Timeline...จดหมาย ความทรงจำ "การทำในสิ่งที่คนที่เรารักรัก มันอาจเป็นความฝันของเราก็ได้"

เป็นเรื่องต่อจาก The Letter แค่เปลี่ยนจาก ชื้อ แม่พ่อ เป็น  ธี กับมัด เพราะชื้อ (The Letter เป็นชื้อ ดิวกะ ต้น)

"การทำในสิ่งที่คนที่เรารักรัก มันอาจเป็นความฝันของเราก็ได้"  ประโยคนี้เป็นบทสรุปของ จกขท.หลังจากได้ดูหนังจบ

หนังเรื่องนี้จัดว่าเป็นหนังดีเรื่องหนึ่ง ที่ให้ความหมายดีๆกับชีวิต นะคะ แม้ จขกท. จะไม่ได้สะอึกสะอื้น เท่า The Letter
แต่ก็ร้องให้น้ำตาท่วมเหมือนกัน  หนังเรื่องนี้เหมือนอาหารหน้าตาสวยงามแถมอร่อย กินได้เรื่อย ทำให้เราค่อยละเลียดกิน
มันไปจนจบ แล้วพอกินจบคำสุดท้าย เราก็ร้องให้ออกมาด้วยความอร่อย 5555 ไม่ได้เวอร์ไปใช่ไม หนังมีช่วงอึดค่ะช่วงแรกๆ
ที่คนที่ไม่คอ่ยเซ็นซิทิฟ อาจจะคิดว่าดูน่าเบื่อบ้าง  แต่จขกท. ดูแล้วสบายตาทั้งเรื่อง มาว่าด้วยตัวละครกัน

     แทน  เด็กหนุ่มบ้านนอก ที่บ้านนอกสมใจ  เด็กบ้านนอกเข้าเมืองจะประมาณนี้เลย ใสซื่อ ว่าง่าย มองโลกสวยงาม
ไม่มีความฝัน แค่อยากออกจากบ้านที่เดิมๆๆ ไม่มีอะไรใหม่ ออกจากไร จากนา (จขกท.เข้าใจความรู้สึกแทนดี) ทำให้อินเข้าไปอีก
เมืองใหญ่ช่วยหล่อหลอมให้แทนมีพัฒนาการ ไม่ว่าจะเป็นทรงผม การแต่งตัวและพฤติกรรม เพราะสังคมที่เปลี่ยนไป แต่สิ่งที่ทำให้
แทนไม่เสียคนคือพื้นฐานเป็นคนดี ยังไงแทนก็ยังรักแม่เสมอ แม้เราจะทะเลาะกันบ้างมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่เรารู้เรารักกัน
     เจมส์จิ แสดงบทนี้ได้ดีมาก  ด้วยหน้าหวานๆ ที่หล่อเหล่า แต่จิ สามารถถ่ายทอดสภาพเด็กบ้านนอก ที่คอ่ยๆพัฒนาการเป็นเด็ก
ในเมืองขึ้นเรื่อยได้ อารมณ์รัก อารมณ์สับสน งง กะสภาพสังคม เด็กวัยรุ่นที่ตามเพื่อน แต่ก็ยังมีจุดยืนในตัวเอง มีอารมณ์รัก หลง อกหัก
ทุมเทเพื่อผู้หญิงแบบบ้านๆ ซื่อ ดูแล้วน่ารัก ดี  แม้ดูหนังจบ จขกท. จะถามตัวเองว่า เราดูแล้วรู้สึกพระเอกรักนางเอกตอนไหน จขกท.ก็
ตอบตัวเองว่า พระเอกดูรักจูนอยู่ลึกๆ ลึกจนไม่รู้ใจตัวเอง โดยการชอบวิ่งตามจูน ชอบตามใจจูน มันคงเหมือน (เวลาเราอยู่ใกล้ หรือเห็น
มันอยู่ทุกวัน เราจะไม่รู้สึกว่าเราสูญเสียมันไป จนกระทั่ง เราไม่เห็นมันอยู่กับเราแล้ว)

     จูน เต้ย  รู้สึกเฉยๆ ออกทางไม่ชอบเต้ยมาก่อน แต่พอได้ดูตอนนี้ ทำให้รู้สึกว่าเต้ยน่าจะไม่ใช่คนแอ๊บ น่าจะเป็นธรรมชาติของเต้ยแบบนี้
แบบเหมือนเต้ยเล่นเป็นตัวเอง  เต้ยเล่นได้น่ารัก ดูเป็นธรรมชาติ มีชีวิตชีวา ผู้หญิงตัวเล็กๆที่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการคืออะไร และก็ทำมัน
ถึงแม้จะมีความรัก แต่จูนก็มีลิมิตของมัน ที่ไม่ยึดติดกะความรักนั้น พร้อมที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า ไปทำตามความฝันของตัวเอง ผู้หญิงแบบจูน
สามารถจะอยู่คนเดียวได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีใคร ความรู้สึกรักและห่วง ทำสิ่งดีๆให้กับคนที่จูนรัก เต้ยถ่ายทอดออกมาได้ดี ตอนนี้เปลี่ยนความคิด
ว่าไม่ชอบเต้ยละคะ เพราะเต้ยน่ารักมาก 5555+

    มัท (พี่ป๊อก) ต้องบอกว่าพี่เค้าเป็นศิลปิน ตัวจริงนักแสดงตัวจริง ถ่ายทอดบทมัดออกมาได้ดีมาก แม่ที่เลี้ยงลูกมาคนเดียวตามลำพัง และยังฝั่งใจกับผู้เป็นสามีที่ตายจากไป (ทางพระพุทธศาสนาสอนไม่ให้ยึดติดชินะ แต่ถ้าใจมันไม่ไปใหน มันคงจะดีถ้าเราจะชื่อสัตย์กับใจตัวเอง จริงไม) มัด ดูแลลูกชายด้วยลำพังตัวคนเดียวมาตลอด ด้วยความรัก ลูกๆบางครั้งอาจไม่เข้าใจพ่อแม่ ว่าสิ่งที่พ่อแม่ต้องการจากตัวเองนั้นคืออะไร และพ่อกับแม่บางครั้ง ก็คิดอยาก
จะให้สิ่งที่ดีที่สุด ให้ลูกเดินไป แต่บางครั้งลูกอาจจไม่เข้าใจในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ

     วัฒน์ (ปีเตอร์ นพชัย) อันนี้ไม่กล่าวถึงไม่ได้ แสดงดีมากคนเนี้ย (ได้นำชาย ฝนตกขึ้นฟ้า) สายตา แววตาอบอุ่น รักจริง แอบหลงรัก มัท ด้วยจากใจจริง และรอเวลาให้เธอรักตอบ ไม่ฝืนไม่บังคับค่อยดูแลเธอเสมอพร้อมช่วยเหลือทุกเรื่องที่เธอต้องการ เป็นความรักที่อบอุ่นจริงๆ

สิ่งที่ จขกท. ชอบในหนังเรื่องนี้
1.วิว สวยงาม ทำให้อยากไปเที่ยว คาดว่า บ้านของ (แทน กะมัท) นั้นน่าจะเป็นบ้านหลังเดียวกับที่ใช้ถ่ายทำ The Letter ไม่แน่ใจแต่เหมือนมาก อยากไปเที่ยว ต้นไม้ ใบหญ้า ภูเขา ดูชุ่มชื่นสวยงาม
2. จักรยาน ชอบมากที่เรื่องนี้นำเสนอจักรยาน แม้กทม.จะไม่มีทางจักรยาน ซึ่ง จขกท. อยากให้มีมาก ๆๆๆ (เป็นอะไรที่ดีจริงๆ) ถ้าเราหันมาเดินทางด้วยจักรยานได้ เราจะลดอะไรได้หลายอย่าง (1.ลดมิลพิษ 2. รัฐประหยัดเงินในการรักษาคนเป็นโรคอ้วน 3. ได้ออกกำลังกาย 4. ประหยัดเงิน 5. ประหยัดน้ำมัน 6. ลดบริการขนส่งสาธารณะที่แออัด) แต่คนไทยต้องใส่ใจวินัยจราจรกันเยอะกว่านี้หน่อย ถามว่า จขกท. ตอนนี้กล้าชื้อจักรยานแล้วออกไปขี่ตามท้องถนนใหม ตอบเลยว่าไม่ค่ะ เหอะๆๆ ไม่กล้าจริงๆค่ะ แต่ถ้ามีทางจักรยานไปแน่ค่ะ เป็นจุดที่ดีและชอบจริงๆค่ะ
3. นักแสดงทุกคน จขกท.ว่าคัดนักแสดงได้เข้ากะบทนนะคะ  แสดงดีทุกคนค่ะ ยี่ห้อพี่ อุ๋ย นนทรีย์ เค้าอะนะ

แต่มีสิ่งที่จับผิดได้อยู่นะคะแบบขำๆ
โฆษณา ที่ติดกำแพงวัดนั้น และ กระป๋องที่ไม่ยอมโต แต่ให้อภัยค่ะ 5555
และหน้าตาพี่ป๊อกที่ดูไม่ค่อยจะมีริ้วรอยเท่าไหร่แม้จะมีลูกโตจนเข้ามหาลัยแล้วก็ตาม 555+

สรุป หนังเรื่องนี้เหมาะไม่เหมาะกะใคร
ไม่ฟังธงนะคะ หนังดูง่าย ตรงๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก เหมาะกับทุกเพศทุกวัย หนังดูง่าย  แต่  จขกท.ชอบ
คำตอบที่มัทให้กับลูก(แทน)มากเป็นคำตอบที่ จขกท. สรุปกับตัวเองแล้วมาเขียนหัวกระทู้

จบแล้วค่ะ มีภาพ บรรยากาศมาให้ชมกันด้วยค่ะ







คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่