ทุ่ม2หมื่นล้าน-เร่งจ่ายชาวนาทั้งสัปดาห์ ยรรยงชี้สต๊อกอยู่ครบ แนะสตง.เช็กข้าวมาร์ค

กระทู้ข่าว

เริ่มจ่ายชาวนา 2 หมื่นล้าน-ทั้งอาทิตย์ ธ.ก.ส.เร่งเคลียร์จำนำข้าว ทำหนังสือให้ 1,200สาขาทยอยจ่ายตามสัดส่วนใบประทวนที่ยังค้าง-ลำดับขึ้นทะเบียน เผยจ่ายไปแล้ว 6 หมื่นล้าน เหลือค้างชาวนาอีก 1.1 แสนล้าน ด้านบิ๊กออมสินนัดแจงปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ "ยรรยง" ลุยตรวจสต๊อกข้าวที่โกดังกรุงเก่า ยันไม่มีสูญหาย พร้อมให้ทุกฝ่ายตรวจสอบ ระบุข้าวเสียหายจากภัยธรรมชาติเพียง 100 ตัน ชี้ใบประทวนไม่มีหมดอายุ แนะสตง.ให้ตรวจข้าวมาร์คด้วย



"ยรรยง"ตรวจสต๊อกข้าว



เมื่อวันที่ 15 ก.พ. นายยรรยง พวงราช ปฏิบัติหน้าที่รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบสต๊อกข้าวในโครงการรับจำนำของรัฐบาล ในโกดังกลาง จ.พระนครศรีอยุธยาว่า จากการลงสำรวจสต๊อกข้าว 2 โกดัง คือโกดังของโรงสีข้าวกลางเจียเม้งและโกดังข้าวทรัพย์เกษตรสยาม พบปริมาณข้าวสารเก็บฝากอยู่ที่ 24,820.4 ตัน แยกเป็นของเจียเม้ง 13,694.87 ตัน และโกดังทรัพย์เกษตรสยาม 11,125.53 ตัน จากการเข้าตรวจสอบพบปริมาณข้าวทั้ง 2 โกดังอยู่ครบถ้วนตามจำนวนที่รับแจ้ง ไม่มีการสูญหาย รวมทั้งยังมีคุณภาพที่ดีสมบูรณ์ทั้งหมด เนื่องจากหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลข้าวดูแลและถือกุญแจโกดังไว้อย่างดี



นายยรรยงกล่าวอีกว่า ขณะนี้รัฐบาลมีข้าวสารคงค้างในสต๊อกประมาณ 10 ล้านตัน ซึ่งกำลังเร่งระบายขายออกสู่ตลาดให้มากและเร็วที่สุด เพื่อนำเงินมาช่วยเหลือชาวนา ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเปิดประมูลทั่วไปแล้วน 4.6 แสนตัน และเปิดประมูลผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรหรือเอเฟทอีก 2.2 แสนตัน ขณะที่สัปดาห์หน้าจะเปิดประมูลเพิ่มเติมอีก 6 แสนตัน โดยเชื่อว่าภายในเดือนนี้รัฐบาลจะขายข้าวได้มากกว่า 1 ล้านตันแน่นอน ซึ่งรัฐบาลจะจ่ายเงินให้ชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. ตามที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุไว้อย่างแน่นอน



ชี้ใบประทวนไม่มีหมดอายุ



"ยืนยันว่าข้าวที่รัฐรับจำนำและฝากเก็บไว้ใน 1,735 โกดังทั่วประเทศยังอยู่ครบถ้วนและไม่ได้หาย หากชาวนาต้องการเข้าตรวจสอบสต๊อก ก็ยินดีให้ความร่วมมือและพร้อมให้ทุกฝ่ายเข้าตรวจสอบ แต่ขอให้แจ้งล่วงหน้า 1 วัน เพื่อจะได้ติดต่อประสานงานกับโรงสีหรือโกดังข้าว และมองว่า หากมีข้าวหายเกิดขึ้นจริง การบอกล่วงหน้า 1 วันนั้นรัฐไม่สามารถที่จะขนย้ายข้าวเข้ามาเติมได้ทันแน่นอน" นายยรรยงกล่าว



นายยรรยงกล่าวยอมรับว่า มีข้าวสารในโครงการ 10 แห่งที่มีปัญหาคือ มีสต๊อกไม่ครบ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติคือ น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือกองข้าวล้ม รวมประมาณ 100 ตัน ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งขอรับชดเชยค่าเสียหายจากบริษัทประกันภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว



นายยรรยงกล่าวต่อว่า ส่วนกระแสข่าวที่ว่าใบประทวนที่ชาวนาถืออยู่มีระยะหมดอายุนั้น ขอยืนยันไม่เป็นความจริง ใบประทวนไม่มีวันหมดอายุ ส่วนที่ระบุว่ามีอายุ 4 เดือนคือ ระยะเวลาในการไถ่ถอนข้าวคืน หลังนำเข้าสู่โครงการรับจำนำ ไม่ใช่อายุใบประทวน ซึ่งข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปล่อยที่ต้องการทำให้ชาวนาหวั่นไหวและสร้างกระแสให้ชาวนาไม่พอใจออกมาต่อต้านรัฐบาลของกลุ่มชาวนาตัวปลอม



แนะสตง.ตรวจข้าวมาร์คด้วย



นายยรรยงกล่าวถึงกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะเข้ามาตรวจสอบสต๊อกข้าวว่า ยินดีให้ตรวจสอบ แต่มองว่าการตรวจสต๊อกข้าวไม่ใช่หน้าที่ของสตง. เพราะสตง.ควรมีหน้าที่ตรวจเงิน ไม่ใช่ตรวจข้าวสาร ที่สำคัญหน่วยงานที่จะเข้ามาตรวจสอบข้าวสารต้องเป็นหน่วยงานเฉพาะ ที่มีความรู้เรื่องคุณภาพข้าว ชนิดของข้าว ไม่ใช่ใครนึกจะเข้ามาตรวจก็ได้เหมือนกันหมดทุกคน



"ผมยังไม่ได้รับการประสานจากสตง. ว่าจะเข้ามาตรวจสต๊อกข้าว แต่ที่ผ่านมาสตง. ก็พูดเหมือนพรรคฝ่ายค้านมาก กล่าวหาว่ารัฐบาลเปิดช่องให้ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ทำไมสตง. ไม่พูดให้หมดว่าสมัยรัฐบาลก่อนใช้นโยบายประกันราคาข้าว รัฐบาลก่อนก็มีปัญหาขาดทุน แต่ทำไมสตง.ไม่เข้าไปตรวจสต๊อกบ้าง หากสตง.จะเข้ามาตรวจสต๊อกข้าวรัฐบาลชุดนี้ อยากให้ตรวจสอบย้อนหลังไปถึงรัฐบาลก่อนหน้าด้วย เพราะที่ผ่านมาก็พบความผิดปกติในโครงการประกันราคาข้าว โดยเฉพาะประเด็นที่ขึ้นทะเบียนจำนวนเกษตรกรสูงกว่าความเป็นจริง โดยมีจำนวนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการมากถึง 4.8 ล้านครัวเรือน มากกว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลปัจจุบันที่สำรวจมีชาวนาทั้งหมดเพียง 3.6 ล้านครัวเรือนเท่านั้น" นายยรรยงกล่าว



จวก"หม่อมอุ๋ย"ให้คืนข้าว



นายยรรยงกล่าวอีกว่า ส่วนข้อเสนอของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯที่เสนอให้รัฐบาลคืนข้าวให้ชาวนานำไปขายกับโรงสีในราคาตลาด จากนั้นรัฐบาลก็จ่ายเงินค่าปัจจัยการผลิตชดเชยส่วนต่างเข้าบัญชีชาวนาโดยตรงนั้น อยากให้ผู้เสนอกลับไปคิดใหม่ เพราะเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยาก เนื่องจากการคืนข้าวให้ชาวนาจะเกิดปัญหาภาระค่าใช้จ่ายมากมาย โดยเฉพาะชาวนาต้องจ่ายค่าขนข้าวและค่าบรรทุกข้าว อยากถามกลับไปว่าส่วนนี้ใครเป็นผู้รับผิดชอบ รวมทั้งยังต้องคำนวณปริมาณข้าวที่ชาวนาจะได้รับคืน โดยต้องกำหนดอัตราส่วนคืนข้าวจากข้าวเปลือกแปรเป็นข้าวสารกลับคืนให้ชาวนา ซึ่งสร้างความยุ่งยากมากในทางปฏิบัติ โดยยืนยันว่าวิธีการประมูลขายข้าวผ่านช่องทางต่างๆ ที่รัฐบาลทำอยู่ขณะนี้เป็นวิธีที่เหมาะสม และจะทำให้ชาวนาได้เงินค่าจำนำข้าวเร็วที่สุด



สัปดาห์นี้เร่งจ่าย2หมื่นล้าน



รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า ขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ส่งหนังสือการจัดสรรวงเงินก้อนล่าสุด 5,400 ล้านบาท เพื่อจ่ายจำนำข้าวไปยังฝ่ายภาคของธ.ก.ส.ทั้ง 9 ภาคเรียบร้อยแล้ว โดยในวันจันทร์ที่ 17 ก.พ. สาขาของธ.ก.ส.ทั้ง 1,200 แห่ง พร้อมจ่ายเงินให้ชาวนาตามสัดส่วนที่ได้รับจัดสรรทันที โดยการจัดสรรเงินให้สาขาของธ.ก.ส.นั้น พิจารณาตามสัดส่วนของใบประทวนที่ยังค้างอยู่ หลังจากนั้นสาขาจ่ายเงินให้กับชาวนาโดยเรียงลำดับก่อนหลังตามวันที่ในใบประทวน



รายงานข่าวจากธ.ก.ส.เผยว่า ล่าสุดมีข้าวที่มาจำนำ 1.79 แสนล้านบาท ธ.ก.ส.จ่ายเงินไปแล้ว 6 หมื่นล้านบาท โดยยังเหลือค้างที่ต้องหาเงินมาจ่าย 1.1 แสนล้านบาท โดยธ.ก.ส.สามารถจ่ายเงินให้ชาวนาได้วันละ 3,000-4000 ล้านบาท ดังนั้นเงินที่ได้มา 5,400 ล้านบาท น่าจะจ่ายหมดภายใน 2 วันหลังจากนั้นต้องรอเงินที่กระทรวงการคลังจัดหามาให้ ซึ่งเท่าที่หารือกับกระทรวงการคลังคาดว่า ตลอดทั้งสัปดาห์จะมีเงินมาให้ธ.ก.ส.จ่ายจำนำข้าวประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยเงิน 5,400 ล้านบาทที่ได้มาครั้งล่าสุดนี้มาจากการขายข้าว 400 ล้านบาท และมาจากการกู้ 5,000 ล้านบาท



บิ๊กออมสินนัดแจงปล่อยกู้



ทั้งนี้เท่าที่ประเมินคาดจะมีการกู้เงินไม่ถึง 1.3 แสนล้านบาท ตามวงเงินที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ขอไว้กับครม. เพราะขณะนี้เงินที่ต้องจ่ายเหลือเพียง 1.1 แสนล้านบาท และช่วงนี้ข้าวจะเข้าโครงการน้อยลง เนื่องจากใกล้หมดฤดูกาลเก็บเกี่ยว และมีกำหนดรับจำนำข้าวถึง 28 ก.พ. พร้อมกันนี้ในช่วงที่ผ่านมามีข่าวเรื่องการจ่ายเงินล่าช้า ทำให้ชาวนานำข้าวไปขายเองมากขึ้น นอก จากนี้กระทรวงพาณิชย์เร่งระบายข้าวอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนก.พ.มีเงินจากการระบายข้าวมาให้ธ.ก.ส.แล้วถึง 3,800 ล้านบาท ถือว่าเกินกว่าแผนที่กำหนดไว้ว่า 3 เดือนหรือจนเดือนมี.ค.เงินระบายข้าวที่จะนำมาใช้ธ.ก.ส.จ่ายจำนำอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท



ส่วนกรณีที่ชาวนาผูกคอตาย เนื่องจากเครียดจากการจ่ายเงินจำนำล่าช้า เพราะไปกู้หนี้นอกระบบมานั้น ธ.ก.ส.อยากเชิญชวนให้ชาวนาที่ต้องการใช้เงินมากู้เงินกับธ.ก.ส.รายละ 1 แสนบาท โดยใช้หลักทรัพย์เดิมค้ำประกัน คิดดอกเบี้ย 7 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าถูกกว่าเงินกู้นอกระบบมาก โดยจะมีการผ่อนปรนในเรื่องหลักทรัพย์เป็นกรณีพิเศษ ถ้าชาวนารายได้มีปัญหาให้มาปรึกษาสาขาที่ใกล้บ้านได้



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีข่าวว่าธนาคารออมสินปล่อยกู้ในลักษณะอินเตอร์แบงก์ให้ธ.ก.ส.นำเงินไปจ่ายจำนำข้าววงเงิน 2 หมื่นล้านบาท และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างมาก ล่าสุดนายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผอ.ธนาคารออมสิน นัดแถลงชี้แจงเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ดังกล่าวในวันที่ 16 ก.พ. เวลา 14.00 น. ที่ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่



"ธีระชัย"เตือนธ.ก.ส.เตรียมชี้แจง



ด้านนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงการปล่อยเงินกู้ของธนาคารออมสินสรุปว่า การที่ออมสินให้กู้แบบอินเตอร์แบงก์กับธ.ก.ส. โดยไม่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน หลังจากนี้ธ.ก.ส. คงต้องเตรียมตอบคำถามถึงการปล่อยกู้ครั้งนี้ว่าใครเป็นผู้เริ่มดำเนินการ พร้อมกันนี้ต้องเตรียมงานด้านบัญชี ให้พร้อมสำหรับการตรวจสอบจากสตง. เนื่องจากการดำเนินโครงการจำนำข้าว ธ.ก.ส.ต้องแยกบัญชีออกต่างหาก จากธุรกิจอื่นๆ วัตถุประสงค์เพื่อมิให้มีปัญหาภายหลัง ในการจัดทำตัวเลขเพื่อขอการชดเชยจากกระทรวงการคลัง รวมไปถึงก็เป็นไปได้ที่กรรมาธิการวุฒิสภาจะเรียกธ.ก.ส.เข้าไปชี้ แจงด้วย



ปชป.เกาะติดจ่ายจำนำ



ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีปัญหาโครงการรับจำนำข้าวว่า นายกฯ และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ปฏิบัติหน้าที่รองนายกฯและรมว.คลัง ออกมาพูดว่าปัญหาการจ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนาจะคลี่คลายในสัปดาห์นี้ พรรคขอเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินให้กับชาวนาโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ส่วนอุปสรรคทางกฎหมาย ข้อจำกัดทางกฎระเบียบต่างๆ เป็นภาระที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ไม่สามารถเป็นข้ออ้างไม่จ่ายเงินให้ชาวนาได้ ดังนั้น ข่าวที่ว่าจะจ่ายเงินให้ชาวนาในวันที่ 17 ก.พ. ได้ เป็นเรื่องจริง พรรคขอแสดงความยินดีกับชาวนาทั้งประเทศและยืนยันว่าจะไม่ขัดขวาง ทักท้วงในกระบวนการหาเงินมาจ่ายเงินจำนำข้าวแต่อย่างใด



ลายจุดชี้ได้7แสน-ซื้อข้าวบริจาค



ขณะที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เมื่อวานไปอัพเดตสมุดธนาคารกับครูประทีปในโครงการซื้อข้าวไปบริจาค ยอดบริจาค 3 วัน 7 แสนกว่าบาท ทั้งหมดเป็นการบริจาคของบุคคล และเริ่มมีบริษัทติดต่อเข้ามาเพื่อขอบริจาค ขอแจ้งให้ทราบว่าการบริจาคกับมูลนิธิดวงประทีปสามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ ชื่อบัญชีมูลนิธิดวงประทีป ธนาคารกรุงไทย สาขากรมศุลกากร เลขที่ 181-0-17405-8 สอบถามรายละเอียดได้ที่มูลนิธิดวงประทีป 0-2671-4045-8



ชาวนาปทุมฯผูกคออีก

ส่วนความเคลื่อนไหวของชาวนาในต่างจังหวัด ที่จ.พิษณุโลก นายสาโรจน์ จันทรศิริ ประธานสภาทนายความพิษณุโลก นำเจ้าหน้าที่กว่า 20 คน ตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว บริเวณหน้าอบต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม โดยรวบรวมหลักฐานรายชื่อ ใบประทวนข้าว ใบชั่งน้ำหนักและเอกสารที่เกี่ยวข้องของชาวนา เพื่อใช้เป็นหลักฐานยื่นฟ้องร้องเอาผิดกับรัฐบาล โดยมีชาวนากว่า 100 คนทยอยเดินทางมายื่นเรื่องและหลักฐาน

ที่จ.ปทุมธานี ร.ต.ท.อนวัช แสนอินทร์ ร้อยเวร สภ.สวนพริกไทย รับแจ้งเหตุมีผู้ผูกคอเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 8/1 ซ.สามัคคี ธรรม ม.4 ต.บางพูด อ.เมืองปทุมธานี จึงรุดตรวจสอบพบศพนายอนันต์ สายประยงค์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 ซ.สามัคคีธรรม ม.4 ต.บางพูด สภาพศพใช้สายเข็มขัดนิรภัยผูกคออยู่กับขื่อบ้าน แพทย์คาดเสียชีวิตมาแล้ว 2-4 ชั่วโมง

จากการสอบถามนางฉันทนา สายประยงค์ อายุ 47 ปี ภรรยาผู้ตายให้การว่า สามีมีอาชีพทำนาและเป็นหัวหน้ากลุ่มชาวนาที่เอาเมล็ดข้าว ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงจากนายทุนมาให้ชาวนาในกลุ่มทำนาไปก่อน หลังจากเก็บเกี่ยวได้นำข้าวเข้าโครงการรับจำนำกับโรงสี แต่ยังไม่ได้รับเงินเป็นเวลา 4-5 เดือนแล้ว ประกอบกับนายทุนได้ทวงถามเงินที่ติดค้างค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลงและเมล็ดพันธุ์ข้าว เป็นจำนวนกว่า 600,000 บาท สามีได้ไปตามเก็บเงินกับชาวนาที่อยู่ในกลุ่ม แต่ไม่ได้เงินสักราย เพราะได้รับแต่ใบประทวนและยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าว จึงทำให้สามีเกิดความเครียด โดยบ่นให้ฟังหลายครั้งแล้ว อีกทั้งบ้านที่อาศัยอยู่ก็นำไปจำนองกับธ.ก.ส. จึงอาจเป็นสาเหตุให้สามีผูกคอเสียชีวิตดังกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่