ย้อนอดีต STREET FIGHTER II

กระทู้สนทนา


"หากตอนนั้นสตรีทไฟท์เตอร์ภาคสองไม่ประสบความสำเร็จ แคปคอมอาจไม่มีวันนี้"


ในปี 1987 เกมต่อสู้เกมแรกของแคปคอมได้ถือกำเนิดออกมา นั่นคือสตรีทไฟท์เตอร์ภาคแรก ซึ่งมีตัวละครเอกสองคนคือริวและเคนโดยมีบอสใหญ่เป็นสกัด ระบบการเล่นนั้นเป็นการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งแต่การบังคับนั้นแปลกประหลาดพอสมควรเพราะยิ่งกดปุ่มหนักมากเท่าไรตัวละครก็จะยิ่งโจมตีได้แรงมากขึ้นเท่านั้น และก็ส่งผลให้ตู้เกมในญี่ปุ่นเจ๊งไปตามๆกันเนื่องจากปุ่มพังไปเป็นแถบๆ ในยุคนั้นตลาดเกมต่อสู้กำลังเติบโตอย่างมากในประเทศทางตะวันตก และแคปคอมก็ได้สร้างตำนานเกมหนึ่งออกมาในปี 1989 นั่นคือ Final Fight ที่ออกมาแล้วโด่งดังถล่มทลายไปทั่วระแหง


ต่อมานายโยชิกิ โอคาโมโต้ โปรดิวเซอร์ของเกมตำนานนี้ได้ชักนำบุคคลที่มีฝีมือเข้ามาร่วมงานเพื่อทำเกมใหม่ออกมาภายใต้ชื่อ Street Fighter II เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้เล่นเกมอาเขตโดยเฉพาะ ตัวละครหลักคือริวและเคนจากภาคแรกเช่นเดิมพร้อมด้วยสกัดบอสใหญ่จากภาคแรก ซึ่งนำเอาดีไซน์เดิมมาปรับปรุงใหม่ให้ดูดีขึ้นและเป็นจุดหลักของเกมนี้ที่ต้องการให้ตัวละครทุกตัวมีเสน่ห์และมีสไตล์นั่นเอง และผลที่ออกมาก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากตัวละครทั้ง 12 ตัวในเกมนี้เป็นที่รู้จักกันดีในทุกยุคทุกสมัยจนกลายเป็นตำนานไปในที่สุด



ปัญหาที่รอให้ท้าทายอยู่คือจะทำยังไงให้สร้างเกมออกมาให้โดนใจผู้เล่นทั่วโลก
1. อันดับแรกทุกคนย่อมต้องคิดเหมือนกันว่าหากเกมดูแล้วสนุกน่าเล่น การที่จะได้รับความนิยมย่อมมีโอกาสสูง
2. ต่อมาคือต้องทำให้เกมนั้นเล่นแล้วสนุกจริงๆ ไม่ใช่แค่ดูแล้วดีแต่พอเล่นแล้วดันห่วย
3. และข้อสุดท้ายคือต้องให้เป็นที่รู้จักกันแบบปากต่อปากว่าเล่นแล้วมันสนุกเพียงใด สามสิ่งนี้จะส่งผลให้เกมไฟท์ติ้งที่ดีประสบความสำเร็จได้




SFII ถือกำเนิดมาในช่วงปลายยุค 80 แต่ในภาคแรกนั้นไม่เป็นที่รู้จักกันซักเท่าไร พอมาถึงยุค 90 ที่ภาคสองลงตีตลาดเกมตู้ทำให้วงการเกมตอนนั้นกระเจิดกระเจิงไปเป็นแถบๆ ย้อนหลับไปเมื่อ 10 กว่า ปีก่อนกระผมยังจำได้ว่ากระแสสตรีทไฟท์เตอร์ในนั้นรุนแรงมากๆ ทุกอย่างที่มีตัวละครของเกมนี้จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ไม่ว่าจะเป็นสมุดสะสมสติ๊กเกอร์, การ์ด, ขนมหลอกเด็กแถมตุ๊กตุ่น หรือจะเป็นการ์ตูนที่ตอนนั้นอนิเมทตีพิมพ์ออกมาใหม่ๆหาจะซื้อยากมากเพราะวางแผงปุ๊บก็หมดปั๊บ เรียกได้ว่าเด็กในยุคนั้นใครไม่รู้จักสตรีทถือว่าเชยมากพอสมควร


SFII นั้นได้รับการกล่าวขานกันอย่างมากถึงความแปลกใหม่และความสนุกของเกม การต่อยสามารถป้องกันได้แถมมีเตะสวนกลับไปได้อีกต่างหาก เกมนี้ได้เป็นต้นแบบให้กับเกมต่อสู้รุ่นหลังต่อมาแทบทุกเกมที่ต้องยึดหลักการสำคัญสองข้อนั่นคือการใช้ท่าไม้ตาย และ การออกแบบตัวละครให้มีสไตล์





ที่มาของการให้ตัวละครมีท่าไม้ตายนั้นน้อยคนจะรู้ว่าแท้จริงแล้วไอเดียมาจากตู้เครนเกมคีบตุ๊กตานั่นเอง การเล่นเครนเกมต้องใช้การกดปุ่มควบคุมแขนเหล็กไปในทิศทางที่ต้องการ ทีมงานจึงเล็งเห็นเป็นไอเดียออกมาว่าจะทำยังไงให้ผู้เล่นใช้จอยบังคับตัวละครให้ออกท่าทางต่างๆได้มากกว่าที่เป็น แต่ท่าไม้ตายนั้นหากจะให้กดปุ่มเพียงปุ่มเดียวก็สามารถใช้ได้ก็ออกจะดูธรรมดาไปหน่อย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการกดครึ่งวงกลม+ต่อย ของท่าฮาโดเคนหรืออะบู๊อันเป็นที่ท่องจำกันติดปากในสมัยนั้น ตัวละครทั้งแปดต่างมีท่าไม้ตายและวิธีกดที่ต่างกันออกไป ทำให้คนเล่นเลือกเล่นได้ตามสไตล์ที่ตนต้องการไม่ว่าจะรุกหรือตั้งรับ




ท่าไม้ตายต่างๆในเกมล้วนมีเสน่ห์และจดจำได้ง่าย "ท่าไตรบริโภค" (ท่าหากินสามอย่าง) นั่นคือฮาโดเคน, โชริวเคน และลูกเตะพายุหมุน (สะเบ็ดเจ็ด) หรือท่าอื่นๆอย่างโซนิคบูม, ไซโคครัชเชอร์, ไทเกอร์ชอต ฯลฯ ล้วนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ขนาดวัยรุ่นสาวคนหนึ่งที่แทบจะไม่เคยเล่นเกมยังเคยบอกว่าเธอรู้จักดัลซิมที่ยืดแขนขาได้ แถมรู้จักบลังก้าที่ใช้ไฟช๊อตศัตรูได้อีกต่างหาก นี่แสดงให้เห็นว่า SF เป็นที่รู้จักมากเพียงใด และเกมในยุคต่อๆมามักจะต้องมีท่าไม้ตายอย่างน้อย 1-2 ท่าที่เอาวิธีกดมาจากเกมนี้ หากเพื่อนคุณเพิ่งหัดเล่นเกมไฟท์ติ้งเกมนึงแล้วเขาหันมาถามว่า "กดท่ายังไงง่ะ?" รับรองว่าร้อยละเก้าสิบต้องตอบว่า "ลองกดอะบู๊ดูสิฟะ!?"




ต่อจากท่าไม้ตายก็คือการทำคอมโบ เกมต่อสู้ทุกเกมในยุคปัจจุบันล้วนมีการทำคอมโบทั้งนั้น ต้นแบบก็มาจาก SFII อีกเช่นกัน ในยุคแรกจะไม่ใช่การอัดทีเป็นชุดๆแบบต่อเนื่องแต่จะเล่นทีละจังหวะ เช่นกระโดดต่อยก่อนแล้วแย๊บอีกหนึ่งหมัดเมื่อลงสู่พื้นจากนั้นก็ก้มลงเตะสกัดขา สูตรนี้เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับการต้อนอีกฝั่งซึ่งเรียกกันง่ายๆว่าการ "เข้ามุม"


หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายในเกมอาเขตแล้วแคปคอมย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสทองพลาดไปโดยการหาหนทางที่จะพอร์ท SFII ลงสู่ระบบบ้านให้ได้ นี่เป็นงานใหญ่ที่ท้าทายคนทำเป็นอย่างมาก พวกเขาต้องนำวิดีโอเทปมาเปิดดูซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อแก้ไขปรับปรุง

"เราไม่ได้ปรับความแข็งแกร่งของตัวละคร แต่ปรับเปลี่ยนตรงความยากในแต่ละเลเวลแทน"
"ตัวละครทุกตัวล้วนมีทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอ ขึ้นอยู่กับระดับของด่านที่เราไปถึง"


สิ่งนี้สร้างความแตกต่างอย่างมากเพราะเกมอื่นมักจะสร้างตัวละครที่มีความแข็งแกร่งต่างกัน แต่ใน SFII นั้นด่านแรกไม่ว่าจะเจอกับใครรับรองได้ว่าหมูแน่นอนและจะยากขึ้นเรื่อยๆในด่านต่อๆไป จนถึงด่านสุดท้ายทุกคนก็จะพบกับเวก้าณ.ลานวัดพระแก้วเหมือนกันนั่นเอง



และที่ขาดไม่ได้คือการต่อสู้กันระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง ซึ่งในเกมเวอร์ชั่นดั้งเดิมไม่สามารถเลือกตัวละครเดียวกันได้ ต่อมาจึงมีการอัพเดตเป็น Street Fighter II Dash ซึ่งเป็นครั้งแรกๆของวงการเกมที่มีการออกเวอร์ชั่นอัพเดต คราวนี้เล่นตัวละครเดียวกันสู้กันเองได้ รวมทั้งสามารถเลือกเล่นเป็น 4 จตุรเทพได้แล้ว (ไบสัน, บัลร็อค, สกัด และ เวก้า) ส่วนบ้านเราคงจำกันได้กับภาค "สตรีทพิสดาร" ที่มีการดัดแปลงบอร์ดเพื่อ hack ข้อมูลเกมให้พิสดารยิ่งกว่าต้นฉบับ เช่นการโชริวเคนแล้วแถมพ่วงฮาโดเคนออกมาด้วย หรือการปล่อยโซนิคบูมทั้งจอ ซึ่งหยอดเหรียญเพียงห้าบาทท่านก็จะได้รับความเพลิดเพลินแบบสะใจโรคจิต ส่วนที่มาของภาคนี้เข้าใจว่าเป็นบอร์ดที่ถูกดัดแปลงมาจากฝั่งฮ่องกงกระมัง




จากวันนั้นถึงวันนี้ซีรี่ส์ SF ได้แตกแขนงออกมาหลายต่อหลายภาคและกลายเป็นตำนานเกมไฟท์ติ้งที่ดีที่สุดเกมนึงของมนุษยชาติและขึ้นหิ้งเป็นหนึ่งในเกมคลาสสิคตลอดกาลเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนแคปคอมไปในที่สุด เด็กจริงและเด็กหนวดสมัยก่อนต้องเอาชายเสื้อคลุมจอยไว้แล้วถูๆเพื่อกดติดได้ง่ายขึ้น

คลิปสตรีทพิสดาร
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


** เกมที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับ Street Fighter II **
1. Yie Ar KungFu
ค่าย : Konami
ระบบ : Arcade
ปีวางจำหน่าย : 1985


คนไทยรู้จักเกมนี้กันดีในนาม "ไอ้หย๋า!กังฟู" และนับเป็นเกมไฟท์ติ้งเกมแรกๆของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ วิธีการเล่นคือรับบทเป็น "อู่หลง" นักกังฟูตะลุยสู้กับศัตรูไปทีละด่าน หลอดพลังใครหมดก่อนคนนั้นก็เป็นฝ่ายแพ้ไป ใช้แต่หมัดและเท้าในการต่อสู้ไม่มีการปล่อยพลังอะจ๊ากใดๆทั้งนั้น แรกเริ่มเดิมทีนั้นเป็นระบบเกมอาเขตต่อมามีการทำลงเครื่องแฟมิคอมด้วยจนเป็นที่รุ้จักกันแพร่หลาย ทั้งทางแคปคอมและคนเล่นเกมทุกคนต้องขอบคุณโคนามิที่ช่วยสร้างไอ้หย๋ากังฟูออกมาเป็นต้นแบบที่ทำให้พวกเรามีเกมไฟท์ติ้งเล่นกันมาจนถึงทุกวันนี้



2. Street Fighter
ค่าย : Capcom
ระบบ : Arcade, PC Engine
ปีวางจำหน่าย : 1987


สตรีทไฟท์เตอร์ภาคแรกนั้นมีน้อยคนจะเคยสัมผัสจากตู้ของจริง เพราะแทบทุกคนจะต้องบอกว่าครั้งแรกที่เคยเล่นสตรีทไฟท์เตอร์คือภาคสอง ตัวละครบังคับให้ใช้ริว (แต่ถ้าเล่นสองคนสู้กัน player 2 จะเป็นเคน) โดยมีสกัดเป็นบอสใหญ่ ที่มาของรอยแผลเป็นที่หน้าอกของสกัดเกิดจากการโดนโชริวเคนในภาคนี้เข้าไปนั่นเอง ด้วยฉากที่มีสีสันและรูปแบบการเล่นที่เข้าใจง่ายทำให้ประสบความสำเร็จพอตัวจนจุดประกายให้ภาคสองตามมาแบบโด่งดัง



3. Final Fight
ค่าย : Capcom
ระบบ : Arcade, SFC
ปีวางจำหน่าย : 1989


แรกเริ่มเดิมทีไฟนอลไฟท์นั้นถูกกำหนดมาให้ใช้เป็นเนื้อเรื่องเสริมสำหรับสตรีทไฟท์เตอร์ จะเห็นได้ว่าตัวละครในเกมมาโผล่ในซีรี่ส์ SF กันหลายต่อหลายตัวตั้งแต่พระเอกยันผู้ร้าย นับหยาบๆก็อาทิเช่น กาย, โคดี้, ฮิวโก้, โซดอม ฯลฯ ในสมัยนั้นไฟนอลไฟท์ได้รับความนิยมอย่างแรงในหมู่คนเล่นเกมอาเขตที่ต้องชวนเพื่อนมาหยอดเหรียญเล่นตะลุยด่านไปพร้อมกัน วิธีการเล่นง่ายมากเพราะใช้แค่เดินไปเดินมา, กระโดด และอัด (ใช้ท่าไม้ตายก็ได้แต่จะเสียพลัง) นอกจากจะเป็นการปูทางให้กับ SFII แล้วยังจุดประกายให้เกมแนวเดินตะลุยด่านเล่นสองคนพร้อมกันเป็นที่นิยมสุดๆเมื่อมาถึงสมัยซุปเปอร์แฟมิคอมอีกด้วย


บทความโดย PON
(จากเกมแม็กฉบับเก่าๆ)


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่