ถ้ายอมรับก็ต้องยอมรับว่า แม้ตำราพระไตรปิฎกก็อาจถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดเพี้ยนไปจากเดิมได้ และเมื่อยอมรับความจริงนี้ก็แสดงว่าเป็น "คนจริง" ซึ่งคนที่ยอมรับความจริงจะมีความจริงใจต่อผู้อื่นอยู่ในจิตใต้สำนึก เมื่อมีความจริงใจย่อมแสดงว่าเป็นคนดีมีคุณธรรม คือเป็นคนมีน้ำใจ รักผู้อื่น ให้อภัย และชอบช่วยเหลือผู้อื่นด้วยใจบริสุทธิ์ เป็นต้น ซึ่งคนที่ยอมรับความจริงก็จะมีโอกาสที่จะได้พบกับสัจจธรรม หรือคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าได้โดยไม่ยาก
แต่ถ้าไม่ยอมรับ ก็แสดงว่าเป็น "คนไม่จริง" เพราะไม่ยอมรับความจริง เมื่อไม่ยอมรับความจริงก็แสดงว่าเป็นคนไม่มีความจริงใจต่อผู้อื่นอยู่ในจิตสำนึก เมื่อไม่มีความจริงใจ ก็แสดงว่าขาดคุณธรรม คือเป็นคนเฉโก หลวงลวง ชอบดูหมิ่นผู้อื่น ผูกโกรธ และชอบเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น เป็นต้น อยู่ในจิตใต้สำนึก ซึ่งผู้ที่ไม่ยอมรับความจริงจะไม่มีโอกาสได้พบกับสัจจธรรม หรือคำสอนที่แท้ของพระพุทธเจ้าได้ แม้จะศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาอย่างมากมายแล้วก็ตาม
พระพุทธเจ้าได้วางหลักในการค้นหาเพื่อให้พบคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์ ในเรื่องการดับทุกข์ในปัจจุบันของจิตใจมนุษย์ (หลักอริยสัจ ๔) เอาไว้ดังนี้ "เมื่อได้เรียนรู้คำสอนใดมาก็อย่าเพิ่งเชื่อว่าถูกหรือผิด แต่ให้นำคำสอนที่ได้เรียนรู้มานั้น มาพิจารณาดูก่อนว่ามีโทษหรือมีประโยชน์? ถ้าเห็นว่ามีโทษก็ให้ละทิ้งเสีย แต่ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์และไม่มีโทษ ก็ให้นำเอามาทดลองปฏิบัติดูก่อน ถ้าทดลองปฏิบัติดูแล้วไม่เกิดผลเป็นความดับลงหรือลดลงของความทุกข์จริง ก็ให้ละทิ้งไปอีกเหมือนกัน แต่ถ้าทดลองปฏิบัติดูแล้วเกิดผลเป็นความดับลงหรือลดลงของความทุกข์จริง ก็ให้รับเอามาปฏิบัติให้ยิ่งๆขึ้นต่อไป และเข้าใจได้ทันทีว่า นี่คือการค้นพบคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าแล้ว"
คุณ ยอมรับหรือไม่ว่า ตำราทั้งหลายอาจถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดเพี้ยนไปจากเดิมได้?
แต่ถ้าไม่ยอมรับ ก็แสดงว่าเป็น "คนไม่จริง" เพราะไม่ยอมรับความจริง เมื่อไม่ยอมรับความจริงก็แสดงว่าเป็นคนไม่มีความจริงใจต่อผู้อื่นอยู่ในจิตสำนึก เมื่อไม่มีความจริงใจ ก็แสดงว่าขาดคุณธรรม คือเป็นคนเฉโก หลวงลวง ชอบดูหมิ่นผู้อื่น ผูกโกรธ และชอบเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น เป็นต้น อยู่ในจิตใต้สำนึก ซึ่งผู้ที่ไม่ยอมรับความจริงจะไม่มีโอกาสได้พบกับสัจจธรรม หรือคำสอนที่แท้ของพระพุทธเจ้าได้ แม้จะศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาอย่างมากมายแล้วก็ตาม
พระพุทธเจ้าได้วางหลักในการค้นหาเพื่อให้พบคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์ ในเรื่องการดับทุกข์ในปัจจุบันของจิตใจมนุษย์ (หลักอริยสัจ ๔) เอาไว้ดังนี้ "เมื่อได้เรียนรู้คำสอนใดมาก็อย่าเพิ่งเชื่อว่าถูกหรือผิด แต่ให้นำคำสอนที่ได้เรียนรู้มานั้น มาพิจารณาดูก่อนว่ามีโทษหรือมีประโยชน์? ถ้าเห็นว่ามีโทษก็ให้ละทิ้งเสีย แต่ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์และไม่มีโทษ ก็ให้นำเอามาทดลองปฏิบัติดูก่อน ถ้าทดลองปฏิบัติดูแล้วไม่เกิดผลเป็นความดับลงหรือลดลงของความทุกข์จริง ก็ให้ละทิ้งไปอีกเหมือนกัน แต่ถ้าทดลองปฏิบัติดูแล้วเกิดผลเป็นความดับลงหรือลดลงของความทุกข์จริง ก็ให้รับเอามาปฏิบัติให้ยิ่งๆขึ้นต่อไป และเข้าใจได้ทันทีว่า นี่คือการค้นพบคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าแล้ว"