ไหมเมฆเฉกสายถนิมสร้อย
แพรลอยพลอยขาวราวมณีศิลป์
ท้องฟ้าดูเฉื่อยชาเหมือนชาชิน
ทวิชชาถวิลถิ่นบินรุดเร้า
ฟ้าเฟื่องเหลืองรุกอุกกาสี
สิ้นสำเนียงเสียงวลีสงัดเหงา
สรรพสิ่งนิ่งงันมีเพียงเงา
ตระมื่นเทาเหล่าแมกไม้ยังเฉยเมย
อึดอัดอัดอั้นบรรยากาศ
มาลุตลืมละวาดระบัดเผย
ติณชาติคู่ดินดั่งเช่นเคย
เจ้ายืนหยัดเหมือนเยาะเย้ยใยไพ
ผ่านวันพลันมหันตพายุโยก
ลมฝนสิกรรโชกกระชากไหว
ฉุดดินฉุดฟ้าทลวงทะลาย
ไม้ใหญ่ไถลถลนฝนคนอง
กลุ่มเกลียงกลิ่นติณอยู่สู้ไม่ถอย
ค้อมตัวคอยคมพายุเสนอสนอง
ทุกสิ่งสิ้นภิณพ่ายปราชัยครอง
เหลือบเหลียวมองหมู่หญ้ายังเขียวขจี.
""""""""""""""""
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
๑๑๑ อุกกาอุกกฤษฏ์กร้าว ๑๑๑
ไหมเมฆเฉกสายถนิมสร้อย
แพรลอยพลอยขาวราวมณีศิลป์
ท้องฟ้าดูเฉื่อยชาเหมือนชาชิน
ทวิชชาถวิลถิ่นบินรุดเร้า
ฟ้าเฟื่องเหลืองรุกอุกกาสี
สิ้นสำเนียงเสียงวลีสงัดเหงา
สรรพสิ่งนิ่งงันมีเพียงเงา
ตระมื่นเทาเหล่าแมกไม้ยังเฉยเมย
อึดอัดอัดอั้นบรรยากาศ
มาลุตลืมละวาดระบัดเผย
ติณชาติคู่ดินดั่งเช่นเคย
เจ้ายืนหยัดเหมือนเยาะเย้ยใยไพ
ผ่านวันพลันมหันตพายุโยก
ลมฝนสิกรรโชกกระชากไหว
ฉุดดินฉุดฟ้าทลวงทะลาย
ไม้ใหญ่ไถลถลนฝนคนอง
กลุ่มเกลียงกลิ่นติณอยู่สู้ไม่ถอย
ค้อมตัวคอยคมพายุเสนอสนอง
ทุกสิ่งสิ้นภิณพ่ายปราชัยครอง
เหลือบเหลียวมองหมู่หญ้ายังเขียวขจี.
""""""""""""""""
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต