วันนี้เป็นกระทู้ไว้อ่านเล่นๆ... เรื่องนี้ที่จริงผมเคยตั้งกระทู้ไว้นานแล้ว วันนี้เอามาเล่าใหม่ครับ เกี่ยวกับ BS/CS ซึ่งเป็นช่องเคเบิ้ลดาวเทียม (Pay TV) ของทางญี่ปุ่นเค้า อยากให้ทุกคนได้รู้จัก ความเยอะของประเทศญี่ปุ่นกันครับ อิอิ
คำเตือน โปรดอย่างง...
BS = Broadcasting Satellite
BS หรือ Broadcasting Satellite เป็นการให้บริการ Pay TV ทางดาวเทียม โดยเจ้าของดาวเทียมในระบบนี้ก็คือ NHK ร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี, Pay TV และผู้ให้บริการเคเบิ้ล (Skyperfectv!)
ทาง NHK ได้สร้างการออกอากาศโทรทัศน์ โดยรับสัญญาณผ่านดาวเทียม เพื่อที่คนที่บ้านอยู่ห่างไกลจะได้รับสัญญาณทีวีชัดๆเหมือนคนที่อยู่ในเมืองใหญ่ โดยได้ทดลองออกอากาศโดยปล่อยดาวเทียมดวงแรกที่ใช้ในกิจการดาวเทียม BS นั่นก็คือดาวเทียม "BSE" มาเริ่มใช้จริงกับดาวเทียมที่ชื่อ "BS-2A" ที่ปล่อยในช่วงต้นปี ค.ศ.1994
ดาวเทียม BS มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1984 ถือเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมรายแรกของโลก สมัยแรกนั้นเป็นดาวเทียมอนาล๊อก แม้จะเล็งองศาตรงเป๊ะ แต่ภาพก็ยังเบลอๆซ่าๆเหมือนกับทีวีอนาล๊อก (ใครเคยติด IBC ที่เป็นเคเบิ้ลอนาล๊อกคงนึกออก โดนจิ๊กสัญญาณไปใช้ได้) บ้านไหนอยากใช้ต้องไปลงทะเบียน ช่องที่มีในช่วงแรกๆยังไม่ค่อยเยอะ (มีช่องฟรีทีวี NHK ปล่อยมาให้ด้วย)

(ภาพจากช่อง NHK BS1 ผ่านดาวเทียมอนาล๊อก ภาพจะเบลอๆไม่ค่อยชัด [ภาพนี้ปี ค.ศ.2011])
ดาวเทียม BS ตั้งแต่ก่อตั้งมา ก็มีช่องที่มาร่วมกันออกอากาศกันมากมาย ทั้งของ NHK เอง เช่น BS1, BS2, BS3 (BS Premium), WOWOW และช่องบางช่องจาก Skyperfectv! และได้เป็นหนูทดลองส่งสัญญาณ "MUSE" ซึ่งเป็นภาพความละเอียดสูงในรูปแบบทีวีอนาล๊อกที่ทาง NHK คิดค้นขึ้นเอง เอามาแข่งกับระบบ HD MAC ของ
อังกฤษ ฝรั่งเศส
พอมาถึง 1 ธันวาคม ค.ศ.2000 ก็ได้พลิกโฉมสู่ "BS Digital" หรือดาวเทียม BS ระบบดิจิตอล ออกอากาศในช่วงคลื่น 11-12GHz (KU-Band) ใช้ระบบ ISDB-S ที่ญี่ปุ่นคิดเอง
ได้มีการเพิ่มช่องเข้าไปมากมาย โดยเฉพาะช่อง Pay TV ที่ทางสถานีฟรีทีวีได้สร้างช่องขึ้นมา เพื่อออกอากาศรายการพิเศษและรีรันรายการของทางสถานี และที่พิเศษสุดคือ
ได้มีการออกอากาศภาพความละเอียดสูงที่ญี่ปุ่นได้คิดขึ้นเองคือ "MUSE" เปลี่ยนจากเดิมที่เป็นรูปแบบอนาล๊อกมาเป็นดิจิตอล (ความละเอียด 1024x576 1920x1080) MUSE เป็นระบบ HD อนาล็อกที่ออกอากาศมาตั้งแต่ ค.ศ.1991 ส่วนในปี ค.ศ.2000 เป็นรูปแบบดิจิตอล ความละเอียด 1920x1080 บีบอัดแบบ MPEG2 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ณ เวลานั้น
ยกเลิกการปล่อยสัญญาณฟรีทีวีผ่านดาวเทียม แต่ในปัจจุบันได้นำฟรีทีวี 7ช่อง ในโซนโตเกียว (จาก8ช่อง มี Tokyo MX ไม่ได้ไปด้วย) ไปสำรองไว้ เผื่อทางทีวีดิจิตอลมีปัญหาหรือสัญญาณขัดข้อง ก็จะเปิดให้รับสัญญาณฟรีทีวีผ่านดาวเทียมได้ ฟรีทีวีโซนโตเกียวถูกนำไปสำรองไว้บนดาวเทียม BS ตั้งแต่ 29 ม.ค. 2010 ถึง 24 ก.ค. 2011 ช่วงเปลี่ยนผ่านไปทีวีดิจิตอลเต็มรูปแบบ โดยส่งสัญญาณไปให้พื้นที่ๆทีวีดิจิตอลยังเข้าไม่ถึง
แต่เพื่อที่ผู้รับชมด้วยเครื่องรับเก่า ที่ไม่รองรับดิจิตอล ก็สามารถรับสัญญาณดาวเทียมแบบอนาล๊อกได้อยู่ โดยจะส่งสัญญาณทั้งอนาล๊อกและดิจิตอลควบคู่กันไป จนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ.2011
*
เข้าใจกันง่ายๆ
ตอนที่เป็นดาวเทียมอนาล๊อก = ช่องอนาล๊อก (SD) + MUSE อนาล๊อก (HD)
พอมาเริ่มดิจิตอล = ช่องดิจิตอล (SD) + ช่องอนาล๊อก (SD) + ดิจิตอล 1080i (HD)
หลัง 24 ก.ค. 2011 = ช่องดิจิตอล (SD, HD)
แต่ว่าระบบภาพแบบ MUSE นั้น ก็มีจุดจบของมัน เนื่องจากมันกินแบนวิท(พื้นที่)ในดาวเทียมเกินความจำเป็น (ใช้บิทเรตเท่าช่อง HD แต่ภาพไม่ถึง ก็ต้องเปลี่ยน) ในปี ค.ศ.2007 เลยได้มีการแปลงระบบช่อง HD บนดาวเทียม BS จากที่เป็น MUSE ให้มาเป็นระบบภาพแบบ 1080i หรือช่อง HD มาตรฐานโลกนั่นเอง
ตอนนี้ดาวเทียม BS ที่ใช้ในปัจจุบันคือ BSAT 2C, 3A, 3C/JCSAT 110R
มีช่องบนดาวเทียม BS ในปัจจุบันทั้งหมด 31ช่อง (ไม่นับฟรีทีวีที่นำไปสำรองไว้) โดยในจำนวนนี้มี HD 29ช่อง (MPEG2 19Mbps, 14Mbps)
http://www.dpa.or.jp/bs/station.html <<< รายชื่อช่อง BS (มี Disney Channel กับ Weather News ที่ไม่เป็น HD)
ถ้าถามว่า BS มันดีตรงไหน สำคัญยังไงในญี่ปุ่น?
ในประเทศญี่ปุ่นนั้น BS ถือเป็นมาตรฐานของระบบ Pay TV หรือทีวีดาวเทียมในญี่ปุ่น ทีวีสมัยก่อนถ้าจะรับช่องจากดาวเทียม BS ต้องต่อกล่อง แต่พอแปลงมาเป็นดิจิตอล ทีวีที่ขายในญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.2003-2004 ขึ้นไปจะมีตัวรับ BS มาให้กับทีวีทุกรุ่น (ยกเว้นจอแบบ 4:3 ซึ่งตายหายจากไปอย่างรวดเร็ว)

(ในกรอบสีแดง รูซ้ายเสียบจานดาวเทียม, รูขวาเสียบเสาอากาศ)
แต่ถ้านึกว่าพอมีการออกอากาศดาวเทียม BS แบบคู่ขนานอนาล๊อกและดิจิตอล แล้วจะไปลักไก่รับสัญญาณไม่ได้นะครับ เพราะทีวีที่รองรับ BS ในตัว หรือกล่องที่รองรับ BS หลังจากปี ค.ศ.2000 ขึ้นไป จะเป็นแบบ Digital Only ไม่รับสัญญาณดาวเทียมอนาล๊อก ฉะนั้นอุปกรณ์ไว้รับหายากมากๆ ค่าบริการช่อง BS ก็ไม่ได้แพงมาก + คนญี่ปุ่นถือเรื่องลิขสิทธิ์ การลักสัญญาณดูจึงแทบไม่มีเลย
ดาวเทียม BS มีผลต่อรีโมททีวีในญี่ปุ่นด้วย เพราะถ้าคุณสังเกตรีโมททีวีที่ขายในญี่ปุ่นจะมีเลข 1-12 (ประเทศอื่นเป็น 0-9, รีโมทญี่ปุ่น เลข 0 อยู่ปุ่มเลข 10) ที่เป็นอย่างนั้น เพราะทีวีที่มีตัวรับดิจิตอลในตัว ซึ่งมีทั้งตัวรับทีวีดิจิตอล, BS/CS ยัดมาให้อยู่แล้ว จะมีการแยกหมวดช่องของทีวีดิจิตอลและดาวเทียมได้ เช่น ช่อง 1 ของหมวดทีวีดิจิตอลเป็น NHK G แต่ช่อง 1 ของหมวด BS จะเป็น NHK BS1

เลขที่เรียงกัน 1-12 ก็คือ ช่อง BS หลักๆทั้ง 12ช่อง ที่สามารถกดได้ง่าย แค่กดปุ่ม BS บนรีโมทตามด้วยเลขช่องโดยการกดครั้งเดียว (กดช่อง 12 ก็กดปุ่ม 12 ไม่ต้องกด 1 -> 2) โดยรายชื่อช่อง BS หลักทั้ง 12ช่อง มีดังนี้ (ปัจจุบัน)...
1 = NHK BS1
2 = NHK BS1 เหมือนกัน เป็นช่องสำรอง *เมื่อก่อนเป็น NHK BS2 แต่ช่องถูกถอดไปเมื่อต้นปี ค.ศ.2011*
3 = NHK BS Premiem *เมื่อก่อนใช้ชื่อว่า BS3*
4 = BS NTV
5 = BS Asahi
6 = BS-TBS
7 = BS Japan
8 = BS Fuji
9 = WOWOW Prime
10 = STAR Channel 1
11 = BS11
12 = TwellV

* ถ้าดูช่อง BS แล้วจะสลับไป CS หรือทีวีดิจิตอล ก็กดเหมือนกัน คือกดหมวดช่อง ตามด้วยตัวเลข ไม่ต้องกดสลับหมวดก่อนแล้วไปเลือกช่อง *
* ช่อง BS 12ช่องหลัก ออกอากาศด้วยภาพแบบ HD 1080i ทั้งหมด *
ถ้าอยากรับชมช่องจากดาวเทียม BS ก็แค่
1.นำบัตร B-CAS ที่แถมมากับทีวีหรือเครื่องบันทึกรายการที่เราซื้อ
2.ซื้อจานดาวเทียม BS/CS มาติดตั้งที่บ้านหรืออพาร์ตเม้นท์ (หลายๆแห่งจะมีจาน BS/CS ให้อยู่บนดาดฟ้าตึกแล้ว ใช้Splitterสัญญาณต่อจากรูทีวีบนผนังเข้าทีวีได้เลย) ถ้าซื้อมาติดตั้งเอง ก็สามารถหันเสาให้ตรงได้ จะมีคู่มือหันจานมาให้พร้อมกับจานที่ซื้อมา เล็งที่เดียว ได้ทั้ง BS/CS ราคาจานประมาณ2-3พันบาท มีหลายยี่ห้อมาก หาซื้อได้ตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป
3.นำบัตร B-CAS ไปสมัคร โดยจะได้บัตรใบใหม่ที่มีเขียนว่า BS.CS.Digital TV
4.หลังจากสมัครเสร็จ ก็เอาบัตรไปเสียบกับทีวีหรือเครื่องบันทึกรายการ
5.กดหาสัญญาณใหม่ จะมีให้เลือกว่าหาทีวีดิจิตอล หรือดาวเทียม (BS/CS) ให้เลือกดาวเทียม -> ใส่รหัสบัตร -> หาสัญญาณ -> พร้อมดูได้ทันที
* ช่อง BS นั้น จ่ายแยกช่องกัน ดูแค่ไหนจ่ายแค่นั้น ราคาก็แพงตามสไตล์ญี่ปุ่น

(บัตร B-CAS ที่ใช้ดูดาวเทียม BS/CS และทีวีดิจิตอล ได้ในบัตรเดียว)

(จานดาวเทียม BS/CS ของ Toshiba)
จบ BS
เดี๋ยวมาต่อ CS ครับ ต่อในกระทู้นี้แหละครับ รอติดตามกันนะครับ........
[เอามาเล่าใหม่->ทีวีดิจิตอลญี่ปุ่น] BS/CS = Pay TV ชั้นดี สามารถดูได้โดยไม่ต้องต่อกล่อง...
คำเตือน โปรดอย่างง...
BS หรือ Broadcasting Satellite เป็นการให้บริการ Pay TV ทางดาวเทียม โดยเจ้าของดาวเทียมในระบบนี้ก็คือ NHK ร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี, Pay TV และผู้ให้บริการเคเบิ้ล (Skyperfectv!)
ทาง NHK ได้สร้างการออกอากาศโทรทัศน์ โดยรับสัญญาณผ่านดาวเทียม เพื่อที่คนที่บ้านอยู่ห่างไกลจะได้รับสัญญาณทีวีชัดๆเหมือนคนที่อยู่ในเมืองใหญ่ โดยได้ทดลองออกอากาศโดยปล่อยดาวเทียมดวงแรกที่ใช้ในกิจการดาวเทียม BS นั่นก็คือดาวเทียม "BSE" มาเริ่มใช้จริงกับดาวเทียมที่ชื่อ "BS-2A" ที่ปล่อยในช่วงต้นปี ค.ศ.1994
ดาวเทียม BS มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1984 ถือเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมรายแรกของโลก สมัยแรกนั้นเป็นดาวเทียมอนาล๊อก แม้จะเล็งองศาตรงเป๊ะ แต่ภาพก็ยังเบลอๆซ่าๆเหมือนกับทีวีอนาล๊อก (ใครเคยติด IBC ที่เป็นเคเบิ้ลอนาล๊อกคงนึกออก โดนจิ๊กสัญญาณไปใช้ได้) บ้านไหนอยากใช้ต้องไปลงทะเบียน ช่องที่มีในช่วงแรกๆยังไม่ค่อยเยอะ (มีช่องฟรีทีวี NHK ปล่อยมาให้ด้วย)
ดาวเทียม BS ตั้งแต่ก่อตั้งมา ก็มีช่องที่มาร่วมกันออกอากาศกันมากมาย ทั้งของ NHK เอง เช่น BS1, BS2, BS3 (BS Premium), WOWOW และช่องบางช่องจาก Skyperfectv! และได้เป็นหนูทดลองส่งสัญญาณ "MUSE" ซึ่งเป็นภาพความละเอียดสูงในรูปแบบทีวีอนาล๊อกที่ทาง NHK คิดค้นขึ้นเอง เอามาแข่งกับระบบ HD MAC ของ
อังกฤษฝรั่งเศสพอมาถึง 1 ธันวาคม ค.ศ.2000 ก็ได้พลิกโฉมสู่ "BS Digital" หรือดาวเทียม BS ระบบดิจิตอล ออกอากาศในช่วงคลื่น 11-12GHz (KU-Band) ใช้ระบบ ISDB-S ที่ญี่ปุ่นคิดเอง
ได้มีการเพิ่มช่องเข้าไปมากมาย โดยเฉพาะช่อง Pay TV ที่ทางสถานีฟรีทีวีได้สร้างช่องขึ้นมา เพื่อออกอากาศรายการพิเศษและรีรันรายการของทางสถานี และที่พิเศษสุดคือ
ได้มีการออกอากาศภาพความละเอียดสูงที่ญี่ปุ่นได้คิดขึ้นเองคือ "MUSE" เปลี่ยนจากเดิมที่เป็นรูปแบบอนาล๊อกมาเป็นดิจิตอล (ความละเอียด 1024x576 1920x1080)MUSE เป็นระบบ HD อนาล็อกที่ออกอากาศมาตั้งแต่ ค.ศ.1991 ส่วนในปี ค.ศ.2000 เป็นรูปแบบดิจิตอล ความละเอียด 1920x1080 บีบอัดแบบ MPEG2 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ณ เวลานั้นยกเลิกการปล่อยสัญญาณฟรีทีวีผ่านดาวเทียม แต่ในปัจจุบันได้นำฟรีทีวี 7ช่อง ในโซนโตเกียว (จาก8ช่อง มี Tokyo MX ไม่ได้ไปด้วย) ไปสำรองไว้ เผื่อทางทีวีดิจิตอลมีปัญหาหรือสัญญาณขัดข้อง ก็จะเปิดให้รับสัญญาณฟรีทีวีผ่านดาวเทียมได้ฟรีทีวีโซนโตเกียวถูกนำไปสำรองไว้บนดาวเทียม BS ตั้งแต่ 29 ม.ค. 2010 ถึง 24 ก.ค. 2011 ช่วงเปลี่ยนผ่านไปทีวีดิจิตอลเต็มรูปแบบ โดยส่งสัญญาณไปให้พื้นที่ๆทีวีดิจิตอลยังเข้าไม่ถึงแต่เพื่อที่ผู้รับชมด้วยเครื่องรับเก่า ที่ไม่รองรับดิจิตอล ก็สามารถรับสัญญาณดาวเทียมแบบอนาล๊อกได้อยู่ โดยจะส่งสัญญาณทั้งอนาล๊อกและดิจิตอลควบคู่กันไป จนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ.2011
* เข้าใจกันง่ายๆ
ตอนที่เป็นดาวเทียมอนาล๊อก = ช่องอนาล๊อก (SD) + MUSE อนาล๊อก (HD)
พอมาเริ่มดิจิตอล = ช่องดิจิตอล (SD) + ช่องอนาล๊อก (SD) + ดิจิตอล 1080i (HD)
หลัง 24 ก.ค. 2011 = ช่องดิจิตอล (SD, HD)
แต่ว่าระบบภาพแบบ MUSE นั้น ก็มีจุดจบของมัน เนื่องจากมันกินแบนวิท(พื้นที่)ในดาวเทียมเกินความจำเป็น (ใช้บิทเรตเท่าช่อง HD แต่ภาพไม่ถึง ก็ต้องเปลี่ยน) ในปี ค.ศ.2007 เลยได้มีการแปลงระบบช่อง HD บนดาวเทียม BS จากที่เป็น MUSE ให้มาเป็นระบบภาพแบบ 1080i หรือช่อง HD มาตรฐานโลกนั่นเอง
ตอนนี้ดาวเทียม BS ที่ใช้ในปัจจุบันคือ BSAT 2C, 3A, 3C/JCSAT 110R
มีช่องบนดาวเทียม BS ในปัจจุบันทั้งหมด 31ช่อง (ไม่นับฟรีทีวีที่นำไปสำรองไว้) โดยในจำนวนนี้มี HD 29ช่อง (MPEG2 19Mbps, 14Mbps)
http://www.dpa.or.jp/bs/station.html <<< รายชื่อช่อง BS (มี Disney Channel กับ Weather News ที่ไม่เป็น HD)
ถ้าถามว่า BS มันดีตรงไหน สำคัญยังไงในญี่ปุ่น?
ในประเทศญี่ปุ่นนั้น BS ถือเป็นมาตรฐานของระบบ Pay TV หรือทีวีดาวเทียมในญี่ปุ่น ทีวีสมัยก่อนถ้าจะรับช่องจากดาวเทียม BS ต้องต่อกล่อง แต่พอแปลงมาเป็นดิจิตอล ทีวีที่ขายในญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.2003-2004 ขึ้นไปจะมีตัวรับ BS มาให้กับทีวีทุกรุ่น (ยกเว้นจอแบบ 4:3 ซึ่งตายหายจากไปอย่างรวดเร็ว)
แต่ถ้านึกว่าพอมีการออกอากาศดาวเทียม BS แบบคู่ขนานอนาล๊อกและดิจิตอล แล้วจะไปลักไก่รับสัญญาณไม่ได้นะครับ เพราะทีวีที่รองรับ BS ในตัว หรือกล่องที่รองรับ BS หลังจากปี ค.ศ.2000 ขึ้นไป จะเป็นแบบ Digital Only ไม่รับสัญญาณดาวเทียมอนาล๊อก ฉะนั้นอุปกรณ์ไว้รับหายากมากๆ ค่าบริการช่อง BS ก็ไม่ได้แพงมาก + คนญี่ปุ่นถือเรื่องลิขสิทธิ์ การลักสัญญาณดูจึงแทบไม่มีเลย
ดาวเทียม BS มีผลต่อรีโมททีวีในญี่ปุ่นด้วย เพราะถ้าคุณสังเกตรีโมททีวีที่ขายในญี่ปุ่นจะมีเลข 1-12 (ประเทศอื่นเป็น 0-9, รีโมทญี่ปุ่น เลข 0 อยู่ปุ่มเลข 10) ที่เป็นอย่างนั้น เพราะทีวีที่มีตัวรับดิจิตอลในตัว ซึ่งมีทั้งตัวรับทีวีดิจิตอล, BS/CS ยัดมาให้อยู่แล้ว จะมีการแยกหมวดช่องของทีวีดิจิตอลและดาวเทียมได้ เช่น ช่อง 1 ของหมวดทีวีดิจิตอลเป็น NHK G แต่ช่อง 1 ของหมวด BS จะเป็น NHK BS1
เลขที่เรียงกัน 1-12 ก็คือ ช่อง BS หลักๆทั้ง 12ช่อง ที่สามารถกดได้ง่าย แค่กดปุ่ม BS บนรีโมทตามด้วยเลขช่องโดยการกดครั้งเดียว (กดช่อง 12 ก็กดปุ่ม 12 ไม่ต้องกด 1 -> 2) โดยรายชื่อช่อง BS หลักทั้ง 12ช่อง มีดังนี้ (ปัจจุบัน)...
1 = NHK BS1
2 = NHK BS1 เหมือนกัน เป็นช่องสำรอง *เมื่อก่อนเป็น NHK BS2 แต่ช่องถูกถอดไปเมื่อต้นปี ค.ศ.2011*
3 = NHK BS Premiem *เมื่อก่อนใช้ชื่อว่า BS3*
4 = BS NTV
5 = BS Asahi
6 = BS-TBS
7 = BS Japan
8 = BS Fuji
9 = WOWOW Prime
10 = STAR Channel 1
11 = BS11
12 = TwellV
* ถ้าดูช่อง BS แล้วจะสลับไป CS หรือทีวีดิจิตอล ก็กดเหมือนกัน คือกดหมวดช่อง ตามด้วยตัวเลข ไม่ต้องกดสลับหมวดก่อนแล้วไปเลือกช่อง *
* ช่อง BS 12ช่องหลัก ออกอากาศด้วยภาพแบบ HD 1080i ทั้งหมด *
ถ้าอยากรับชมช่องจากดาวเทียม BS ก็แค่
1.นำบัตร B-CAS ที่แถมมากับทีวีหรือเครื่องบันทึกรายการที่เราซื้อ
2.ซื้อจานดาวเทียม BS/CS มาติดตั้งที่บ้านหรืออพาร์ตเม้นท์ (หลายๆแห่งจะมีจาน BS/CS ให้อยู่บนดาดฟ้าตึกแล้ว ใช้Splitterสัญญาณต่อจากรูทีวีบนผนังเข้าทีวีได้เลย) ถ้าซื้อมาติดตั้งเอง ก็สามารถหันเสาให้ตรงได้ จะมีคู่มือหันจานมาให้พร้อมกับจานที่ซื้อมา เล็งที่เดียว ได้ทั้ง BS/CS ราคาจานประมาณ2-3พันบาท มีหลายยี่ห้อมาก หาซื้อได้ตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป
3.นำบัตร B-CAS ไปสมัคร โดยจะได้บัตรใบใหม่ที่มีเขียนว่า BS.CS.Digital TV
4.หลังจากสมัครเสร็จ ก็เอาบัตรไปเสียบกับทีวีหรือเครื่องบันทึกรายการ
5.กดหาสัญญาณใหม่ จะมีให้เลือกว่าหาทีวีดิจิตอล หรือดาวเทียม (BS/CS) ให้เลือกดาวเทียม -> ใส่รหัสบัตร -> หาสัญญาณ -> พร้อมดูได้ทันที
* ช่อง BS นั้น จ่ายแยกช่องกัน ดูแค่ไหนจ่ายแค่นั้น ราคาก็แพงตามสไตล์ญี่ปุ่น
จบ BS
เดี๋ยวมาต่อ CS ครับ ต่อในกระทู้นี้แหละครับ รอติดตามกันนะครับ........