ในวันที่คุณผิดหวังจากความรัก คุณผ่านมันมาได้อย่างไร
แม้ว่าตอนนี้เราเองก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากว่า ทำใจให้กลับมาปกติได้แล้ว เพราะกำลังพยายามอยู่
แต่เราก็อยากแบ่งปันเพื่อนๆ ที่กำลังเผชิญปัญหานี้เหมือนกันค่ะ
มาดูกันว่า เราทำอะไรบ้าง
1. เราลบเบอร์ ลบข้อความ (ที่มีมากกว่าร้อยข้อความ) ลบรูปถ่าย (ที่มีไม่กี่รูป และมีรูปคู่แค่รูปเดียว) ออกไปจากมือถือ
ข้อดี จากที่หยิบมือถือทุกนาที เพื่อมาดูเบอร์ ข้อความ รูป ก็กลับมาเป็นปกติ มือถือมีไว้โทรแค่นั้น
ข้อเสีย ความจำดีเกินไป จำได้หมดทุกอย่างแม้จะลบไปแล้ว
2. เราเก็บตัวอยู่ในห้อง ไม่ออกไปเจอผู้คน ยกเว้นตอนกินข้าว โดยเฉพาะช่วงเวลาเข้า-ออกงาน เพราะต้องการหนีการเผชิญหน้า
กับเขาอย่างที่เคยเจอมา หลีกเลี่ยงการอยู่กับเพื่อนที่ต้องไปทำงานกับเขา
ข้อดี ไม่ได้เจอกัน ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับเขา
ข้อเสีย สภาพจิตใจย่ำแย่ ร่างกายทรุดโทรม เก็บตัวนอนร้องไห้ หมกมุ่นกับความคิด เฝ้าถามว่าทำไมเขาถึงคบหลายคน ทำไมต้องหลอกเรา ฯลฯ ทำงานที่ค้างอยู่ทั้งวิจัยตัวเอง วิจัยอาจารย์ งานทุนวิทยานิพนธ์ก็ทำไม่ได้ เพราะจิตใจไม่ปกติ ไม่มีสมาธิ เสียงาน เสียการ เสียเวลา เสียสุขภาพกายและใจ
3. ไปทำบุญตักบาตร ไปวัด สวดมนต์ไหว้พระ แผ่เมตตา กล่าวอโหสิกรรม ดูดวงรายวัน รายสัปดาห์ ไปหาหมอดู
ข้อดี รู้สึกสบายใจ รู้สึกมีที่พึ่ง พระท่านคุ้มครอง รู้สึกว่าหมอดูแม่นจัง ตัดใจได้ง่ายขึ้นเพราะเขาบอกว่าเราไม่ใช่คู่กัน
ข้อเสีย ทั้งหมดซื้อความสบายใจได้เพียงชั่วคราว พอหลุดจากห้วงอารมณ์ตรงนั้นก็กลับมาเศร้าอีก ไปวัดก็ยังเศร้าทั้งๆ ที่ไปทำบุญ เหมือนเปลี่ยนที่ไปทุกข์ในวัด
4. หนีไปที่ไหนๆ คนเดียวบ้าง ไปดูอะไรที่บันเทิงใจ ไปดูหนัง ไปกินข้าว ไปดูคอนเสริตกับเพื่อนๆ บ้าง
ข้อดี ได้เห็นตัวเองมากขึ้น ได้ผ่อนคลายความตึงเครียด ได้เจอเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่รักและดูแลเรา
ข้อเสีย ไปกับคนอื่นๆ แต่เหมือนอยู่คนเดียว นั่งเงียบ คุยได้น้อยลง เพื่อนเรียกหรือคุยอะไรด้วย เราจะตอบสนองช้าลง เหมือนไม่ได้ยิน
(จริงๆ ก็ไม่ได้ฟังแหละ) เพื่อนก็หงุดหงิดว่าเราไม่สนใจ เราไม่รู้จะทำยังไง เหมือนในหัวมีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้
ยิ่งไปที่ที่เคยไปกับเขา ภาพเก่าๆ ก็กลับมา ยิ่งตกอยู่ในภวังค์ และทำให้บรรยากาสไม่สนุกไปด้วย
5. โทรหาที่บ้าน คุยกับแม่ บอกว่าเกิดอะไร ทุกข์ใจแค่ไหน
ข้อดี ได้ระบาย และรับรู้ความรักของครอบครัวที่มีให้ แม้ว่าจะไม่เคยพูดอะไรออกมา
ข้อเสีย ทำให้แม่ร้องไห้ และเป็นห่วงเรามาก เพราะเราเป็นคนที่คนอื่นมักจะบอกว่าเข้มแข็งเสมอ
มีปัญหาหนักแค่ไหน ถ้าไม่จำเป็นเรื่องจะไม่ตกไปถึงครอบครัวเลย แต่วันนั้นรู้สึกเสียใจมากที่ทำให้แม่ร้องไห้
6. พยายามคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดี เขาทำร้ายเรา เขาหลอกเรา แต่อย่างน้อยเขาก็เคยทำดีกับเรา แต่เรากับเขาศีลไม่เสมอกัน หมดเวรหมดกรรมกันแล้ว
ข้อดี ปลงได้เป็นช่วงๆ เหมือนจะดี
ข้อเสีย เวลาคิดว่าเขาไม่ดีกับเรา แทนที่จะปลง กลายเป็นอาฆาต สาปแช่ง
เวลาคิดว่าเขาเคยดีกับเรา แทนที่จะปลง กลับยิ่งคิดถึง โหยหา
การให้อภัย ทำได้แค่พูด หมดเวรหมดกรรมก็เป็นแค่ความหวัง ซึ่งยังไม่เป็นจริง
เหมือนที่ผ่านมา พยายามทำเท่าไหร่ก็กลับไปจุดเดิม ทุกข์ซ้ำไปซ้ำมา ชีวิตเหมือนไร้จุดหมาย อยู่ไปวันๆ ไม่อยากทำอะไรเลย
นั่งไปนั่งมาหลังจากร้องไห้อีกยก ก็มาเจอหนังสือธรรมทานเล่มหนึ่งที่เคยอ่านผ่านตา แต่พออ่านอย่างลึกซึ้งก็พบว่า.......
"ที่เราทำอยู่ คือ การพยายามหนีความทุกข์ แต่หนียังไงก็ไม่พ้น เพราะทุกข์อยู่ที่ความคิดเรา"
เห็นรูปนี้แล้ว ทำให้เราเราคิดได้ว่า ต่อไปต้องทำอย่างไร
เวลามีคำถามมากมายในหัว ว่า "ทำไม...ทำไม...ทำไม..."
เราก็จะตอบตัวเองว่า "
เรื่องมันได้เกิดขึ้นแล้ว มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เมื่อมีผล ก็ย่อมมีเหตุ...."
การที่เลิกราจากคนที่เรารัก จริงๆ มันล้วนมีเหตุของมัน
ไม่ต้องหนีอีกแล้วแค่ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง ที่จบไปแล้ว มันเป็นอดีตที่กลับไปแก้ไขไม่ได้
และจงประคับประคองตัวเอง ให้ผ่านด่านของความเจ็บปวดและความเสียใจนี้ไปให้ได้ แล้วสักวันเราจะพบแสงสว่าง
หลายคนบอกว่ายาก แต่อีกหลายคนก็บอกว่าผ่านมันมาได้
แล้วเราละ.....เราก็ต้องผ่านมันไปได้เหมือนกันใช่มั้ย
อยากให้หัวใจของทุกคนที่ผิดหวัง ได้เจอแสงสว่างเร็วๆนะคะ
ขอบคุณ A Thing Book สำหรับธรรมทานเล่มนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.athingbook.com/product/view/808AE8CBFF3D768FAB744A729702CD08
แล้วเพื่อนๆ มีวิธีผ่านความเจ็บปวดนี้ยังไงคะ
อยากให้เราผ่านความเจ็บปวดจากความรักที่ผิดหวัง แล้วเจอแสงสว่างด้วยกันนะคะ
แม้ว่าตอนนี้เราเองก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากว่า ทำใจให้กลับมาปกติได้แล้ว เพราะกำลังพยายามอยู่
แต่เราก็อยากแบ่งปันเพื่อนๆ ที่กำลังเผชิญปัญหานี้เหมือนกันค่ะ
มาดูกันว่า เราทำอะไรบ้าง
1. เราลบเบอร์ ลบข้อความ (ที่มีมากกว่าร้อยข้อความ) ลบรูปถ่าย (ที่มีไม่กี่รูป และมีรูปคู่แค่รูปเดียว) ออกไปจากมือถือ
ข้อดี จากที่หยิบมือถือทุกนาที เพื่อมาดูเบอร์ ข้อความ รูป ก็กลับมาเป็นปกติ มือถือมีไว้โทรแค่นั้น
ข้อเสีย ความจำดีเกินไป จำได้หมดทุกอย่างแม้จะลบไปแล้ว
2. เราเก็บตัวอยู่ในห้อง ไม่ออกไปเจอผู้คน ยกเว้นตอนกินข้าว โดยเฉพาะช่วงเวลาเข้า-ออกงาน เพราะต้องการหนีการเผชิญหน้า
กับเขาอย่างที่เคยเจอมา หลีกเลี่ยงการอยู่กับเพื่อนที่ต้องไปทำงานกับเขา
ข้อดี ไม่ได้เจอกัน ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับเขา
ข้อเสีย สภาพจิตใจย่ำแย่ ร่างกายทรุดโทรม เก็บตัวนอนร้องไห้ หมกมุ่นกับความคิด เฝ้าถามว่าทำไมเขาถึงคบหลายคน ทำไมต้องหลอกเรา ฯลฯ ทำงานที่ค้างอยู่ทั้งวิจัยตัวเอง วิจัยอาจารย์ งานทุนวิทยานิพนธ์ก็ทำไม่ได้ เพราะจิตใจไม่ปกติ ไม่มีสมาธิ เสียงาน เสียการ เสียเวลา เสียสุขภาพกายและใจ
3. ไปทำบุญตักบาตร ไปวัด สวดมนต์ไหว้พระ แผ่เมตตา กล่าวอโหสิกรรม ดูดวงรายวัน รายสัปดาห์ ไปหาหมอดู
ข้อดี รู้สึกสบายใจ รู้สึกมีที่พึ่ง พระท่านคุ้มครอง รู้สึกว่าหมอดูแม่นจัง ตัดใจได้ง่ายขึ้นเพราะเขาบอกว่าเราไม่ใช่คู่กัน
ข้อเสีย ทั้งหมดซื้อความสบายใจได้เพียงชั่วคราว พอหลุดจากห้วงอารมณ์ตรงนั้นก็กลับมาเศร้าอีก ไปวัดก็ยังเศร้าทั้งๆ ที่ไปทำบุญ เหมือนเปลี่ยนที่ไปทุกข์ในวัด
4. หนีไปที่ไหนๆ คนเดียวบ้าง ไปดูอะไรที่บันเทิงใจ ไปดูหนัง ไปกินข้าว ไปดูคอนเสริตกับเพื่อนๆ บ้าง
ข้อดี ได้เห็นตัวเองมากขึ้น ได้ผ่อนคลายความตึงเครียด ได้เจอเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่รักและดูแลเรา
ข้อเสีย ไปกับคนอื่นๆ แต่เหมือนอยู่คนเดียว นั่งเงียบ คุยได้น้อยลง เพื่อนเรียกหรือคุยอะไรด้วย เราจะตอบสนองช้าลง เหมือนไม่ได้ยิน
(จริงๆ ก็ไม่ได้ฟังแหละ) เพื่อนก็หงุดหงิดว่าเราไม่สนใจ เราไม่รู้จะทำยังไง เหมือนในหัวมีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้
ยิ่งไปที่ที่เคยไปกับเขา ภาพเก่าๆ ก็กลับมา ยิ่งตกอยู่ในภวังค์ และทำให้บรรยากาสไม่สนุกไปด้วย
5. โทรหาที่บ้าน คุยกับแม่ บอกว่าเกิดอะไร ทุกข์ใจแค่ไหน
ข้อดี ได้ระบาย และรับรู้ความรักของครอบครัวที่มีให้ แม้ว่าจะไม่เคยพูดอะไรออกมา
ข้อเสีย ทำให้แม่ร้องไห้ และเป็นห่วงเรามาก เพราะเราเป็นคนที่คนอื่นมักจะบอกว่าเข้มแข็งเสมอ
มีปัญหาหนักแค่ไหน ถ้าไม่จำเป็นเรื่องจะไม่ตกไปถึงครอบครัวเลย แต่วันนั้นรู้สึกเสียใจมากที่ทำให้แม่ร้องไห้
6. พยายามคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดี เขาทำร้ายเรา เขาหลอกเรา แต่อย่างน้อยเขาก็เคยทำดีกับเรา แต่เรากับเขาศีลไม่เสมอกัน หมดเวรหมดกรรมกันแล้ว
ข้อดี ปลงได้เป็นช่วงๆ เหมือนจะดี
ข้อเสีย เวลาคิดว่าเขาไม่ดีกับเรา แทนที่จะปลง กลายเป็นอาฆาต สาปแช่ง
เวลาคิดว่าเขาเคยดีกับเรา แทนที่จะปลง กลับยิ่งคิดถึง โหยหา
การให้อภัย ทำได้แค่พูด หมดเวรหมดกรรมก็เป็นแค่ความหวัง ซึ่งยังไม่เป็นจริง
เหมือนที่ผ่านมา พยายามทำเท่าไหร่ก็กลับไปจุดเดิม ทุกข์ซ้ำไปซ้ำมา ชีวิตเหมือนไร้จุดหมาย อยู่ไปวันๆ ไม่อยากทำอะไรเลย
นั่งไปนั่งมาหลังจากร้องไห้อีกยก ก็มาเจอหนังสือธรรมทานเล่มหนึ่งที่เคยอ่านผ่านตา แต่พออ่านอย่างลึกซึ้งก็พบว่า.......
"ที่เราทำอยู่ คือ การพยายามหนีความทุกข์ แต่หนียังไงก็ไม่พ้น เพราะทุกข์อยู่ที่ความคิดเรา"
เห็นรูปนี้แล้ว ทำให้เราเราคิดได้ว่า ต่อไปต้องทำอย่างไร
เวลามีคำถามมากมายในหัว ว่า "ทำไม...ทำไม...ทำไม..."
เราก็จะตอบตัวเองว่า "เรื่องมันได้เกิดขึ้นแล้ว มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เมื่อมีผล ก็ย่อมมีเหตุ...."
การที่เลิกราจากคนที่เรารัก จริงๆ มันล้วนมีเหตุของมัน
ไม่ต้องหนีอีกแล้วแค่ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง ที่จบไปแล้ว มันเป็นอดีตที่กลับไปแก้ไขไม่ได้
และจงประคับประคองตัวเอง ให้ผ่านด่านของความเจ็บปวดและความเสียใจนี้ไปให้ได้ แล้วสักวันเราจะพบแสงสว่าง
หลายคนบอกว่ายาก แต่อีกหลายคนก็บอกว่าผ่านมันมาได้
แล้วเราละ.....เราก็ต้องผ่านมันไปได้เหมือนกันใช่มั้ย
อยากให้หัวใจของทุกคนที่ผิดหวัง ได้เจอแสงสว่างเร็วๆนะคะ
ขอบคุณ A Thing Book สำหรับธรรมทานเล่มนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วเพื่อนๆ มีวิธีผ่านความเจ็บปวดนี้ยังไงคะ