รีวิว Timeline‬ จดหมาย ความทรงจำ หนังที่ดีทุกอย่าง แต่ดันตกม้าตายตอนจะจบ

#‎รีวิวTimeline‬ จดหมาย ความทรงจำ

เป็นเรื่องราวของหนุ่มสาวมหาลัย ระหว่างหนุ่มแทน และสาวจูน
ซึ่งถูกดำเนินเรื่องราวเล่าสับไปมาระหว่างคู่ของแม่แทน ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องจาก The Letter มาเล็กน้อย

ความผูกพันธ์ที่สื่อสารผ่านตัวอักษรยังคงถูกจับมาพูดในเรื่องนี้
เหมือน Trailer ของหนังที่เราได้ดูกัน
หนังบอกเล่าความสัมพันธ์อย่างเรียบง่าย
คาแร้คเตอร์ของหนุ่มบ้านนอกเข้ากรุง ลงตัวกับเจมส์จิเหลือเกิน
ยิ่งกว่านั้นเต้ยยังสามารถแสดงเสน่ห์อันสดใสออกมาจากตัวเธอได้ดีมากๆ ทำให้หนังดูกลมกล่อมยิ่งขึ้น

ต้องขอชื่นชมกับไดอะลอคตลอดทั้งเรื่องของ Timeline
ที่มีความกระชับความ ตรงประเด็น เรียบง่าย แต่เข้าใจได้ดีมาก

สำหรับปมต่างๆที่ขุดคุ้ยมาเพื่อพยายามสร้างความรู้สึกสะเทือนใจนั้น
ถ้าคุณเคยสัมผัสเรื่องรักในรั้วมหาลัยมาแล้ว
หนังเรื่องนี้ราวกับค่อยๆทุบความทรงจำของคุณทีละนิดๆ

"เธอจะรอจนกว่าเขาจะรัก"
คำโปรยของหนังประโยคนี้สามารถสื่อสารออกมาได้อย่างชัดเจนเหลือเกิน

แต่น่าเสียดายนิดหน่อยที่....
"เขาจะรักจนกว่าเธอจะรู้" ประโยคนี้ผู้กำกับทำได้ค่อนข้างล้มเหลว

ความกลมกล่อมของหนังเรื่องนี้ทำได้ลงตัวมาก เริ่มตั้งแต่นักแสดง
บทพูดตลอดทั้งเรื่อง ไปจนถึงภาพสวยๆที่ขับกล่อมให้เราคล้อยตามไปกับเนื้อหนัง

เสียเพียงอย่างเดียวที่หนัง "ยัดเยียด" ความดราม่าใส่เข้ามามากเกินไป
โดยที่ยังไม่ทันสร้างอารมณ์ ความรู้สึก ที่สื่อสารถึงความสัมพันธ์ของคนสองคนออกมาได้เต็มที่

ถ้าหากยกให้หนังเรื่องนี้เป็นหนัง Feel Good แล้ว บอกได้ว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง
ด้วยความสัมพันธ์ของความเป็นครอบครัว รู้สึกสัมผัสได้ผ่านการวางคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนมาก เจมส์จิ สื่อสารความเป็นลูกชายคนเดียวที่ติดแม่ได้ดีมาก

แต่หากจะให้หาความเป็นหนังรักซึ้งๆ ต้องขอปรบมือกับความพยายามที่
"มากเกินไป"

สำหรับการให้ความหมายของคำว่า Timeline แล้ว
รูปแบบการเล่าเรื่องของหนังราวกับว่าเรากำลังเปิดไล่ดู
Timeline จาก Facebook
แบบรวดเดียวจบ เพราะหนังเดินเรื่องในตอนท้ายเร็วมากๆ

พยายามที่จะใส่ความหมายที่หลายคนอาจมองข้ามไป นำมาเฉลยในตอนท้าย
เปรียบแล้วได้อารมณ์เหมือนกับเวลาที่เราไล่อ่าน Timeline เก่าๆของเรา
แล้วสะดุดกับเรื่องราว สเตตัส ที่เราเคยตั้งเอาไว้ตอนนั้นๆ

ได้มานั่งคิดทบทวนถึง "ความทรงจำ" ที่พลาดไปอีกครั้ง และอีกครั้ง
แต่ใครจะไปรู้.... มันอาจจะสายเกินไปจนเป็นเพียงแค่
"ความทรงจำ"ที่ไม่สามารถย้อนกลับคืนมาแล้วก็ได้


จากหัวข้อคือ เสียแค่ความพยายาม เพราะหนังยัดมากเกินไป พยายามบิ้วสุดๆ
เป็นความรู้สึกประมานว่า เรื่องนี้เศร้านะ เดี๋ยวต้องร้องไห้นะ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยเข้าถึง
ว่าที่รู้สึกอยู่คืออะไร ถึงขั้นต้องร้องไห้?

หลายคนอาจพอใจกับการเล่าเรื่องในตอนจบอย่างนี้
แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า เหมือนตอนจบเป็นการพูดๆสรุปๆให้ฟังมากกว่าการพยายามแสดงให้สัมผัสได้

เรารู้สึกเหมือนนั่งฟังเรื่องของคนอื่นอยู่ ที่เรารู้ได้ว่ามันเศร้า
แต่ไม่รู้ว่ามันเศร้าอะไรมากขนาดนี้

บางคนอาจอ่อนไหว และอินไปกับเรื่องราวที่เพื่อนๆเล่าให้ฟังง่ายๆ
แต่สำหรับเรา มันต้องเป็นเรื่องเล่าที่เรารู้สึกว่ามันมีความรู้สึกมากกว่านี้หน่อย
เพื่อทำความเข้าใจว่ามันเศร้ายังไง รู้ว่าเศร้า แต่ไม่รู้ว่าเมิงรู้สึกไง ไรงี้น่ะค่ะ

ระวังนะคะ มีสปอยล์นิดหน่อย และคอมเมนต์ส่วนตัวที่แรงขึ้นมาอีกนิด กลัวรับไม่ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่