สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 36
จากที่ จขกท.เล่า รถใหม่ๆ ก็ทำชั้น 1 พอเริ่มเก่าเลยลดมา 2+ อันนี้ก็เป็นวิธีที่หลายคนทำเหมือนกันนะ เพราะเบี้ยมันถูกลงเยอะ แต่ก็ยังได้ความคุ้มครองพอสมควร อย่างรถหาย ไฟไหม้ หรือชนมีคู่กรณี
ส่วนคนที่ขับแบบไม่ทำเลย... ถ้าเขามั่นใจว่าขับไม่เสี่ยง และมีเงินสำรองเผื่อเวลาพลาด ก็โอเคในมุมเขาแหละ แต่เอาจริงๆ บนถนนเราคุมแค่ตัวเองไม่ได้ไง บางทีเราขับดีแล้ว แต่คนอื่นมาชนเราก็เจ็บใจอยู่ดี 🤦♂️ ถ้ามีประกัน อย่างน้อยก็มีคนช่วยเคลียร์ ไม่ต้องควักเองทั้งหมด
จริงๆ ประกันมันไม่ได้มีแต่ตอนชนอย่างเดียวด้วยนะ บางเจ้าก็มีพวกบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน รถเสียกลางทาง น้ำมันหมด ฯลฯ โทรเรียกได้เลย อันนี้ก็เป็นข้อดีอีกอย่างที่หลายคนชอบ
สรุป คือ ไม่ได้ผิดที่บางคนเลือกไม่ทำ แต่ถ้ามีงบก็แนะนำให้ทำสักชั้นที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น ไม่ต้องถึงชั้น 1 ก็ได้ เอา 2+ หรือ 3+ ก็ยังโอเค ได้อุ่นใจกว่าแน่นอน
อย่างประกันชั้น 2+ ราคา 5,394 บาทเอง เอามาจากเว็บเปรียบเทียบประกัน
ส่วนคนที่ขับแบบไม่ทำเลย... ถ้าเขามั่นใจว่าขับไม่เสี่ยง และมีเงินสำรองเผื่อเวลาพลาด ก็โอเคในมุมเขาแหละ แต่เอาจริงๆ บนถนนเราคุมแค่ตัวเองไม่ได้ไง บางทีเราขับดีแล้ว แต่คนอื่นมาชนเราก็เจ็บใจอยู่ดี 🤦♂️ ถ้ามีประกัน อย่างน้อยก็มีคนช่วยเคลียร์ ไม่ต้องควักเองทั้งหมด
จริงๆ ประกันมันไม่ได้มีแต่ตอนชนอย่างเดียวด้วยนะ บางเจ้าก็มีพวกบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน รถเสียกลางทาง น้ำมันหมด ฯลฯ โทรเรียกได้เลย อันนี้ก็เป็นข้อดีอีกอย่างที่หลายคนชอบ
สรุป คือ ไม่ได้ผิดที่บางคนเลือกไม่ทำ แต่ถ้ามีงบก็แนะนำให้ทำสักชั้นที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น ไม่ต้องถึงชั้น 1 ก็ได้ เอา 2+ หรือ 3+ ก็ยังโอเค ได้อุ่นใจกว่าแน่นอน
อย่างประกันชั้น 2+ ราคา 5,394 บาทเอง เอามาจากเว็บเปรียบเทียบประกัน

ความคิดเห็นที่ 34
ใช้รถคันเดิมผ่านไป 6 ปี ผมเปลี่ยนมาใช้ประกันชั้น 2 เหมือนกัน พอรถอายุเพิ่มขึ้นก็โดนลดชั้นอัตโนมัติ รวมถึงโดนเพิ่มเบี้ย ทางออกของผมคือหันไปหาบริษัทประกันที่สามารถให้ข้อเสนอที่คุ้มกับรถเราได้ ยากตอนหาแรกๆ แต่พอเจอแล้วก็กะใช้ต่อยาวๆ ปัจจุบันย้ายมาทำของ insurverse เป็นประกันออนไลน์เครือเดียวกับทิพยประกันภัย เดาเอาว่าที่ทำราคาถูกได้คงมาจากการไม่ต้องจ้างพนักงาน ผมขับรถแบบระวังตลอด บางปีไม่มีชนเลย แต่ทำเอาไว้เพื่อความอุ่นใจ เพราะเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดเมื่อไหร่
แสดงความคิดเห็น
ใครไม่ทำประกันภัยรถยนต์บ้าง