[CR] รีวิว 10 อันดับ Afternoon Tea ในลอนดอน แบบไม่ลองไม่ได้แล้ว ~~

เราเชื่อว่าคนที่ไปอังกฤษ ไม่ไปเที่ยว ก็ไปเรียน น่าจะอยากจะไปเยี่ยมเยือน Afternoon Tea กันสักครั้งใช่มั้ยล่ะคะ แต่ด้วยตัวเลือกที่ค่อนข้างมาก อาจจะทำให้ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะไปทานที่ไหน ที่นี่มีคำตอบค่ะ

ในช่วง 1ปีที่ผ่านมาที่เรามีโอกาสได้ไปเรียนปริญญาโทที่ลอนดอน ส่วนตัวชื่นชอบของหวานและชามากพอมีโอกาสได้ไปเรียนต่อในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่อง Afternoon Tea แล้วใครจะพลาดล่ะคะ จริงมั้ย? เพราะฉะนั้น 1 ปีที่ผ่านมาเลยได้มีโอกาสไปทาน Afternoon Tea มาทั้งหมด17 ครั้งด้วยกันค่ะ แต่บางที่ไปทานซ้ำ (เพราะชอบมาก) เพราะฉะนั้นจริงๆแล้วไปมาทั้งหมดแค่ 15 ที่ค่ะ เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์การทาน Afternoon Tea กับเพื่อนๆกัน เผื่อใครอยากไปทานแต่ไม่รู้ว่าจะไปร้านไหนดี ที่นี่มีคำตอบค่ะ

โดยร้านที่เราไปนั้นอาจจะไม่ครบถ้วนกระบวนความนะคะ แต่เราได้คัดเลือกมาจากร้านที่ได้ Tea Guild Awards ค่ะ

มาเท้าความถึง Tea Guild Awards กันก่อน สมาคมนี้เป็นสมาคมที่จะจัดอันดับร้าน Afternoon Tea ทุกปีค่ะ โดนส่วนใหญ่ร้านที่ได้รางวัลก็อยู่ในโรงแรมหรูต่างๆนั่นแหล่ะค่ะ และส่วนใหญ่อยู่ในลอนดอนซะด้วย (เลิศมาก เสร็จชั้นล่ะ!!) ใครอยากเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมว่าปีนี้ร้านไหนได้อันดับที่เท่าไหร่กันบ้างเข้าไปได้ตามลิ้งค์นี้ค่ะ

http://www.tea.co.uk/top-tea-places

Tea Guild Best Afternoon Tea คือได้อันดับหนึ่งของการจัดลำดับ Afternoon Tea ในปีนั้นๆค่ะ
** Tea Guild Award of Excellence ติดอันดับ 2-10 ของการจัดลำดับ Afternoon Tea ในปีนั้นๆค่ะ

รู้สักนิดก่อนไปทาน Afternoon Tea

1. อยากกิน Afternoon Tea ตรงดิ่งไปกินเลยได้ไหม?

คำตอบคือ ไม่ได้ค่ะ! โดยเฉพาะร้านที่ติด 1 ใน 10 ของ Tea Guild Awards นั้น คุณต้อง Book ก่อนค่ะ โดยเราสามารถจองวันและเวลาได้ผ่านทางเว็บไซต์ของโรงแรมที่มีบริการ Afternoon Tea ค่ะ หรือถ้าขี้เกียจล่ะก็ เว็บนี้เว็บเดียว http://www.afternoontea.co.uk/uk/london มีครบค่ะ จะจอง Afternoon Tea ที่ไหนก็คลิกเลือกร้านเอา ส่วนใหญ่ร้านไหนฮิตมากๆต้องจองล่วงหน้ากันสองเดือนก็มีค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าอยากไปล่ะก็ เตรียมตัวกันล่วงหน้าสักนิดนะคะ ไม่อยากให้ Walk in ตรงดิ่งเข้าไปเลยค่ะ เพราะโอกาสผิดหวังนั้นมีมาก โดยเฉพาะร้านที่ได้อันดับ 1 นั้น โอกาสคือ 0% ค่ะ ต่อให้วันธรรมดาก็เถอะ

วิธีกดก็เลือกวันก่อนค่ะ แล้วค่อยเลือกเวลา แล้วตามด้วยจำนวนคน จากนั้นใส่อีเมลกับเบอร์โทรเราเข้าไป อีกช่องจะมีช่อง Special Request เราแพ้อะไรก็บอกเค้าไปก่อนค่ะ ง่ายนิดเดียวใช่มั้ยคะ แล้วระบบจะคอนเฟิร์มบุ๊คกิ้งมาให้ที่อีเมลหรือ SMS อีกทีค่ะ

ส่วนบางคนอยากไปกินเฉพาะวันนั้นๆแต่พอเช็คแล้วมันเต็มทำไงดี มีวิธีเดียวค่ะกด Refresh! กดมันเข้าไปค่ะ กดดูมันทุกวัน เพราะบางทีอาจจะมีคนยกเลิกเวลาที่จองไว้ค่ะ เราก็จะได้เสียบทันที มีครั้งนึงเราอยากจะไปกิน The Claridges ที่ใครๆก็ร่ำลือนักหนาเพราะนางได้รางวัลอันดับ 1 ของ The Tea Guild Awards มาสามรอบแล้ว แต่รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอนางเต็มหมดสามเดือนค่ะ จะจองล่วงหน้านานกว่านั้นระบบก็ไม่เปิดให้จอง เค้าจะระบุวันเปิดให้จองอีกทีคืออีกสามเดือนถัดไป (ซึ่งมันทันซะที่ไหนเล่า ชั้นจะกลับไทยอยู่แล้ว) เพราะฉะนั้นช่วงนั้นวันไหนว่างเป็นไม่ได้ค่ะ นั่งกด Refresh หลังจากทำแบบนั้นมาสองวันเต็มๆเทพเจ้าแห่งความโชคดีก็เข้าข้างเราค่ะมีคน Cancel อาทิตย์ถัดไปพอดี นาทีนี้ยังไม่ต้องถามเพื่อนนะคะว่าว่างมั้ยกดจองไปก่อนเลยค่ะ อย่าให้หลุดมือ ณ จุดนี้ นาทีเดียวก็ช้าไม่ได้ค่ะเพราะมีคนจ้องแย่งกับเราเช่นกัน นี่คือการทำสงครามครั้งยิ่งใหญ่ค่ะ ใครกดก่อนได้ก่อน! ถามว่าถ้าจองแล้วไปไม่ได้ทำยังไง Cancel สิคะทูนหัว แต่ควรจะ Cancel ให้เร็วที่สุดนะคะ เพราะเป็นมารยาทที่เราควรเปิดโอกาสให้คนอื่นเค้าได้ไปบ้างค่ะ ไม่งั้นทางร้านเองเค้าก็จะเสียลูกค้าโดยใช่เหตุนะคะ  เราต้องเห็นใจทางร้าน และชาวบ้านคนอื่นที่อยากจะจองแต่จองไม่ได้เพราะเราหวงก้างอยู่ด้วยค่ะ

2. จองเสร็จแล้วทำไงต่อ

ก็เตรียมตัวค่ะ การแต่งกายทุกที่จะเหมือนๆกันค่ะคือ Elegant Smart Casual หรือ Smart Casual แล้วไอ้ sual sual นี่คืออะไร? ง่ายๆเลยคือโนรองเท้าแตะค่ะ ยีนส์ขาดๆก็ไม่ได้นะคะ ขาสั้นนี่ห้ามขาด หมวกแก็ปก็ไม่ควร และชุดกีฬาก็ไม่ได้ค่ะ ที่นี่อังกฤษ กฏระเบียบแห่งความเป็นผู้ดีของนางเยอะเสียเหลือเกิน เราไปทานของเค้าเราก็ควรให้เกียรติสถานที่เค้าด้วยค่ะ หากใครต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับ Elegant Smart Casual หรือ Smart Casual มากกว่านั้น ขอเชิญที่เว็บนี้ค่ะ

http://blog.brandsexclusive.com.au/2012/01/cocktail-dress-smart-casual-after-five-crack-the-invite-code/

แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว วันไปก็แค่ไปให้ถึงโรงแรม 10 นาทีก่อนเวลาที่เราจองค่ะ (เค้าจะเก็บโต๊ะไว้ให้เราไม่เกิน 15 นาทีนะคะ เพราะฉะนั้นควรตรงเวลาค่ะ) ไปถึงก็เหลียวซ้ายแลขวาถามพนักงานได้เลยค่ะว่าฉันนั้นมาทาน Afternoon Tea ห้องอยู่ไหนจ๊ะ แต่ส่วนใหญ่พนักงานเค้าจะรู้อยู่แล้วล่ะค่ะว่าถ้ามาเวลาบ่ายๆเรามาทำไม เค้าจะเดินมาถามเองค่ะว่ามาทาน Afternoon Tea ใช่มั้ยจ๊ะน้องสาว (น้องสาวนี่เติมเอง 55) แล้วก็จะพาเราเดินไปยังห้องค่ะ ไปถึงจะมีพนักงานอยู่ที่เค้าท์เตอร์หน้าห้องอยู่แล้ว เราก็บอกเลยว่าเราจองไว้กี่โมง ชื่ออะไร กี่คน แล้วเค้าก็จะขอเสื้อโค้ทเราไปเก็บ และพาไปที่โต๊ะพร้อมกับให้เบอร์โค้ทเราไว้ไปเอาตอนขากลับค่ะ

3. Afternoon Tea นี่กี่โมงถึงกี่โมง

โดยส่วนใหญ่แล้วก็ 11 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็นค่ะ (แต่บางที่เค้าอาจจะเปิดช้ากว่านั้นหรือเปิดกันถึงสี่ทุ่มก็มีค่ะ อันนี้แนะนำให้เช็คเองอีกรอบ) แนะนำว่าให้เอาช่วงเที่ยงๆนี่ล่ะค่ะ ทานแทนข้าวกลางวัน อิ่มตื้อไปถึงเย็น เห็นน้อยๆอย่างนั้น จุกมากนะคะ ขนาดเราเป็นคนกินเยอะมากยังจะไม่ไหวเลยค่ะ บริกรเธอเล่นมาเติมขนมให้ตลอด จุกตายกันคาโต๊ะไปเลยค่ะ


4. ทานได้กี่ชั่วโมง

โดยทั่วไปก็ชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงค่ะ แต่ส่วนใหญ่เค้าไม่มาไล่หรอกค่ะถ้าแขกคนต่อไปยังไม่มาเราก็นั่งแช่ได้ค่ะ มีแต่เราเองนั่นแหล่ะค่ะที่จะตายตั้งแต่ชั่วโมงแรกเพราะความจุกขนม


5. ต้องให้ทิปส์มั้ย?

เราไม่ได้ให้นะคะเพราะเค้ารวมค่า Service Charge ไว้แล้ว 12.5% ขืนให้เราจะจนกรอบนะคะ 55


6. สั่งยังไง

อันนี้ง่ายมากค่ะ เปิดเมนูหน้าแรกมาไม่ชาก็ set menu ค่ะ เราเลื่อนไปดูที่ set menu กันเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็น Set Afternoon Tea, Set Champagne เสิร์ฟแชมเปญแทนชา (ราคาแพงขึ้นมานิด), Vegetarian Afternoon Tea, Chocolate Afternoon Tea (อันนี้ขนมเน้นเป็นพวกที่ประกอบด้วยช็อคโกแลตค่ะ) ราคาส่วนใหญ่เท่าๆกับ Afternoon Tea set ธรรมดาค่ะ และสุดท้ายบางที่จะมี Signature Afternoon Tea Set หรือ Special set ในฤดูกาลนั้นของร้านนั้นๆ(บางที่ต้องบอกล่วงหน้า)ค่ะ เราก็เลือกเอาตามสะดวกเลย ภายใต้แต่ละ Set เนี่ยเค้าจะมีระบุไว้ว่ามีขนมอะไรบ้าง ขนมพวกนี้ไม่ต้องเลือกนะคะเพราะพี่แกจะเอามาเสิร์ฟให้ทั้งหมดนั่นแหล่ะค่ะ สมมติมาสองคนเค้าก็จะเอามาให้สำหรับพอสองคนค่ะ หลังจากนั้นเราก็มาเลือกชากันค่ะ  พอเค้าเอามาเสิร์ฟนั้น คุณบริกรเค้าจะแนะนำด้วยค่ะว่าแต่ละชิ้นคืออะไร ทำจากอะไร เราก็ทำหน้าเออออไป จำไม่ค่อยได้หรอกค่ะว่ามันคืออะไรบ้าง เยอะเหลือเกิน เออๆออๆไปจบค่ะ แต่ถ้าใครที่สนใจเรื่องนี้ล่ะก็ ถามบริกรเพิ่มเติมได้นะคะ


7.  เติมได้?

เติมได้ค่ะ ส่วนใหญ่แล้วจะให้เติม Sandwich ฟรี แล้วบางทีถ้าเรามาสี่คนเค้าอาจจะนำขนมมาให้ไม่ครบคนค่ะ เพราะ Cake stand ที่ไม่พอ เราขอขนมเพิ่มได้นะคะแบบนี้ แต่ส่วนใหญ่แล้วเค้าจะเดินเข้ามาถามเองค่ะว่าต้องการอะไรเพิ่มบ้าง บางที่ให้เติม Pastries ฟรีนะคะ แต่บางที่ให้เติมแค่ Sandwich ค่ะ

สำหรับชานั้น เติมน้ำร้อนได้เรื่อยๆค่ะ แถมยังเปลี่ยนได้ด้วย ส่วนใหญ่แล้วหลังจากเราทานไป 1 pot เราเปลี่ยนชาได้นะคะ บางที่จะจำกัดว่าเปลี่ยนได้กี่ครั้ง แต่บางที่ไม่จำกัดค่ะ ส่วนบางที่ (เท่าที่เจอคือ Landmark) ที่จะไม่ให้เปลี่ยนเลย และนางไม่เติมขนมให้ด้วย


8. ทานยังไง?

โดยทั่วไปเค้าจะมาเสิร์ฟชาก่อนค่ะ คนละ pot และโดยส่วนใหญ่แล้วเค้าจะเทชาให้เราค่ะ บางที่ก็ปูผ้ากันเปื้อนบนตักให้เราด้วย วิธีเทเค้าจะถามเราก่อนค่ะว่าใส่นมมั้ย ถ้าเราใส่บางที่เค้าจะเทนมไว้ในถ้วยเราก่อนชาเลยค่ะ หลังจากนั้นเค้าจะเอาที่กรองชาคือ Tea Strainer มาวางไว้บนถ้วยชาเราแล้วเทชาลงมาเพื่อป้องกันเศษใบชาหล่นเข้าไปในถ้วยค่ะ จากนั้นสิ่งที่มาเสิร์ฟต่อไปคือแซนด์วิชค่ะ พอเราทานแซนด์วิชจนอิ่มแล้วเค้าถึงจะมาเสิร์ฟสโคน แล้วตามด้วย Pastries แต่บางที่เค้าก็เสริ์ฟทั้งสามอย่างมาพร้อมๆกันนั่นล่ะค่ะ แล้วแต่ที่จริงๆ


9. ไปกิน Afternoon Tea ในโอกาสพิเศษ

บอกเค้าไปเลยค่ะ! ไม่ใช่บอกคนที่ไปด้วยนะคะ แต่ให้บอกที่โรงแรมค่ะ จำช่อง Special request ตอนกด Booking ได้มั้ยคะ นั่นแหล่ะค่ะบอกเค้าไปเลยว่าเนื่องในวันเกิด เนื่องในโอกาสจะขอแฟนแต่งงาน บลา บลา บลา หรือส่งอีเมลไปบอกเค้าก็ได้ค่ะ อย่าคิดว่าเค้าจะไม่อ่านนะคะ เค้าอ่านค่ะ! เราแอบเนียนเขียนว่าวันเกิดเพื่อนเป็นประจำ ถึงแม้ว่าเพื่อนจะเกิดอีกสองเดือนถัดไปก็ตาม (ก็ทำไมอ่ะคะ จะฉลองล่วงหน้าอ่ะค่ะ 55) ที่ชอบเนียนนั้นเป็นเพราะว่าทางโรงแรมมักจะจัดอะไรพิเศษๆให้ค่ะ นั่นก็คือจานพิเศษนั่นเอง เค้าจะเอาขนมที่ใช้ใน Afternoon Tea นั่นแหล่ะค่ะ หรือบางที่ทำอันใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะเลย แล้วเขียนว่า Happy Birthday พร้อมเทียนมาให้เป่าค่ะ โดยบริกรที่มาเสิร์ฟให้เค้าจะมาร้องเพลง Happy Birthday ให้ถึงโต๊ะเลยล่ะค่ะ บางที่มาเป็นทีมนะคะขอบอก ร้องเพลงทีหันมามองกันทั้งห้องค่ะ


10. เอากลับบ้านได้?

รู้มั้ยคะว่างบางโรงแรมนั้นถ้าเราทานเหลือเค้าจะห่อกลับให้ค่ะ บางที่ห่อกลับให้เฉพาะแซนด์วิช บางที่ห่อขนมให้ บางที่นั้นถามด้วยค่ะว่าเอาแซนวิชเพิ่มมั้ยแล้วห่อใส่กล่องให้อย่างสวยงาม ทั้งหมดนี้ไม่เสียค่าบริการเพิ่มเติมแต่อย่างใดค่ะ (เลิศอ่ะ รักเธอ!)

**สำคัญมาก ขอออกตัวก่อนว่าเค้าจะเปลี่ยนเมนูขนมกันทุกปีนะคะ เราไปกินตอน 2013 ตอนนี้ 2014 แล้วเมนูขนมของแต่ละที่ก็จะไม่เหมือนเดิมค่ะ

ส่วนการเรียงลำดับนั้นไม่ได้เรียงตาม Tea Guild Award แต่อย่างใดค่ะ แต่เรียงตามใจและความชอบของฉันเอง  


ทีนี้พร้อมไปทาน Afternoon Tea กันรึยังคะ เราคัดมาให้ทั้งหมดสิบที่ค่ะ ไปกันเลย

โอ้ว พี่ชาย แค่เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยก็สี่หน้า A4 แล้วหรือนี่ ชั้นเหนื่อยยยยย ชั้นนิ้วล็อค!

ใครชอบและเห็นว่าพอมีประโยชน์อยู่บ้าง รบกวนโหวตให้หนึ่งจึ้กด้วยนะคะ (เอ๊ะ ให้สามจึ๊กเหรอคะ? กราบขอบพระคุณค่ะ 55)

ถ้าชอบรีวิว Afternoon Tea ล่ะก็ ติดตามกันเพิ่มเติมได้ที่เพจ https://www.facebook.com/keepcalmandhaveafternoontea นะคะ แต่ถ้ารู้สึกว่า “เท่าที่หล่อนเขียนมาให้อ่านในนี้ก็เยอะจนชั้นเอียน Afternoon tea แล้วย่ะ” แล้วล่ะก็ อ่านใน Pantip ก็พอค่ะ ไม่ว่ากัน ยิ้ม


มาเริ่มที่ร้านแรกกันเลยดีกว่า

อุ๊ต๊ะ กรีดร้อง (เอามือทาบอกแบบชมพู่ อารยา) ตกใจที่กระทู้แรกในชีวิตได้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกโหวตเลยนะคะ รู้สีกเป็นเกียรติเป็นศรีเหมือนได้ถ้วยเกียรติยศมาประดับฝาบ้านอย่างไรอย่างนั้น ขอบคุณมากๆค่ะ ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   Afternoon Tea
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่