ธ.ก.ส.ต่อชีวิตชาวนา ให้กู้วงเงิน 8 หมื่นล.

นายชัยวัฒน์ ปกป้อง ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. ได้ร่วมหารือกับ บก.ลายจุดวานนี้ (20 ก.พ.57) เกี่ยวกับแนวทางประชาชนช่วยถือใบประทวนร่วมกับชาวนา โดยชาวบ้านที่มีความพร้อม จะช่วยรับใบประทวน เพื่อจ่ายเงินครึ่งหนึ่งให้กับเกษตรกร แต่เมื่อได้รับเงินจากการระบายข้าวแล้ว จะต้องนำมาชำระคืนเจ้าของเงิน โดยไม่คิดดอกเบี้ย ดังนั้น จึงต้องการให้ ธ.ก.ส.เป็นตัวกลางดำเนินการแนวทางดังกล่าว

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า จากแนวทางดังกล่าว อาจทำให้มีปัญหาในเรื่องของการจัดลำดับความจำเป็นในการใช้เงินของชาวนา ส่วนแนวทางในการช่วยเหลือชาวนาเบื้องต้นได้ผ่อนชำระหนี้เดิมให้เกษตรกร เป็นระยะเวลา 6 เดือน และจะมีการปล่อยกู้ใหม่เพิ่มดอกเบี้ยร้อยละ 7 สำหรับผู้ต้องการเร่งใช้เงินเพื่อปลูกพืชฤดูกาลผลิตใหม่ โดยยอมรับแนวทางช่วยเหลือทั้งหมด และจะหารือให้เกิดความชัดเจน เพราะอยู่ระหว่างกฎหมายเลือกตั้งอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

ขณะเดียวกัน ธ.ก.ส.จะเร่งให้เจ้าหน้าที่ออกพบลูกค้าและหัวหน้ากลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจให้เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน โดยคนที่ได้ใบประทวนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินมาขอสินชื่อบรรเทาผลกระทบจากธ.ก.ส. ที่เบื้องต้นเตรียมวงเงินไว้ 5 หมื่นล้านบาท และพร้อมขยายเป็น 8 หมื่นล้านบาท หากได้รับความสนใจ โดยเกษตรกรสามารถขอสินเชื่อเพิ่มจากหลักประกันเดิมได้อีก 1 แสนบาทต่อราย คิดดอกเบี้ย 7% ต่อปี หรือเฉลี่ยเดือนละ 0.58% คิดแบบลดต้นลดดอก และเมื่อรวมกับวงเงินสินเชื่อในบัตรสินเชื่อเกษตรกรที่เปิดไว้ 5 หมื่นบาทต่อบัตร จะทำให้เกษตรกรกู้ได้ทั้งหมด 1.5 แสนบาทต่อราย

ขณะที่ นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า แนวทางดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ เพราะถือว่าเป็นความหวังดีของประชาชนที่ต้องการช่วยเหลือชาวนา เพื่อลดปัญหาให้กับชาวนา ถึงแม้ว่า จะเป็นรัฐบาลใดก็ต้องจ่ายเงินให้ชาวนาตามใบประทวน ซึ่งแนวทางดังกล่าว ธ.ก.ส.ได้ศึกษาไว้อยู่แล้วเหมือนกัน จึงพร้อมสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว

ส่วนแนวทางการออกพันธบัตรออมทรัพย์ ธ.ก.ส. นั้น ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ออกพันธบัตรในการระดมทุนเป็นปกติอยู่แล้ว รวมถึงพันธบัตรที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย คาดว่ากระทรวงการคลังเตรียมจัดหาให้ตามแผนงานในวันที่ 4 มีนาคมนี้ แต่ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดหาของกระทรวงการคลัง

ส่วนเงินกู้จากธนาคารออมสินวงเงิน 5,000 ล้านบาท ธ.ก.ส.ได้จัดส่งคืนให้กับธนาคารออมสินเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจาอัตราดอกเบี้ยร่วมกัน เพื่อคิดในอัตราที่เหมาะสมสำหรับธนาคารด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (20 กุมภาพันธ์ 2557) ธนาคารออมสินมียอดการฝากเงิน 12,000 ล้านบาท ถอนเงิน 13,700 บาท ติดลบ 1,700 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสถานการณ์เงินไหลออกของธนาคารออมสินเริ่มดีขึ้น หลังจากช่วง 3 วันที่ผ่านมาก่อนหน้านี้มียอดการถอนเงินออกอย่างหนัก

รวมยอดการถอนและฝากเงินของประชาชน ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา (17-20 กุมภาพันธ์ 2557) ธนาคารมีเงินไหลออกสุทธิ รวมประมาณ 60,900 ล้านบาท โดยมียอดถอนเงินรวม 105,700 ล้านบาท และยอดฝากเงินรวมอยู่ที่ 44,800 ล้านบาท

ทั้งนี้ ยอดการฝาก-ถอนเงิน เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ธนาคารออมสิน มียอดฝากเงิน 12,000 ล้านบาท ถอนเงิน 24,000 ล้านบาท สุทธิติดลบ 12,000 ล้านบาท

ขณะที่ 18 กุมภาพันธ์ มียอดฝากเงิน 10,800 ล้านบาท ถอนเงิน 38,000 ล้านบาท สุทธิติดลบ 27,200 ล้านบาท ส่วน 17 กุมภาพันธ์ มียอดฝาก 10,000 ล้านบาท และถอนเงิน 30,000 ล้านบาท สุทธิติดลบ 20,000 ล้านบาท.

เครดิต  http://www.thairath.co.th/content/eco/405101
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่