ตะวันคล้อยล่วงเลยจนเกือบพลบค่ำ ร่างเล็กของอิงธารายังคงงุ่นง่านทั้งดึงทั้งผลักวัวแม่ลูกอ่อนจากท้ายไร่จนใกล้ถึงตัวบ้าน ส่วนวัวฝูงใหญ่เธอได้ต้อนพวกมันเข้าคอกที่ปลูกอยู่ห่างจากตัวบ้านออกไป ก่อนที่จะเดินกลับไปช่วยนังนวลที่ยังคงร้องเรียกลูกน้อยให้เดินตามอยู่เป็นระยะ
เจ้าน้ำตาลน้อยที่ตอนนี้กลับดูแคล่วคล่องสนใจกับสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น บางครั้งมันวิ่งไล่กวดเจ้าด๊อกที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยต้อนฝูงวัวให้กับหญิงสาว แต่พอเจอเสียงเห่ากับท่าทีเอาจริงกลับทำให้เจ้าตัวเล็กวิ่งห้อกลับไปหาแม่นวลอีกครั้งเพื่อให้ตัวมันเองรู้สึกปลอดภัย
ทุกคนที่บ้านต่างออกไปทำธุระของตนและกว่าจะกลับถึงบ้านคงราวๆ สองทุ่ม วันนี้อิงธาราเลยต้องทำหน้าที่ทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่สมาชิกคนอื่นๆ จะกลับ
“พี่อิง! ว่าแล้วเชียวหาทั่วบ้านแล้วไม่เจอ ได้ยินเสียงไอ้ด๊อกมันเห่าเลยตามขึ้นมา” เสียงใสเจื้อยแจ้วของสาวรุ่นน้องร้องทักเมื่อเห็นอิงธารากึ่งลากกึ่งจูงวัวแม่ลูกอ่อนมาตามทางเดิน
“อ้าว...อร มาเมื่อไหร่ พอดีวัวพี่มันคลอดลูก อรมาก็ดีแล้วช่วยดึงเชือกนี่หน่อย เดี๋ยวพี่จะจัดการกับเจ้าตัวเล็กนี่”
“มันดุหรือเปล่าพี่อิง” สาวรุ่นน้องยังกล้าๆ กลัวๆ
“ไม่หรอก...เจ้านวลมันนิสัยดี พี่รับประกันได้” อิงธารายิ้มร่าพลอยให้อีกคนหายกังวลยอมจับเชือกจูงที่เจ้าของยิ้มนั้นส่งให้
“ไม่เห็นมีใครอยู่ที่บ้านของพี่อิงเลย ทุกคนไปไหนหมดเหรอจ๊ะ”
“พ่อกับแม่ไปอำเภอ สงสัยจะกลับมาพร้อมกับรถสองแถวเที่ยวสุดท้ายนู่นแหละ ส่วนเฮียเอกกับเฮียอั๋นไปรับจ้างไถนากลบตอซังข้าวให้ลุงกำนัน อรมีธุระอะไรหรือเปล่า อย่าบอกนะว่าคิดถึงพี่” พูดจบก็ส่งยิ้มให้รุ่นน้องอีกรอบทำเอาอรชญา หน้าแดงแล้วแดงอีก เพราะอิงธาราน่ารักแบบนี้อย่างไรเล่าเธอถึงได้ชื่นชมนักหนา ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ารุ่นพี่เพียงแค่พูดหยอกล้อเพราะเป็นคนอารมณ์ขัน แต่เธอกลับชอบและชอบมากจนอยากคิดไปไกลเกินคำว่าพี่กับน้อง
“ก็อรคิดถึงพี่อิงจริงๆ นี่นา อยู่บ้านฟังพี่วิไลบ่นจนหูชาเลยแอบออกมาสูดอากาศนอกบ้าน” เธอให้เหตุผลที่ดูน่าฟังมากที่สุด
“ก็พี่วิไลเขารักอรนี่ ดีเสียอีกที่อรมีพี่สาว พี่ยังอยากเป็นน้องพี่วิไลเลย อีกอย่างบ้านเราก็ห่างกันแค่นี้เอง วันไหนว่างๆ พี่จะไปทักทายพี่วิไลเหมือนกัน ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว”
“อ้าว! นึกว่าจะไปหาอรเสียอีก” อรชญาหน้ามุ่ย ออกอาการกระเง้ากระงอดน้อยอกน้อยใจที่อิงธาราไม่ให้ความสำคัญกับตน ทั้งที่อุตส่าห์เดินเท้ามาหาเธอถึงที่บ้าน
“อยู่ที่โรงเรียนเราก็เจอกันทุกวันอยู่แล้วนี่อร” อรชญาอายุห่างกับเธอเพียงแค่ปีเศษๆ แม้จะเรียนอยู่กันคนละชั้น รุ่นพี่ ม.หก อย่างเธอก็ให้ความสนิทสนิทสนมกับอรชญาจนเหมือนเพื่อนสนิทอีกคน
“ไม่รู้ล่ะ ก็อรจะมาหาพี่อิงที่นี่ ถ้าพี่อิงไม่อยากให้อรมาก็บอก อรจะไม่มาให้พี่อิงเห็นหน้าอีกเลย” น้ำเสียงดูน้อยอกน้อยใจยิ่งนัก
“โธ่...อร อย่าคิดมากสิ” นี่เธอทำอะไรผิดหรือเปล่า น้องสาวคนนี้จึงได้มีทีท่าโกรธเคืองยิ่งนัก แต่ไหนแต่ไรมาอรชญาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เพียงแค่เธอพูดถึง อรวิไล ที่เป็นพี่สาวแท้ๆ อรชญากลับหน้าตึง เหมือนไม่พอใจที่เธอคิดถึงอรวิไลเพราะไม่ได้เจอกันเกือบปีเศษ หรือว่าน้องสาวคนนี้จะคิดกับเธอไปอีกอย่าง แค่ล้อกันเล่นๆ น้องอรคงไม่คิดจริงจังหรอกกระมัง ถ้าอรชญาจะคิดว่าเธอชอบผู้หญิงด้วยกันล่ะก็...คงต้องคุยกันอีกยาว
“ถึงแล้วล่ะน้องอร” อิงธารารับเชือกจูงแม่วัวจากมืออรชญา ออกแรงดึงนังนวลเข้าไปใต้ถุนบ้านที่ยกพื้นสูงเหนือศีรษะแล้วจัดแจงผูกแม่วัวไว้กับเสาบ้าน
“ทำไมพี่อิงไม่เอามันไปไว้ในคอกกับวัวตัวอื่นล่ะ” อรชญาอดสงสัยไม่ได้ที่เห็นอิงธาราแยกวัวแม่ลูกมาไว้ใต้ถุนบ้านแบบนี้
“เจ้าน้ำตาลยังไม่แข็งแรง เดี๋ยวจะถูกตัวอื่นเหยียบเข้า เอาไว้ตรงนี้แหละเผื่อมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอจะได้มองเห็น” เธออธิบายให้รุ่นน้องเข้าใจก่อนจะเดินไปขนฟืนมาเต็มหอบแล้วจุดไฟไล่แมลงรบกวน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความอบอุ่นให้กับวัวแม่ลูกในยามที่อากาศหนาวเหน็บ และกองไฟอีกสองกองยังถูกจุดขึ้นด้านข้างของคอกวัวเพื่อให้ทั้งฝูงได้คลายหนาวเช่นกัน อรชญาเมียงมองรุ่นพี่ด้วยแววตาชื่นชม อิงธาราทำทุกอย่างด้วยความแคล่วคล่องว่องไวไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอก ทั้งยังเป็นคนสนุกสนาน ชอบเอาใจ จากความชื่นชมกลับกลายเป็นความชื่นชอบ แม้รู้ดีว่ารุ่นพี่ไม่ได้มีใจโอนเอียงมาถึงเธอเลยก็ตาม
“อรคงเหงาถ้าพี่อิงไปเรียนต่อ” จู่ๆ น้องสาวก็พูดขึ้นมาทำให้อิงธาราได้แต่อมยิ้ม
“ไม่หรอกอร เพื่อนอรก็ตั้งเยอะ พี่เองก็ไปๆ มาๆ ไม่ได้อยู่ที่มหาวิทยาลัยตลอดสี่ปีเสียหน่อย เอาไว้ถ้าพี่จะกลับบ้านเมื่อไหร่ พี่จะบอกอรเป็นคนแรกเลยนะ” หญิงสาวพูดคล้ายกับเอาใจรุ่นน้อง
“จริงนะพี่อิง” อรชญาดีใจแทบเนื้อเต้นเมื่อรู้ว่าอิงธารายังให้ความสำคัญกับเธอจนเผลอจับมือนุ่มๆ ของรุ่นพี่เอาไว้ “พี่อิงใจดีที่สุดเลย ถ้าถึงเวลาที่อรสอบเข้ามหาวิทยาลัย อรจะเลือกเรียนที่เดียวกับพี่อิง เอกเดียวกันด้วย จะได้อยู่ใกล้ๆ พี่อิงไง”
อิงธารายิ้มน้อยๆ มือโคลงศีรษะรุ่นน้องอย่างนึกเอ็นดู “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ถ้าน้องอรชอบเรียนอะไรก็เรียนสาขาที่ตัวเองชอบ ไม่ต้องตามพี่หรอก ที่พี่เลือกเรียนเกษตรก็เพราะว่าพี่ชอบ อย่างน้อยก็จะได้นำความรู้มาพัฒนาบ้านเราไงจ๊ะ” เพราะอย่างไรเสียเธอก็ไม่คิดจะจากครอบครัวไปไหน
“จ้ะพี่อิง อรจะเชื่อพี่อิง” อรชญารับคำหนักแน่นเผลอดึงมือของอิงธารามากอบกุมราวกับขอกำลังใจ
“ยัยอร! มาอยู่นี่เอง พี่ตามหาซะทั่ว” สองสาวหันขวับตามเสียงเรียก หน้ารั้วบ้านปรากฏร่างของสาวสวยรีบยกสะโพกลงจากอานจักรยานเมื่อมันพามาถึงที่หมาย
“อ้าว...พี่วิไล หวัดดีจ้ะ พี่วิไลเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” อิงธาราไม่ลืมยกมือไหว้พี่สาวคนสวย ซึ่งผู้มาใหม่ก็รับไหว้อย่างยิ้มแย้มเช่นกัน
“จ้าอิง พอดียุ่งแต่ทำเรื่องย้ายโรงเรียนเลยไม่ได้แวะมาหาอิง พี่สบายดีตอนนี้ก็มาเป็นครูสอนอนุบาลที่โรงเรียนในตำบลเรานี่แหละ ได้ยินว่าอิงสอบติดไม่ใช่เหรอ เก่งเหมือนกันนี่เรา” อรวิไลพี่สาวคนเดียวของอรชญากล่าวชมรุ่นน้องไม่ขาดปาก
“ถ้าไม่มีเฮียเอกกับเฮียอั๋นล่ะก็...อิงคงไม่มีโอกาสได้เรียนหรอกพี่วิไล” เพราะพี่ชายทั้งสองต้องทำงานหนักเป็นสองเท่าเพื่อเก็บเงินเป็นค่าเล่าเรียนให้กับเธอ หากไม่มีเอกวีย์กับอนุชาแล้วล่ะก็ ลำพังแค่เรียนเก่ง เรียนดี ก็ไม่อาจทำให้เธอเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้
“พี่ชายของอิงคงรักอิงมากถึงอยากให้น้องได้เรียนสูงๆ”
“จ้ะ เฮียเอกกับเฮียอั๋นรักอิงมาก แล้วอิงก็รักพวกเขามากเหมือนกัน” พี่ชายทั้งสองคือทุกสิ่งทุกอย่างรองจากบิดามารดาแล้วคงไม่มีใครที่เธอจะรักเธอเทียบเท่ากับเอกวีย์และอนุชาไปได้
“นั่นสินะ ถ้าสองคนนั้นรู้ว่าอิงรัก พี่ชายของอิงคงจะดีใจมาก พี่ล่ะอยากมีน้องสาวน่ารักๆ แบบอิงบ้างจัง”
“พี่...” อรชญาครางเสียงอ่อย รู้ว่าพี่สาวกำลังพูดประชดที่เธอไม่ยอมฟังคำทัดทาน อรวิไลชอบสั่งให้เธอทำนั่นทำนี่ แล้วยังสั่งห้ามไม่ให้มาหาอิงธาราที่บ้าน เธอผิดด้วยหรือที่ชอบอิงธารา ทำไมพี่สาวถึงไม่ยอมฟังเธอบ้าง
“ยัยอรมากวนอะไรอิงหรือเปล่าจ๊ะ” เธอถามรุ่นน้องพลางปรายตามองอรชญาเป็นเชิงตำหนิ
นิยายโรแมนติก คอมเมดี้ "อิงธารา" ตอนที่ 4 น้องสาว เพื่อนสาว
เจ้าน้ำตาลน้อยที่ตอนนี้กลับดูแคล่วคล่องสนใจกับสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น บางครั้งมันวิ่งไล่กวดเจ้าด๊อกที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยต้อนฝูงวัวให้กับหญิงสาว แต่พอเจอเสียงเห่ากับท่าทีเอาจริงกลับทำให้เจ้าตัวเล็กวิ่งห้อกลับไปหาแม่นวลอีกครั้งเพื่อให้ตัวมันเองรู้สึกปลอดภัย
ทุกคนที่บ้านต่างออกไปทำธุระของตนและกว่าจะกลับถึงบ้านคงราวๆ สองทุ่ม วันนี้อิงธาราเลยต้องทำหน้าที่ทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่สมาชิกคนอื่นๆ จะกลับ
“พี่อิง! ว่าแล้วเชียวหาทั่วบ้านแล้วไม่เจอ ได้ยินเสียงไอ้ด๊อกมันเห่าเลยตามขึ้นมา” เสียงใสเจื้อยแจ้วของสาวรุ่นน้องร้องทักเมื่อเห็นอิงธารากึ่งลากกึ่งจูงวัวแม่ลูกอ่อนมาตามทางเดิน
“อ้าว...อร มาเมื่อไหร่ พอดีวัวพี่มันคลอดลูก อรมาก็ดีแล้วช่วยดึงเชือกนี่หน่อย เดี๋ยวพี่จะจัดการกับเจ้าตัวเล็กนี่”
“มันดุหรือเปล่าพี่อิง” สาวรุ่นน้องยังกล้าๆ กลัวๆ
“ไม่หรอก...เจ้านวลมันนิสัยดี พี่รับประกันได้” อิงธารายิ้มร่าพลอยให้อีกคนหายกังวลยอมจับเชือกจูงที่เจ้าของยิ้มนั้นส่งให้
“ไม่เห็นมีใครอยู่ที่บ้านของพี่อิงเลย ทุกคนไปไหนหมดเหรอจ๊ะ”
“พ่อกับแม่ไปอำเภอ สงสัยจะกลับมาพร้อมกับรถสองแถวเที่ยวสุดท้ายนู่นแหละ ส่วนเฮียเอกกับเฮียอั๋นไปรับจ้างไถนากลบตอซังข้าวให้ลุงกำนัน อรมีธุระอะไรหรือเปล่า อย่าบอกนะว่าคิดถึงพี่” พูดจบก็ส่งยิ้มให้รุ่นน้องอีกรอบทำเอาอรชญา หน้าแดงแล้วแดงอีก เพราะอิงธาราน่ารักแบบนี้อย่างไรเล่าเธอถึงได้ชื่นชมนักหนา ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ารุ่นพี่เพียงแค่พูดหยอกล้อเพราะเป็นคนอารมณ์ขัน แต่เธอกลับชอบและชอบมากจนอยากคิดไปไกลเกินคำว่าพี่กับน้อง
“ก็อรคิดถึงพี่อิงจริงๆ นี่นา อยู่บ้านฟังพี่วิไลบ่นจนหูชาเลยแอบออกมาสูดอากาศนอกบ้าน” เธอให้เหตุผลที่ดูน่าฟังมากที่สุด
“ก็พี่วิไลเขารักอรนี่ ดีเสียอีกที่อรมีพี่สาว พี่ยังอยากเป็นน้องพี่วิไลเลย อีกอย่างบ้านเราก็ห่างกันแค่นี้เอง วันไหนว่างๆ พี่จะไปทักทายพี่วิไลเหมือนกัน ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว”
“อ้าว! นึกว่าจะไปหาอรเสียอีก” อรชญาหน้ามุ่ย ออกอาการกระเง้ากระงอดน้อยอกน้อยใจที่อิงธาราไม่ให้ความสำคัญกับตน ทั้งที่อุตส่าห์เดินเท้ามาหาเธอถึงที่บ้าน
“อยู่ที่โรงเรียนเราก็เจอกันทุกวันอยู่แล้วนี่อร” อรชญาอายุห่างกับเธอเพียงแค่ปีเศษๆ แม้จะเรียนอยู่กันคนละชั้น รุ่นพี่ ม.หก อย่างเธอก็ให้ความสนิทสนิทสนมกับอรชญาจนเหมือนเพื่อนสนิทอีกคน
“ไม่รู้ล่ะ ก็อรจะมาหาพี่อิงที่นี่ ถ้าพี่อิงไม่อยากให้อรมาก็บอก อรจะไม่มาให้พี่อิงเห็นหน้าอีกเลย” น้ำเสียงดูน้อยอกน้อยใจยิ่งนัก
“โธ่...อร อย่าคิดมากสิ” นี่เธอทำอะไรผิดหรือเปล่า น้องสาวคนนี้จึงได้มีทีท่าโกรธเคืองยิ่งนัก แต่ไหนแต่ไรมาอรชญาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เพียงแค่เธอพูดถึง อรวิไล ที่เป็นพี่สาวแท้ๆ อรชญากลับหน้าตึง เหมือนไม่พอใจที่เธอคิดถึงอรวิไลเพราะไม่ได้เจอกันเกือบปีเศษ หรือว่าน้องสาวคนนี้จะคิดกับเธอไปอีกอย่าง แค่ล้อกันเล่นๆ น้องอรคงไม่คิดจริงจังหรอกกระมัง ถ้าอรชญาจะคิดว่าเธอชอบผู้หญิงด้วยกันล่ะก็...คงต้องคุยกันอีกยาว
“ถึงแล้วล่ะน้องอร” อิงธารารับเชือกจูงแม่วัวจากมืออรชญา ออกแรงดึงนังนวลเข้าไปใต้ถุนบ้านที่ยกพื้นสูงเหนือศีรษะแล้วจัดแจงผูกแม่วัวไว้กับเสาบ้าน
“ทำไมพี่อิงไม่เอามันไปไว้ในคอกกับวัวตัวอื่นล่ะ” อรชญาอดสงสัยไม่ได้ที่เห็นอิงธาราแยกวัวแม่ลูกมาไว้ใต้ถุนบ้านแบบนี้
“เจ้าน้ำตาลยังไม่แข็งแรง เดี๋ยวจะถูกตัวอื่นเหยียบเข้า เอาไว้ตรงนี้แหละเผื่อมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอจะได้มองเห็น” เธออธิบายให้รุ่นน้องเข้าใจก่อนจะเดินไปขนฟืนมาเต็มหอบแล้วจุดไฟไล่แมลงรบกวน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความอบอุ่นให้กับวัวแม่ลูกในยามที่อากาศหนาวเหน็บ และกองไฟอีกสองกองยังถูกจุดขึ้นด้านข้างของคอกวัวเพื่อให้ทั้งฝูงได้คลายหนาวเช่นกัน อรชญาเมียงมองรุ่นพี่ด้วยแววตาชื่นชม อิงธาราทำทุกอย่างด้วยความแคล่วคล่องว่องไวไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอก ทั้งยังเป็นคนสนุกสนาน ชอบเอาใจ จากความชื่นชมกลับกลายเป็นความชื่นชอบ แม้รู้ดีว่ารุ่นพี่ไม่ได้มีใจโอนเอียงมาถึงเธอเลยก็ตาม
“อรคงเหงาถ้าพี่อิงไปเรียนต่อ” จู่ๆ น้องสาวก็พูดขึ้นมาทำให้อิงธาราได้แต่อมยิ้ม
“ไม่หรอกอร เพื่อนอรก็ตั้งเยอะ พี่เองก็ไปๆ มาๆ ไม่ได้อยู่ที่มหาวิทยาลัยตลอดสี่ปีเสียหน่อย เอาไว้ถ้าพี่จะกลับบ้านเมื่อไหร่ พี่จะบอกอรเป็นคนแรกเลยนะ” หญิงสาวพูดคล้ายกับเอาใจรุ่นน้อง
“จริงนะพี่อิง” อรชญาดีใจแทบเนื้อเต้นเมื่อรู้ว่าอิงธารายังให้ความสำคัญกับเธอจนเผลอจับมือนุ่มๆ ของรุ่นพี่เอาไว้ “พี่อิงใจดีที่สุดเลย ถ้าถึงเวลาที่อรสอบเข้ามหาวิทยาลัย อรจะเลือกเรียนที่เดียวกับพี่อิง เอกเดียวกันด้วย จะได้อยู่ใกล้ๆ พี่อิงไง”
อิงธารายิ้มน้อยๆ มือโคลงศีรษะรุ่นน้องอย่างนึกเอ็นดู “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ถ้าน้องอรชอบเรียนอะไรก็เรียนสาขาที่ตัวเองชอบ ไม่ต้องตามพี่หรอก ที่พี่เลือกเรียนเกษตรก็เพราะว่าพี่ชอบ อย่างน้อยก็จะได้นำความรู้มาพัฒนาบ้านเราไงจ๊ะ” เพราะอย่างไรเสียเธอก็ไม่คิดจะจากครอบครัวไปไหน
“จ้ะพี่อิง อรจะเชื่อพี่อิง” อรชญารับคำหนักแน่นเผลอดึงมือของอิงธารามากอบกุมราวกับขอกำลังใจ
“ยัยอร! มาอยู่นี่เอง พี่ตามหาซะทั่ว” สองสาวหันขวับตามเสียงเรียก หน้ารั้วบ้านปรากฏร่างของสาวสวยรีบยกสะโพกลงจากอานจักรยานเมื่อมันพามาถึงที่หมาย
“อ้าว...พี่วิไล หวัดดีจ้ะ พี่วิไลเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” อิงธาราไม่ลืมยกมือไหว้พี่สาวคนสวย ซึ่งผู้มาใหม่ก็รับไหว้อย่างยิ้มแย้มเช่นกัน
“จ้าอิง พอดียุ่งแต่ทำเรื่องย้ายโรงเรียนเลยไม่ได้แวะมาหาอิง พี่สบายดีตอนนี้ก็มาเป็นครูสอนอนุบาลที่โรงเรียนในตำบลเรานี่แหละ ได้ยินว่าอิงสอบติดไม่ใช่เหรอ เก่งเหมือนกันนี่เรา” อรวิไลพี่สาวคนเดียวของอรชญากล่าวชมรุ่นน้องไม่ขาดปาก
“ถ้าไม่มีเฮียเอกกับเฮียอั๋นล่ะก็...อิงคงไม่มีโอกาสได้เรียนหรอกพี่วิไล” เพราะพี่ชายทั้งสองต้องทำงานหนักเป็นสองเท่าเพื่อเก็บเงินเป็นค่าเล่าเรียนให้กับเธอ หากไม่มีเอกวีย์กับอนุชาแล้วล่ะก็ ลำพังแค่เรียนเก่ง เรียนดี ก็ไม่อาจทำให้เธอเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้
“พี่ชายของอิงคงรักอิงมากถึงอยากให้น้องได้เรียนสูงๆ”
“จ้ะ เฮียเอกกับเฮียอั๋นรักอิงมาก แล้วอิงก็รักพวกเขามากเหมือนกัน” พี่ชายทั้งสองคือทุกสิ่งทุกอย่างรองจากบิดามารดาแล้วคงไม่มีใครที่เธอจะรักเธอเทียบเท่ากับเอกวีย์และอนุชาไปได้
“นั่นสินะ ถ้าสองคนนั้นรู้ว่าอิงรัก พี่ชายของอิงคงจะดีใจมาก พี่ล่ะอยากมีน้องสาวน่ารักๆ แบบอิงบ้างจัง”
“พี่...” อรชญาครางเสียงอ่อย รู้ว่าพี่สาวกำลังพูดประชดที่เธอไม่ยอมฟังคำทัดทาน อรวิไลชอบสั่งให้เธอทำนั่นทำนี่ แล้วยังสั่งห้ามไม่ให้มาหาอิงธาราที่บ้าน เธอผิดด้วยหรือที่ชอบอิงธารา ทำไมพี่สาวถึงไม่ยอมฟังเธอบ้าง
“ยัยอรมากวนอะไรอิงหรือเปล่าจ๊ะ” เธอถามรุ่นน้องพลางปรายตามองอรชญาเป็นเชิงตำหนิ