ
ไม่ใช่ว่าใช้แล้วหน้าแมทแบบ โอ้โห มันสุดยอด ก็ไม่ขนาดนั้น
ส่วนตัวแล้วน้องว่า มันคุ้มค่าคุ้มราคา ซื้อมา 800 กว่าบาทจากร้านในอินเตอร์เน็ตคะ ปริมาณ 30ml.
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบราคาและปริมาณ ตัวนี้กับ No.7 ตัวนี้คุ้มกว่าเห็นๆ เพราะคุณสมบัติทำได้หลายอย่างมากกว่าคะ
เนื่องจากมันควบคุมความมันบนใบหน้าแล้ว ก็เลยทำให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้นด้วยค่า
ข้อเสียของมันก็คือกลิ่นมันเหม็นง่ะ เหม็นเหมือนกลิ่นกาว ไม่ชอบกลิ่นมันเลยย
3. KMA : Satin Touch Primer
ตัวนี้ที่เค้าร่ำลือว่าเป๊นตัวตายตัวแทนของ smash boxได้ จริงหรือไม่ อย่างไร?
เริ่มที่เนื้อเจลค่ะ เป็นเนื้อซิลิโคนใสทาลงบนหน้าแล้วลื่นมากๆ ทำหน้าที่ปกปิดรูขุมขนได้ดีพอควร
ถ้าเทียบกับราคา 297 บาท ซื้อจากเจ็เล้งกับปริมาณ 30ml. น้องว่ามันก้อคุ้มสำหรับราคาของมันแล้วนะคะ
คือช่วยปกปิดรูขุมขนได้ดีพอสมควร แต่สำหรับคนที่รูขุมขนกว้าง ตัวนี้อาจเอาไม่อยู่
ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้นนิดหน่อย แต่เวลาลงไพรเมอร์ตัวนี้ไปแล้ว
ต้องรอซัก 1-2 นาทีนะคะให้เค้าเซตตัวดีๆก่อน ไม่งั้นทาลงรองพื้นตามเลย
จะกลายเป็นเหมือนมีขี้ไคลบนหน้าคะ ฮ่าๆๆ ชอบกลิ่นมันมาก หอมจริงๆ
เรื่องความคุมความมัน ตัวนี้ไม่ค่อยควบคุมความมันนะคะ น้องว่ามันเหมาะกับคนที่หน้าแห้งมากกว่า (คหสต.)
เดี๋ยวมาต่ออีก 2 ตัวที่เหลือนะคะ ขอตัวไปกินข้าวก่อนน