วันนี้จะมาเล่านิทานให้เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนได้อ่านกัน และต้องขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า
"นิทานเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง"
ทั้งนี้ทั้งนั้นจะขอเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์และตัวละครให้อยู่ในรูปแบบของสัญลักษณ์
แต่คงไว้ซึ่งเค้าโครงเดิมแทบทุกประการเท่าที่จะทำได้โดยไม่ทำให้อรรถรสของนิทานเสียไป
----------------------------------------------------------------------
เรื่องราวของลิงกับหมีที่เป็นเพื่อนกัน ทั้งสองเจอกันในป่าใหญ่แห่งหนึ่ง ป่าที่มีนกกระจิบชอบร้องจิ๊บๆ ทั้งวัน ป่าแห่งนี้นำพามาซึ่งมิตรภาพดีๆ ที่เกิดขึ้นระห่างทั้งคู่ ลิงได้บ่นกับหมีว่ามันอยากได้กระเป๋าสตางค์ ตั้งแต่เกิดมามันไม่เคยมีกระเป่าสตางค์มาก่อน หมีจึงบอกลิงว่า ให้เก็บตังค์ไว้ สักวันเมื่อได้เจอกระเป๋าสตางค์ที่ถูกใจค่อยซื้อ มันจึงเก็บตังค์คอยเรื่อยมา
วันหนึ่งลิงเดินไปหาหมีที่ตลาดเพราะหมีเปิดร้านขายรูปวาดอยู่ที่นั่น มันเดินผ่านร้านขายกระเป๋าสตางค์ และได้ไปพบกับกระเป๋าสตางค์ใบหนึ่ง เป็นลายที่มันเห็นแวบแรกแล้วก็ถูกใจมาก แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อในทันที มันใช้เวลาพิจารณาอยู่นานพอสมควร ผ่านไปราวๆ 2 เดือน มันจึงตัดสินใจซื้อกระเป๋าสตางค์ใบนั้นมา
เจ้าลิงตื่นเต้นมากที่ได้มีกระเป๋าสตางค์ใบแรกเป็นของตัวเอง จากที่เคยมองคนอื่นเดินพกไปไหนมาไหนมาตลอด มันรักและดูแลกระเป๋าสตางค์ใบนั้นมาก เมื่อใดที่มันรู้สึกและท้อ มันจะนั่งมองลวดลายต่างๆ บนกระเป๋าสตางค์ ทำให้รอยยิ้มค่อยๆ เผยออกมา มันเอากระเป๋าสตางค์ไปอวดกับหมี หมีก็ชื่นชมยินดีที่มันจะได้มีกระเป๋าสตางค์ใช้สักที
ช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไปได้ราวๆ 3 อาทิตย์ ลิงได้ทำกระเป่าสตางค์แสนรักหล่นหาย ไม่ว่าจะค้นหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ มันเลยนั่งร้องห่มร้องไห้ เฝ้าแต่คิดถึงช่วงเวลาที่เคยผูกพันกับกระเป๋าสตางค์ใบนั้น มันไปปรึกษากับหมี หมีบอกมันว่าให้ทำใจซะเถอะ ยังไงมันก็คงจะไม่มีทางเจอกระเป๋าสตางค์ใบเดิมอีกแล้ว ให้ตัดใจเก็บตังค์ซื้อกระเป๋าสตางค์ใบใหม่เถอะ มันก็เลยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ก็เลยเก็บตังค์ และหวังไว้เล็กๆ ว่ามันจะหากระเป๋าสตางค์ใบเดิมพบอีกครั้ง
ผ่านไปราวๆ หนึ่งเดือน เมื่อลิงเริ่มตัดใจจากกระเป๋าสตางค์ใบเดิมได้บ้าง หมาป่า เพื่อนรักของหมีได้ส่งจดหมายมาบอกลิงว่า ตัวมันกับหมีได้ไปเที่ยวสวนสัตว์กัน หมีบอกมันว่ากำลังสนใจกระเป่าสตางค์ใบหนึ่งอยู่ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใบไหน ลิงได้อ่านก็เริ่มคิดถึงกระเป่าสตางค์ใบเดิมขึ้นมาอีกครั้ง
วันต่อมาลิงได้เจอกับหมี เลยได้คุยกัน ลิงถามหมีว่า สนใจกระเป่าสตางค์ใบไหน หมีตอบว่ามันอธิบายไม่ถูก ลิงเลยบอกหมีไปว่ามันยังคิดถึงกระเป๋าสตางค์ใบเดิมอยู่ หมีเลยให้"คำมั่นสัญญา"กับลิงว่า "ถ้ามันหากระเป๋าสตางค์เจอ มันจะไม่เอาไปใช้เอง มันจะเอามาคืนลิง" ลิงก็สบายใจขึ้น
ผ่านไปราวๆ หนึ่งเดือน ลิงได้เดินไปคุยกับหมีที่ร้านขายภาพวาดของหมี แต่หมีไม่อยู่ มันเลยนั่งรอ ในระหว่างที่มันนั่งรอ มันได้เห็นกับรูปวาดรูปหนึ่งแล้วก็ตกตะลึง มันคือรูปวาดของกระเป๋าสตางค์ใบเดิมของลิงที่เคยทำหาย แต่รอบๆ ร้านก็มีรูปวาดกระเป๋าสตางค์ใบอื่นๆ อยู่ด้วย ก็เลยคิดว่าไม่แปลก เพราะเขาวาดรูปขายเป็นอาชีพอยู่แล้ว มันนั่งรอหมีอยู่นานก็ไม่โผล่มา เลยกลับบ้านไป
วันหนึ่งลิงฝันร้าย มันฝันว่าเจอกระเป๋าสตางค์ใบเดิมของมัน แต่ไปอยู่ในมือของหมีเพื่อนรัก มันตื่นมาก็ตกใจมาก รีบวิ่งไปถามหมาป่าเรื่องกระเป่าสตางค์ของหมี หมาป่าได้แต่ตอบว่า "ไม่รู้ เป็นเรื่องของหมี มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร" ลิงรู้ว่าหมาป่าต้องโกหก เพราะหมาป่าสนิทกับหมามากกว่า และหมาป่าก็เคยไปช่วยหมีวาดรูปที่ร้านด้วย ลิงผลักหมาป่าออกไปให้พ้นทางแล้วรีบวิ่งไปถามหมีที่ร้านของหมี
"เราอยากรู้เรื่องกระเป๋าสตางค์ของนาย" ลิงตะโกนถามเสียงดัง "เราอาจจะคิดไปเอง แต่เราแค่รู้สึกว่า นายมีประเป๋าสตางค์ใหม่ แล้วลายมันเหมือนกระเป๋าสตางค์ของเรา"
หมีไม่ตอบ กลับปิดประตูร้านใส่หน้าลิงเสีย มันเคาะประตูเรียกหมีให้มาคุยกันอยู่ครึ่งวัน กว่าหมีจะเปิดประตูออกมาตอบคำถามนั้น
"เป็นอย่างที่นายคิดนั่นแหละ เราเก็บกระเป๋าสตางค์ของนายได้ แล้วเราชอบมันมาก เลยเอามาใช้"
"เมื่อไหร่"
"ซักพักแล้วล่ะ"
"ทำไมนายไม่บอกเราล่ะ"
หมีไม่ตอบอะไร
"เห็นมั้ยเราบอกแล้วว่ากระเป่าสตางค์ใบนี้มันสวยมาก แต่นายคงจะไม่คืนเราแล้วใช่มั้ย"
หมียืนฟัง และไม่ได้ตอบอะไรเช่นกัน
"เราขอให้นายมีความสุขกระกระเป๋าสตางค์ใบนั้นให้มากๆ นะ"
ลิงพูดจบก็ปิดประตูร้านใส่หน้าหมีแล้ววิ่งออกไป มันกลับไปนอนร้องไห้เสียใจที่บ้าน มันไม่ได้เสียใจที่มันไม่ได้กระเป๋าสตางค์คืน แต่มันเสียใจที่หมีเพื่อนรักไม่รักษาสัญญาที่มีไว้ ก็แค่คำพูดที่พูดออกไป มันเชื่อถืออะไรไม่ได้เลย ลิงเกลียดทุกคน เกลียดหมาป่าเจ้าเล่ห์ เกลียดหมี เกลียดกระเป๋าสตางค์ใบนั้น ลิงเกลียดหมดทุกคน
มันค่อยๆ ได้สติ จึงเดินทางไปปรึกษากับแมวที่อยู่หมู่บ้านข้างๆ เพราะเห็นว่าแมวตัวนี้ก็เคยมีปัญหาเกี่ยวกับกระเป๋าสตางค์มาก่อน จึงน่าจะเป็นที่ปรึกษาได้ ลิงได้แต่ร้องไห้โยเย แมวได้แต่ตบไหล่ปลอบใจ จนลิงหยุดร้องไห้ แมวได้บอกกับลิงว่า "มันอาจจะทำใจยาก แต่โลกนี้มันกว้างมาก ยังมีฝูงสัตว์อีกมากมายที่เค้าใจดี และพร้อมจะเป็นเพื่อนนายเสมอ และกระเป๋าสตางค์ก็ไม่ได้มีใบเดียว สักวันนายอาจจะได้เจอกระเป๋าสตางค์ใบใหม่ที่สวยและมีคุณค่ามากกว่ากระเป่าสตางค์ใบเดิมที่นายเคยใช้ก็ได้"
ลิงกอดแมวขอบคุณที่มันคอยรับฟังและให้คำปรึกษา มันย้ายหมู่บ้านไปให้ไกลจากที่เดิมมาอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆ ที่ไกลออกไป หาเลี้ยงชีพด้วยการเขียนนิยายขายเงียบๆ มันไม่กลับไปคุยกับหมีและหมาป่าอีกเลย เพราะมันได้ตระหนักแล้วว่า ผู้คนที่ได้รู้จักกันที่ป่าแห่งนั้น ป่าที่มีนกกระจิบชอบร้องจิ๊บๆ ทั้งวัน มันไว้ใจไม่ได้เลย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : แค่คำพูดลอยๆ ที่ออกมาจากปาก มันเชื่อถืออะไรไม่ได้หรอก
----------------------------------------------------------------------
คำถาม คิดว่าใครเป็นคนที่มีความผิด
1. ลิง ที่ไม่คู่ควรกับกระเป๋าสตางค์ใบนั้น
2. หมี ที่ผิดสัญญาที่มีต่อลิง
3. หมาป่า ที่พูดจาหลอกลวง
4. กระเป๋าสตางค์ ที่มีลวดลายยั่วยวนหมี
5. ผู้เขียน ที่พยายามเล่าเรื่องราวง่ายๆ ให้ออกมาเข้าใจยาก
นิทานเรื่อง "ลิง หมี และกระเป๋าสตางค์"
"นิทานเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง"
ทั้งนี้ทั้งนั้นจะขอเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์และตัวละครให้อยู่ในรูปแบบของสัญลักษณ์
แต่คงไว้ซึ่งเค้าโครงเดิมแทบทุกประการเท่าที่จะทำได้โดยไม่ทำให้อรรถรสของนิทานเสียไป
----------------------------------------------------------------------
เรื่องราวของลิงกับหมีที่เป็นเพื่อนกัน ทั้งสองเจอกันในป่าใหญ่แห่งหนึ่ง ป่าที่มีนกกระจิบชอบร้องจิ๊บๆ ทั้งวัน ป่าแห่งนี้นำพามาซึ่งมิตรภาพดีๆ ที่เกิดขึ้นระห่างทั้งคู่ ลิงได้บ่นกับหมีว่ามันอยากได้กระเป๋าสตางค์ ตั้งแต่เกิดมามันไม่เคยมีกระเป่าสตางค์มาก่อน หมีจึงบอกลิงว่า ให้เก็บตังค์ไว้ สักวันเมื่อได้เจอกระเป๋าสตางค์ที่ถูกใจค่อยซื้อ มันจึงเก็บตังค์คอยเรื่อยมา
วันหนึ่งลิงเดินไปหาหมีที่ตลาดเพราะหมีเปิดร้านขายรูปวาดอยู่ที่นั่น มันเดินผ่านร้านขายกระเป๋าสตางค์ และได้ไปพบกับกระเป๋าสตางค์ใบหนึ่ง เป็นลายที่มันเห็นแวบแรกแล้วก็ถูกใจมาก แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อในทันที มันใช้เวลาพิจารณาอยู่นานพอสมควร ผ่านไปราวๆ 2 เดือน มันจึงตัดสินใจซื้อกระเป๋าสตางค์ใบนั้นมา
เจ้าลิงตื่นเต้นมากที่ได้มีกระเป๋าสตางค์ใบแรกเป็นของตัวเอง จากที่เคยมองคนอื่นเดินพกไปไหนมาไหนมาตลอด มันรักและดูแลกระเป๋าสตางค์ใบนั้นมาก เมื่อใดที่มันรู้สึกและท้อ มันจะนั่งมองลวดลายต่างๆ บนกระเป๋าสตางค์ ทำให้รอยยิ้มค่อยๆ เผยออกมา มันเอากระเป๋าสตางค์ไปอวดกับหมี หมีก็ชื่นชมยินดีที่มันจะได้มีกระเป๋าสตางค์ใช้สักที
ช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไปได้ราวๆ 3 อาทิตย์ ลิงได้ทำกระเป่าสตางค์แสนรักหล่นหาย ไม่ว่าจะค้นหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ มันเลยนั่งร้องห่มร้องไห้ เฝ้าแต่คิดถึงช่วงเวลาที่เคยผูกพันกับกระเป๋าสตางค์ใบนั้น มันไปปรึกษากับหมี หมีบอกมันว่าให้ทำใจซะเถอะ ยังไงมันก็คงจะไม่มีทางเจอกระเป๋าสตางค์ใบเดิมอีกแล้ว ให้ตัดใจเก็บตังค์ซื้อกระเป๋าสตางค์ใบใหม่เถอะ มันก็เลยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ก็เลยเก็บตังค์ และหวังไว้เล็กๆ ว่ามันจะหากระเป๋าสตางค์ใบเดิมพบอีกครั้ง
ผ่านไปราวๆ หนึ่งเดือน เมื่อลิงเริ่มตัดใจจากกระเป๋าสตางค์ใบเดิมได้บ้าง หมาป่า เพื่อนรักของหมีได้ส่งจดหมายมาบอกลิงว่า ตัวมันกับหมีได้ไปเที่ยวสวนสัตว์กัน หมีบอกมันว่ากำลังสนใจกระเป่าสตางค์ใบหนึ่งอยู่ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใบไหน ลิงได้อ่านก็เริ่มคิดถึงกระเป่าสตางค์ใบเดิมขึ้นมาอีกครั้ง
วันต่อมาลิงได้เจอกับหมี เลยได้คุยกัน ลิงถามหมีว่า สนใจกระเป่าสตางค์ใบไหน หมีตอบว่ามันอธิบายไม่ถูก ลิงเลยบอกหมีไปว่ามันยังคิดถึงกระเป๋าสตางค์ใบเดิมอยู่ หมีเลยให้"คำมั่นสัญญา"กับลิงว่า "ถ้ามันหากระเป๋าสตางค์เจอ มันจะไม่เอาไปใช้เอง มันจะเอามาคืนลิง" ลิงก็สบายใจขึ้น
ผ่านไปราวๆ หนึ่งเดือน ลิงได้เดินไปคุยกับหมีที่ร้านขายภาพวาดของหมี แต่หมีไม่อยู่ มันเลยนั่งรอ ในระหว่างที่มันนั่งรอ มันได้เห็นกับรูปวาดรูปหนึ่งแล้วก็ตกตะลึง มันคือรูปวาดของกระเป๋าสตางค์ใบเดิมของลิงที่เคยทำหาย แต่รอบๆ ร้านก็มีรูปวาดกระเป๋าสตางค์ใบอื่นๆ อยู่ด้วย ก็เลยคิดว่าไม่แปลก เพราะเขาวาดรูปขายเป็นอาชีพอยู่แล้ว มันนั่งรอหมีอยู่นานก็ไม่โผล่มา เลยกลับบ้านไป
วันหนึ่งลิงฝันร้าย มันฝันว่าเจอกระเป๋าสตางค์ใบเดิมของมัน แต่ไปอยู่ในมือของหมีเพื่อนรัก มันตื่นมาก็ตกใจมาก รีบวิ่งไปถามหมาป่าเรื่องกระเป่าสตางค์ของหมี หมาป่าได้แต่ตอบว่า "ไม่รู้ เป็นเรื่องของหมี มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร" ลิงรู้ว่าหมาป่าต้องโกหก เพราะหมาป่าสนิทกับหมามากกว่า และหมาป่าก็เคยไปช่วยหมีวาดรูปที่ร้านด้วย ลิงผลักหมาป่าออกไปให้พ้นทางแล้วรีบวิ่งไปถามหมีที่ร้านของหมี
"เราอยากรู้เรื่องกระเป๋าสตางค์ของนาย" ลิงตะโกนถามเสียงดัง "เราอาจจะคิดไปเอง แต่เราแค่รู้สึกว่า นายมีประเป๋าสตางค์ใหม่ แล้วลายมันเหมือนกระเป๋าสตางค์ของเรา"
หมีไม่ตอบ กลับปิดประตูร้านใส่หน้าลิงเสีย มันเคาะประตูเรียกหมีให้มาคุยกันอยู่ครึ่งวัน กว่าหมีจะเปิดประตูออกมาตอบคำถามนั้น
"เป็นอย่างที่นายคิดนั่นแหละ เราเก็บกระเป๋าสตางค์ของนายได้ แล้วเราชอบมันมาก เลยเอามาใช้"
"เมื่อไหร่"
"ซักพักแล้วล่ะ"
"ทำไมนายไม่บอกเราล่ะ"
หมีไม่ตอบอะไร
"เห็นมั้ยเราบอกแล้วว่ากระเป่าสตางค์ใบนี้มันสวยมาก แต่นายคงจะไม่คืนเราแล้วใช่มั้ย"
หมียืนฟัง และไม่ได้ตอบอะไรเช่นกัน
"เราขอให้นายมีความสุขกระกระเป๋าสตางค์ใบนั้นให้มากๆ นะ"
ลิงพูดจบก็ปิดประตูร้านใส่หน้าหมีแล้ววิ่งออกไป มันกลับไปนอนร้องไห้เสียใจที่บ้าน มันไม่ได้เสียใจที่มันไม่ได้กระเป๋าสตางค์คืน แต่มันเสียใจที่หมีเพื่อนรักไม่รักษาสัญญาที่มีไว้ ก็แค่คำพูดที่พูดออกไป มันเชื่อถืออะไรไม่ได้เลย ลิงเกลียดทุกคน เกลียดหมาป่าเจ้าเล่ห์ เกลียดหมี เกลียดกระเป๋าสตางค์ใบนั้น ลิงเกลียดหมดทุกคน
มันค่อยๆ ได้สติ จึงเดินทางไปปรึกษากับแมวที่อยู่หมู่บ้านข้างๆ เพราะเห็นว่าแมวตัวนี้ก็เคยมีปัญหาเกี่ยวกับกระเป๋าสตางค์มาก่อน จึงน่าจะเป็นที่ปรึกษาได้ ลิงได้แต่ร้องไห้โยเย แมวได้แต่ตบไหล่ปลอบใจ จนลิงหยุดร้องไห้ แมวได้บอกกับลิงว่า "มันอาจจะทำใจยาก แต่โลกนี้มันกว้างมาก ยังมีฝูงสัตว์อีกมากมายที่เค้าใจดี และพร้อมจะเป็นเพื่อนนายเสมอ และกระเป๋าสตางค์ก็ไม่ได้มีใบเดียว สักวันนายอาจจะได้เจอกระเป๋าสตางค์ใบใหม่ที่สวยและมีคุณค่ามากกว่ากระเป่าสตางค์ใบเดิมที่นายเคยใช้ก็ได้"
ลิงกอดแมวขอบคุณที่มันคอยรับฟังและให้คำปรึกษา มันย้ายหมู่บ้านไปให้ไกลจากที่เดิมมาอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆ ที่ไกลออกไป หาเลี้ยงชีพด้วยการเขียนนิยายขายเงียบๆ มันไม่กลับไปคุยกับหมีและหมาป่าอีกเลย เพราะมันได้ตระหนักแล้วว่า ผู้คนที่ได้รู้จักกันที่ป่าแห่งนั้น ป่าที่มีนกกระจิบชอบร้องจิ๊บๆ ทั้งวัน มันไว้ใจไม่ได้เลย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : แค่คำพูดลอยๆ ที่ออกมาจากปาก มันเชื่อถืออะไรไม่ได้หรอก
----------------------------------------------------------------------
คำถาม คิดว่าใครเป็นคนที่มีความผิด
1. ลิง ที่ไม่คู่ควรกับกระเป๋าสตางค์ใบนั้น
2. หมี ที่ผิดสัญญาที่มีต่อลิง
3. หมาป่า ที่พูดจาหลอกลวง
4. กระเป๋าสตางค์ ที่มีลวดลายยั่วยวนหมี
5. ผู้เขียน ที่พยายามเล่าเรื่องราวง่ายๆ ให้ออกมาเข้าใจยาก