เจอบทความในเฟสแล้วอยากฉีดป้องกันไว้เลยค่ะ อายุเพิ่ง22 เห็นว่าจะได้ผลดีที่สุด หากเริ่มฉีดตั้งแต่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
รพ.รัฐมีมั้ยคะ ใช้สิทธิ์อะไรได้บ้าง ถ้าเอกชนเข็มนึงแพงมั้ยคะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในฐานะหมอสูติ ผมต้องเจอกับคำถามเรื่องมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ
เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ
มะเร็งปากมดลูก พบมากเป็นอันดับสองของมะเร็งในสตรีไทย รองจากมะเร็งเต้านม จากสถิติคือ 18.1 รายต่อ ประชากรหญิง 100000 คนต่อปี
เจ้ามะเร็งปากมดลูกนี้ แตกต่างจากมะเร็งประเภทอื่น ตรงที่ว่า มันสัมพันธ์กับ เชื้อ HPV ที่มักจะรับมาจากการมีเพศสัมพันธ์ กับผู้ที่ได้รับเชื้อมา หรือ ไปสัมผัสกับเชื้อ โดยบังเอิญ
หากเราป้องกันหรือตรวจจับเชื้อนี้แต่ต้นๆจะช่วยลดโอกาสการเกิดได้ค่อนข้างมากครับ
วิธี การตรวจมีด้วยกัน 2 แบบหลักๆ ในปัจจุบัน คือ การตรวจด้วย Papsmear ซึ่งก็มี 2 แบบเช่นกัน และอีกอันที่นิยมใช้คือ การตรวจหาเชื้อ HPV DNA testing
ในที่นี้ ผมขออนุญาตพูดเพียงแค่ อายุที่เหมาะสมในการตรวจ และ ความถี่ในการตรวจคัดกรองเท่านั้น
1.อายุที่เริ่มตรวจนั้น แบ่งเป็น หญิงสาวที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ให้เริ่มตั้งแต่ 25 ปี กับ ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ อาจจะเริ่มตรวจตั้งแต่ 30 ปี
2.สาวๆที่อายุเริ่มจะมากกว่า 30 ปี นั้น หากเคยตรวจ Pap smear ติดต่อกัน 3 ครั้ง ให้ตรวจซ้ำได้ ทุก 3-5 ปี
3.ถ้าเคยตรวจทั้ง PAP smear และ HPV test แล้ว ไม่พบเซลล์มะเร็ง ให้ข้ามไป 3 ปี เช่นกัน
4.คนที่เคยได้รับ HPV vaccine ก็ยังคงต้องได้รับการตรวจเช่นสาวๆทั่วไป
ส่วนอายุที่จะหยุดตรวจได้แล้ว ก็คือ อายุ 65 ปีครับ
สรุปอีกทีนะครับ
ทางการแพทย์พิสูจน์มาแล้วว่า เชื้อ HPV เป็นตัวการของการเกิดมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่ติดต่อผ่านการสัมผัส รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์
ดังนั้น คนที่จะพบได้บ่อย คือ คนที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย รวมไปถึงคนที่ มีคู่นอนหลายคนครับ
วิธีป้องกันที่ดีคือการฉีดวัคซีนครับ
จะได้ผลดีที่สุด หากเริ่มฉีดตั้งแต่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
เหมือนก่อนลงทุนหุ้นก็ต้องหาความรู้ก่อนเสมอครับ
(โดย หมอเค นพ.ศุภศักดิ์ หล่อธนวนิช ครับ)
อยากฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่อายุน้อยๆ
รพ.รัฐมีมั้ยคะ ใช้สิทธิ์อะไรได้บ้าง ถ้าเอกชนเข็มนึงแพงมั้ยคะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในฐานะหมอสูติ ผมต้องเจอกับคำถามเรื่องมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ
เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ
มะเร็งปากมดลูก พบมากเป็นอันดับสองของมะเร็งในสตรีไทย รองจากมะเร็งเต้านม จากสถิติคือ 18.1 รายต่อ ประชากรหญิง 100000 คนต่อปี
เจ้ามะเร็งปากมดลูกนี้ แตกต่างจากมะเร็งประเภทอื่น ตรงที่ว่า มันสัมพันธ์กับ เชื้อ HPV ที่มักจะรับมาจากการมีเพศสัมพันธ์ กับผู้ที่ได้รับเชื้อมา หรือ ไปสัมผัสกับเชื้อ โดยบังเอิญ
หากเราป้องกันหรือตรวจจับเชื้อนี้แต่ต้นๆจะช่วยลดโอกาสการเกิดได้ค่อนข้างมากครับ
วิธี การตรวจมีด้วยกัน 2 แบบหลักๆ ในปัจจุบัน คือ การตรวจด้วย Papsmear ซึ่งก็มี 2 แบบเช่นกัน และอีกอันที่นิยมใช้คือ การตรวจหาเชื้อ HPV DNA testing
ในที่นี้ ผมขออนุญาตพูดเพียงแค่ อายุที่เหมาะสมในการตรวจ และ ความถี่ในการตรวจคัดกรองเท่านั้น
1.อายุที่เริ่มตรวจนั้น แบ่งเป็น หญิงสาวที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ให้เริ่มตั้งแต่ 25 ปี กับ ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ อาจจะเริ่มตรวจตั้งแต่ 30 ปี
2.สาวๆที่อายุเริ่มจะมากกว่า 30 ปี นั้น หากเคยตรวจ Pap smear ติดต่อกัน 3 ครั้ง ให้ตรวจซ้ำได้ ทุก 3-5 ปี
3.ถ้าเคยตรวจทั้ง PAP smear และ HPV test แล้ว ไม่พบเซลล์มะเร็ง ให้ข้ามไป 3 ปี เช่นกัน
4.คนที่เคยได้รับ HPV vaccine ก็ยังคงต้องได้รับการตรวจเช่นสาวๆทั่วไป
ส่วนอายุที่จะหยุดตรวจได้แล้ว ก็คือ อายุ 65 ปีครับ
สรุปอีกทีนะครับ
ทางการแพทย์พิสูจน์มาแล้วว่า เชื้อ HPV เป็นตัวการของการเกิดมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่ติดต่อผ่านการสัมผัส รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์
ดังนั้น คนที่จะพบได้บ่อย คือ คนที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย รวมไปถึงคนที่ มีคู่นอนหลายคนครับ
วิธีป้องกันที่ดีคือการฉีดวัคซีนครับ
จะได้ผลดีที่สุด หากเริ่มฉีดตั้งแต่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
เหมือนก่อนลงทุนหุ้นก็ต้องหาความรู้ก่อนเสมอครับ
(โดย หมอเค นพ.ศุภศักดิ์ หล่อธนวนิช ครับ)