ยาวหน่อยนะคะ....T-T
คือบ้านเราเป็นทาวน์เฮาส์ แล้วเพื่อนบ้านที่รั้วติดกันทั้งสองฟากมักเอารถมาจอดไว้ที่หน้าบ้าน (แต่เขาก็จอดหน้าบ้านตัวเองกันนะคะ)
โดยเหลือที่เว้นว่างแบบพอดีเป๊ะเอาไว้เป็นทางเข้าบ้านเรา
ปัญหามันมีอยู่ว่า ไอ้ช่องว่างที่เขาเหลือไว้ให้เราถอยรถเข้าบ้านเนื่ยมันพอดีมากเสียจนอยู่ในระดับที่ต้องขับรถชำนาญแล้วถึงจะตีวงถอยเข้าได้
บ้านทางด้านขวานั้น บางทีพอเขาเห็นเราจะถอยเข้าบ้าน เขาจะรีบออกมากุลีกุจอเลื่อนรถให้ แต่ว่าบ้านทางซ้ายนั้นแกไม่สนใจค่ะ (เพราะแกถือว่าแกจอดพอดีเป๊ะที่หน้าบ้านตัวเองแล้ว)
ซึ่งในช่วงแรกที่เราหัดขับรถ (โดยฝีมือก็แสนจะไม่ค่อยเอาไหน) เราเคยเอารถไปครูดสีของเพื่อนบ้านข้างซ้ายที่เป็นรถโฟล์คมาค่ะ
ตอนนั้นเลยได้มีการเรียกประกันมาหน้าบ้านตัวเอง (รถเราเป็รรถประกันชั้นหนึ่งค่ะ เลยมีเคลมจ่ายชดเชยค่าเสียหายแล้วก็ขอโทษกันไป)
หลังจากนั้นเขาก็ยังคงจอดรถไว้ที่เดิม และเราก็ยังไม่เก่งเหมือนเดิม ไม่กี่เดือนต่อมามันเลยเกือบๆ จะมีเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมขึ้นอีกค่ะ
เพียงแต่คราวนี้รถทั้งสองฝ่ายไม่มีการเสียหายหรือบุบสลายอะไร เลยไม่ต้องมีการเรียกประกัน
แต่มันเลยกลายเป็นเหตุทำให้เขาเลยอาจจะมองว่าเราไปแกล้งเขา (เพราะเขาโมโหเดินออกมาต่อว่าเราว่ารถของใครใครก็รักนะคุณ
ซึ่งตอนนั้นแม่เราได้ออกมาช่วยพูดแล้วก็ไกล่เกลี่ยไปว่าทางเราเองก็ไม่ได้ต้องการให้เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้น)
แล้วหลังจากนั้นมหกรรมกลั่นแกล้งเล็กๆ จากเพื่อนบ้านเจ้าของรถโฟล์คก็เริ่มขึ้นค่ะ เช่นขว้างหมากฝรั่งมาแปะไว้ที่หน้ากระจกรถเรา
(ซึ่งอันนี้ต้องให้คนอื่นมาทักเราถึงได้เพิ่งรู้สึกตัวว่าโดนแกล้งหรือเปล่า...เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วรถเรามักมอมๆ เขรอะๆ ไปสักหน่อย มันเลยสังเกตได้ยาก)
หรือไม่ก็โยนขยะมาทิ้งที่บ้านเรา (แบบแอบๆ) หรือจ้องมองอย่างกินเลือดกินเนื้อเวลาเราขับรถผ่าน ซึ่งทางเราเองก็ทำไม่รู้ไม่เห็นไม่สนใจไป
หลังๆ มาเราขับรถเก่งขึ้น ก็เลยไม่เกิดเหตุการณ์เอารถไปครูดเขาอีก (แต่ก็ยังจิตตกไปรบกวนแม่ตัวเองให้ออกมาช่วยโบกให้เวลาจะถอยรถเข้าบ้านแล้วมีรถโฟล์คของเฮียเขาจอดอยู่)
จนมาล่าสุดเมื่อวานนี้ เฮียเจ้าของรถโฟล์คแกเอารถแกไปจอดแอบไว้ที่อื่น ในขณะที่เราเพิ่งกลับถึงบ้านแล้วจะออกไปข้างนอกต่อ ก็เลยไม่ได้ถอยรถเข้าบ้านตัวเอง แต่จอดเทียบไว้หน้าบ้านตัวเอง (ระวังเป็นอย่างมากไม่ให้ล้ำเส้นไปเกยหน้าบ้านเฮียรถโฟล์ค)
(โดยปกติถ้ามีรถสองคันของเพื่อนบ้านจอดขนาบ เราจะไม่เคยจอดเทียบเลยค่ะ เพราะกลัวไปโดนรถเขาอีก)
หลังจากเราเข้าไปจัดการธุระในบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังจะออกจากบ้านอีกครั้ง ก็พบว่าเฮียรถโฟล์คแกมายืนคุยโทรศัพท์ที่หน้าบ้านตัวเองค่ะ แต่ปัญหาคือแกยืนขวางอยู่ตรงท้ายรถเราเลย โดยเหลือทีไว้ให้เราถอยรถหย่อมหนึ่ง
(เนื่องจากบ้านทางด้านขวาแกก็เอารถจอดไว้หน้าบ้านแกเหมือนปกติ เป็นเหตุให้เราต้องถอยรถสักหนึ่งจึ้กก่อนออก)
ซึ่งถ้าเราถอยพลาด แน่นอนว่าต้องชนพี่แกแหงมๆ ทางเรากับแม่พยายามส่งสัญญาณบอกเฮียว่าพวกเราจะถอยรถนะ แต่ก็ก็ยังคุยโทรศัพท์และยืนนิ่งอยู่ที่เดิมต่อไป (ด้วยอาการตาขวางๆ)
แม่เราเลยบอกว่าก็ปล่อยให้เฮียรถโฟล์คแกยืนที่เดิมนั่นแหละ แม่จะยืนโบกรถให้ แต่บอกตรงๆ ว่าเราเริ่มเหลืออดเหมือนกัน....
เราเลยบอกให้แม่เข้าบ้าน ส่วนเราก็สตาร์ทรถแล้วก็อยู่จัดการอะไรในรถสักครู่ก่อน (ณ. ตอนนี้เฮียรถโฟล์คแกก็ยังคงยืนหยัดอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง)
เรารอสักแป๊บ กะว่าเผื่อแกชักขี้เกียจดมท่อไอเสียแล้วคงขยับถอยให้บ้าง แต่เนื่องจากแกไม่ไปสักที เราเลยจัดการขั้นเด็ดขาดคือ....เหยียบคันเร่ง
ปรากฏว่าได้ผล คือเฮียแกตกใจถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เราเลยรีบฉวยโอกาสนั้นถอยรถหนึ่งจึ้กแล้วออกจากที่นั่นโดยทันที
เราขับวนไปอีกซอยเพื่อไปกลับรถ แล้วพอขับกลับมาผ่านหน้าปากซอยบ้านเรา เราเจอเฮียรถโฟล์คยืนคอยรถเราด้วยใบหน้าถทึงพร้อมยกมือชี้หน้าเราตอนเราขับผ่านเขาไป
แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดิฉันเกิดต็องอะไรขึ้นมาไม่ทราบ ก็เลยตอบโต้ (ทั้งๆ ที่ปกติจะนิ่งเฉย) เฮียแกไปโดยการยกมือชูสองนิ้ว (2 นิ้วนะคะ ไม่ใช่นิ้วเดียว) ใส่แกพร้อมกับยิ้มแป้นแร้นให้ในขณะที่ขับผ่าน
จากนั้นเราก็โทรไปสารภาพผิดกับแม่ แล้วก็โดนแม่ด่าไปตามระเบียบ (ว่าไปกวนโมโหเขาทำไม) ซึ่งตอนนี้พอมาคิดๆ ดูใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจที่ทำลงไป แต่อีกใจมันก็นะ...เฮ้อ (ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเจออะไรอีกมั่ง)
เพื่อเตรียมรับมือ เราเลยมานั่งคิดนอนคิด ได้หนทางเลือกมาสามสี่ทาง (ในการเตรียมรับมือการโจมตีจากเฮียโฟล์ค...ที่คาดว่าจะมีมาแน่ๆแต่ไม่รู้เมื่อไหร่)
เลยจะขอมาปรึกษาเพื่อนๆในนี้อีกทีนั่นล่ะค่ะว่าน่าจะเลือกทางไหนดี (คิดคนเดียวมันคิดไม่ตก ตัดสินใจไม่ได้อ่ะ)
- ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับทางตำรวจไว้ (เผื่อเกิดเหตุด่วยเหตุร้ายหลังจากนี้)
- ไปขอโทษเฮียรถโฟล์ค (เอาไปปรึกษาเพื่อน ปรากฏเพื่อนคัดค้านแนวคิดนี้อย่างสุดชีวิต บอกว่ามันมีแต่จะด่าใส่หน้าแกมากกว่า....เรากลับมานั่งคิดอีกทีก็ชักเห็นด้วยว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้น)
- ไปซื้อกล้องวงจรปิดมาติดตั้งที่บ้าน เตรียมตั้งรับการโจมตีหลังจากนี้
- ไม่ทำไรเลย
ณ ตอนนี้พอเอาไปปรึกษาเพื่อนสนิท มันเสนอทางเลือกว่าไม่ต้องทำอะไรเลยเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่บางทีเราก็แอบห่วงแม่เหมือนกัน เพราะแม่ต้องอยู่บ้านคนเดียวบ่อย (แต่ตอนชูสองนิ้วใส่เขาดันลืมห่วงไปชั่วครู่ซะงั้น T-T)
เลยอยากปรึกษาทุกท่านในห้องนี้ล่ะค่ะ ว่าควรเลือกทางไหนดี หรือใครมีไอเดียอะไรดีๆ แนะนำจขกท. ได้เลยนะคะ (
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ปล. เล่ายาวมาก.....ขออภัยแล้วขอบคุณท่านที่อ่านจนจบค่ะ
แก้ไขเพิ่มเติมค่ะ เหมือนเราจะเขียนไม่ค่อยเคลียร์นัก
ช่วงเวลาที่เราถอยรถไปครูดรถโฟล์คของเพื่อนบ้านเนี่ยผ่านมาได้ประมาณปีกว่าเกือบสองปีแล้วค่ะ พอดีช่วงนั้นเราเริ่มทำงานแล้วก็เริ่มขับรถเลยยังขับไม่คล่อง ซึ่งครั้งแรกที่ไปครูดรถเฮียโฟล์คแกแล้วไปขอโทษพร้อมกับจ่ายค่าชดใช้ให้เนี่ยแกก็ยังเข้าใจเราค่ะว่ามือใหม่ (เพียงแต่แกก็ไม่ยอมเลื่อนรถให้เท่านั้นเอง) จากนั้นสองเดือนมันเลยเกือบๆ จะเกิดครั้งที่สองขึ้น เพียงแต่เรายังไม่ได้ไปโดนรถแกเสียหายอะไร (ตอนนี้นี่ล่ะค่ะที่แกออกมาบอกว่ารถใครใครก็รักนะคุณ) คาดว่าคงคิดว่าโดนเราแกล้ง แต่หลังจากนั้นเราไปฝึกถอยรถเพิ่มเติมจนชำนาญ ก็เลยไม่เกิดเหตุขึ้นอีกค่ะ ตอนปีใหม่ก็เคยเอาปฏิทินเอาของฝากไปให้คุณแม่ของแกเหมือนกัน (เฮียแกเองก็รับไปไม่ได้ว่าอะไร) แต่เราเพิ่งมารู้ชัดๆ ว่าแกไม่ชอบขี้หน้าเราเอามากๆ ก็เมื่อวานที่พอเราจะถอยรถแล้วแกยืนขวางด้านหลัง แบบขอยังไงก็ไม่ขยับให้นี่ล่ะค่ะ T-T
ที่จริงเราไม่มีปัญหากับเรื่องเพื่อนบ้านที่จอดรถนอกบ้านเลยค่ะ เพราะแทบทุกบ้านในหมู่บ้านที่อยู่ก็เป็นแบบนี้ แล้วเวลาไปขอให้ช่วยเลื่อนหรือไปเลื่อนรถของเขา (แล้วก็ไปเลื่อนกลับให้ที่เดิม)เขาก็จะไม่ว่าอะไร เพียงแต่กับเฮียโฟล์คเนี่ยเราเคยไปขอแล้วแกก็ไม่ยอมเลื่อนให้น่ะค่ะ (แต่ก็อาจจะต้องขอบคุณแกนะ เพราะตอนนี้เราถอยเข้าซองได้เก่งมากเนื่องจากช่วงแรกต้องไปซุ่มฝึกถอยมา)
มารายงานผลค่ะ
ล่าสุดจขกท. เอาขนมไปขอโทษเฮียรถโฟล์คแกมาแล้วค่ะ แกก็ออกมารับไปนะคะ บอกว่าไม่เป็นไรแล้วก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ (ไม่แน่ใจว่าแกหายโกรธไหม...แต่สำหรับจขกท. แค่นี้ก็ไม่มีอะไรติดค้างในใจแระ...)
ยังไงต้องขอบคุณทุกท่านที่มาให้คำแนะนำนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
มีเรื่องกับเพื่อนบ้าน อยากขอคำแนะนำจากทุกท่านค่ะ
คือบ้านเราเป็นทาวน์เฮาส์ แล้วเพื่อนบ้านที่รั้วติดกันทั้งสองฟากมักเอารถมาจอดไว้ที่หน้าบ้าน (แต่เขาก็จอดหน้าบ้านตัวเองกันนะคะ)
โดยเหลือที่เว้นว่างแบบพอดีเป๊ะเอาไว้เป็นทางเข้าบ้านเรา
ปัญหามันมีอยู่ว่า ไอ้ช่องว่างที่เขาเหลือไว้ให้เราถอยรถเข้าบ้านเนื่ยมันพอดีมากเสียจนอยู่ในระดับที่ต้องขับรถชำนาญแล้วถึงจะตีวงถอยเข้าได้
บ้านทางด้านขวานั้น บางทีพอเขาเห็นเราจะถอยเข้าบ้าน เขาจะรีบออกมากุลีกุจอเลื่อนรถให้ แต่ว่าบ้านทางซ้ายนั้นแกไม่สนใจค่ะ (เพราะแกถือว่าแกจอดพอดีเป๊ะที่หน้าบ้านตัวเองแล้ว)
ซึ่งในช่วงแรกที่เราหัดขับรถ (โดยฝีมือก็แสนจะไม่ค่อยเอาไหน) เราเคยเอารถไปครูดสีของเพื่อนบ้านข้างซ้ายที่เป็นรถโฟล์คมาค่ะ
ตอนนั้นเลยได้มีการเรียกประกันมาหน้าบ้านตัวเอง (รถเราเป็รรถประกันชั้นหนึ่งค่ะ เลยมีเคลมจ่ายชดเชยค่าเสียหายแล้วก็ขอโทษกันไป)
หลังจากนั้นเขาก็ยังคงจอดรถไว้ที่เดิม และเราก็ยังไม่เก่งเหมือนเดิม ไม่กี่เดือนต่อมามันเลยเกือบๆ จะมีเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมขึ้นอีกค่ะ
เพียงแต่คราวนี้รถทั้งสองฝ่ายไม่มีการเสียหายหรือบุบสลายอะไร เลยไม่ต้องมีการเรียกประกัน
แต่มันเลยกลายเป็นเหตุทำให้เขาเลยอาจจะมองว่าเราไปแกล้งเขา (เพราะเขาโมโหเดินออกมาต่อว่าเราว่ารถของใครใครก็รักนะคุณ
ซึ่งตอนนั้นแม่เราได้ออกมาช่วยพูดแล้วก็ไกล่เกลี่ยไปว่าทางเราเองก็ไม่ได้ต้องการให้เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้น)
แล้วหลังจากนั้นมหกรรมกลั่นแกล้งเล็กๆ จากเพื่อนบ้านเจ้าของรถโฟล์คก็เริ่มขึ้นค่ะ เช่นขว้างหมากฝรั่งมาแปะไว้ที่หน้ากระจกรถเรา
(ซึ่งอันนี้ต้องให้คนอื่นมาทักเราถึงได้เพิ่งรู้สึกตัวว่าโดนแกล้งหรือเปล่า...เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วรถเรามักมอมๆ เขรอะๆ ไปสักหน่อย มันเลยสังเกตได้ยาก)
หรือไม่ก็โยนขยะมาทิ้งที่บ้านเรา (แบบแอบๆ) หรือจ้องมองอย่างกินเลือดกินเนื้อเวลาเราขับรถผ่าน ซึ่งทางเราเองก็ทำไม่รู้ไม่เห็นไม่สนใจไป
หลังๆ มาเราขับรถเก่งขึ้น ก็เลยไม่เกิดเหตุการณ์เอารถไปครูดเขาอีก (แต่ก็ยังจิตตกไปรบกวนแม่ตัวเองให้ออกมาช่วยโบกให้เวลาจะถอยรถเข้าบ้านแล้วมีรถโฟล์คของเฮียเขาจอดอยู่)
จนมาล่าสุดเมื่อวานนี้ เฮียเจ้าของรถโฟล์คแกเอารถแกไปจอดแอบไว้ที่อื่น ในขณะที่เราเพิ่งกลับถึงบ้านแล้วจะออกไปข้างนอกต่อ ก็เลยไม่ได้ถอยรถเข้าบ้านตัวเอง แต่จอดเทียบไว้หน้าบ้านตัวเอง (ระวังเป็นอย่างมากไม่ให้ล้ำเส้นไปเกยหน้าบ้านเฮียรถโฟล์ค)
(โดยปกติถ้ามีรถสองคันของเพื่อนบ้านจอดขนาบ เราจะไม่เคยจอดเทียบเลยค่ะ เพราะกลัวไปโดนรถเขาอีก)
หลังจากเราเข้าไปจัดการธุระในบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังจะออกจากบ้านอีกครั้ง ก็พบว่าเฮียรถโฟล์คแกมายืนคุยโทรศัพท์ที่หน้าบ้านตัวเองค่ะ แต่ปัญหาคือแกยืนขวางอยู่ตรงท้ายรถเราเลย โดยเหลือทีไว้ให้เราถอยรถหย่อมหนึ่ง
(เนื่องจากบ้านทางด้านขวาแกก็เอารถจอดไว้หน้าบ้านแกเหมือนปกติ เป็นเหตุให้เราต้องถอยรถสักหนึ่งจึ้กก่อนออก)
ซึ่งถ้าเราถอยพลาด แน่นอนว่าต้องชนพี่แกแหงมๆ ทางเรากับแม่พยายามส่งสัญญาณบอกเฮียว่าพวกเราจะถอยรถนะ แต่ก็ก็ยังคุยโทรศัพท์และยืนนิ่งอยู่ที่เดิมต่อไป (ด้วยอาการตาขวางๆ)
แม่เราเลยบอกว่าก็ปล่อยให้เฮียรถโฟล์คแกยืนที่เดิมนั่นแหละ แม่จะยืนโบกรถให้ แต่บอกตรงๆ ว่าเราเริ่มเหลืออดเหมือนกัน....
เราเลยบอกให้แม่เข้าบ้าน ส่วนเราก็สตาร์ทรถแล้วก็อยู่จัดการอะไรในรถสักครู่ก่อน (ณ. ตอนนี้เฮียรถโฟล์คแกก็ยังคงยืนหยัดอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง)
เรารอสักแป๊บ กะว่าเผื่อแกชักขี้เกียจดมท่อไอเสียแล้วคงขยับถอยให้บ้าง แต่เนื่องจากแกไม่ไปสักที เราเลยจัดการขั้นเด็ดขาดคือ....เหยียบคันเร่ง
ปรากฏว่าได้ผล คือเฮียแกตกใจถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เราเลยรีบฉวยโอกาสนั้นถอยรถหนึ่งจึ้กแล้วออกจากที่นั่นโดยทันที
เราขับวนไปอีกซอยเพื่อไปกลับรถ แล้วพอขับกลับมาผ่านหน้าปากซอยบ้านเรา เราเจอเฮียรถโฟล์คยืนคอยรถเราด้วยใบหน้าถทึงพร้อมยกมือชี้หน้าเราตอนเราขับผ่านเขาไป
แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดิฉันเกิดต็องอะไรขึ้นมาไม่ทราบ ก็เลยตอบโต้ (ทั้งๆ ที่ปกติจะนิ่งเฉย) เฮียแกไปโดยการยกมือชูสองนิ้ว (2 นิ้วนะคะ ไม่ใช่นิ้วเดียว) ใส่แกพร้อมกับยิ้มแป้นแร้นให้ในขณะที่ขับผ่าน
จากนั้นเราก็โทรไปสารภาพผิดกับแม่ แล้วก็โดนแม่ด่าไปตามระเบียบ (ว่าไปกวนโมโหเขาทำไม) ซึ่งตอนนี้พอมาคิดๆ ดูใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจที่ทำลงไป แต่อีกใจมันก็นะ...เฮ้อ (ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเจออะไรอีกมั่ง)
เพื่อเตรียมรับมือ เราเลยมานั่งคิดนอนคิด ได้หนทางเลือกมาสามสี่ทาง (ในการเตรียมรับมือการโจมตีจากเฮียโฟล์ค...ที่คาดว่าจะมีมาแน่ๆแต่ไม่รู้เมื่อไหร่)
เลยจะขอมาปรึกษาเพื่อนๆในนี้อีกทีนั่นล่ะค่ะว่าน่าจะเลือกทางไหนดี (คิดคนเดียวมันคิดไม่ตก ตัดสินใจไม่ได้อ่ะ)
- ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับทางตำรวจไว้ (เผื่อเกิดเหตุด่วยเหตุร้ายหลังจากนี้)
- ไปขอโทษเฮียรถโฟล์ค (เอาไปปรึกษาเพื่อน ปรากฏเพื่อนคัดค้านแนวคิดนี้อย่างสุดชีวิต บอกว่ามันมีแต่จะด่าใส่หน้าแกมากกว่า....เรากลับมานั่งคิดอีกทีก็ชักเห็นด้วยว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้น)
- ไปซื้อกล้องวงจรปิดมาติดตั้งที่บ้าน เตรียมตั้งรับการโจมตีหลังจากนี้
- ไม่ทำไรเลย
ณ ตอนนี้พอเอาไปปรึกษาเพื่อนสนิท มันเสนอทางเลือกว่าไม่ต้องทำอะไรเลยเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่บางทีเราก็แอบห่วงแม่เหมือนกัน เพราะแม่ต้องอยู่บ้านคนเดียวบ่อย (แต่ตอนชูสองนิ้วใส่เขาดันลืมห่วงไปชั่วครู่ซะงั้น T-T)
เลยอยากปรึกษาทุกท่านในห้องนี้ล่ะค่ะ ว่าควรเลือกทางไหนดี หรือใครมีไอเดียอะไรดีๆ แนะนำจขกท. ได้เลยนะคะ (
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ปล. เล่ายาวมาก.....ขออภัยแล้วขอบคุณท่านที่อ่านจนจบค่ะ
แก้ไขเพิ่มเติมค่ะ เหมือนเราจะเขียนไม่ค่อยเคลียร์นัก
ช่วงเวลาที่เราถอยรถไปครูดรถโฟล์คของเพื่อนบ้านเนี่ยผ่านมาได้ประมาณปีกว่าเกือบสองปีแล้วค่ะ พอดีช่วงนั้นเราเริ่มทำงานแล้วก็เริ่มขับรถเลยยังขับไม่คล่อง ซึ่งครั้งแรกที่ไปครูดรถเฮียโฟล์คแกแล้วไปขอโทษพร้อมกับจ่ายค่าชดใช้ให้เนี่ยแกก็ยังเข้าใจเราค่ะว่ามือใหม่ (เพียงแต่แกก็ไม่ยอมเลื่อนรถให้เท่านั้นเอง) จากนั้นสองเดือนมันเลยเกือบๆ จะเกิดครั้งที่สองขึ้น เพียงแต่เรายังไม่ได้ไปโดนรถแกเสียหายอะไร (ตอนนี้นี่ล่ะค่ะที่แกออกมาบอกว่ารถใครใครก็รักนะคุณ) คาดว่าคงคิดว่าโดนเราแกล้ง แต่หลังจากนั้นเราไปฝึกถอยรถเพิ่มเติมจนชำนาญ ก็เลยไม่เกิดเหตุขึ้นอีกค่ะ ตอนปีใหม่ก็เคยเอาปฏิทินเอาของฝากไปให้คุณแม่ของแกเหมือนกัน (เฮียแกเองก็รับไปไม่ได้ว่าอะไร) แต่เราเพิ่งมารู้ชัดๆ ว่าแกไม่ชอบขี้หน้าเราเอามากๆ ก็เมื่อวานที่พอเราจะถอยรถแล้วแกยืนขวางด้านหลัง แบบขอยังไงก็ไม่ขยับให้นี่ล่ะค่ะ T-T
ที่จริงเราไม่มีปัญหากับเรื่องเพื่อนบ้านที่จอดรถนอกบ้านเลยค่ะ เพราะแทบทุกบ้านในหมู่บ้านที่อยู่ก็เป็นแบบนี้ แล้วเวลาไปขอให้ช่วยเลื่อนหรือไปเลื่อนรถของเขา (แล้วก็ไปเลื่อนกลับให้ที่เดิม)เขาก็จะไม่ว่าอะไร เพียงแต่กับเฮียโฟล์คเนี่ยเราเคยไปขอแล้วแกก็ไม่ยอมเลื่อนให้น่ะค่ะ (แต่ก็อาจจะต้องขอบคุณแกนะ เพราะตอนนี้เราถอยเข้าซองได้เก่งมากเนื่องจากช่วงแรกต้องไปซุ่มฝึกถอยมา)
มารายงานผลค่ะ
ล่าสุดจขกท. เอาขนมไปขอโทษเฮียรถโฟล์คแกมาแล้วค่ะ แกก็ออกมารับไปนะคะ บอกว่าไม่เป็นไรแล้วก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ (ไม่แน่ใจว่าแกหายโกรธไหม...แต่สำหรับจขกท. แค่นี้ก็ไม่มีอะไรติดค้างในใจแระ...)
ยังไงต้องขอบคุณทุกท่านที่มาให้คำแนะนำนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ