ความรักของเจค ( เรื่องราวของเจค กับ ทริกเกอร์ น้องหมาโฮ่งๆ … ต้อนรับวันแห่งความรัก บรู้วววว )
ในชีวิตของเรานั้น อย่าคิดว่ามีแต่คนเท่านั้นที่อกหัก หมาเองก็อกหักได้เหมือนกัน ตัวอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ ที่เห็นๆ เจคนี่แหละหนึ่ง ที่อกหักจนมานั่งซึมกะทือจะเป็นจะตายอยู่ที่ท่าน้ำ เหม่อมองสายน้ำ พร้อมกับรำพึงรำพัน ออกมาเป็นบทกลอน อย่างกระท่อนกระแท่น
ถ้ารู้ว่าเจ็บคงไม่รัก ถ้ารู้ว่ารสชาติของความรักขมเป็นบอระเพ็ดละก็ จะกินบอระเพ็ดให้รู้แล้วรู้รอด แทนที่จะรักคนใจดำอย่างเธอ ฮือๆ ( ประทานโทษ คนเขียนไม่ถนัดในเรื่องบทกลอน ก็เลยออกมากร่อยๆอย่างที่เห็น )
รักเพื่อพบแล้ว พลัดพราก
ไม่เคยคิดจาก รักจริงจากใจ
รักชั่ว นิรันดร์ รักกันเรื่อยไป
ดื่ม ด่ำ ฤ-ทัย ไม่คลายใจ รักกัน
บทเพลงอมตะ ของดิอิมพอสซิเบิ้ล ดังผ่านผืนน้ำตรงหน้ามากระทบหัวใจอันบอบช้ำของเจค บทเพลงที่ว่า ทำให้เจ้าตัวนึกไปถึงน้อยหน่า เอ๊ย นีน่า สาวน้อยเชื้อสายปอมเมอริเนียน ผู้มีขนสีขาวสะอ้าน ปุกปุย ตาหวานซึ้ง ของคุณทิมเพื่อนบ้านที่อยู่หัวถนน
เจคพบนีน่า เมื่อคุณผู้หญิงพาเจคไปเดินสูดอากาศแถวๆบ้านคุณทิม แล้วคุณทิมก็บังเอิญพานีน่ามาเดินเล่น ด้วยเหตุนี้ เจคก็เลยได้พบกันนีน่า
ทันทีที่สบตานีน่า เจคผู้เซื่องซึม สงบเสงี่ยม ก็ต้องศรรักปักอกดังปึก เก็บอาการไม่อยู่ ยืนอยู่กับคุณผู้หญิงดีๆ วิ่งแจ้นไปกระทบไหล่นีน่า ที่ตกใจจนฉี่แทบราด ตายแล้วนี่หมา หรือเสือ
แต่นีน่าก็ตกใจไม่นาน เพราะเจคพิสูจน์ให้นีน่าเห็น อย่าตัดสินด้วยใบหน้า อย่าอ่านหนังสือเพราะปกสวย
เพราะถึงหน้าเจค จะดูเหี้ยมเกรียม แต่พอได้พูดจากัน เจค กลับสุภาพราวกับผ้าพับ ทำให้นีน่า very impressed ประทับใจสุดๆ
“สวัสดีครับ คุณคนสวย ผมชื่อเจค อยู่บ้านเลขที่ 36 /12 Sea view blvd แค่ข้ามถนนนี้ไปหน่อย เดินไปสุดซอย ก็จะพบบ้านสีเหลืองที่ตั้งอยู่สุดถนน ผมอยู่ที่นั่น” เจคแนะนำตัวเอง แถมบอกที่อยู่เรียบร้อย นี่ถ้าเกิดคุณทิมเป็นผู้ร้าย คุณ ผู้หญิงก็ซวย ( โทษค่ะ คำมันพ้องจอง)
นีน่าไม่พูด ได้แต่ยิ้มๆ และถึงนีน่าจะไม่รับปากเจค ตามคำเชื้อเชิญ แต่ทั้งสองก็พบกันที่เก่าเวลาเดิมเกือบทุกวัน กระทั่งวันนั้นมาถึง
“เจค เดือนหน้า คุณทิมจะย้ายบ้านแล้วนะ “
“ย้ายบ้าน “ เจคร้องดังๆแทบไม่เป็นภาษามนุษย์ ( ก็ถูกแล้วนี่นา ในเมื่อเจคเป็นหมา )
“ใช่ เจค คุณทิมได้งานใหม่ เราจะไปอยู่ นิวออร์ลีนส์ ( New Orleans ) นีน่าไปอยู่ที่โน่น คงคิดถึงเจคมากเลย “
“ไม่จริง นีน่าต้องไม่จากเราไป เป็นไปไม่ได้ ” เจคร้องออกมาดังๆ ยกมือเอ๊ยเท้าสองข้างปิดหู รับไม่ได้กับการจากลาอันขื่นขมยิ่ง
“พี่เจค ร้องเอะอะ เป็นอะไรไปอ่ะ ” เสียงร้องทักดังมาจากเบื้องหลัง ไม่ต้องหันไปดู ก็รู้ว่าเจ้าของเสียงจะป็นใครไปไม่ได้ นอกจากเจ้าทริกเกอร์ตัวแสบ เจคปล่อยเท้าที่ปิดหูเร็วๆ หันมาเผชิญหน้า
“พี่เจค ร้องไห้เหรอนั่น โอ้ว้าว มายก็อด ” ทริกเกอร์ถามเสียงลั่น เลิกคิ้ว หรี่ตามองอย่างสงสัย
“ใครร้อง บ้าหรือเปล่า” เจคปฏิเสธพัลวัน ยกเท้าขึ้นซับน้ำตา ( โอ๊ย อะไรจะดราม่าซะขนาดนั้น )
“ถ้าผมเดาไม่ผิด พี่เจคคงเสียใจที่ยายฮันนี่ มีแฟนใหม่ ใช่ป่าว “ ทริกเกอร์เดาไปตามเรื่อง ส่วน ฮันนี่ที่ว่า ไม่ใช่ใครอื่น หากเป็นอดีตรักแรกของเจค ก่อนที่นีน่าจะผ่านเข้ามาแทนที่ ฮันนี่เป็นสุนัขสาวหุ่นเซ็กซี่ พันธ์ คอลลี่ ( Collie ) อยู่บ้านติดกับบ้านคุณผู้หญิง
เจคกับฮันนี่เคยเดทกันอยู่พักหนึ่ง ( ทนๆอ่านหน่อยนะคะ เขียนไปเขียนมา เริ่มจะออกอ่าวไทย )
“สู่รู้ ” เจคว่าให้ทริกเกอร์ ไม่ทำร้ายไอ้ตัวแสบก็ดีเท่าไหร่ มาขัดจังหวะไม่พอ ดันมาสะกิดแผลเก่า ให้ขวัญคิดถึงเรียม
เจคเจ็บจี๊ด เจ็บจริง ทุกครั้งที่นึกถึง เพราะฮันนี่ทิ้งเจคไปด้วยเหตุผลที่จนบัดนี้ เจคยังงไม่หาย
“เจคดีเกินไป เราเลิกกันเถอะนะ”
ใครนะ ช่างคิดตรรกะโง่ ๆนี้ ขึ้นมา อย่าให้เจคเจอหน้าแล้วกัน พ่อจะงับให้จมเขี้ยวเลย โฮ่งๆ … ฮึ่มๆ ( อย่าว่าเจค จะงงกับ ตรรกะนี้เลย คนเขียนก็งง เหมือนกับใครต่อใครอีกหลายคนนั่นแหละ )
“อย่าโกหกเสียให้ยากเลยพี่เจค ผมเห็นนะ ทุกครั้งยายฮันนี่ ควงเจ้าลัคกี้ หมาโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ที่อยู่หัวถนน มาเดินเล่นแถวบ้านเรา พี่เจคมองตามฮันนี่ ตาเป็นหิ่งห้อยเลย ”
“ละห้อย ไอ้ทริก หิ่งห้อย นั่นมัน แมลงชนิดหนึ่ง มีแสงเรืองๆ ที่ก้น ฝรั่งเรียกว่า Firefly “ ขนาดโศกสลด เจคยังไม่วายอธิบายให้เจ้าทริก ที่ไขว้เขวฟัง แทนที่จะบีบคอไอ้ตัวแสบที่มาฟื้นฝอยหาตะเข็บ ทำให้เจคปวดร้าวใจ
ทำไมนะ ทำไม คุณผู้หญิงจึงตั้งชื่อเราว่าเจค นี่ถ้าคุณผู้หญิงตั้งชื่อเราว่า ลัคกี้ Lucky หรือ คุณโชคดี เราก็คงไม่อับเฉาเรื่องความรักอย่างนี้ เจคคิดอยู่ในใจ
( แล้วกันเจค เพิ่งจะว่าเจ้าของตรรกะ รักไม่ได้เพราะดีเกินไป หยกๆ ดันมาเป็นเสียเอง ถ้าชื่อ ลัคกี้ แล้วสมหวังในความรักแล้วละก็ ทุกคนในโลก ก็คงเปลี่ยนชื่อตัวเอง แล้วหันมาชื่อ Lucky กันหมด ละ เจคเอ้ย )
ความรักของเจค ( เรื่องราวของเจค กับ ทริกเกอร์ น้องหมาโฮ่งๆ … ต้อนรับวันแห่งความรัก .... บรู้วววว )
ในชีวิตของเรานั้น อย่าคิดว่ามีแต่คนเท่านั้นที่อกหัก หมาเองก็อกหักได้เหมือนกัน ตัวอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ ที่เห็นๆ เจคนี่แหละหนึ่ง ที่อกหักจนมานั่งซึมกะทือจะเป็นจะตายอยู่ที่ท่าน้ำ เหม่อมองสายน้ำ พร้อมกับรำพึงรำพัน ออกมาเป็นบทกลอน อย่างกระท่อนกระแท่น
ถ้ารู้ว่าเจ็บคงไม่รัก ถ้ารู้ว่ารสชาติของความรักขมเป็นบอระเพ็ดละก็ จะกินบอระเพ็ดให้รู้แล้วรู้รอด แทนที่จะรักคนใจดำอย่างเธอ ฮือๆ ( ประทานโทษ คนเขียนไม่ถนัดในเรื่องบทกลอน ก็เลยออกมากร่อยๆอย่างที่เห็น )
รักเพื่อพบแล้ว พลัดพราก
ไม่เคยคิดจาก รักจริงจากใจ
รักชั่ว นิรันดร์ รักกันเรื่อยไป
ดื่ม ด่ำ ฤ-ทัย ไม่คลายใจ รักกัน
บทเพลงอมตะ ของดิอิมพอสซิเบิ้ล ดังผ่านผืนน้ำตรงหน้ามากระทบหัวใจอันบอบช้ำของเจค บทเพลงที่ว่า ทำให้เจ้าตัวนึกไปถึงน้อยหน่า เอ๊ย นีน่า สาวน้อยเชื้อสายปอมเมอริเนียน ผู้มีขนสีขาวสะอ้าน ปุกปุย ตาหวานซึ้ง ของคุณทิมเพื่อนบ้านที่อยู่หัวถนน
เจคพบนีน่า เมื่อคุณผู้หญิงพาเจคไปเดินสูดอากาศแถวๆบ้านคุณทิม แล้วคุณทิมก็บังเอิญพานีน่ามาเดินเล่น ด้วยเหตุนี้ เจคก็เลยได้พบกันนีน่า
ทันทีที่สบตานีน่า เจคผู้เซื่องซึม สงบเสงี่ยม ก็ต้องศรรักปักอกดังปึก เก็บอาการไม่อยู่ ยืนอยู่กับคุณผู้หญิงดีๆ วิ่งแจ้นไปกระทบไหล่นีน่า ที่ตกใจจนฉี่แทบราด ตายแล้วนี่หมา หรือเสือ
แต่นีน่าก็ตกใจไม่นาน เพราะเจคพิสูจน์ให้นีน่าเห็น อย่าตัดสินด้วยใบหน้า อย่าอ่านหนังสือเพราะปกสวย
เพราะถึงหน้าเจค จะดูเหี้ยมเกรียม แต่พอได้พูดจากัน เจค กลับสุภาพราวกับผ้าพับ ทำให้นีน่า very impressed ประทับใจสุดๆ
“สวัสดีครับ คุณคนสวย ผมชื่อเจค อยู่บ้านเลขที่ 36 /12 Sea view blvd แค่ข้ามถนนนี้ไปหน่อย เดินไปสุดซอย ก็จะพบบ้านสีเหลืองที่ตั้งอยู่สุดถนน ผมอยู่ที่นั่น” เจคแนะนำตัวเอง แถมบอกที่อยู่เรียบร้อย นี่ถ้าเกิดคุณทิมเป็นผู้ร้าย คุณ ผู้หญิงก็ซวย ( โทษค่ะ คำมันพ้องจอง)
นีน่าไม่พูด ได้แต่ยิ้มๆ และถึงนีน่าจะไม่รับปากเจค ตามคำเชื้อเชิญ แต่ทั้งสองก็พบกันที่เก่าเวลาเดิมเกือบทุกวัน กระทั่งวันนั้นมาถึง
“เจค เดือนหน้า คุณทิมจะย้ายบ้านแล้วนะ “
“ย้ายบ้าน “ เจคร้องดังๆแทบไม่เป็นภาษามนุษย์ ( ก็ถูกแล้วนี่นา ในเมื่อเจคเป็นหมา )
“ใช่ เจค คุณทิมได้งานใหม่ เราจะไปอยู่ นิวออร์ลีนส์ ( New Orleans ) นีน่าไปอยู่ที่โน่น คงคิดถึงเจคมากเลย “
“ไม่จริง นีน่าต้องไม่จากเราไป เป็นไปไม่ได้ ” เจคร้องออกมาดังๆ ยกมือเอ๊ยเท้าสองข้างปิดหู รับไม่ได้กับการจากลาอันขื่นขมยิ่ง
“พี่เจค ร้องเอะอะ เป็นอะไรไปอ่ะ ” เสียงร้องทักดังมาจากเบื้องหลัง ไม่ต้องหันไปดู ก็รู้ว่าเจ้าของเสียงจะป็นใครไปไม่ได้ นอกจากเจ้าทริกเกอร์ตัวแสบ เจคปล่อยเท้าที่ปิดหูเร็วๆ หันมาเผชิญหน้า
“พี่เจค ร้องไห้เหรอนั่น โอ้ว้าว มายก็อด ” ทริกเกอร์ถามเสียงลั่น เลิกคิ้ว หรี่ตามองอย่างสงสัย
“ใครร้อง บ้าหรือเปล่า” เจคปฏิเสธพัลวัน ยกเท้าขึ้นซับน้ำตา ( โอ๊ย อะไรจะดราม่าซะขนาดนั้น )
“ถ้าผมเดาไม่ผิด พี่เจคคงเสียใจที่ยายฮันนี่ มีแฟนใหม่ ใช่ป่าว “ ทริกเกอร์เดาไปตามเรื่อง ส่วน ฮันนี่ที่ว่า ไม่ใช่ใครอื่น หากเป็นอดีตรักแรกของเจค ก่อนที่นีน่าจะผ่านเข้ามาแทนที่ ฮันนี่เป็นสุนัขสาวหุ่นเซ็กซี่ พันธ์ คอลลี่ ( Collie ) อยู่บ้านติดกับบ้านคุณผู้หญิง
เจคกับฮันนี่เคยเดทกันอยู่พักหนึ่ง ( ทนๆอ่านหน่อยนะคะ เขียนไปเขียนมา เริ่มจะออกอ่าวไทย )
“สู่รู้ ” เจคว่าให้ทริกเกอร์ ไม่ทำร้ายไอ้ตัวแสบก็ดีเท่าไหร่ มาขัดจังหวะไม่พอ ดันมาสะกิดแผลเก่า ให้ขวัญคิดถึงเรียม
เจคเจ็บจี๊ด เจ็บจริง ทุกครั้งที่นึกถึง เพราะฮันนี่ทิ้งเจคไปด้วยเหตุผลที่จนบัดนี้ เจคยังงไม่หาย
“เจคดีเกินไป เราเลิกกันเถอะนะ”
ใครนะ ช่างคิดตรรกะโง่ ๆนี้ ขึ้นมา อย่าให้เจคเจอหน้าแล้วกัน พ่อจะงับให้จมเขี้ยวเลย โฮ่งๆ … ฮึ่มๆ ( อย่าว่าเจค จะงงกับ ตรรกะนี้เลย คนเขียนก็งง เหมือนกับใครต่อใครอีกหลายคนนั่นแหละ )
“อย่าโกหกเสียให้ยากเลยพี่เจค ผมเห็นนะ ทุกครั้งยายฮันนี่ ควงเจ้าลัคกี้ หมาโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ที่อยู่หัวถนน มาเดินเล่นแถวบ้านเรา พี่เจคมองตามฮันนี่ ตาเป็นหิ่งห้อยเลย ”
“ละห้อย ไอ้ทริก หิ่งห้อย นั่นมัน แมลงชนิดหนึ่ง มีแสงเรืองๆ ที่ก้น ฝรั่งเรียกว่า Firefly “ ขนาดโศกสลด เจคยังไม่วายอธิบายให้เจ้าทริก ที่ไขว้เขวฟัง แทนที่จะบีบคอไอ้ตัวแสบที่มาฟื้นฝอยหาตะเข็บ ทำให้เจคปวดร้าวใจ
ทำไมนะ ทำไม คุณผู้หญิงจึงตั้งชื่อเราว่าเจค นี่ถ้าคุณผู้หญิงตั้งชื่อเราว่า ลัคกี้ Lucky หรือ คุณโชคดี เราก็คงไม่อับเฉาเรื่องความรักอย่างนี้ เจคคิดอยู่ในใจ
( แล้วกันเจค เพิ่งจะว่าเจ้าของตรรกะ รักไม่ได้เพราะดีเกินไป หยกๆ ดันมาเป็นเสียเอง ถ้าชื่อ ลัคกี้ แล้วสมหวังในความรักแล้วละก็ ทุกคนในโลก ก็คงเปลี่ยนชื่อตัวเอง แล้วหันมาชื่อ Lucky กันหมด ละ เจคเอ้ย )