การเดินทาง 6 วัน ในวิถี พม่า ฉบับบุกกรุยลุยเดี่ยว เที่ยวคนเดียวเปรี้ยวจับใจ ในสไตล์.. เนวิเกแต๋ว -- ย่างกุ้ง - มัณฑะเลย์ - พุกาม
Eps1 ปฐมบท :
http://pantip.com/topic/31625875 ...ต๊ะต่อนยอน กลางมหานครย่างกุ้ง
Eps3 บทสาม :
http://pantip.com/topic/31667844 ... ล้างหน้าพระหน้ามน ยลเสน่ห์สะกาย-อังวะ
Eps4 บทสี่ :
http://pantip.com/topic/31691893 ...ดื่มด่ำกับลำนำสายน้ำอิระวดี
---------o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o----------
สรุปการเดินทางวันนี้ ที่ มัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
เช็คอินเข้า รร ET Hotel $25/คืน
ขึ้นกระป๊อไปลงหน้า มัณฑะเลย์ ฮิลล์ 500k - แวะวัดจ๊อกตอว์จี - ขึ้นกระป๊อขึ้นมันฑะเลย์ ฮิลล์ $1 + ค่าไอติมระหว่างทางลง 300k - เดินมาวัดสันธมุนีและวัดเจ้ากุศล + ซื้อดอกไม้ไหว้พระ 500k - เดินไปชเวนานดอว์ เสียค่าเข้าเขตโบราณสถานมัณฑะเลย์ 10000k และเดินเข้าชม วัดอตุมาชิ - นั่งรถเข้าเมือง 700k + กินน้ำส้มโอ 500k + กินข้าว 1000k + นั่งรถ Dyna ไปสะพานอุเบง 200k + แวะซื้อลองจี แต่งบอย 3500k - แวะกราบพระบรมอัฐิฯ - ดูพระอาทิตย์ตกที่สะพาน และจิบ mandalay beer 1500k + ก่อนกลับซื้อพวงกุญแจเม็ดกระถิน 500k + นั่งมอไซค์มาปากซอย $1 + นั่งไดน่ากลับ 500k + แวะกินพะโล้เสียบไม้ 800k + ตบท้ายชิลก่อนนอน 2800k+200k(tip)
สิริรวมวันนี้ใช้ไป 22500k + $27 ~ 1730 บาท
----*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*----
หลังจากตลอนร่อนทั่ว ย่างกุ้ง วานนี้จนเหน็ดเหนื่อยและนอนบนรถ Shwe Mandalar มาอย่างเต็มอิ่ม รถก็พาเรามาถึง มัณฑะเลย์ แต่เช้าตรู่ราว 6:00 ได้
โดยรถมาส่งเราถึงหน้าสถานีรถไฟเมือง Mandalay เลย(ซึ่งหากใครจะลงจุดไหนที่รถผ่านใน มัณฑเลย์ ก็สามารถบอกเค้าได้) พอลงรถก็มีหนุ่มมอไซค์และแท็กซี่มากมายมาเสนอบริการ แต่เราขอฝ่าวงล้อมนั้นไปนั่งตั้งสติที่ในสถานีรถไฟเพื่อหาพิกัดจุดตัวเองจากแผนที่เยินๆอันเดียวกับแผนที่ย่างกุ้งที่ได้จากสนามบินวานนี้ อีกอย่างก็ยังไม่ได้จอง รร มา เลยไม่รู้จะบอกว่าให้ไปส่งที่ไหน 55 โชคร้ายที่ก่อนมายุ่งกับการเคลียร์งานมาก จนลืมจดที่อยู่ รร ที่ดูๆไว้มาเลย แต่ก็โชคดีที่เคยดูมาคร่าวๆว่า รร ยอดฮิตส่วนใหญ่อยู่ใกล้ๆหัวมุมราชวังมัณฑะเลย์ฟากหอนาฬิกา เลยเดินมาเรื่อยๆกะว่าถ้าเจอ ไซการ์ (สามล้อ) ก็จะเรียก เพราะอยากนั่งสูดอากาศยามเช้าแบบเอื่อยๆ แต่ตอนนั้นไม่ค่อยมีเลย แถมที่มีขี่ผ่านมาก็เป็นคุณลุงที่พูดอังกฤษไม่ได้เสียนี่ แต่ก็ไม่เป็นไรการเดินไม่ใช่ปัญหาสำหรับดิชั้นอยู่แล้ว..
เดินไปถามทางไปได้ความว่า รร Nylon นั้นอยู่แถวถนน 25st. ซึ่งก็ไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ระหว่างทางก็พบกับคู่รักเกาหลีที่เคยเจอตอนนั่งรถรับส่ง ย่างกุ้ง-บขส มาด้วยกันเมื่อคืนนี้เลยถือวิสาสะถามว่า ขอโทษนะคะ เธอสองคนกำลังจะไปพักกันที่ไหนรึ? เพราะชั้นมิได้จองมาเลย ได้ความว่าพวกนางก็มิได้จองแต่กำลังจะไปถาม ET hotel เราเลยถือโอกาสนี้ขอตามไปด้วย (เพราะดูมา อีที ก็เป็นอีกหนึ่งใน hit lists เหมือนกัน) พอไปถึงก็ถามหาห้องว่าง และราคา พอรู้ว่ามีห้อง single with private bathroom บวกกับราคาที่โอเค คือ $25 ก็เลยตกลงเลย เพราะขี้เกียจเดินหาแล้วเสียเวลาเที่ยวเราด้วย ถึงที่อื่นถูกกว่าก็คงราคาไม่หนีกันมาก พอ check-in ได้ก็เข้าห้องทันทีเพื่ออาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนอาภรณ์เสียใหม่
บรรยากาศภายในห้องพักค่ะ สะอาดประมาณนึง สภาพห้องเหมือนเพิ่งปรับปรุงใหม่ ก็ใหม่ใช้ได้ โดยรวมถือว่าโอเค พร้อมอาหารเช้า (แบบ continental) และบริการก็เป็นมิตร ซึ่งเราว่าการตกแต่งก็ classic ให้อารมณ์สไตล์พม่าบ้านๆ ดีอ่ะ
อันนี้ข้อมูลรายละเอียดและราคา รร ที่เราลองไปสอบถามมาฝากนะคะ
พอเสร็จสรรพก็ย่างกายออกมาเดินสวยสะกดวิญญาณ แบบยังไม่แน่ใจที่หมายดี ยอมรับตามตรงเลยว่าทริปนี้แทบไม่ได้แพลนมาเลย ...random สุดๆ!! เดินไปไม่ไกลก็เจอร้านผ้าซิ่น (longyi) มันช่างยวนใจเสียนี่กะไรเลยแวะซักหน่อย ดูไว้ก่อนกะไปดูที่ตลาดก่อนแล้วค่อยเทียบกัน ดูเสร็จก็เดินต่อ กะว่าจะไปตลาดแล้วหารถไปสะกาย แต่พอเดินผ่านแถวถนน 25st+83rd. ก็มีพ่อหนุ่มสองแถวนายหนึ่งเข้ามาเสนอสิ่งดีๆ โดยถามว่าจะไปไหน รถกระป๊อฮีไป Mandalay hill นะจ๊ะ ไปมะๆ? ได้ยินอย่างนั้นเราก็ฉุกคิดแล้วก็เหมือนโดนสะกดจิตให้ขึ้นรถไปทันใด ซึ่งค่ารถนี่คิดเราไป 500k ซึ่งจริงๆเราคิดว่ามัน 200k นะ แต่ก็เอาเถอะพอรับได้...
นั่งๆรถไปจนเกือบถึงทุกคนที่นั่งมาก็ลงกันหมดแล้ว พวกหนุ่มๆสองแถวก็เริ่มมาห้อมล้อม ..ตอนแรกเราก็คิด เฮ้ยยย เอาอีกแร้วววหราาา นี่จะโดน harass กลางวันแสกๆ เลยรึ..ไม่น่าาาา ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเล้ยย.. แต่กลับเป็นว่าได้เพื่อนใหม่ อิอิ หนุ่มๆเค้าแค่ชวนคุยนู่นนี่นั่นอย่างเป็นมิตร (ซึ่งผิดกลับหน้าตาท่าทาง อิอิ - คงมะเคยได้พบเจอเทยหรือไม่ก็ไม่ค่อยได้เจอคนสวยโลกตะลึงอย่างนี้ 555เลยมาทำความรู้จักกันยกใหญ่) แถมยังช่วยแนะนำวัดต่างๆ ระแวกมัณฑะเลย์ฮิลล์อีก ก็เลยคิดว่านี่เราคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ไว้ใจหนุ่มสองแถว เพราะเราสามารถเดินเที่ยวได้หลายที่จากมัณฑะเลย์ฮิลล์เลย... พอสุดสายรถที่เชิงเขามัณฑะเลย์หนุ่มๆก็ชี้ทางขึ้นเขาให้เราดู แต่พอจะเดินไปก็เหลือบไปเห็นวัดนึงคนเยอะดี เลยแวะเข้าสำรวจซะหน่อย ถามคนแถวนั้นได้ความว่า วัดนี้ชื่อ วัดจ๊อกตอว์จี ( Kyauk Taw Gyee )
++ วัดจ๊อกตอว์จีนี้ เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนองค์ที่เคยใหญ่ที่สุดในโลกก่อนที่ พระโลกจันทรอภัยลาภมุนี ในย่างกุ้งจะปาดหน้าตำแหน่งนี้ไป ...พระพุทธรูปหินอ่อนเมืองมัณฑะเลย์นี้ โปรดให้สร้างโดยพระเจ้ามินดงครั้นสถาปนากรุงมัณฑะเลย์เป็นราชธานี โดยแกะจากหินอ่อนก้อนใหญ่ก้อนเดียวจากเขาเมืองสะกาย
ไหว้พระเสร็จก็มาสังเกตรอบๆวัด ในวัดส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่นไม่ค่อยมีชาวต่างชาติ เห็นชาวบ้านเหมือนเพิ่งทำบุญถวายภัตตาหารเสร็จด้วย
ตรงทางออกมีสำนักหมอดูหลายเจ้าหลายแขนงเลย คนก็มาดูดวงเรื่อยๆนะ แอบอยากดูมั่ง 55
เดินออกมาก็เจอทางขึ้นเขามัณฑะเลย์
แต่เราเคยทราบมาว่ามันมีรถกะป๊อขึ้นถึงยอดเขาด้วยก็เลยถามคนแถวนั้นเค้าก็บอกให้เดินเลยถัดจากทางขึ้นที่มีสิงห์คู่ไปหน่อย ก็จะมีแก๊งรถกระป๊ออยู่ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะสาย 15 พอถามคนรถเพื่อความแน่ใจเค้าก็ว่าใช่ แต่ค่ารถคิดเราตั้ง $1 ทั้งๆที่เราเคยทราบมามันควรจะ 200k แต่ก็ช่างเถอะพอรับได้ ระหว่างทางค่อนข้างชันทีเดียว รถก็ขับเฟี้ยวววมากกกก เกาะไม่ดีอาจกระเด้งตกเขาได้ 555
บนยอดเขามัณฑะเลย์นี้เราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองมัณฑะเลย์ได้รอบๆ ถ้ามองดีๆ ก็จะมองเห็นสายน้ำเอยาวดี หรืออิระวดีเป็นริ้วๆอยู่ไกลๆ มองถัดออกไปอีกก็จะเห็นเทือกเขาฟากเมืองสะกาย เป็นภาพวิวทิวทัศน์และปราการธรรมชาติของเมืองมัณฑะเลย์ที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมากจริงๆ
นอกจากวิวที่สวยงามแล้วบนยอดเขานี้ ก็ยังมีพระพุทธรูปให้เราได้สักการะกันด้วย
หลังจากอิ่มเอมกับวิวทิวทัดเมืองมัณฑะเลย์บนยอดเขามัณฑะเลย์ฮิลล์เรียบร้อยแล้วก็เดินลัดเลาะลงมา ระหว่างทางเจอคุณลุงขายไอติมกระติก น่ารักดีเลยขอลองซะหน่อย ไอติมถ้วยจิ๋วนี้ราคา 300k เท่านั้น เป็นไอติมสตรอวเบอร์รี รสชาติออกหวานๆติดเค็มเล็กน้อย55 แต่ก็อร่อยดี
แล้วก็เดินชมนกชมไม้ดูวิถีชีวิตมาเรื่อยๆ
ด้วยความที่ทำงานสายนี้ก็อดไม่ได้ ที่จะขอดูลีลาการโขก การฟาด ของหนุ่มหม่องซะหน่อย 55 ใช้ได้เลยทีเดียว (พอไปขอดูลูกที่เล่น ก็เป็นของบ.ไทยเราจริงๆด้วย ถือเป็นการสำรวจตลาดไปในตัว 55 นายรู้คงดีใจแย่ 555 )
จนมาถึงข้างล่าง
ก็เดินเลาะไปทางซ้ายเราก็จะเจอวัดสันธมุนี (Sanda Muni)
เดินทะลุผ่านวัดสันธมุนีไป
เราก็จะเจอวัดกุโธดอว์ (Kuthodaw) หรือวัดเจ้ากุศล
โดยหน้าวัดจะมีสระน้ำใหญ่อยู่
++ วัดเจ้ากุศลนี้ ดปรดให้สร้างโดยพระเจ้ามินดง คราเดียวกับเมื่อสถาปนากรุงมัณฑะเลย์เป็นราชธานี โดยมีพระราชประสงค์ที่จะสังคายนาพระไตรปิฎกเพื่อเป็นการสืบทอดบวรพระพุทธศาสนา โดยมีการจารึกพระไตรปิฎกทั้ง 84,000 พระธรรมขันต์ลงในแผ่นหินอ่อน 729 แผ่น และประวัติการสังคายนาอีก 1 แผ่น รวมเป็น 730 ... เจดีย์องค์ประธานเป็นแบบพม่าแท้ๆ ที่เลียนแบบมาจากเจดีย์ชเวสิกอง ในเมืองพุกาม (ศ.ดร.ศักดิ์ชัย สายสิงห์, 2557;
http://www.art-in-sea.com)
เดินเข้าไปเห็นชาวบ้านกำลังร่วมกันทำบุญอยู่เลย เราเลยได้ซึมซับพลังศรัทธาตรงนี้ไปด้วย อิอิ
[CR] 6วัน ในวิถี พม่า บุกกรุยลุยเดี่ยว เที่ยวคนเดียวเปรี้ยวจับใจ ในสไตล์.. เนวิเกแต๋ว :Eps2 หวลวิถีราชธานีสุดท้าย - มัณฑะเลย์
Eps1 ปฐมบท : http://pantip.com/topic/31625875 ...ต๊ะต่อนยอน กลางมหานครย่างกุ้ง
Eps3 บทสาม : http://pantip.com/topic/31667844 ... ล้างหน้าพระหน้ามน ยลเสน่ห์สะกาย-อังวะ
Eps4 บทสี่ : http://pantip.com/topic/31691893 ...ดื่มด่ำกับลำนำสายน้ำอิระวดี
---------o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o-o----------
สรุปการเดินทางวันนี้ ที่ มัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
เช็คอินเข้า รร ET Hotel $25/คืน
ขึ้นกระป๊อไปลงหน้า มัณฑะเลย์ ฮิลล์ 500k - แวะวัดจ๊อกตอว์จี - ขึ้นกระป๊อขึ้นมันฑะเลย์ ฮิลล์ $1 + ค่าไอติมระหว่างทางลง 300k - เดินมาวัดสันธมุนีและวัดเจ้ากุศล + ซื้อดอกไม้ไหว้พระ 500k - เดินไปชเวนานดอว์ เสียค่าเข้าเขตโบราณสถานมัณฑะเลย์ 10000k และเดินเข้าชม วัดอตุมาชิ - นั่งรถเข้าเมือง 700k + กินน้ำส้มโอ 500k + กินข้าว 1000k + นั่งรถ Dyna ไปสะพานอุเบง 200k + แวะซื้อลองจี แต่งบอย 3500k - แวะกราบพระบรมอัฐิฯ - ดูพระอาทิตย์ตกที่สะพาน และจิบ mandalay beer 1500k + ก่อนกลับซื้อพวงกุญแจเม็ดกระถิน 500k + นั่งมอไซค์มาปากซอย $1 + นั่งไดน่ากลับ 500k + แวะกินพะโล้เสียบไม้ 800k + ตบท้ายชิลก่อนนอน 2800k+200k(tip)
สิริรวมวันนี้ใช้ไป 22500k + $27 ~ 1730 บาท
----*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*----
หลังจากตลอนร่อนทั่ว ย่างกุ้ง วานนี้จนเหน็ดเหนื่อยและนอนบนรถ Shwe Mandalar มาอย่างเต็มอิ่ม รถก็พาเรามาถึง มัณฑะเลย์ แต่เช้าตรู่ราว 6:00 ได้
โดยรถมาส่งเราถึงหน้าสถานีรถไฟเมือง Mandalay เลย(ซึ่งหากใครจะลงจุดไหนที่รถผ่านใน มัณฑเลย์ ก็สามารถบอกเค้าได้) พอลงรถก็มีหนุ่มมอไซค์และแท็กซี่มากมายมาเสนอบริการ แต่เราขอฝ่าวงล้อมนั้นไปนั่งตั้งสติที่ในสถานีรถไฟเพื่อหาพิกัดจุดตัวเองจากแผนที่เยินๆอันเดียวกับแผนที่ย่างกุ้งที่ได้จากสนามบินวานนี้ อีกอย่างก็ยังไม่ได้จอง รร มา เลยไม่รู้จะบอกว่าให้ไปส่งที่ไหน 55 โชคร้ายที่ก่อนมายุ่งกับการเคลียร์งานมาก จนลืมจดที่อยู่ รร ที่ดูๆไว้มาเลย แต่ก็โชคดีที่เคยดูมาคร่าวๆว่า รร ยอดฮิตส่วนใหญ่อยู่ใกล้ๆหัวมุมราชวังมัณฑะเลย์ฟากหอนาฬิกา เลยเดินมาเรื่อยๆกะว่าถ้าเจอ ไซการ์ (สามล้อ) ก็จะเรียก เพราะอยากนั่งสูดอากาศยามเช้าแบบเอื่อยๆ แต่ตอนนั้นไม่ค่อยมีเลย แถมที่มีขี่ผ่านมาก็เป็นคุณลุงที่พูดอังกฤษไม่ได้เสียนี่ แต่ก็ไม่เป็นไรการเดินไม่ใช่ปัญหาสำหรับดิชั้นอยู่แล้ว..
เดินไปถามทางไปได้ความว่า รร Nylon นั้นอยู่แถวถนน 25st. ซึ่งก็ไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ระหว่างทางก็พบกับคู่รักเกาหลีที่เคยเจอตอนนั่งรถรับส่ง ย่างกุ้ง-บขส มาด้วยกันเมื่อคืนนี้เลยถือวิสาสะถามว่า ขอโทษนะคะ เธอสองคนกำลังจะไปพักกันที่ไหนรึ? เพราะชั้นมิได้จองมาเลย ได้ความว่าพวกนางก็มิได้จองแต่กำลังจะไปถาม ET hotel เราเลยถือโอกาสนี้ขอตามไปด้วย (เพราะดูมา อีที ก็เป็นอีกหนึ่งใน hit lists เหมือนกัน) พอไปถึงก็ถามหาห้องว่าง และราคา พอรู้ว่ามีห้อง single with private bathroom บวกกับราคาที่โอเค คือ $25 ก็เลยตกลงเลย เพราะขี้เกียจเดินหาแล้วเสียเวลาเที่ยวเราด้วย ถึงที่อื่นถูกกว่าก็คงราคาไม่หนีกันมาก พอ check-in ได้ก็เข้าห้องทันทีเพื่ออาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนอาภรณ์เสียใหม่
บรรยากาศภายในห้องพักค่ะ สะอาดประมาณนึง สภาพห้องเหมือนเพิ่งปรับปรุงใหม่ ก็ใหม่ใช้ได้ โดยรวมถือว่าโอเค พร้อมอาหารเช้า (แบบ continental) และบริการก็เป็นมิตร ซึ่งเราว่าการตกแต่งก็ classic ให้อารมณ์สไตล์พม่าบ้านๆ ดีอ่ะ
อันนี้ข้อมูลรายละเอียดและราคา รร ที่เราลองไปสอบถามมาฝากนะคะ
พอเสร็จสรรพก็ย่างกายออกมาเดินสวยสะกดวิญญาณ แบบยังไม่แน่ใจที่หมายดี ยอมรับตามตรงเลยว่าทริปนี้แทบไม่ได้แพลนมาเลย ...random สุดๆ!! เดินไปไม่ไกลก็เจอร้านผ้าซิ่น (longyi) มันช่างยวนใจเสียนี่กะไรเลยแวะซักหน่อย ดูไว้ก่อนกะไปดูที่ตลาดก่อนแล้วค่อยเทียบกัน ดูเสร็จก็เดินต่อ กะว่าจะไปตลาดแล้วหารถไปสะกาย แต่พอเดินผ่านแถวถนน 25st+83rd. ก็มีพ่อหนุ่มสองแถวนายหนึ่งเข้ามาเสนอสิ่งดีๆ โดยถามว่าจะไปไหน รถกระป๊อฮีไป Mandalay hill นะจ๊ะ ไปมะๆ? ได้ยินอย่างนั้นเราก็ฉุกคิดแล้วก็เหมือนโดนสะกดจิตให้ขึ้นรถไปทันใด ซึ่งค่ารถนี่คิดเราไป 500k ซึ่งจริงๆเราคิดว่ามัน 200k นะ แต่ก็เอาเถอะพอรับได้...
นั่งๆรถไปจนเกือบถึงทุกคนที่นั่งมาก็ลงกันหมดแล้ว พวกหนุ่มๆสองแถวก็เริ่มมาห้อมล้อม ..ตอนแรกเราก็คิด เฮ้ยยย เอาอีกแร้วววหราาา นี่จะโดน harass กลางวันแสกๆ เลยรึ..ไม่น่าาาา ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเล้ยย.. แต่กลับเป็นว่าได้เพื่อนใหม่ อิอิ หนุ่มๆเค้าแค่ชวนคุยนู่นนี่นั่นอย่างเป็นมิตร (ซึ่งผิดกลับหน้าตาท่าทาง อิอิ - คงมะเคยได้พบเจอเทยหรือไม่ก็ไม่ค่อยได้เจอคนสวยโลกตะลึงอย่างนี้ 555เลยมาทำความรู้จักกันยกใหญ่) แถมยังช่วยแนะนำวัดต่างๆ ระแวกมัณฑะเลย์ฮิลล์อีก ก็เลยคิดว่านี่เราคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ไว้ใจหนุ่มสองแถว เพราะเราสามารถเดินเที่ยวได้หลายที่จากมัณฑะเลย์ฮิลล์เลย... พอสุดสายรถที่เชิงเขามัณฑะเลย์หนุ่มๆก็ชี้ทางขึ้นเขาให้เราดู แต่พอจะเดินไปก็เหลือบไปเห็นวัดนึงคนเยอะดี เลยแวะเข้าสำรวจซะหน่อย ถามคนแถวนั้นได้ความว่า วัดนี้ชื่อ วัดจ๊อกตอว์จี ( Kyauk Taw Gyee )
++ วัดจ๊อกตอว์จีนี้ เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนองค์ที่เคยใหญ่ที่สุดในโลกก่อนที่ พระโลกจันทรอภัยลาภมุนี ในย่างกุ้งจะปาดหน้าตำแหน่งนี้ไป ...พระพุทธรูปหินอ่อนเมืองมัณฑะเลย์นี้ โปรดให้สร้างโดยพระเจ้ามินดงครั้นสถาปนากรุงมัณฑะเลย์เป็นราชธานี โดยแกะจากหินอ่อนก้อนใหญ่ก้อนเดียวจากเขาเมืองสะกาย
ไหว้พระเสร็จก็มาสังเกตรอบๆวัด ในวัดส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่นไม่ค่อยมีชาวต่างชาติ เห็นชาวบ้านเหมือนเพิ่งทำบุญถวายภัตตาหารเสร็จด้วย
ตรงทางออกมีสำนักหมอดูหลายเจ้าหลายแขนงเลย คนก็มาดูดวงเรื่อยๆนะ แอบอยากดูมั่ง 55
เดินออกมาก็เจอทางขึ้นเขามัณฑะเลย์
แต่เราเคยทราบมาว่ามันมีรถกะป๊อขึ้นถึงยอดเขาด้วยก็เลยถามคนแถวนั้นเค้าก็บอกให้เดินเลยถัดจากทางขึ้นที่มีสิงห์คู่ไปหน่อย ก็จะมีแก๊งรถกระป๊ออยู่ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะสาย 15 พอถามคนรถเพื่อความแน่ใจเค้าก็ว่าใช่ แต่ค่ารถคิดเราตั้ง $1 ทั้งๆที่เราเคยทราบมามันควรจะ 200k แต่ก็ช่างเถอะพอรับได้ ระหว่างทางค่อนข้างชันทีเดียว รถก็ขับเฟี้ยวววมากกกก เกาะไม่ดีอาจกระเด้งตกเขาได้ 555
บนยอดเขามัณฑะเลย์นี้เราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองมัณฑะเลย์ได้รอบๆ ถ้ามองดีๆ ก็จะมองเห็นสายน้ำเอยาวดี หรืออิระวดีเป็นริ้วๆอยู่ไกลๆ มองถัดออกไปอีกก็จะเห็นเทือกเขาฟากเมืองสะกาย เป็นภาพวิวทิวทัศน์และปราการธรรมชาติของเมืองมัณฑะเลย์ที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมากจริงๆ
นอกจากวิวที่สวยงามแล้วบนยอดเขานี้ ก็ยังมีพระพุทธรูปให้เราได้สักการะกันด้วย
หลังจากอิ่มเอมกับวิวทิวทัดเมืองมัณฑะเลย์บนยอดเขามัณฑะเลย์ฮิลล์เรียบร้อยแล้วก็เดินลัดเลาะลงมา ระหว่างทางเจอคุณลุงขายไอติมกระติก น่ารักดีเลยขอลองซะหน่อย ไอติมถ้วยจิ๋วนี้ราคา 300k เท่านั้น เป็นไอติมสตรอวเบอร์รี รสชาติออกหวานๆติดเค็มเล็กน้อย55 แต่ก็อร่อยดี
แล้วก็เดินชมนกชมไม้ดูวิถีชีวิตมาเรื่อยๆ
ด้วยความที่ทำงานสายนี้ก็อดไม่ได้ ที่จะขอดูลีลาการโขก การฟาด ของหนุ่มหม่องซะหน่อย 55 ใช้ได้เลยทีเดียว (พอไปขอดูลูกที่เล่น ก็เป็นของบ.ไทยเราจริงๆด้วย ถือเป็นการสำรวจตลาดไปในตัว 55 นายรู้คงดีใจแย่ 555 )
จนมาถึงข้างล่าง
ก็เดินเลาะไปทางซ้ายเราก็จะเจอวัดสันธมุนี (Sanda Muni)
เดินทะลุผ่านวัดสันธมุนีไป
เราก็จะเจอวัดกุโธดอว์ (Kuthodaw) หรือวัดเจ้ากุศล
โดยหน้าวัดจะมีสระน้ำใหญ่อยู่
++ วัดเจ้ากุศลนี้ ดปรดให้สร้างโดยพระเจ้ามินดง คราเดียวกับเมื่อสถาปนากรุงมัณฑะเลย์เป็นราชธานี โดยมีพระราชประสงค์ที่จะสังคายนาพระไตรปิฎกเพื่อเป็นการสืบทอดบวรพระพุทธศาสนา โดยมีการจารึกพระไตรปิฎกทั้ง 84,000 พระธรรมขันต์ลงในแผ่นหินอ่อน 729 แผ่น และประวัติการสังคายนาอีก 1 แผ่น รวมเป็น 730 ... เจดีย์องค์ประธานเป็นแบบพม่าแท้ๆ ที่เลียนแบบมาจากเจดีย์ชเวสิกอง ในเมืองพุกาม (ศ.ดร.ศักดิ์ชัย สายสิงห์, 2557; http://www.art-in-sea.com)
เดินเข้าไปเห็นชาวบ้านกำลังร่วมกันทำบุญอยู่เลย เราเลยได้ซึมซับพลังศรัทธาตรงนี้ไปด้วย อิอิ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น