ตอนนี้ผลประกอบการ ais dtac ก็ออกมาแล้ว แต่คนส่วนใหญ่กำลังเริ่มคิดคือ ทำไมผลประกอบการได้เท่านี้
(ผมเคยแนะนำในสินธรตั้งแต่ต้นปี56ว่า Q3, Q4 ระวัง 3Gยังไม่ทำให้กำไรดูดี แต่ถูกจัดหนักมาจากเพื่อนสินธรด้วยกัน)
AIS
- ในปีหน้าผลประกอบการจะดีขึ้นจากการลดค่าสัมปทาน แต่ถ้ามีการประมูล 4G 1800MHz(คลื่นนี้ถูกขั้นด้วยของ DTACอาจเป็นอุปสรรค์ในการประมูล) ต้องระวัง
- ปีนี้กำไรจะเพิ่มขึ้น, การลงทุนจะเร่งตัวและมาพร้อมหนี้สินอีก 4-5 หมื่นล้าน(ถ้าประมูล 4G)
- 4G จะไม่ทำให้กำไรเพิ่มขึ้นเพราะค่าใช้จ่ายสัมปทานจะไม่ต่างจาก 3G 2100Mhz ทำให้เกิดค่าใช้จ่าย 3 ขา 2g,3g,4g
- การหมดสัญญา 900 ในปี58 จะทำให้ต้องกลับไปประมูลใหม่จะมีค่าใช้จ่าย รวมถึงสัญญาแบบ BOT ทำให้โครงข่ายกว่า 1 หมื่นต้นต้องโอนให้ TOT ซึ่งอาจจะต้องเป็นประเด็นทางด้านกฏหมาย
ปีนี้จะเป็นโอกาสออกของสำหรับคนติดไม่เกิน 250 แต่ใครสูงกว่านี้เห็นทีลำบาก และพวก 300 นี่อาจจะรอกันเป็นชาติ
DTAC
-ได้รับประโยชน์จากการลดสัมปทานมากที่สุด แต่จะปลดล็อกคลื่นปัจจุบันคือปี 2561 ทำให้มีการตัดจำหน่ายสูงต่อเนื่อง
-มีกระแสเงินสดอิสระเป็นรอง ais อย่างมากทำให้การลงทุนดูด้อยกว่า ais เป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าจะให้เท่ากัน dtacต้องงดจ่ายเงินปันผล
-จะมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นจากการลงทุนและเข้าประมูลคลื่นความถี่ที่จะตามมา (รวมถึงสัญญาBOT แต่อีกนาน)
-DTACคงไม่ปล่อยให้มีการประมูลคลื่น 1800 ที่ทางdtac ถือครองกลับไปประมูล เพราะทางdtacยังไม่พร้อมในการลงทุน
-อื่นๆ
TRUE
- คงได้แต่หวังว่า
ส่วน JAS หลักๆคือจะถูกเบี้ยดด้วยคู่แข่งที่ต้องเข้าตลาดเพื่อเป็นธุรกิจครอบวงจรได้แก่ AIS, TRUE, TOT&CAT(เสือหิว) รวมถึงต้องลงทุนใน fiber optic ซึ่งมีค่าลงทุนที่ต่ำกว่าสายทองแดง แต่ต้องลงทุนใหม่เกือบทั้งหมดและจะมาพร้อมกับคู่แข่งหลายรายพร้อกัน
งานนี้ผู้ที่ทุนหนาอย่าง AIS จะได้เปรีบที่สุดครับ
กลุ่ม ICT
(ผมเคยแนะนำในสินธรตั้งแต่ต้นปี56ว่า Q3, Q4 ระวัง 3Gยังไม่ทำให้กำไรดูดี แต่ถูกจัดหนักมาจากเพื่อนสินธรด้วยกัน)
AIS
- ในปีหน้าผลประกอบการจะดีขึ้นจากการลดค่าสัมปทาน แต่ถ้ามีการประมูล 4G 1800MHz(คลื่นนี้ถูกขั้นด้วยของ DTACอาจเป็นอุปสรรค์ในการประมูล) ต้องระวัง
- ปีนี้กำไรจะเพิ่มขึ้น, การลงทุนจะเร่งตัวและมาพร้อมหนี้สินอีก 4-5 หมื่นล้าน(ถ้าประมูล 4G)
- 4G จะไม่ทำให้กำไรเพิ่มขึ้นเพราะค่าใช้จ่ายสัมปทานจะไม่ต่างจาก 3G 2100Mhz ทำให้เกิดค่าใช้จ่าย 3 ขา 2g,3g,4g
- การหมดสัญญา 900 ในปี58 จะทำให้ต้องกลับไปประมูลใหม่จะมีค่าใช้จ่าย รวมถึงสัญญาแบบ BOT ทำให้โครงข่ายกว่า 1 หมื่นต้นต้องโอนให้ TOT ซึ่งอาจจะต้องเป็นประเด็นทางด้านกฏหมาย
ปีนี้จะเป็นโอกาสออกของสำหรับคนติดไม่เกิน 250 แต่ใครสูงกว่านี้เห็นทีลำบาก และพวก 300 นี่อาจจะรอกันเป็นชาติ
DTAC
-ได้รับประโยชน์จากการลดสัมปทานมากที่สุด แต่จะปลดล็อกคลื่นปัจจุบันคือปี 2561 ทำให้มีการตัดจำหน่ายสูงต่อเนื่อง
-มีกระแสเงินสดอิสระเป็นรอง ais อย่างมากทำให้การลงทุนดูด้อยกว่า ais เป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าจะให้เท่ากัน dtacต้องงดจ่ายเงินปันผล
-จะมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นจากการลงทุนและเข้าประมูลคลื่นความถี่ที่จะตามมา (รวมถึงสัญญาBOT แต่อีกนาน)
-DTACคงไม่ปล่อยให้มีการประมูลคลื่น 1800 ที่ทางdtac ถือครองกลับไปประมูล เพราะทางdtacยังไม่พร้อมในการลงทุน
-อื่นๆ
TRUE
- คงได้แต่หวังว่า
ส่วน JAS หลักๆคือจะถูกเบี้ยดด้วยคู่แข่งที่ต้องเข้าตลาดเพื่อเป็นธุรกิจครอบวงจรได้แก่ AIS, TRUE, TOT&CAT(เสือหิว) รวมถึงต้องลงทุนใน fiber optic ซึ่งมีค่าลงทุนที่ต่ำกว่าสายทองแดง แต่ต้องลงทุนใหม่เกือบทั้งหมดและจะมาพร้อมกับคู่แข่งหลายรายพร้อกัน
งานนี้ผู้ที่ทุนหนาอย่าง AIS จะได้เปรีบที่สุดครับ