ก่อนอื่นขอบอกเลยค่ะว่าดิฉันเป็นพนักงานธนาคารสีชมพู จากเหตุการณ์ที่ประชาชนแห่ถอนเงินกันที่ธนาคารจำนวนมาก
ซึ่งแต่ละคนก็ถอนเงินด้วยสาเหตุที่แตกต่างกัน บางคนถอนเพราะผู้บริหารปล่อยกู้ บางคนต้องการแสดงจุดยืนทาง
การเมือง บางคนถอนจากข่าวลือแบงค์จะล่ม แต่ไม่ว่าลูกค้าจะแห่มาถอนเงินกันด้วยเหตุผลอะไร เราก็ให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดี
แม้จะมีลูกค้าบางคนมาด่ามาว่าพนักงานที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่เราก็ต้องอดทน ทนฟังเขาด่าเขาว่าเขาย่ำยีธนาคารที่เรารัก
หลายต่อหลายครั้งที่เราต้องนั่งถอนเงินไปน้ำตาเอ่อนองไป ธนาคารที่มีอายุตั้ง 100 ปี ที่เกิดจากองค์รัชกาลที่6 ทรงก่อตั้งขึ้นจากทรัพย์
ส่วนพระองค์ 100,000 บาท เติบโต เจริญก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ กำลังโดนกระแสทางการเมืองทำร้าย พวกเราไม่เคยโกรธ และต่างเข้าใจ
ลูกค้าที่ถอนไปเพราะไม่พอใจการปล่อยกู้ ไม่พอใจคำพูดของผู้บริหาร และขอขอบคุณลูกค้าหลายๆท่านที่เข้าใจว่าเราเป็นแค่พนักงานธรรมดา
ที่ไม่มีสิทธิ์ มีเสียง ไม่มีส่วนรู้เห็นในการอนุมัติปล่อยกู้แต่อย่างใด ลูกค้าหลายๆ ท่านที่ถอนเงินแล้วมีน้ำใจบอกเราว่า ให้สถานการณ์ดีกว่านี้ แล้ว
จะเอามาฝากใหม่ หรือเอาออกไปฝากที่อื่นช่วงสั้นๆนะเดี๋ยวเอามาคืน คุณรู้ไหมค่ะ คำพูดของคุณแค่นี้มันทำให้เราซาบซึ้งแค่ไหน
จากการสอบถามลูกค้าทำให้ทราบว่าเกิดข่าวลือว่าแบงค์จะล่ม ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย บางคนถึงขนาดถ่ายรูปคนแห่ถอนเงินโพสต์ในเฟสบุ๊คบ้าง
อินสตาแกรมบ้าง ยิ่งทำให้เกิดกระแสกันขึ้นไปใหญ่ บางคนโพสต์เสียๆหายๆเรื่องการจ่ายแคชเชียร์ปล่อยข่าวลือว่าเหมือนใบประทวนข้าว ซึ่งมันไม่ใช่เลย
แคชเชียร์เช็คสามารถฝากเข้าบัญชีได้เพียงแค่รอเคลียริ่งเท่านั้น และการคิดดอกเบี้ยก็คิดให้ณ วันรับฝาก และสาเหตุที่ในช่วงวันแรกๆ ธนาคารจ่ายแคชเชียร์เช็ค
เพราะสำรองเงินสดไว้ไม่เพียงพอ แต่ขณะนี้ลูกค้ามาถอนเงินก็ได้รับเงินสดทุกท่าน บางคนโพสต์เรื่องการถอนเงินต้องเขียนว่า ปิดบัญชีเท่านั้น ธนาคารจึงจะจ่ายดอกเบี้ยให้
ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ได้ดอกเบี้ย ซึ่งก็เป็นการสร้างความสับสนให้ลูกค้าอีก ลูกค้าบางท่านไม่ได้ต้องการจะปิดบัญชี ต้องการถอนบางส่วน แต่กลัวจะไม่ได้ดอกเบี้ย ก็เลยเขียนปิดบัญชี
ตามที่ไปอ่านเจอ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถ้าลูกค้าประสงค์จะปิดบัญชีจริงๆ แม้ไม่เขียนว่าปิดบัญชีในช่องยอดเงิน ธนาคารก็ทำการปิดบัญชีจ่ายทั้งต้นทั้งดอกให้ ไม่ได้
หมกเม็ดจ่ายเฉพาะต้นอย่างที่ถูกกล่าวหาเลย
นอกจากนี้ยังโดนโยงเข้าประเด็นทางการเมืองบ้างว่าฝั่งเสื้อแดงจะช่วยกันฝาก กลับกลายเป็นว่าแบงค์สีชมพูโดนกปปส. รุมถอน เสื้อแดงช่วยกันฝาก แบงค์สีชมพู
กลายเป็นเสื้อแเงซะงั้น หยุดเถอะค่ะอย่าเอาไปโยงกันเลย
ดิฉันจึงขอวิงวอน เพียงแค่ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าอะไรมันเป็นเรื่องจริงรึป่าว กรุณาอย่าพูดต่อ โพสต์ แชร์ กันเลยค่ะ องกรณ์ใคร ใครก็รัก
ซ้ำร้ายกว่านั้น ยังมีการกระทำของแบงค์พาณิชย์บางสาขา บางธนาคาร มายืนเชิญชวนลูกค้าถึงในธนาคาร และที่ดิฉันโดนมากับตัวเองก็คือ ดิฉันเคยอยู่แบงค์เอกชนมาก่อน
หัวหน้าเก่าไลน์เข้ามาถามว่ามีลูกค้ารายใหญ่ของดิฉันมาถอนบ้างรึป่าว ให้ดิฉันชักชวนไปฝากกับธนาคารของหัวหน้าเก่า แล้วแกจะเลี้ยงข้าวตอบแทน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแต่ดิฉันเท่านั้น
พนักงานแบงค์สีชมพูที่เคยทำงานแบงค์เอกชนหลายต่อหลายคนก็โดนเช่นกัน ถามหน่อยเถอะค่ะ
พวกคุณเห็นแก่ตัวกันเกินไปรึป่าว นอกจากความสงสารเห็นใจในเพื่อนร่วมอาชีพจะไม่มีแล้ว คุณยังไร้จรรยาบรรณที่สุด
ดิฉันเองเป็นแค่พนักงานธรรมดาคนนึง ดิฉันเพียงแค่อยากช่วยเหลือ และทำอะไรให้องกรณ์ที่ดิฉันรักบ้างซึ่งทำอะไรไม่ได้มากนอกจากขอวิงวอนจากใจจริงค่ะ
ว่าด้วยเรื่องแห่ถอนเงินธนาคารออมสิน จากมุมมองคนหัวใจสีชมพู
ซึ่งแต่ละคนก็ถอนเงินด้วยสาเหตุที่แตกต่างกัน บางคนถอนเพราะผู้บริหารปล่อยกู้ บางคนต้องการแสดงจุดยืนทาง
การเมือง บางคนถอนจากข่าวลือแบงค์จะล่ม แต่ไม่ว่าลูกค้าจะแห่มาถอนเงินกันด้วยเหตุผลอะไร เราก็ให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดี
แม้จะมีลูกค้าบางคนมาด่ามาว่าพนักงานที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่เราก็ต้องอดทน ทนฟังเขาด่าเขาว่าเขาย่ำยีธนาคารที่เรารัก
หลายต่อหลายครั้งที่เราต้องนั่งถอนเงินไปน้ำตาเอ่อนองไป ธนาคารที่มีอายุตั้ง 100 ปี ที่เกิดจากองค์รัชกาลที่6 ทรงก่อตั้งขึ้นจากทรัพย์
ส่วนพระองค์ 100,000 บาท เติบโต เจริญก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ กำลังโดนกระแสทางการเมืองทำร้าย พวกเราไม่เคยโกรธ และต่างเข้าใจ
ลูกค้าที่ถอนไปเพราะไม่พอใจการปล่อยกู้ ไม่พอใจคำพูดของผู้บริหาร และขอขอบคุณลูกค้าหลายๆท่านที่เข้าใจว่าเราเป็นแค่พนักงานธรรมดา
ที่ไม่มีสิทธิ์ มีเสียง ไม่มีส่วนรู้เห็นในการอนุมัติปล่อยกู้แต่อย่างใด ลูกค้าหลายๆ ท่านที่ถอนเงินแล้วมีน้ำใจบอกเราว่า ให้สถานการณ์ดีกว่านี้ แล้ว
จะเอามาฝากใหม่ หรือเอาออกไปฝากที่อื่นช่วงสั้นๆนะเดี๋ยวเอามาคืน คุณรู้ไหมค่ะ คำพูดของคุณแค่นี้มันทำให้เราซาบซึ้งแค่ไหน
จากการสอบถามลูกค้าทำให้ทราบว่าเกิดข่าวลือว่าแบงค์จะล่ม ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย บางคนถึงขนาดถ่ายรูปคนแห่ถอนเงินโพสต์ในเฟสบุ๊คบ้าง
อินสตาแกรมบ้าง ยิ่งทำให้เกิดกระแสกันขึ้นไปใหญ่ บางคนโพสต์เสียๆหายๆเรื่องการจ่ายแคชเชียร์ปล่อยข่าวลือว่าเหมือนใบประทวนข้าว ซึ่งมันไม่ใช่เลย
แคชเชียร์เช็คสามารถฝากเข้าบัญชีได้เพียงแค่รอเคลียริ่งเท่านั้น และการคิดดอกเบี้ยก็คิดให้ณ วันรับฝาก และสาเหตุที่ในช่วงวันแรกๆ ธนาคารจ่ายแคชเชียร์เช็ค
เพราะสำรองเงินสดไว้ไม่เพียงพอ แต่ขณะนี้ลูกค้ามาถอนเงินก็ได้รับเงินสดทุกท่าน บางคนโพสต์เรื่องการถอนเงินต้องเขียนว่า ปิดบัญชีเท่านั้น ธนาคารจึงจะจ่ายดอกเบี้ยให้
ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ได้ดอกเบี้ย ซึ่งก็เป็นการสร้างความสับสนให้ลูกค้าอีก ลูกค้าบางท่านไม่ได้ต้องการจะปิดบัญชี ต้องการถอนบางส่วน แต่กลัวจะไม่ได้ดอกเบี้ย ก็เลยเขียนปิดบัญชี
ตามที่ไปอ่านเจอ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถ้าลูกค้าประสงค์จะปิดบัญชีจริงๆ แม้ไม่เขียนว่าปิดบัญชีในช่องยอดเงิน ธนาคารก็ทำการปิดบัญชีจ่ายทั้งต้นทั้งดอกให้ ไม่ได้
หมกเม็ดจ่ายเฉพาะต้นอย่างที่ถูกกล่าวหาเลย
นอกจากนี้ยังโดนโยงเข้าประเด็นทางการเมืองบ้างว่าฝั่งเสื้อแดงจะช่วยกันฝาก กลับกลายเป็นว่าแบงค์สีชมพูโดนกปปส. รุมถอน เสื้อแดงช่วยกันฝาก แบงค์สีชมพู
กลายเป็นเสื้อแเงซะงั้น หยุดเถอะค่ะอย่าเอาไปโยงกันเลย
ดิฉันจึงขอวิงวอน เพียงแค่ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าอะไรมันเป็นเรื่องจริงรึป่าว กรุณาอย่าพูดต่อ โพสต์ แชร์ กันเลยค่ะ องกรณ์ใคร ใครก็รัก
ซ้ำร้ายกว่านั้น ยังมีการกระทำของแบงค์พาณิชย์บางสาขา บางธนาคาร มายืนเชิญชวนลูกค้าถึงในธนาคาร และที่ดิฉันโดนมากับตัวเองก็คือ ดิฉันเคยอยู่แบงค์เอกชนมาก่อน
หัวหน้าเก่าไลน์เข้ามาถามว่ามีลูกค้ารายใหญ่ของดิฉันมาถอนบ้างรึป่าว ให้ดิฉันชักชวนไปฝากกับธนาคารของหัวหน้าเก่า แล้วแกจะเลี้ยงข้าวตอบแทน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแต่ดิฉันเท่านั้น
พนักงานแบงค์สีชมพูที่เคยทำงานแบงค์เอกชนหลายต่อหลายคนก็โดนเช่นกัน ถามหน่อยเถอะค่ะ
พวกคุณเห็นแก่ตัวกันเกินไปรึป่าว นอกจากความสงสารเห็นใจในเพื่อนร่วมอาชีพจะไม่มีแล้ว คุณยังไร้จรรยาบรรณที่สุด
ดิฉันเองเป็นแค่พนักงานธรรมดาคนนึง ดิฉันเพียงแค่อยากช่วยเหลือ และทำอะไรให้องกรณ์ที่ดิฉันรักบ้างซึ่งทำอะไรไม่ได้มากนอกจากขอวิงวอนจากใจจริงค่ะ