มายากลเรื่อง Letter of Comfort
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แม้ว่า ผู้อำนวยการธนาคารออมสินจะลาออกแล้ว หลังจากที่มีผู้คนแห่แหนไปถอนเงิน เพราะว่าไม่พอใจที่ธนาคารรัฐแห่งนี้
มีส่วนในการที่จะร่วมขบวนการ “ซิกแซ็ก” ของรัฐบาลในการหาเงินมาจ่ายชาวนาในโครงการจำนำข้าว แต่บทเรียนเรื่องนี้จะจารึกกับสังคมไทยไปอีกนาน
กรณีที่ ธนาคารออมสิน ให้ ธ.ก.ส. กู้ 5,000 ล้านบาท ผ่านระบบ interbank หรือ ระหว่างธนาคาร มีคำว่า Letter of Comfort เกิดเป็นข่าว ทำให้ผู้คนถามไถ่กันว่ามันมีความหมายอย่างไร ต่างกับ Letter of Guarantee อย่างไร?
วิธีการอันแยบยลแต่ไม่ค่อยมิดชิดของกระทรวงการคลัง ในการพยายามจะหาเงินกู้จากธนาคาร มาจ่ายเงินที่ค้างชาวนาจากโครงการจำนำข้าว กลายเป็น “ห้องเรียน” สำหรับการเรียนรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ ด้วยกลเม็ดเด็ดพรายที่ซ่อนเร้นอย่างน่าสงสัยหลายประการด้วยกัน
เพราะว่ารัฐบาลใช้เงินหลายแสนล้านในโครงการนี้ ซื้อข้าวราคาแพงกว่าราคาตลาด ทำให้ขาดทุนป่นปี้และบิดเบือนกลไกตลาด จนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวเกรียวกราว เมื่อยุบสภาแล้ว กลายเป็นรัฐบาลรักษาการ จะกู้เงินมาจ่ายชาวนาไม่ได้ เพราะว่าจะเป็นการสร้างความผูกพันให้กับรัฐบาลใหม่
เริ่มด้วย กระทรวงการคลัง ประกาศเชิญชวนให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารรัฐมาเสนอให้รัฐบาลกู้ แต่ไม่มีใครกล้ามาเสนอ เพราะกลัวว่าจะมีส่วนร่วมกระทำความผิดด้วย
ที่สำคัญ คือ ประชาชนที่รู้แจ้งเห็นจริงจับตาดูความเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และประกาศว่าหากแบงก์ไหนให้รัฐบาลกู้จะถอนเงินฝากออก เพราะว่าไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจธนาคารนั้นอีก
แต่ กระทรวงการคลัง ก็พยายามดิ้นรนต่อไป เพราะว่าชาวนามารวมตัวกันเรียกร้องให้จ่ายค่าข้าวที่รัฐบาลรับไปแล้ว แต่ค้างจ่ายมา 5-6 เดือนแล้ว (ตั้งแต่ก่อนยุบสภา) จึงหาวิธีการต่างๆ ที่จะหาเงินกู้มาให้ได้
ล่าสุด ที่ทำให้ผู้คนแห่กันไปถอนเงินฝากจากธนาคารออมสิน ก็เพราะว่าธนาคารแห่งนี้ประกาศว่าจะปล่อยเงินกู้ระหว่างธนาคาร หรือ interbank lending ให้แก่ ธ.ก.ส. จำนวน 5,000 ล้านบาท เป็นงวดแรก โดยมีเป้าทั้งหมดที่ 20,000 ล้านบาท
เหตุผลทางการของออมสินที่ให้กู้ คือ เพื่อช่วย “สภาพคล่อง” ของ ธ.ก.ส.
ทั้งๆ ที่ ธ.ก.ส. พูดมาตลอดว่าตนไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง แต่ได้จ่ายเงินให้ชาวนาในโครงการจำนำข้าวเต็มเพดานที่ตกลงกับกระทรวงการคลังแล้ว
ที่ขบขันมากกว่านั้น ก็คือ ผู้บริหารของออมสินบอกนักข่าวว่า ไม่ถาม ธ.ก.ส. ว่าเอาเงินกู้ 5,000 ล้านนี้ไปทำอะไร แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว
แต่ยอมรับว่ากระทรวงการคลังเป็นผู้ “จัดแจง” ให้มีการทำเรื่องนี้
ผู้บริหาร ธ.ก.ส. บอกว่าเงินก้อนนี้เอาเข้าในบัญชี “โครงการรัฐ” ซึ่งเท่ากับยอมรับว่าเป็นการเอาเงินนี้ไปจ่ายชาวนา
และมีข่าวว่ากระทรวงการคลังได้บอกไปที่ ธ.ก.ส. ว่าไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นภาระของตนเอง กระทรวงฯ จะต้องดูแลให้ โดยมีการเสนอให้ดูร่าง Letter of Comfort ให้กับผู้บริหาร ธ.ก.ส. แต่ไม่ได้ยื่นมอบเอกสารนี้แต่อย่างใด
ถามว่า Letter of Comfort คืออะไร? คำตอบคือเป็น “จดหมายให้ความอุ่นใจ” ที่ไม่มีผลทางกฎหมายผูกมัดให้กระทรวงการคลัง ต้องจ่ายเงินกู้คืนออมสินแทน ธ.ก.ส. หากเกิดกรณีที่มีปัญหาที่จะจ่ายคืน
Letter of Comfort ย่อมไม่ใช่ Letter of Guarantee เพราะอย่างหลังนี้เป็นการ “ค้ำประกัน” เต็มตัว ใครที่เซ็น LG จะต้องรับผิดชอบจ่ายหนี้แทนในกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถจะจ่ายเจ้าหนี้ได้ แต่ Letter of Comfort เป็นเพียงแค่เอกสารที่ให้ความสบายใจ รับปากจะ “ดูแลให้” แต่ไม่มีผลทางกฎหมายที่จะต้องค้ำประกัน
จึงอาจเป็นทางหนึ่งที่รัฐบาลจะใช้เป็นการหลบหลีกกฎเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะว่ารัฐบาลรักษาการไม่อาจจะสร้างภาระผูกพันทางการเงินไปถึงรัฐบาลใหม่ได้ แต่เมื่อต้องหาทางให้ธนาคารรัฐปล่อยเงินออกมา จึงต้องอ้อมไปที่ออมสินเพื่อให้ผ่าน ธ.ก.ส. โดยที่กระทรวงการคลังไม่ต้องเล่นบทเป็นผู้ค้ำประกัน
แน่นอนว่า เมื่อผู้คนแห่ออกมาถอนเงินฝากจากออมสินมากมายขนาดนี้ ก็ทำให้ออมสินต้องออกมาประกาศยกเลิกเรื่องนี้ไป
ข่าวบอกว่า กระทรวงการคลัง อาจกำลังคิดจะออกพันธบัตรรัฐบาล เพื่อขายให้รัฐวิสาหกิจ เช่น สำนักงานสลากกินแบ่ง และ การท่าอากาศยาน
หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เป็นการสร้างหนี้ของรัฐบาลอีกรูปแบบหนึ่ง ก็หนีไม่พ้นกรอบของข้อห้ามในรัฐธรรมนูญอีกนั่นแล
มายากลทางการเงินการคลังนั้น ไม่ว่าจะใช้หลอกคนดูอย่างแนบเนียนเพียงใด ก็ยังเป็นมายากลอยู่ดี ไม่อาจจะใช้กับโลกแห่งความเป็นจริง ที่มีผู้คนตรวจสอบทุกความเคลื่อนไหว...ได้เป็นอันขาด
คัดลอกจาก
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/suthichaiyoon/20140220/564336/%C3%81%C3%92%C3%82%D2%A1%C3%85%C3%A0%C3%83%C3%97%C3%A8%CD%A7-Letter-of-Comfort.html
มายากลเรื่อง Letter of Comfort
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แม้ว่า ผู้อำนวยการธนาคารออมสินจะลาออกแล้ว หลังจากที่มีผู้คนแห่แหนไปถอนเงิน เพราะว่าไม่พอใจที่ธนาคารรัฐแห่งนี้
มีส่วนในการที่จะร่วมขบวนการ “ซิกแซ็ก” ของรัฐบาลในการหาเงินมาจ่ายชาวนาในโครงการจำนำข้าว แต่บทเรียนเรื่องนี้จะจารึกกับสังคมไทยไปอีกนาน
กรณีที่ ธนาคารออมสิน ให้ ธ.ก.ส. กู้ 5,000 ล้านบาท ผ่านระบบ interbank หรือ ระหว่างธนาคาร มีคำว่า Letter of Comfort เกิดเป็นข่าว ทำให้ผู้คนถามไถ่กันว่ามันมีความหมายอย่างไร ต่างกับ Letter of Guarantee อย่างไร?
วิธีการอันแยบยลแต่ไม่ค่อยมิดชิดของกระทรวงการคลัง ในการพยายามจะหาเงินกู้จากธนาคาร มาจ่ายเงินที่ค้างชาวนาจากโครงการจำนำข้าว กลายเป็น “ห้องเรียน” สำหรับการเรียนรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ ด้วยกลเม็ดเด็ดพรายที่ซ่อนเร้นอย่างน่าสงสัยหลายประการด้วยกัน
เพราะว่ารัฐบาลใช้เงินหลายแสนล้านในโครงการนี้ ซื้อข้าวราคาแพงกว่าราคาตลาด ทำให้ขาดทุนป่นปี้และบิดเบือนกลไกตลาด จนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวเกรียวกราว เมื่อยุบสภาแล้ว กลายเป็นรัฐบาลรักษาการ จะกู้เงินมาจ่ายชาวนาไม่ได้ เพราะว่าจะเป็นการสร้างความผูกพันให้กับรัฐบาลใหม่
เริ่มด้วย กระทรวงการคลัง ประกาศเชิญชวนให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารรัฐมาเสนอให้รัฐบาลกู้ แต่ไม่มีใครกล้ามาเสนอ เพราะกลัวว่าจะมีส่วนร่วมกระทำความผิดด้วย
ที่สำคัญ คือ ประชาชนที่รู้แจ้งเห็นจริงจับตาดูความเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และประกาศว่าหากแบงก์ไหนให้รัฐบาลกู้จะถอนเงินฝากออก เพราะว่าไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจธนาคารนั้นอีก
แต่ กระทรวงการคลัง ก็พยายามดิ้นรนต่อไป เพราะว่าชาวนามารวมตัวกันเรียกร้องให้จ่ายค่าข้าวที่รัฐบาลรับไปแล้ว แต่ค้างจ่ายมา 5-6 เดือนแล้ว (ตั้งแต่ก่อนยุบสภา) จึงหาวิธีการต่างๆ ที่จะหาเงินกู้มาให้ได้
ล่าสุด ที่ทำให้ผู้คนแห่กันไปถอนเงินฝากจากธนาคารออมสิน ก็เพราะว่าธนาคารแห่งนี้ประกาศว่าจะปล่อยเงินกู้ระหว่างธนาคาร หรือ interbank lending ให้แก่ ธ.ก.ส. จำนวน 5,000 ล้านบาท เป็นงวดแรก โดยมีเป้าทั้งหมดที่ 20,000 ล้านบาท
เหตุผลทางการของออมสินที่ให้กู้ คือ เพื่อช่วย “สภาพคล่อง” ของ ธ.ก.ส.
ทั้งๆ ที่ ธ.ก.ส. พูดมาตลอดว่าตนไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง แต่ได้จ่ายเงินให้ชาวนาในโครงการจำนำข้าวเต็มเพดานที่ตกลงกับกระทรวงการคลังแล้ว
ที่ขบขันมากกว่านั้น ก็คือ ผู้บริหารของออมสินบอกนักข่าวว่า ไม่ถาม ธ.ก.ส. ว่าเอาเงินกู้ 5,000 ล้านนี้ไปทำอะไร แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว
แต่ยอมรับว่ากระทรวงการคลังเป็นผู้ “จัดแจง” ให้มีการทำเรื่องนี้
ผู้บริหาร ธ.ก.ส. บอกว่าเงินก้อนนี้เอาเข้าในบัญชี “โครงการรัฐ” ซึ่งเท่ากับยอมรับว่าเป็นการเอาเงินนี้ไปจ่ายชาวนา
และมีข่าวว่ากระทรวงการคลังได้บอกไปที่ ธ.ก.ส. ว่าไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นภาระของตนเอง กระทรวงฯ จะต้องดูแลให้ โดยมีการเสนอให้ดูร่าง Letter of Comfort ให้กับผู้บริหาร ธ.ก.ส. แต่ไม่ได้ยื่นมอบเอกสารนี้แต่อย่างใด
ถามว่า Letter of Comfort คืออะไร? คำตอบคือเป็น “จดหมายให้ความอุ่นใจ” ที่ไม่มีผลทางกฎหมายผูกมัดให้กระทรวงการคลัง ต้องจ่ายเงินกู้คืนออมสินแทน ธ.ก.ส. หากเกิดกรณีที่มีปัญหาที่จะจ่ายคืน
Letter of Comfort ย่อมไม่ใช่ Letter of Guarantee เพราะอย่างหลังนี้เป็นการ “ค้ำประกัน” เต็มตัว ใครที่เซ็น LG จะต้องรับผิดชอบจ่ายหนี้แทนในกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถจะจ่ายเจ้าหนี้ได้ แต่ Letter of Comfort เป็นเพียงแค่เอกสารที่ให้ความสบายใจ รับปากจะ “ดูแลให้” แต่ไม่มีผลทางกฎหมายที่จะต้องค้ำประกัน
จึงอาจเป็นทางหนึ่งที่รัฐบาลจะใช้เป็นการหลบหลีกกฎเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะว่ารัฐบาลรักษาการไม่อาจจะสร้างภาระผูกพันทางการเงินไปถึงรัฐบาลใหม่ได้ แต่เมื่อต้องหาทางให้ธนาคารรัฐปล่อยเงินออกมา จึงต้องอ้อมไปที่ออมสินเพื่อให้ผ่าน ธ.ก.ส. โดยที่กระทรวงการคลังไม่ต้องเล่นบทเป็นผู้ค้ำประกัน
แน่นอนว่า เมื่อผู้คนแห่ออกมาถอนเงินฝากจากออมสินมากมายขนาดนี้ ก็ทำให้ออมสินต้องออกมาประกาศยกเลิกเรื่องนี้ไป
ข่าวบอกว่า กระทรวงการคลัง อาจกำลังคิดจะออกพันธบัตรรัฐบาล เพื่อขายให้รัฐวิสาหกิจ เช่น สำนักงานสลากกินแบ่ง และ การท่าอากาศยาน
หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เป็นการสร้างหนี้ของรัฐบาลอีกรูปแบบหนึ่ง ก็หนีไม่พ้นกรอบของข้อห้ามในรัฐธรรมนูญอีกนั่นแล
มายากลทางการเงินการคลังนั้น ไม่ว่าจะใช้หลอกคนดูอย่างแนบเนียนเพียงใด ก็ยังเป็นมายากลอยู่ดี ไม่อาจจะใช้กับโลกแห่งความเป็นจริง ที่มีผู้คนตรวจสอบทุกความเคลื่อนไหว...ได้เป็นอันขาด
คัดลอกจาก http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/suthichaiyoon/20140220/564336/%C3%81%C3%92%C3%82%D2%A1%C3%85%C3%A0%C3%83%C3%97%C3%A8%CD%A7-Letter-of-Comfort.html