สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เราก็เคยผ่านเหตุการณ์คล้ายคุณค่ะ
ของเรานะแต่งงานได้แค่ 1 เดือนเท่านั้นล่ะ
เค้าก็ด่าว่าแม่เรา ไม่ให้เงินใช้อีก เราเห็นว่ามันแปลก ๆ
ลืมบอกไปว่าตอนที่แต่งงานนั้นก็แต่งกันมีผู้ใหญ่ สังคมรับรุ้นะ
แฟนเป็นคนสระแก้ว เราเป็นคนเหนือ แต่งได้แค่เดือนเดียว
สิ่งที่เราผิดสังเกตก็คือ เค้าพยายามพูดในเชิงที่ไม่อยากเอาเงินไปให้แม่ ไม่อยากให้ติดต่อครอบครัว
จะให้เอาเงินที่เราหาได้มาเก็บกับเค้า โดยที่เค้าไม่ให้เงินเราใช้สักบาท แต่ยังจะเอาเงินเราไปอีก
(เค้าเปิดร้านของของได้เดือนและหลายหมื่น แต่เราทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเราได้ 8,000)
เค้าก็ยังอยากได้ของเราอีก เราเห็นว่าเค้าคุยแปลก ๆ เริ่มไม่สู้ดีค่ะ
สุดท้ายมาเราก็หนีเก็บของล่ะ เค้าโมโหมากเลย โทรมาด่าแม่เราหยาบคาบที่สุด
เราพยายามจะออกมา เขาทำร้ายเราค่ะ จนในที่สุดเราต้องก้มกราบเท้าเค้า ขอชีวิตไว้
แม่เราทนไม่ไหวรีบเดินทางมารับเราอย่างเร็วที่สุดหลังจากนั้นเลย
ระหว่างรอแม่ เราก็แกล้งทำเป็นเงียบ ๆ นะ ทำตัวนิ่ง ๆ ไม่หนี ไม่เก็บของค่ะ
เพราะเราก็รักชีวิตของเรานะ รักแม่ด้วย ถ้าเราเป็นอะไร เกิดมันฆ่าเราขึ้นมา แล้วเราแล้วแม่จะอยู่อย่างไร
ไม่นานเกินรอ 12 ชม. แม่มารับเราพร้อมกับญาติ ๆ เรารีบวิ่งหนีขึ้นรถอย่างไม่เก็บของอะไรทั้งนั้นค่ะ
มีแต่กระเป๋าเงิน เอกสารสำคัญต่าง ๆ เท่านั้น เสื้อผ้าอะไรทิ้งหมดเลยล่ะ
เราก็กลับมาอยู่บ้าน อยู่กับแม่ อยู่บ้านของเรา ชีวิตของเรา มีอิสระภาพ
อยู่ท้องถิ่นทางเหนือ อากาศบ้านเรา ทุกอย่างเป็นตัวเรา เพราะเราเกิดมาจากที่นี้
ครั้งแรกหลังจาก 1 เดือน ที่เรากลับมาบ้าน น้ำตาแทบไหล เราคิดถึงบ้านเรา คิดถึงครอบครัว
คิดถึงแม่ คิดถึงสิ่งดี ๆ ที่ญาติมีให้เรา แต่เรากลับตาบอดเองที่หนีพวกเค้าไป ๆ อยู่ที่ไกล ๆ มาก ๆ
เรารู้สึกผิดมาก ทุกคนให้อภัยเราหมดค่ะ เรากลับมาแล้วก็ดีใจมากเลย มีความสุขนับแต่วินาทีนั้นค่ะ
สุขใจที่ได้กลับมาอยู่บ้าน ได้มานั่งสมาธิ ได้ทำงานอย่างเงียบสงบ
อยากจะบอกว่าวันแรกเลยล่ะที่กลับมา ก็ไม่เคยคิดถึง ไม่เคยคิดกลับไปหาเค้าอีกเลยค่ะ
ถึงแม้จะต้องอยู่คนเดียว แต่สิ่งแวดล้อมทำให้เรามีความสุข เราไม่เคยคิดรับสาย
ไม่คิดจะติดต่อไป หรืออะไรทั้งนั้น
ตอนนี้ผ่านมาได้ 3 ปีแล้วค่ะ เราให้เวลากับครอบครัว พระพุทธศาสนา สังคมบ้านเรา
ท้องเที่ยงเรื่อย ทำงานพัฒนางานส่วนตัวเรานะ จนมีเวลาให้ทุกอย่าง
งานก็พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทุกอย่างสุขใจหมดค่ะ
นี้เรื่องของเรานะ ผ่านมาแล้ว เราก็คิดว่าจากวันนั้นมาวันนี้เราคิดถูกมากเลยที่เดินออกมาค่ะ
คนไม่ดีอยู่ไปก้เท่านั้นค่ะ ดูอรา 1 เดือน ชาวบ้านจะว่านินทาแล้วแต่ไม่สนใจค่ะ
เราสุขใจที่ได้อยู่กับครอบครัวของเรา คิดอย่างนี้ดีกว่า คนมันไม่ดีคิดถึงเรื่องไม่ดีมันค่ะ
เราก็ตัดใจได้เอง เกิดอยู่ต่อไปเอาโรคมาปล่อยเราจะทำอย่างไรค่ะ
เพราะอนาคตและชีวิตเป็นของเรา หากทำร้ายร่างกายเรา ๆ จะอยู่ไปเผื่ออะไร
อนาคตเราจะมีใหม่หรือไม่มีก็ไม่สำคัญค่ะ วันนี้เราได้อยู่ในที่ ๆ เรามีความสุขก็สุขที่สุดแล้วค่ะ
คุณเองก็มีลูกน้อย ๆ ไม่เป็นไรค่ะ น้องคนเดียว single mem มีเยอะแยะไปค่ะ
เป็นกำลังใจนะค่ะ
ของเรานะแต่งงานได้แค่ 1 เดือนเท่านั้นล่ะ
เค้าก็ด่าว่าแม่เรา ไม่ให้เงินใช้อีก เราเห็นว่ามันแปลก ๆ
ลืมบอกไปว่าตอนที่แต่งงานนั้นก็แต่งกันมีผู้ใหญ่ สังคมรับรุ้นะ
แฟนเป็นคนสระแก้ว เราเป็นคนเหนือ แต่งได้แค่เดือนเดียว
สิ่งที่เราผิดสังเกตก็คือ เค้าพยายามพูดในเชิงที่ไม่อยากเอาเงินไปให้แม่ ไม่อยากให้ติดต่อครอบครัว
จะให้เอาเงินที่เราหาได้มาเก็บกับเค้า โดยที่เค้าไม่ให้เงินเราใช้สักบาท แต่ยังจะเอาเงินเราไปอีก
(เค้าเปิดร้านของของได้เดือนและหลายหมื่น แต่เราทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเราได้ 8,000)
เค้าก็ยังอยากได้ของเราอีก เราเห็นว่าเค้าคุยแปลก ๆ เริ่มไม่สู้ดีค่ะ
สุดท้ายมาเราก็หนีเก็บของล่ะ เค้าโมโหมากเลย โทรมาด่าแม่เราหยาบคาบที่สุด
เราพยายามจะออกมา เขาทำร้ายเราค่ะ จนในที่สุดเราต้องก้มกราบเท้าเค้า ขอชีวิตไว้
แม่เราทนไม่ไหวรีบเดินทางมารับเราอย่างเร็วที่สุดหลังจากนั้นเลย
ระหว่างรอแม่ เราก็แกล้งทำเป็นเงียบ ๆ นะ ทำตัวนิ่ง ๆ ไม่หนี ไม่เก็บของค่ะ
เพราะเราก็รักชีวิตของเรานะ รักแม่ด้วย ถ้าเราเป็นอะไร เกิดมันฆ่าเราขึ้นมา แล้วเราแล้วแม่จะอยู่อย่างไร
ไม่นานเกินรอ 12 ชม. แม่มารับเราพร้อมกับญาติ ๆ เรารีบวิ่งหนีขึ้นรถอย่างไม่เก็บของอะไรทั้งนั้นค่ะ
มีแต่กระเป๋าเงิน เอกสารสำคัญต่าง ๆ เท่านั้น เสื้อผ้าอะไรทิ้งหมดเลยล่ะ
เราก็กลับมาอยู่บ้าน อยู่กับแม่ อยู่บ้านของเรา ชีวิตของเรา มีอิสระภาพ
อยู่ท้องถิ่นทางเหนือ อากาศบ้านเรา ทุกอย่างเป็นตัวเรา เพราะเราเกิดมาจากที่นี้
ครั้งแรกหลังจาก 1 เดือน ที่เรากลับมาบ้าน น้ำตาแทบไหล เราคิดถึงบ้านเรา คิดถึงครอบครัว
คิดถึงแม่ คิดถึงสิ่งดี ๆ ที่ญาติมีให้เรา แต่เรากลับตาบอดเองที่หนีพวกเค้าไป ๆ อยู่ที่ไกล ๆ มาก ๆ
เรารู้สึกผิดมาก ทุกคนให้อภัยเราหมดค่ะ เรากลับมาแล้วก็ดีใจมากเลย มีความสุขนับแต่วินาทีนั้นค่ะ
สุขใจที่ได้กลับมาอยู่บ้าน ได้มานั่งสมาธิ ได้ทำงานอย่างเงียบสงบ
อยากจะบอกว่าวันแรกเลยล่ะที่กลับมา ก็ไม่เคยคิดถึง ไม่เคยคิดกลับไปหาเค้าอีกเลยค่ะ
ถึงแม้จะต้องอยู่คนเดียว แต่สิ่งแวดล้อมทำให้เรามีความสุข เราไม่เคยคิดรับสาย
ไม่คิดจะติดต่อไป หรืออะไรทั้งนั้น
ตอนนี้ผ่านมาได้ 3 ปีแล้วค่ะ เราให้เวลากับครอบครัว พระพุทธศาสนา สังคมบ้านเรา
ท้องเที่ยงเรื่อย ทำงานพัฒนางานส่วนตัวเรานะ จนมีเวลาให้ทุกอย่าง
งานก็พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทุกอย่างสุขใจหมดค่ะ
นี้เรื่องของเรานะ ผ่านมาแล้ว เราก็คิดว่าจากวันนั้นมาวันนี้เราคิดถูกมากเลยที่เดินออกมาค่ะ
คนไม่ดีอยู่ไปก้เท่านั้นค่ะ ดูอรา 1 เดือน ชาวบ้านจะว่านินทาแล้วแต่ไม่สนใจค่ะ
เราสุขใจที่ได้อยู่กับครอบครัวของเรา คิดอย่างนี้ดีกว่า คนมันไม่ดีคิดถึงเรื่องไม่ดีมันค่ะ
เราก็ตัดใจได้เอง เกิดอยู่ต่อไปเอาโรคมาปล่อยเราจะทำอย่างไรค่ะ
เพราะอนาคตและชีวิตเป็นของเรา หากทำร้ายร่างกายเรา ๆ จะอยู่ไปเผื่ออะไร
อนาคตเราจะมีใหม่หรือไม่มีก็ไม่สำคัญค่ะ วันนี้เราได้อยู่ในที่ ๆ เรามีความสุขก็สุขที่สุดแล้วค่ะ
คุณเองก็มีลูกน้อย ๆ ไม่เป็นไรค่ะ น้องคนเดียว single mem มีเยอะแยะไปค่ะ
เป็นกำลังใจนะค่ะ
แสดงความคิดเห็น
อยากจะหย่ากับสามีที่เป็นมุสลิม จะต้องทำอย่างไร จะกลับไปเป็นชาวพุทธได้หรือไม่