กระเป๋าแบน...แฟนไม่ทิ้ง....

กระเป๋าแบน...แฟนไม่ทิ้ง....
โดย...สวลี ตันกุลรัตน์ / http://bit.ly/1iVh5Dr

วาเลนไทน์ในความฝันของคุณเป็นแบบไหน

ก.อยากให้แฟนหอบดอกไม้ช่อโตมาเซอร์ไพรส์ถึงหน้าบันไดบ้าน

ข.อยากได้ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่พร้อมหัวใจดวงโต

ค.อยากขับรถหรูพากันไปชมพระอาทิตย์ตกริมทะเล

ง.อยากไปดินเนอร์ร้านอาหารสุดโรแมนติก

หรือ จ.ถูกทุกข้อ

ถ้าคำตอบวาเลนไทน์ในความฝันของสาวๆคนไหนออกมาเป็น จ. ล่ะก็
บอกได้เลยว่าแฟนของเธอจะต้อง “กระเป๋าหนักมากๆ”

ก็ถ้าจะต้องซื้อทั้งดอกไม้ช่อใหญ่และตุ๊กตาหมีขนาดมหึมา
ต้องมีรถหรูและพาไปดินเนอร์ร้านอาหารสุดโรแมนติก
คงจะใช้เงินไม่ใช่น้อยๆและอาจจะกระเป๋าฉีกได้ง่ายๆ
เพราะราคาสินค้าวันวาเลนไทน์มักจะ “แพงพิเศษ” ให้เหมาะกับวันพิเศษเสมอ

ผู้ชายยอมจ่ายมากกว่า

จากผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าปีนี้คนกรุงเทพฯ
จะมีการใช้จ่ายตั้งแต่การซื้อสินค้าและทำกิจกรรมต่างๆ ในวันวาเลนไทน์เฉลี่ยคนละ
1,310 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเล็กน้อย
เพราะคาดว่าราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน

ตัวเลขค่าใช้จ่ายที่ได้จากการสำรวจนี้ไม่ได้เจาะลึกลงไปว่า ระหว่างผู้ชาย กับ
ผู้หญิง ใครจะยอมควักกระเป๋ามากกว่ากัน

แต่ถ้าอ้างอิงผลสำรวจในต่างประเทศจะเห็นชัดๆ เลยว่า
ผู้ชายพร้อมที่จะควักกระเป๋าเพื่อสร้างความประทับใจให้คนรักในวันวาเลนไทน์มากกว่าจำนวนเงินที่ผู้หญิงจะยอมจ่าย

สมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติ (สหรัฐอเมริกา)
สำรวจงบประมาณที่ผู้บริโภคชาวสหรัฐเตรียมไว้สำหรับใช้จ่ายในวันวาเลนไทน์ พบว่า
ในปีนี้ผู้บริโภคเตรียมเงินไว้เฉลี่ยคนละ 133.91 เหรียญสหรัฐ
และถ้าคูณด้วยอัตราแลกเปลี่ยน 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะคิดเป็นเงินบาทเท่ากับ 4,285
บาทต่อคน

ผู้ชายเตรียมเงินไว้ใช้จ่ายในวันแห่งความรักนี้มากถึง 173.05 เหรียญสหรัฐ หรือ
5,537 บาทต่อคน

ขณะที่ผู้หญิงเตรียมเงินเอาไว้ใช้จ่ายเพียง 96.86 เหรียญสหรัฐ หรือ 3,099 บาทต่อคน
น้อยกว่าผู้ชายประมาณ 1,500 บาท

และอีกงานวิจัยหนึ่งของ creditdonkey.com ได้ผลออกมาในทิศทางเดียวกัน คือ
ผู้ชายเตรียมเงินไว้จ่ายประมาณ 86.92 เหรียญสหรัฐ หรือ 2,781 บาทต่อคน
และผู้หญิงเตรียมเงินไว้ 56.27 เหรียญสหรัฐ หรือ 1,800 บาทต่อคน

ดอกไม้ ไม่ใช่คำตอบ

ของขวัญยอดฮิตในวันวาเลนไทน์ คือ ดอกไม้ โดยเฉพาะดอกกุหลาบสีแดง

แต่ในปีนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า “คนกรุงเทพฯ กว่า 66%
ไม่เลือกซื้อดอกไม้เพื่อมอบให้คนที่จะร่วมกิจกรรมในวันวาเลนไทน์”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า
สาเหตุส่วนหนึ่งที่คนกรุงไม่นิยมซื้อดอกไม้เป็นผลมาจากกำลังซื้อที่ยังคงชะลอตัว
ทำให้ผู้บริโภคในปัจจุบันมีเหตุผลในการใช้จ่ายมากขึ้น
โดยเน้นไปที่ประโยชน์ใช้สอยและให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า
โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 25-35 ปี

คนวัยทำงานอายุระหว่าง 25-35 ปี จะเลือกซื้อช็อกโกแลตมากที่สุด 39.5%
รองลงมาเป็นสินค้าแฟชั่น 33.3% จากนั้นจึงเป็นดอกไม้ 29.9%

ขณะที่วัยรุ่นอายุระหว่าง 15-24 ปีก็เช่นเดียวกัน
โดยเลือกซื้อช็อกโกแลตมาเป็นอันดับหนึ่ง 48.6% รองลงมาเป็นดอกไม้ 41%
ใกล้เคียงกับตุ๊กตาที่ 40%

เห็นผลสำรวจแบบนี้แล้วปลื้มใจเป็นพิเศษ เพราะเมื่อวาเลนไทน์ปีที่แล้วแนะนำ
“คนมีรัก” ไปว่า ถ้าเปรียบกุหลาบเป็นหุ้น ก็ต้องบอกว่ากุหลาบที่ขายในวันวาเลนไทน์
เป็นหุ้นที่ Over value เพราะราคาสูงเกินมูลค่าที่แท้จริง

นั่นเพราะช่อดอกไม้ (โดยเฉพาะกุหลาบ)
ในวันวาเลนไทน์จะปรับราคาเพิ่มขึ้นจากราคาขายปกติ โดยอาจจะเพิ่มขึ้นไปได้ถึง 70%

และหากนำเงินที่ซื้อดอกไม้ราคาแพงเกินมูลค่าที่แท้จริงเหล่านี้ไปลงทุน
โดยตั้งสมมติฐานว่าได้ผลตอบแทนปีละ 10% (อาจจะดูมากไปนิดแต่เป็นไปได้ในระยะยาว)
เงินก้อนนี้จะงอกเงยขึ้นได้หลายเท่าตัว

ถ้าจ่ายค่ากุหลาบแดงไป 1 ดอก 350 บาทผ่านไป 30 ปี เงินจะงอกเงยขึ้นมาเป็น 12,913
บาท

ถ้าใช้จ่ายไป 1,509 บาท ผ่านไป 30 ปี เงินจะงอกเงยขึ้นมาเป็น 55,674 บาท

แล้วแบบนี้จะไม่ให้คิดถึงของขวัญที่มีประโยชน์ใช้สอยแทนดอกไม้ราคาแพงได้อย่างไร


อยากให้ VS อยากได้

พยายามจะหางานวิจัย หรือการสำรวจที่บอกว่าจริงๆ แล้วสาวๆ หนุ่มๆ
อยากได้รับของขวัญอะไรในวันวาเลนไทน์ เพื่อให้“ผู้ให้” สามารถเลือกของขวัญให้ตรงใจ
“ผู้รับ”มากที่สุด

แต่ก็หาไม่เจอจนต้องไปคว้าสำรวจของต่างประเทศ (โดย creditdonkey.com)
เขาสำรวจให้เห็นว่า อะไรที่ผู้ชายอยากให้และอะไรที่ผู้หญิงอยากได้รับ
ปรากฏว่าไม่ค่อยจะถูกต้องตรงกันเท่าใดนัก

ดอกไม้ : ผู้ชายอยากให้ 60.3% VS ผู้หญิงอยากได้รับ 36.9%

บัตรของขวัญ : ผู้ชายอยากให้ 7.9% VSผู้หญิงอยากได้รับ 12.6%

เครื่องประดับ : ผู้ชายอยากให้ 18.9% VS ผู้หญิงอยากได้รับ 22.2%

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ : ผู้ชายอยากให้ 3.7% VS ผู้หญิงอยากได้รับ 7.1%

ช็อกโกแลต : ผู้ชายอยากให้ 41.2% VSผู้หญิงอยากได้รับ 34.5%

เสื้อผ้า : ผู้ชายอยากให้ 7.7% VS ผู้หญิงอยากได้รับ 8.6%

ดินเนอร์ : ผู้ชายอยากให้ 64.5% VS ผู้หญิงอยากได้รับ 54.8%

ท่องเที่ยว : ผู้ชายอยากให้ 5% VS ผู้หญิงอยากได้รับ 8.9%

ถ้าถามสาวๆ ส่วนใหญ่น่าจะได้คำตอบเหมือนๆ กันว่า
ของขวัญวันวาเลนไทน์อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับมูลค่า แต่เกี่ยวกับความคาดหวัง
เพราะฉะนั้น ของขวัญอาจจะไม่ต้องมีมูลค่ามากมาย
แต่ขอให้มีเหมือนอย่างที่คาดหวังก็พอ

วาเลนไทน์สำคัญแค่ไหน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยืนยันว่า วัยรุ่นและกลุ่มคนทำงานในกรุงเทพฯ
ยังให้ความสำคัญวันวาเลนไทน์อยู่ไม่น้อย โดยปีนี้มีคนมากกว่า 63%
ที่สนใจทำกิจกรรมในวันวาเลนไทน์ร่วมกับบุคคลที่รัก (ไม่ใช่เฉพาะแฟน)
ไม่ว่าจะเป็นทำกิจกรรมพิเศษซื้อของขวัญ ซื้อดอกไม้

“ในปีนี้วันวาเลนไทน์ตรงกับวันมาฆบูชา อีกทั้งยังเป็นวันหยุดยาวติดต่อกันถึง 3 วัน
ทำให้กิจกรรมที่คนกรุงเทพฯ เลือกทำในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ปีนี้
จึงมีความหลากหลายมากกว่าปีก่อนๆ” ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุ

หนึ่งในกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจสำหรับปีนี้ คือ ทำบุญตักบาตร เข้าวัดฟังธรรม
โดยมีคนเตรียมตัวไปทำกิจกรรมพิเศษนี้ในวันวาเลนไทน์มากถึง 40.5% ขณะที่ 25.3%
ตอบว่า ตั้งใจจะทำกิจกรรมอยู่บ้าน
เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุม

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายกิจกรรมและของขวัญหลายแบบที่ไม่ต้อง “กระเป๋าหนัก”
ก็สามารถสร้างความประทับใจให้คนรักได้ไม่ยาก

เพียงเท่านี้ ต่อให้กระเป๋าแบน แฟนก็ไม่ทิ้ง

https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5/198068607020376

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่