หัวข้อแนวรันทดมากค่ะ

เพลียมากกับแต่ละคน
ก่อนหน้านี้บอกตรงๆ ไม่เคยได้ยินเลยค่ะ กับชื่อบริษัทนี้
เคยได้ยินบ่อยๆนี่ BHIP ไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะมาประสบกันตัวเอง
และไม่เคยคิดว่า รุ่นพี่จะมาทำแบบนี้ใส่ ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้
นี่คือประสบการณ์ที่พบเจอมาค่ะ สำหรับคนที่สนิท นี่คือครั้งแรกค่ะ
เราเรียนอยู่ปี1ของมหาวิทยาลัยนานาชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งมีรุ่นพี่คนนึง เมื่อสองเทอมที่แล้ว(มหาวิทยาลัยเรามีเรียน 3 เทอม ต่อ 1 ปีค่ะ) ได้เรียนวิชาเดียวกัน เซคเดียวกัน นั่งข้างกันทำให้รู้จักกัน และสนิทกันในที่สุด
พี่เค้าเป็นคนเฟรนด์ลี่ คุยง่าย เข้าถึงง่าย เป็นคนตรงๆ มีอะไรก็พูด และเป็นที่ปรึกษาได้
แต่มีครั้งนึง ช่วงที่ปิดมิดเทอมเทอมแรก เค้าประสบปัญหาด้านการเงิน และมาขอยืมเงินเรา เราจึงให้ยืม โดยที่เค้าบอกจะคืนให้ ซึ่งเค้าก็ทำตามที่พูดค่ะ
ต่อมาพอขึ้นเทอมสอง เราก็ไม่ค่อยได้คุยกันค่ะ เพราะเราเรียนกันคนละคณะ และตัวเราเรียนวิชาเมนหมดเลย จึงไม่ค่อยได้เจอกันค่ะ
แต่เพราะมหาลัยเราค่อนข้างเล็ก บางครั้งก็เดินเจอกัน ทักทายกันบ้างค่ะ
มีครั้งนึง ช่วงเทอมสอง พี่เค้าทักเฟสมา ขอเบอร์ค่ะ บอกจะเอาไปทำรายงาน วิชา STAT เราก็ให้ไปค่ะ พร้อมกับบอกรายรับของแต่ละเดือน (เหมือนพี่เค้าทำรายงานวิจัย รายรับของนศ.แต่ละคนอ่ะค่ะ) ซึ่งเพื่อนเราที่รู้จักพี่เค้า ก็โดนถามเหมือนกันค่ะ
มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ เราไปส่งพี่สาวที่หอแถวรังสิต
ระหว่างทางกลับ พี่เค้าก็โทรมาค่ะ นี่คือบทสนทนาที่พอจะจำได้ค่ะ
(เบอร์แปลกโทรมาเรามีโปรแกรม WHOSCALL แนะนำให้โหลดค่ะ มันสามารถดูได้ว่าใครโทรมา ถ้าเอาเบอร์ไปผูกติดหรือทำธุรกรรมอะไรมันจะโชว์ชื่อบริษัท หรือเว็ปต่างๆ ที่เคยเอาเบอร์ไปลงไว้อ่ะค่ะ)
เรากดรับ ...
เรา : ฮัลโหลค่ะ ใครคะ
พี่เค้า : ฮัลโหล (ชื่อเรา) จำได้มั้ยนี่พี่ที(ชื่อสมมติ) ที่อยู่เอส(ม.เรา)
เรา : อ่อค่ะ จำได้ พี่มีอะไรหรือเปล่า
พี่เค้า : ตอนนี้_ว่างมั้ย (เราขอใส่_แทนชื่อเรานะคะ) คุยได้รึเปล่า
เรา : อ่อได้ค่ะ ตอนนี้อยู่ระหว่างทางกลับบ้าน แต่คุยได้ค่ะ มีอะไรหรอ
พี่เค้า : วันจันทร์กับอังคารนี้_ไปไหนรึเปล่า ว่างมั้ย พี่มีเรื่องจะถาม
เรา : ไม่ได้ไปไหนค่ะ ไม่อยู่บ้าน ก็ไปฟิตเนส แต่มีอะไรหรอคะ จะให้_ช่วยอะไร
พี่เค้า : คือว่าตอนนี้พี่ทำโปรเจคตัวนึง มันโคกับต่างประเทศ แบบมันดีมากเลยนะ แต่ได้เงินด้วยสักเดือนละ 5-6 หมื่น _ สนใจมั้ย พอดีตอนนี้เค้าต้องการคนสวยน่ารัก พี่เลยนึกถึง_เลยนะ สนใจมั้ย
เรา : มันเป็นงานอะไรคะ ทำไมได้เยอะจัง (เอาตามตรง เรานึกว่าขายยา - _ -)
พี่เค้า : พี่ยังบอกตอนนี้ไม่ได้ แต่มันเป็นโปรเจคใหญ่นะ พี่ว่าเราทำได้ งานไม่ยากเท่าไหร่ วันจันทร์กับอังคารว่างมั้ยหล่ะ เดี๋ยวมาคุยงานกับพี่ก่อนละกัน
เรา : อ่อว่างค่ะ (คืออยากรู้มากว่างานอะไร ไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นแนวนี้) แล้วพี่จะให้_ไปเจอที่ไหนอ่ะ
พี่เค้า : เซ็นทรัลพระรามเก้าละกัน ตอนบ่ายโมงนะวันจันทร์เจอกัน
เรา : โอเคค่ะ
และวางสายไป นั่งคิดตลอดทางกลับบ้าน ว่ามันคืองานอะไร ละก็เลยไลน์ไปบอกเพื่อนคนนึง แล้วพี่สาวอีกคน
ทุกคนมีอารมณ์เดียวกันว่า งานผิดกฎหมายอะไรหรือเปล่า เพื่อนบอกว่า เงินแบบนี้ยังกะจะไปเป็นนางแบบ แต่เราเตี้ย คือ 150 ผิวกลางๆ ไม่ขาว เพื่อนบอกหน้าคม แต่เราคิดว่าหน้าเราเหมือนผช. ผมยาว และทำสีแปลกๆ - _ - คือที่เราคิด นางแบบดาราตัดทิ้งไปได้เลย แค่ความสูงก็ไม่ได้ละ เราไม่ได้ผอมมากด้วยถึงมีหน้าอกและก้นก็เถอะ แต่เอวไม่บาง จบ
คิดไปคิดมา ก็บอกที่บ้านว่ารุ่นพี่ที่ม. ให้ไปช่วยงาน แต่เค้าไม่ยอมบอกว่างานอะไร แต่อีกอย่างที่เราคิดก็คือ งานของม. แบบมันก็อดคิดไม่ได้ เพราะม.เราก็อินเตอร์ถึงคนน้อยก็เหอะ แต่ค่าเทอมคณะเราก็เกือบหลักแสนละ อีกนิดนึง ก็เลยไม่คิดอะไรมาก
มาต่อด้วยการตื่น เตรียมตัวไป เราออกจากบ้านตอน 11 โมง เผื่อไว้ว่ารถติด บ้านเราอยู่แถวม.ธุกิจบัณฑิตย์ (อย่าถามว่าทำไมไม่เรียนที่นี่ เราว่าใกล้บ้านไป ทำใจไม่ได้ ค่าเทอมก็พอๆกันมั้ง เห็นคนเคยบอกแต่คณะมันไม่ใช่อ่ะ)
แม่ขับรถไปส่งที่เดอะมอลล์ เราก็มารอรถเมลล์ เพื่อนั่งไปสักที่ (คือไม่จตุจักร ก็เซนลาด)
สักพัก นั่งรถตู้ ค่าเสียหายนี่ 25 มั้ง ถ้าจำไม่ผิด ลงเซนลาด เดินๆไปนั่ง MRT ไปพระรามเก้า 27 บาท ออกทางออกที่ 2 เชื่อมถึงพอดี เราถึงประมาณ 12.15 ก็เลยโทรไปหาพี่เค้า สรุปไม่รับ เราก็เออยังไม่ถึงเวลาพี่เค้าคงทำอะไรอยู่แหละมั้ง เลยนัดเรามาบ่าย ก็เดินๆ แต่คือไม่รู้จะไปไหน ก็เลยเดินวนๆ ไปมาจนครบทั้งห้าง
เพื่อนก็ทักไลน์มาพอดี สักพักก็โทรหา จนเวลาเกือบบ่ายโมงเราก็วางสาย เลยโทรไปหาพี่เค้าอีกรอบ สักพักพี่เค้าก็รับ เราก็เลยบอกว่า _ ถึงละนะ พี่เค้าบอกว่า อ่าวหรอ รอพี่อีก 20 นาทีได้มั้ย เดี๋ยวพี่รีบไป เราก็บอกโอเคค่ะะ (พี่เค้าแนวเด็กกิจกรรม แบบน่าจะทำงานหลายที่มั้งเราไม่แน่ใจ แต่แบบเห็นพี่เค้าทำงานอยู่ที่ๆนึง ที่ไม่ใช่ที่เนี่ย ก่อนหน้านี้) สักพักใหญ่ๆ อีกแปปนึงบ่ายสอง พี่เค้าก็มา
คือให้เรารอเป็นชม. เค้าบอกขอโทษนะ พี่ติดประชุมมาช้ารอนานมั้ย เราก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ไม่รู้จะพูดยังไง จริงๆเราเป็นพวกคนอารมร้อน นี่แบบเริ่มอารมเสียแล้วนิดนึง แต่แบบยังยิ้มอยู่ พี่เค้าบอกป่ะ ไปหาที่นั่งคุยกัน เราก็ตามเค้าไป นั่งอยู่ร้านขนมชั้น 5 ใกล้บันไดเลื่อนร้านนึง เราสั่งพีชโซดา พี่เค้าสั่ง ลาเต้ ของเราแค่ 70 จ่ายไป 100 แต่เค้าไม่ทอนเงินเรา เราก็เออๆ ไม่เป็นไรมั้ง เริ่มเพิ่มมาอีกระดับ ยังไม่ปรี๊ด สักพักก็เริ่มเรื่องขึ้นมา
โดยพี่เค้าเอากระดาษเอสี่ ขึ้นมา 1 แผ่น พร้อม เขียนกราฟ วาดภาพและถามเรา เรื่องบ้านเรา เรื่องครอบครัวเรา และเรื่องตัวเรา สักพักเค้าก็กางสมุดเล่มยาวๆ พร้อมเล่าเรื่องราวในบริษัท พูดเกี่ยวกับงานซึ่งบอกตามตรงว่าแทบไม่บอกเลยว่าต้องทำอะไร พูดเรื่อง ACTIVE INCOME กับ PASSIVE INCOME พูดวกไปวนมา และพาเราไปบริษัทอันใกล้ที่มีชื่อว่า
... 'UNICITY' เราเริ่มจะจากไปแต่พี่เค้ารั้งไว้ คือเราปฏิเสธคนไม่เก่ง แต่ขี้โมโห ตลกมะ
เพราะก่อนหน้าจะนั่งคุยกันเค้าถามว่ารีบมั้ย เราบอกไม่รีบนะ แต่กลับเย็นมากไม่ได้ เพราะแม่บอก เค้าให้เราไปนั่งฟังบรรยาย อะไรไม่รู้ จนถึงสี่โมงกว่า และเอาเราไปนั่งคุย จนห้าโมงเศษๆ พร้อมให้เราสมัครเข้าบริษัทนี้ และค่าสมัครคือ 500 บาท
เรานี่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง เพราะเค้ารู้ว่าเรามีเงิน แต่เราไม่พกเงินเยอะ ออกจากบ้านทีเอาไปพันกว่าๆ จนแล้วจนรอด เราก็ให้แบงค์พันไป เหมือนฟ้าจงใจ อายุเราไม่ถึง จึงต้องมีผู้ปกครองเซนต์รับรอง เค้าบอกเราว่าเดี๋ยวเค้าเซนต์ให้ ใบนี้ไม่ค่อยสำคัญหรอก เราบอกแล้วบัตรแม่หล่ะ (มันต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนผู้ปกครองเป็นการยืนยันด้วยค่ะ) เค้าบอกให้ถ่ายส่งมาให้เค้า ตอนกลับถึงบ้านแล้ว เราก็แบบ โอเคค่ะ
เค้ายังคือแบงค์พันเราอยู่ เค้าบอกเราว่สงั้นพี่ทอนเงินให้_ละกัน ไว้ส่งมาเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่สมัครให้ เราก็บอก โอเคค่ะ (คือตอนแรกแบบ จะเอาใบกลับบ้านละไม่ยุ่งแล้ว แต่เค้ากลับเอาเงินไผละทอนเงินมา) เค้าเลยบอกจะซื้อหนังสือเลยมั้ย เล่มไม่ถึงพันหรอก 900 กว่าบาท หนังสือเล่มนี้มันดีมากเลยนะ มันบอกเรื่องการทำธุรกิจ บอกกลเม็ดทุกอย่างเลย และพี่เค้สก็โอ้อ้อวดสรรพคุณยา ของบริษัทเต็มที่ เราก็ค่ะๆ เค้าบอกรออีก 30 นาทีมั้ย หรือจะกลับบ้านเลย เราแบบ กลับเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวแม่เป็นห่วง เค้าไม่อยากให้กลับดึก พี่เค้าพยายามรั้งให้เราอยู่ แล้วบอกถ้ายังไงพรุ่งนี้เข้ามามั้ย สักห้าโมงเดี๋ยวพี่จะแนะนำกลุ่มพี่ให้รู้จัก เป็นผู้มีประสบการณ์เก่งมากเลยนะ เราบอกบ้านเราไกล แล้วมืดด้วย คงไม่ได้ เค้าบอกบ้านเค้าไกลกว่า (บ้านเค้าอยู่แถวดอนเมืองค่ะ) ยังมาได้เลย (และเค้าขับรถมา) คือเราคิดว่า ก็งานของเค้าเค้า ต้องมาได้อยู่แล้วป่ะ แล้วสุดท้ายเราก็เดินออกมา พร้อมกับหาข้อมูลในนี้ ตามกระทู้ต่างๆ ที่เคยมี เราก็อ่านๆระหว่างทางกลับบ้าน พร้อมบอกเพื่อนว่าวันนี้มาทำอะไรบ้าง แม่ทักไลน์มาถามว่ากลับยัง เราก็ตอบว่ากำลังกลับ กว่าเราจะออกมาจริงๆ เกือบหกโมงค่ะ นั่ง MRT กลับ เพื่อนเราก็ทักมา แล้วก็โทรหา คุยกันตลอดทางว่าทำอะไรบ้าง เริ่มระบาย พอถึงหมอชิต เราก็รอรถเมลล์ 104 มาลงเดอะมอลล์ค่ะ แต่รถตรง 5 แยกลาดพร้าวติดไม่ขยับเลย ครึ่งชม.กว่าๆ แบตเราก็ใกล้หมด เลยนั่งฟังเพลงอย่สงเดียว นานมากค่ะกว่าจะถึงเดอะมอลล์ เรานั่งรถเรื่อยๆ เผลอหลับไปตื่น ประมาณเกือบสองทุ่ม ก็ถึงเดอะมอลล์ค่ะ เราก็นั่งสองแถวกลับมาลงแถวหน้าซ.แล้วเดินเข้าบ้านประมาณ 200 เมตรค่ะ พูดเลยว่าเหนื่อยมาก เพลียมาก เสียเวลามาก เสียความรู้สึกมาก เสียความเชื่อใจมาก ระหว่าเดินเข้าซ.พี่เค้าก็โทรมาค่ะ แต่เราไม่ได้รับ พอถึงบ้าน เราก็กินข้าวแล้วชาร์ตแบท น้าถามค่ะว่าทำอะไรมาบ้างเราก็เล่าตามความจริง พอชาร์ตได้สักพัก เราก็ทักพี่เค้าไปว่าแม่ไม่ให้บอกยังเด็กอยู่บลาๆ ส่วนเรื่องเงิน ค่อยคืนเปิดเทอมก็ได้ เค้าบอกเอาเลขบัญชีมาเลย เดี๋ยวโอนคืนให้ เราก็ให้ๆไป บอกตามตรงคือไม่อยากยุ่งแล้วค่ะ ถ้าจะขายตรง หาดาวน์ไลน์ก็บอกมาตรงๆค่ะ เราเกลียดคนแบบนี้มาก หาสาระไม่ได้ เราเกลียด พวกขายตรงอยู่แล้ว แต่นี่อคติยิ่งเพิ่มค่ะ พรุ่งนี้จะมาเพิ่มข้อมูลตกหล่นนะคะ ขอตัวไปนอน จะตีสี่แล้ว
#ขอแท็กหาเพื่อนนะคะ ไม่รู้จะติดแท็กห้องไหน เพราะสยามคนอ่านเยอะ พรุ่งนี้จะมาแก้ค่ะ
มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ UNICITY กับรุ่นพี่ที่เสียไป
ก่อนหน้านี้บอกตรงๆ ไม่เคยได้ยินเลยค่ะ กับชื่อบริษัทนี้
เคยได้ยินบ่อยๆนี่ BHIP ไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะมาประสบกันตัวเอง
และไม่เคยคิดว่า รุ่นพี่จะมาทำแบบนี้ใส่ ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้
นี่คือประสบการณ์ที่พบเจอมาค่ะ สำหรับคนที่สนิท นี่คือครั้งแรกค่ะ
เราเรียนอยู่ปี1ของมหาวิทยาลัยนานาชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งมีรุ่นพี่คนนึง เมื่อสองเทอมที่แล้ว(มหาวิทยาลัยเรามีเรียน 3 เทอม ต่อ 1 ปีค่ะ) ได้เรียนวิชาเดียวกัน เซคเดียวกัน นั่งข้างกันทำให้รู้จักกัน และสนิทกันในที่สุด
พี่เค้าเป็นคนเฟรนด์ลี่ คุยง่าย เข้าถึงง่าย เป็นคนตรงๆ มีอะไรก็พูด และเป็นที่ปรึกษาได้
แต่มีครั้งนึง ช่วงที่ปิดมิดเทอมเทอมแรก เค้าประสบปัญหาด้านการเงิน และมาขอยืมเงินเรา เราจึงให้ยืม โดยที่เค้าบอกจะคืนให้ ซึ่งเค้าก็ทำตามที่พูดค่ะ
ต่อมาพอขึ้นเทอมสอง เราก็ไม่ค่อยได้คุยกันค่ะ เพราะเราเรียนกันคนละคณะ และตัวเราเรียนวิชาเมนหมดเลย จึงไม่ค่อยได้เจอกันค่ะ
แต่เพราะมหาลัยเราค่อนข้างเล็ก บางครั้งก็เดินเจอกัน ทักทายกันบ้างค่ะ
มีครั้งนึง ช่วงเทอมสอง พี่เค้าทักเฟสมา ขอเบอร์ค่ะ บอกจะเอาไปทำรายงาน วิชา STAT เราก็ให้ไปค่ะ พร้อมกับบอกรายรับของแต่ละเดือน (เหมือนพี่เค้าทำรายงานวิจัย รายรับของนศ.แต่ละคนอ่ะค่ะ) ซึ่งเพื่อนเราที่รู้จักพี่เค้า ก็โดนถามเหมือนกันค่ะ
มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ เราไปส่งพี่สาวที่หอแถวรังสิต
ระหว่างทางกลับ พี่เค้าก็โทรมาค่ะ นี่คือบทสนทนาที่พอจะจำได้ค่ะ
(เบอร์แปลกโทรมาเรามีโปรแกรม WHOSCALL แนะนำให้โหลดค่ะ มันสามารถดูได้ว่าใครโทรมา ถ้าเอาเบอร์ไปผูกติดหรือทำธุรกรรมอะไรมันจะโชว์ชื่อบริษัท หรือเว็ปต่างๆ ที่เคยเอาเบอร์ไปลงไว้อ่ะค่ะ)
เรากดรับ ...
เรา : ฮัลโหลค่ะ ใครคะ
พี่เค้า : ฮัลโหล (ชื่อเรา) จำได้มั้ยนี่พี่ที(ชื่อสมมติ) ที่อยู่เอส(ม.เรา)
เรา : อ่อค่ะ จำได้ พี่มีอะไรหรือเปล่า
พี่เค้า : ตอนนี้_ว่างมั้ย (เราขอใส่_แทนชื่อเรานะคะ) คุยได้รึเปล่า
เรา : อ่อได้ค่ะ ตอนนี้อยู่ระหว่างทางกลับบ้าน แต่คุยได้ค่ะ มีอะไรหรอ
พี่เค้า : วันจันทร์กับอังคารนี้_ไปไหนรึเปล่า ว่างมั้ย พี่มีเรื่องจะถาม
เรา : ไม่ได้ไปไหนค่ะ ไม่อยู่บ้าน ก็ไปฟิตเนส แต่มีอะไรหรอคะ จะให้_ช่วยอะไร
พี่เค้า : คือว่าตอนนี้พี่ทำโปรเจคตัวนึง มันโคกับต่างประเทศ แบบมันดีมากเลยนะ แต่ได้เงินด้วยสักเดือนละ 5-6 หมื่น _ สนใจมั้ย พอดีตอนนี้เค้าต้องการคนสวยน่ารัก พี่เลยนึกถึง_เลยนะ สนใจมั้ย
เรา : มันเป็นงานอะไรคะ ทำไมได้เยอะจัง (เอาตามตรง เรานึกว่าขายยา - _ -)
พี่เค้า : พี่ยังบอกตอนนี้ไม่ได้ แต่มันเป็นโปรเจคใหญ่นะ พี่ว่าเราทำได้ งานไม่ยากเท่าไหร่ วันจันทร์กับอังคารว่างมั้ยหล่ะ เดี๋ยวมาคุยงานกับพี่ก่อนละกัน
เรา : อ่อว่างค่ะ (คืออยากรู้มากว่างานอะไร ไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นแนวนี้) แล้วพี่จะให้_ไปเจอที่ไหนอ่ะ
พี่เค้า : เซ็นทรัลพระรามเก้าละกัน ตอนบ่ายโมงนะวันจันทร์เจอกัน
เรา : โอเคค่ะ
และวางสายไป นั่งคิดตลอดทางกลับบ้าน ว่ามันคืองานอะไร ละก็เลยไลน์ไปบอกเพื่อนคนนึง แล้วพี่สาวอีกคน
ทุกคนมีอารมณ์เดียวกันว่า งานผิดกฎหมายอะไรหรือเปล่า เพื่อนบอกว่า เงินแบบนี้ยังกะจะไปเป็นนางแบบ แต่เราเตี้ย คือ 150 ผิวกลางๆ ไม่ขาว เพื่อนบอกหน้าคม แต่เราคิดว่าหน้าเราเหมือนผช. ผมยาว และทำสีแปลกๆ - _ - คือที่เราคิด นางแบบดาราตัดทิ้งไปได้เลย แค่ความสูงก็ไม่ได้ละ เราไม่ได้ผอมมากด้วยถึงมีหน้าอกและก้นก็เถอะ แต่เอวไม่บาง จบ
คิดไปคิดมา ก็บอกที่บ้านว่ารุ่นพี่ที่ม. ให้ไปช่วยงาน แต่เค้าไม่ยอมบอกว่างานอะไร แต่อีกอย่างที่เราคิดก็คือ งานของม. แบบมันก็อดคิดไม่ได้ เพราะม.เราก็อินเตอร์ถึงคนน้อยก็เหอะ แต่ค่าเทอมคณะเราก็เกือบหลักแสนละ อีกนิดนึง ก็เลยไม่คิดอะไรมาก
มาต่อด้วยการตื่น เตรียมตัวไป เราออกจากบ้านตอน 11 โมง เผื่อไว้ว่ารถติด บ้านเราอยู่แถวม.ธุกิจบัณฑิตย์ (อย่าถามว่าทำไมไม่เรียนที่นี่ เราว่าใกล้บ้านไป ทำใจไม่ได้ ค่าเทอมก็พอๆกันมั้ง เห็นคนเคยบอกแต่คณะมันไม่ใช่อ่ะ)
แม่ขับรถไปส่งที่เดอะมอลล์ เราก็มารอรถเมลล์ เพื่อนั่งไปสักที่ (คือไม่จตุจักร ก็เซนลาด)
สักพัก นั่งรถตู้ ค่าเสียหายนี่ 25 มั้ง ถ้าจำไม่ผิด ลงเซนลาด เดินๆไปนั่ง MRT ไปพระรามเก้า 27 บาท ออกทางออกที่ 2 เชื่อมถึงพอดี เราถึงประมาณ 12.15 ก็เลยโทรไปหาพี่เค้า สรุปไม่รับ เราก็เออยังไม่ถึงเวลาพี่เค้าคงทำอะไรอยู่แหละมั้ง เลยนัดเรามาบ่าย ก็เดินๆ แต่คือไม่รู้จะไปไหน ก็เลยเดินวนๆ ไปมาจนครบทั้งห้าง
เพื่อนก็ทักไลน์มาพอดี สักพักก็โทรหา จนเวลาเกือบบ่ายโมงเราก็วางสาย เลยโทรไปหาพี่เค้าอีกรอบ สักพักพี่เค้าก็รับ เราก็เลยบอกว่า _ ถึงละนะ พี่เค้าบอกว่า อ่าวหรอ รอพี่อีก 20 นาทีได้มั้ย เดี๋ยวพี่รีบไป เราก็บอกโอเคค่ะะ (พี่เค้าแนวเด็กกิจกรรม แบบน่าจะทำงานหลายที่มั้งเราไม่แน่ใจ แต่แบบเห็นพี่เค้าทำงานอยู่ที่ๆนึง ที่ไม่ใช่ที่เนี่ย ก่อนหน้านี้) สักพักใหญ่ๆ อีกแปปนึงบ่ายสอง พี่เค้าก็มา
คือให้เรารอเป็นชม. เค้าบอกขอโทษนะ พี่ติดประชุมมาช้ารอนานมั้ย เราก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ไม่รู้จะพูดยังไง จริงๆเราเป็นพวกคนอารมร้อน นี่แบบเริ่มอารมเสียแล้วนิดนึง แต่แบบยังยิ้มอยู่ พี่เค้าบอกป่ะ ไปหาที่นั่งคุยกัน เราก็ตามเค้าไป นั่งอยู่ร้านขนมชั้น 5 ใกล้บันไดเลื่อนร้านนึง เราสั่งพีชโซดา พี่เค้าสั่ง ลาเต้ ของเราแค่ 70 จ่ายไป 100 แต่เค้าไม่ทอนเงินเรา เราก็เออๆ ไม่เป็นไรมั้ง เริ่มเพิ่มมาอีกระดับ ยังไม่ปรี๊ด สักพักก็เริ่มเรื่องขึ้นมา
โดยพี่เค้าเอากระดาษเอสี่ ขึ้นมา 1 แผ่น พร้อม เขียนกราฟ วาดภาพและถามเรา เรื่องบ้านเรา เรื่องครอบครัวเรา และเรื่องตัวเรา สักพักเค้าก็กางสมุดเล่มยาวๆ พร้อมเล่าเรื่องราวในบริษัท พูดเกี่ยวกับงานซึ่งบอกตามตรงว่าแทบไม่บอกเลยว่าต้องทำอะไร พูดเรื่อง ACTIVE INCOME กับ PASSIVE INCOME พูดวกไปวนมา และพาเราไปบริษัทอันใกล้ที่มีชื่อว่า
... 'UNICITY' เราเริ่มจะจากไปแต่พี่เค้ารั้งไว้ คือเราปฏิเสธคนไม่เก่ง แต่ขี้โมโห ตลกมะ
เพราะก่อนหน้าจะนั่งคุยกันเค้าถามว่ารีบมั้ย เราบอกไม่รีบนะ แต่กลับเย็นมากไม่ได้ เพราะแม่บอก เค้าให้เราไปนั่งฟังบรรยาย อะไรไม่รู้ จนถึงสี่โมงกว่า และเอาเราไปนั่งคุย จนห้าโมงเศษๆ พร้อมให้เราสมัครเข้าบริษัทนี้ และค่าสมัครคือ 500 บาท
เรานี่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง เพราะเค้ารู้ว่าเรามีเงิน แต่เราไม่พกเงินเยอะ ออกจากบ้านทีเอาไปพันกว่าๆ จนแล้วจนรอด เราก็ให้แบงค์พันไป เหมือนฟ้าจงใจ อายุเราไม่ถึง จึงต้องมีผู้ปกครองเซนต์รับรอง เค้าบอกเราว่าเดี๋ยวเค้าเซนต์ให้ ใบนี้ไม่ค่อยสำคัญหรอก เราบอกแล้วบัตรแม่หล่ะ (มันต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนผู้ปกครองเป็นการยืนยันด้วยค่ะ) เค้าบอกให้ถ่ายส่งมาให้เค้า ตอนกลับถึงบ้านแล้ว เราก็แบบ โอเคค่ะ
เค้ายังคือแบงค์พันเราอยู่ เค้าบอกเราว่สงั้นพี่ทอนเงินให้_ละกัน ไว้ส่งมาเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่สมัครให้ เราก็บอก โอเคค่ะ (คือตอนแรกแบบ จะเอาใบกลับบ้านละไม่ยุ่งแล้ว แต่เค้ากลับเอาเงินไผละทอนเงินมา) เค้าเลยบอกจะซื้อหนังสือเลยมั้ย เล่มไม่ถึงพันหรอก 900 กว่าบาท หนังสือเล่มนี้มันดีมากเลยนะ มันบอกเรื่องการทำธุรกิจ บอกกลเม็ดทุกอย่างเลย และพี่เค้สก็โอ้อ้อวดสรรพคุณยา ของบริษัทเต็มที่ เราก็ค่ะๆ เค้าบอกรออีก 30 นาทีมั้ย หรือจะกลับบ้านเลย เราแบบ กลับเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวแม่เป็นห่วง เค้าไม่อยากให้กลับดึก พี่เค้าพยายามรั้งให้เราอยู่ แล้วบอกถ้ายังไงพรุ่งนี้เข้ามามั้ย สักห้าโมงเดี๋ยวพี่จะแนะนำกลุ่มพี่ให้รู้จัก เป็นผู้มีประสบการณ์เก่งมากเลยนะ เราบอกบ้านเราไกล แล้วมืดด้วย คงไม่ได้ เค้าบอกบ้านเค้าไกลกว่า (บ้านเค้าอยู่แถวดอนเมืองค่ะ) ยังมาได้เลย (และเค้าขับรถมา) คือเราคิดว่า ก็งานของเค้าเค้า ต้องมาได้อยู่แล้วป่ะ แล้วสุดท้ายเราก็เดินออกมา พร้อมกับหาข้อมูลในนี้ ตามกระทู้ต่างๆ ที่เคยมี เราก็อ่านๆระหว่างทางกลับบ้าน พร้อมบอกเพื่อนว่าวันนี้มาทำอะไรบ้าง แม่ทักไลน์มาถามว่ากลับยัง เราก็ตอบว่ากำลังกลับ กว่าเราจะออกมาจริงๆ เกือบหกโมงค่ะ นั่ง MRT กลับ เพื่อนเราก็ทักมา แล้วก็โทรหา คุยกันตลอดทางว่าทำอะไรบ้าง เริ่มระบาย พอถึงหมอชิต เราก็รอรถเมลล์ 104 มาลงเดอะมอลล์ค่ะ แต่รถตรง 5 แยกลาดพร้าวติดไม่ขยับเลย ครึ่งชม.กว่าๆ แบตเราก็ใกล้หมด เลยนั่งฟังเพลงอย่สงเดียว นานมากค่ะกว่าจะถึงเดอะมอลล์ เรานั่งรถเรื่อยๆ เผลอหลับไปตื่น ประมาณเกือบสองทุ่ม ก็ถึงเดอะมอลล์ค่ะ เราก็นั่งสองแถวกลับมาลงแถวหน้าซ.แล้วเดินเข้าบ้านประมาณ 200 เมตรค่ะ พูดเลยว่าเหนื่อยมาก เพลียมาก เสียเวลามาก เสียความรู้สึกมาก เสียความเชื่อใจมาก ระหว่าเดินเข้าซ.พี่เค้าก็โทรมาค่ะ แต่เราไม่ได้รับ พอถึงบ้าน เราก็กินข้าวแล้วชาร์ตแบท น้าถามค่ะว่าทำอะไรมาบ้างเราก็เล่าตามความจริง พอชาร์ตได้สักพัก เราก็ทักพี่เค้าไปว่าแม่ไม่ให้บอกยังเด็กอยู่บลาๆ ส่วนเรื่องเงิน ค่อยคืนเปิดเทอมก็ได้ เค้าบอกเอาเลขบัญชีมาเลย เดี๋ยวโอนคืนให้ เราก็ให้ๆไป บอกตามตรงคือไม่อยากยุ่งแล้วค่ะ ถ้าจะขายตรง หาดาวน์ไลน์ก็บอกมาตรงๆค่ะ เราเกลียดคนแบบนี้มาก หาสาระไม่ได้ เราเกลียด พวกขายตรงอยู่แล้ว แต่นี่อคติยิ่งเพิ่มค่ะ พรุ่งนี้จะมาเพิ่มข้อมูลตกหล่นนะคะ ขอตัวไปนอน จะตีสี่แล้ว
#ขอแท็กหาเพื่อนนะคะ ไม่รู้จะติดแท็กห้องไหน เพราะสยามคนอ่านเยอะ พรุ่งนี้จะมาแก้ค่ะ