เนื้อหาข่าวครับ จริงเหรอเปล่าผมไม่เเน่ใจ
กระทรวงการต่างประเทศ ปัดข่าว ไทยจ้างล็อบบี้ยิสต์ต่างชาติ ขอสหรัฐฯ ตั้งทัพเรือในไทย ชี้ตรวจสอบทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตันดีซี แล้ว ยืนยันว่าไม่มีการดำเนินการดังกล่าว
จากกระแสข่าวว่ามีเอกสารจากกระทรวงยุติธรรมประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งระบุว่า ไทยได้จ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ เพื่อให้ช่วยล็อบบี้ให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพเรือในไทย ให้สหรัฐอเมริกาตั้งศูนย์ตัวแทนการค้าให้ประเทศไทย รวมถึงการขอให้สหรัฐอเมริกาจัดตั้งเขตน่านน้ำปลอดภัยในทะเลจีนใต้นั้น
วานนี้ (11 ธันวาคม 2556) นายเสข วรรณเมธี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า จากการตรวจสอบไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าไม่มีการดำเนินการดังกล่าว โดยระหว่างนี้กระทรวงการต่างประเทศจะรวบรวมประเด็นที่ตั้งข้อสงสัย
ทั้งนี้ตามรายงานแจ้งว่า ในรายละเอียดของเอกสารที่ระบุว่ามีการจ้างล็อบบี้ยิสต์ต่างชาตินั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าเอกสารว่าจ้างมีเพียงไม่กี่แผ่น และมีการอ้างถึงนายสุรพงษ์ โดยสะกดเป็นภาษาอังกฤษด้วยอักษรที่ผิด อีกทั้งเนื้อหาโดยรวมก็เป็นการพยายามทำให้รู้สึกว่าสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญ และไทยพยายามขอให้สหรัฐฯ เข้ามามีส่วนร่วมในประเทศไทย โดยยกตัวอย่างถึงการต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ในทะเลจีนใต้ ซึ่งไทยก็ได้ให้การภาคยานุวัติเข้าเป็นภาคีของสนธิสัญญาไม่แพร่อาวุธนิวเคลียร์ปี 1972 และได้ปฏิบัติตามพันธกรณีสนธิสัญญาดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และประเทศไทยยังมีบทบาทสำคัญในการให้การสนับสนุนและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้สนธิสัญญาดังกล่าวในทุก ๆ ด้าน รวมถึงการให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อการบรรลุการกำจัดอาวุธนิวเคลียร์โดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ประเทศไทยยังให้ความร่วมมือกับอาเซียน ในการจัดทำสนธิสัญญาว่าด้วยการจัดตั้งเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในอาเซียน (SEANWFZ) ด้วย
เอกสารสำคัญจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา กรณีการตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยเนื้อความในเอกสารนี้ จะทำให้การชุมนุมที่มีคนออกมาร่วมเป็นล้านคน หรือเรื่องการปฎิรูปประเทศ กลายเป็นเรื่องเล็กๆไปเลย เนื่องจาก การที่เราให้ รมว. ต่างประเทศของเราเป็นคนลงนามในสัญญาจ้างนี้ ผูกพันกับไทย ตามกฎหมายระหว่างประเทศจ่ายเงินไปบางส่วน สัญญาจึงสมบูรณ์แล้ว ระยะเวลาของสัญญา 22 พ.ย. 2556 ถึง 28 ก.พ. 2557 ประมาน 3 เดือน สั้นมากสำหรับเรื่องใหญ่และสำคัญขนาดนี้แสดงว่าเตรียมการมาก่อนแล้ว
เนื้อหาสำคัญ รัฐบาลไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สุรพงศ์ โตวิจักรชัยกุล ได้ว่าจ้าง Davenport McKesson Corporation ให้เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการล๊อบบี้ให้สมาชิกสภาคองเกรส ของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้อนุมัติ ให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐ มาสร้างฐานทัพเรือ ในประเทศไทย รวมทั้งประเทศไทยจะช่วยเหลือทางทหารในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในอ่าวบริเวณน่านน้ำของราชอาณาจักรไทย "หมายความว่าเราจะเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ในอ่าวไทยทั้งหมดแก่สหรัฐทันที อย่างนี้จะไม่เรียกว่าขายชาติได้อย่างไร"
เหตุที่รัฐบาลไทยไปจ้างบริษัทล๊อบบี้ เช่นนี้เพราะอเมริกา มีความประสงค์ที่จะมาตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยมานานแล้วเนื่องจากเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ และเป็นการปิดล้อมประเทศจีนไม่ให้แผ่อิทธิพลลงสู่ประเทศอาเซียน แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ เสนอเรื่องเข้าสภาคองเกรสฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะจะถูกตั้งคำถามว่าทางประเทศไทยว่าอย่างไร จึงส่งสัญญานให้ฝ่ายไทย เสนอผ่านบริษัทล๊อบบี้ เขาก็จะรับลูกทันที หากสภาคองเกรส อนุมัติ ก็จะมีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศทันที
"เขาจึงออก พรบ. นิรโทษกรรมสุดซอย เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ซึ่งผ่านสภาในอีก 2 วันถัดจาก พรบ. สุดซอย"
จึงไม่แปลกใจที่ อดีตนายก สามารถเดินทางเข้าออกสหรัฐได้ โดยไม่กลัวว่าจะถูกจับกุม เพราะศาลประจำวอชิงตันได้รับฟ้องกรณีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ไว้แล้ว
ทั้งหมดจึงเป็นการวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เป้าหมายน่าเป็นแหล่งพลังงานในอ่าวไทย เพราะถ้าจะสร้างฐานทัพเรือ ก็คงต้องใช้ที่สนามบินอู่ตะเภา เพราะสร้างเพิ่มเติมอีกไม่มาก และเป็นทั้งสนามบินและท่าเรือ แล้วประกาศเขตปลอดภัยของฐานทัพ อาจมีรัศมีถึง 300 กม. เพราะจะมีเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือดำนำพลังนิวเคลียร์ เครื่องบินรบชนิดต่างๆ รวมทั้งต้องนำอาวุธนิวเคลียร์ติดมาด้วยแน่นอน พื้นที่ดังกล่าวครอบคลุมแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย- เขมร ก็ไม่มีใครเข้ามาได้ เพราะต้องได้รับอนุญาติจากสหรัฐ เขาจึงขุดน้ำมันได้แต่เพียงผู้เดียว และขณะนี้ เซฟรอน ได้สัมปทานจากรัฐบาลไทยไปทั้ง 15 แปลงแล้ว
แต่พอศาลรัฐธรรมนูญรับฟ้อง กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ทำให้ติดขัด เขาจึงเปลี่ยนตัว จากประชา พรหมนอก ไปเป็น สุรพงศ์ ที่ไม่มีบารมีในกองทัพ และตำรวจ เลยแปลกไหมครับ ก็เพราะให้สุรพงศ์ มาแล้วเรียกแขกอย่างเดียว เพื่อบีบให้เกิดการนองเลือด แล้วบีบให้ทหารปฎิวัติ , ม. 190 ก็จะหายไป ทางสหรัฐก็ลงมติอนุมัติทันที แล้วก็มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศไทยก็จะสูญเสียเอกราชทางดินแดน เสียน่านน้ำในอ่าวไทย และอาจจะเลยไปถึงฝั่งอันดามันบางส่วนด้วย กองทัพสหรัฐก็จะเข้ามาควบคุมประเทศในอาเซียนได้มาขึ้น โดยใช้ไทยเป็นฐาน
ข่าวนี้จริงเหรอเปล่าครับ สหรัฐจะสร้างทัพเรือในประเทศไทย
กระทรวงการต่างประเทศ ปัดข่าว ไทยจ้างล็อบบี้ยิสต์ต่างชาติ ขอสหรัฐฯ ตั้งทัพเรือในไทย ชี้ตรวจสอบทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตันดีซี แล้ว ยืนยันว่าไม่มีการดำเนินการดังกล่าว
จากกระแสข่าวว่ามีเอกสารจากกระทรวงยุติธรรมประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งระบุว่า ไทยได้จ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ เพื่อให้ช่วยล็อบบี้ให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพเรือในไทย ให้สหรัฐอเมริกาตั้งศูนย์ตัวแทนการค้าให้ประเทศไทย รวมถึงการขอให้สหรัฐอเมริกาจัดตั้งเขตน่านน้ำปลอดภัยในทะเลจีนใต้นั้น
วานนี้ (11 ธันวาคม 2556) นายเสข วรรณเมธี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า จากการตรวจสอบไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าไม่มีการดำเนินการดังกล่าว โดยระหว่างนี้กระทรวงการต่างประเทศจะรวบรวมประเด็นที่ตั้งข้อสงสัย
ทั้งนี้ตามรายงานแจ้งว่า ในรายละเอียดของเอกสารที่ระบุว่ามีการจ้างล็อบบี้ยิสต์ต่างชาตินั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าเอกสารว่าจ้างมีเพียงไม่กี่แผ่น และมีการอ้างถึงนายสุรพงษ์ โดยสะกดเป็นภาษาอังกฤษด้วยอักษรที่ผิด อีกทั้งเนื้อหาโดยรวมก็เป็นการพยายามทำให้รู้สึกว่าสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญ และไทยพยายามขอให้สหรัฐฯ เข้ามามีส่วนร่วมในประเทศไทย โดยยกตัวอย่างถึงการต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ในทะเลจีนใต้ ซึ่งไทยก็ได้ให้การภาคยานุวัติเข้าเป็นภาคีของสนธิสัญญาไม่แพร่อาวุธนิวเคลียร์ปี 1972 และได้ปฏิบัติตามพันธกรณีสนธิสัญญาดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และประเทศไทยยังมีบทบาทสำคัญในการให้การสนับสนุนและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้สนธิสัญญาดังกล่าวในทุก ๆ ด้าน รวมถึงการให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อการบรรลุการกำจัดอาวุธนิวเคลียร์โดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ประเทศไทยยังให้ความร่วมมือกับอาเซียน ในการจัดทำสนธิสัญญาว่าด้วยการจัดตั้งเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในอาเซียน (SEANWFZ) ด้วย
เอกสารสำคัญจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา กรณีการตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยเนื้อความในเอกสารนี้ จะทำให้การชุมนุมที่มีคนออกมาร่วมเป็นล้านคน หรือเรื่องการปฎิรูปประเทศ กลายเป็นเรื่องเล็กๆไปเลย เนื่องจาก การที่เราให้ รมว. ต่างประเทศของเราเป็นคนลงนามในสัญญาจ้างนี้ ผูกพันกับไทย ตามกฎหมายระหว่างประเทศจ่ายเงินไปบางส่วน สัญญาจึงสมบูรณ์แล้ว ระยะเวลาของสัญญา 22 พ.ย. 2556 ถึง 28 ก.พ. 2557 ประมาน 3 เดือน สั้นมากสำหรับเรื่องใหญ่และสำคัญขนาดนี้แสดงว่าเตรียมการมาก่อนแล้ว
เนื้อหาสำคัญ รัฐบาลไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สุรพงศ์ โตวิจักรชัยกุล ได้ว่าจ้าง Davenport McKesson Corporation ให้เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการล๊อบบี้ให้สมาชิกสภาคองเกรส ของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้อนุมัติ ให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐ มาสร้างฐานทัพเรือ ในประเทศไทย รวมทั้งประเทศไทยจะช่วยเหลือทางทหารในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในอ่าวบริเวณน่านน้ำของราชอาณาจักรไทย "หมายความว่าเราจะเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ในอ่าวไทยทั้งหมดแก่สหรัฐทันที อย่างนี้จะไม่เรียกว่าขายชาติได้อย่างไร"
เหตุที่รัฐบาลไทยไปจ้างบริษัทล๊อบบี้ เช่นนี้เพราะอเมริกา มีความประสงค์ที่จะมาตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยมานานแล้วเนื่องจากเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ และเป็นการปิดล้อมประเทศจีนไม่ให้แผ่อิทธิพลลงสู่ประเทศอาเซียน แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ เสนอเรื่องเข้าสภาคองเกรสฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะจะถูกตั้งคำถามว่าทางประเทศไทยว่าอย่างไร จึงส่งสัญญานให้ฝ่ายไทย เสนอผ่านบริษัทล๊อบบี้ เขาก็จะรับลูกทันที หากสภาคองเกรส อนุมัติ ก็จะมีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศทันที
"เขาจึงออก พรบ. นิรโทษกรรมสุดซอย เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ซึ่งผ่านสภาในอีก 2 วันถัดจาก พรบ. สุดซอย"
จึงไม่แปลกใจที่ อดีตนายก สามารถเดินทางเข้าออกสหรัฐได้ โดยไม่กลัวว่าจะถูกจับกุม เพราะศาลประจำวอชิงตันได้รับฟ้องกรณีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ไว้แล้ว
ทั้งหมดจึงเป็นการวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เป้าหมายน่าเป็นแหล่งพลังงานในอ่าวไทย เพราะถ้าจะสร้างฐานทัพเรือ ก็คงต้องใช้ที่สนามบินอู่ตะเภา เพราะสร้างเพิ่มเติมอีกไม่มาก และเป็นทั้งสนามบินและท่าเรือ แล้วประกาศเขตปลอดภัยของฐานทัพ อาจมีรัศมีถึง 300 กม. เพราะจะมีเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือดำนำพลังนิวเคลียร์ เครื่องบินรบชนิดต่างๆ รวมทั้งต้องนำอาวุธนิวเคลียร์ติดมาด้วยแน่นอน พื้นที่ดังกล่าวครอบคลุมแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย- เขมร ก็ไม่มีใครเข้ามาได้ เพราะต้องได้รับอนุญาติจากสหรัฐ เขาจึงขุดน้ำมันได้แต่เพียงผู้เดียว และขณะนี้ เซฟรอน ได้สัมปทานจากรัฐบาลไทยไปทั้ง 15 แปลงแล้ว
แต่พอศาลรัฐธรรมนูญรับฟ้อง กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ทำให้ติดขัด เขาจึงเปลี่ยนตัว จากประชา พรหมนอก ไปเป็น สุรพงศ์ ที่ไม่มีบารมีในกองทัพ และตำรวจ เลยแปลกไหมครับ ก็เพราะให้สุรพงศ์ มาแล้วเรียกแขกอย่างเดียว เพื่อบีบให้เกิดการนองเลือด แล้วบีบให้ทหารปฎิวัติ , ม. 190 ก็จะหายไป ทางสหรัฐก็ลงมติอนุมัติทันที แล้วก็มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศไทยก็จะสูญเสียเอกราชทางดินแดน เสียน่านน้ำในอ่าวไทย และอาจจะเลยไปถึงฝั่งอันดามันบางส่วนด้วย กองทัพสหรัฐก็จะเข้ามาควบคุมประเทศในอาเซียนได้มาขึ้น โดยใช้ไทยเป็นฐาน