“หมอลี่”ระบุสัปดาห์นี้รู้แน่แนวทางประมูล 4G เล็งนำคลื่น 1800 กับ 900 MHz มาเคาะราคาพร้อมกัน เชื่อ “ทรู” เสนอราคาแค่คลื่นเดียว บอร์ด กสท.เตรียมเสนอ “กฤษฎีกา” ตีความขอบเขตอำนาจในการออกประกาศคุมเนื้อหาสื่อรายการทีวี.-วิทยุ
นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา หนึ่งใน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) น่าจะได้ข้อสรุปว่า จะนำคลื่นความถี่ใดบ้าง มาเปิดประมูล 4G ปลายปีนี้ หรือในเดือนกันยายน 2557 แต่ที่แน่ๆคือความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ของ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือ เอไอเอส) ที่เพิ่งสิ้นสุดอายุสัญญาสัมปทานไปเมื่อปี 2556 มาประมูล
ส่วนจะนำคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ที่ให้บริการโดย เอไอเอส ให้บริการอยู่ และจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานลงในปี 2558 มาประมูลด้วยหรือไม่คงต้องรอดูการตัดสินใจภายในที่ประชุมอีกที
“โดยส่วนตัวเชื่อว่าเกือบ 100% แนวทางบอร์ด กทค.ต้องการเปิดประมูลคลื่นความถี่ทั้ง 1800 MHz และ 900 MHz พร้อมกัน ซึ่งจริงๆ แล้วคลื่นที่หมดสัมปทานไปแล้วก็ควรที่จะเร่งดำเนินการนำมาประมูล แต่ในขณะที่คลื่นที่ยังไม่หมดสัมปทาน หากไม่อยากแก้ปัญหาโดยการออกประกาศเยียวยาอีกเหมือนที่ผ่านมาก็ต้องเร่งหาแนวทางป้องกันเอาไว้ล่วงหน้าด้วยเช่นกัน” นพ.ประวิทย์ กล่าว
ล่าสุดคณะทำงานศึกษาเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ได้สรุปผลการศึกษาของ สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และความเห็นของ คณะทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว บอร์ด กทค.จะนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดกสทช.เพื่อพิจารณาต่อไปในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 จากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปถึงจำนวนคลื่นความถี่ และย่านความถี่ที่จะนำมาประมูลทางไอทียูก็จะนำข้อมูลดังกล่าวไปประเมินราคาคลื่นความถี่ต่อไปเพื่อใช้เป็นราคาตั้งต้นการประมูล
ขณะที่แหล่งข่าวภายใน กสทช. เชื่อว่ากลุ่มทรูต้องการที่จะให้มีการเปิดประมูลเพียงคลื่นความถี่เดียวก่อน หรือประมูลเฉพาะคลื่นย่าน 1800 MHz เพราะเงินลงทุนในการประมูลก็มีไม่มาก แต่หากกสทช.จะนำคลื่นทั้ง 2 ย่านความถี่มาเปิดประมูลพร้อมกันจริงก็อาจจะส่งผลทำให้ทรูพลาดโอกาสที่จะมีสิทธิได้คลื่น 1800 MHz ตามจำนวนที่ต้องการก็เป็นได้
“หากเปิดประมูลพร้อมกันเชื่อได้ว่าทั้งเอไอเอส และ ดีแทค ซึ่งมีทุนเหนือกว่าทรูอาจจะเข้ามาแย่งชิงเค้กทั้ง 2 คลื่น” แหล่งข่าวกล่าว
ส่วนน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์2557 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 5/57 มีการพิจารณาวาระสำคัญที่น่าจับตาคือเรื่อง ความเห็นของคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ เสนอขอทบทวนมติ กสท.ครั้งที่ 1/2557 เรื่อง การส่ง (ร่าง) ประกาศเนื้อหาตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 หรือ หลักเกณฑ์การกำกับดูแลเนื้อหารายการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. … ต่อ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยจะให้ กรรมการกฤษฎีกา พิจารณาในประเด็นว่า “กสทช. มีอำนาจออกประกาศฉบับนี้หรือไม่ อย่างไร และ เนื้อหาในร่างประกาศฯ มีลักษณะเป็นการขยายขอบเขตอำนาจของกสทช. หรือไม่ อย่างไร” เนื่องจากเห็นว่าคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ไม่มีอำนาจตรวจสอบกฎหมายในลำดับรอง อย่าง ประกาศ
ก่อนหน้านี้ คปก. ได้ทำหนังสือบันทึกความเห็น และข้อเสนอแนะ ถึง กสทช. เรื่องการออก (ร่าง) ประกาศ กสทช.ควบคุมเนื้อหารายการ ว่า ไม่มีอำนาจในการจัดทำร่างประกาศฯ เนื่องจากอาจขัดต่อหลักความชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาได้พิจารณาและเห็นว่าควรส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ช่วยตีความทางกฎหมายต่ออำนาจ และขอบเขตการออกประกาศกำกับเนื้อหาฉบับนี้ เพื่อความรอบคอบต่อการใช้อำนาจของ กสทช.ที่อาจขัดต่อสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลรายใหม่ 24 ช่อง และสื่อวิทยุ-ทีวี.
วันจันทร์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557, 06.00 น.
naewna.com/business/89746
บอร์ด กทค. สรุปแผนเคาะราคาคลื่น 11 ก.พ. พร้อมลุยประมูล 4G ก.ย.นี้
นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา หนึ่งใน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) น่าจะได้ข้อสรุปว่า จะนำคลื่นความถี่ใดบ้าง มาเปิดประมูล 4G ปลายปีนี้ หรือในเดือนกันยายน 2557 แต่ที่แน่ๆคือความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ของ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือ เอไอเอส) ที่เพิ่งสิ้นสุดอายุสัญญาสัมปทานไปเมื่อปี 2556 มาประมูล
ส่วนจะนำคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ที่ให้บริการโดย เอไอเอส ให้บริการอยู่ และจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานลงในปี 2558 มาประมูลด้วยหรือไม่คงต้องรอดูการตัดสินใจภายในที่ประชุมอีกที
“โดยส่วนตัวเชื่อว่าเกือบ 100% แนวทางบอร์ด กทค.ต้องการเปิดประมูลคลื่นความถี่ทั้ง 1800 MHz และ 900 MHz พร้อมกัน ซึ่งจริงๆ แล้วคลื่นที่หมดสัมปทานไปแล้วก็ควรที่จะเร่งดำเนินการนำมาประมูล แต่ในขณะที่คลื่นที่ยังไม่หมดสัมปทาน หากไม่อยากแก้ปัญหาโดยการออกประกาศเยียวยาอีกเหมือนที่ผ่านมาก็ต้องเร่งหาแนวทางป้องกันเอาไว้ล่วงหน้าด้วยเช่นกัน” นพ.ประวิทย์ กล่าว
ล่าสุดคณะทำงานศึกษาเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ได้สรุปผลการศึกษาของ สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และความเห็นของ คณะทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว บอร์ด กทค.จะนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดกสทช.เพื่อพิจารณาต่อไปในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 จากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปถึงจำนวนคลื่นความถี่ และย่านความถี่ที่จะนำมาประมูลทางไอทียูก็จะนำข้อมูลดังกล่าวไปประเมินราคาคลื่นความถี่ต่อไปเพื่อใช้เป็นราคาตั้งต้นการประมูล
ขณะที่แหล่งข่าวภายใน กสทช. เชื่อว่ากลุ่มทรูต้องการที่จะให้มีการเปิดประมูลเพียงคลื่นความถี่เดียวก่อน หรือประมูลเฉพาะคลื่นย่าน 1800 MHz เพราะเงินลงทุนในการประมูลก็มีไม่มาก แต่หากกสทช.จะนำคลื่นทั้ง 2 ย่านความถี่มาเปิดประมูลพร้อมกันจริงก็อาจจะส่งผลทำให้ทรูพลาดโอกาสที่จะมีสิทธิได้คลื่น 1800 MHz ตามจำนวนที่ต้องการก็เป็นได้
“หากเปิดประมูลพร้อมกันเชื่อได้ว่าทั้งเอไอเอส และ ดีแทค ซึ่งมีทุนเหนือกว่าทรูอาจจะเข้ามาแย่งชิงเค้กทั้ง 2 คลื่น” แหล่งข่าวกล่าว
ส่วนน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์2557 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 5/57 มีการพิจารณาวาระสำคัญที่น่าจับตาคือเรื่อง ความเห็นของคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ เสนอขอทบทวนมติ กสท.ครั้งที่ 1/2557 เรื่อง การส่ง (ร่าง) ประกาศเนื้อหาตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 หรือ หลักเกณฑ์การกำกับดูแลเนื้อหารายการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. … ต่อ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยจะให้ กรรมการกฤษฎีกา พิจารณาในประเด็นว่า “กสทช. มีอำนาจออกประกาศฉบับนี้หรือไม่ อย่างไร และ เนื้อหาในร่างประกาศฯ มีลักษณะเป็นการขยายขอบเขตอำนาจของกสทช. หรือไม่ อย่างไร” เนื่องจากเห็นว่าคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ไม่มีอำนาจตรวจสอบกฎหมายในลำดับรอง อย่าง ประกาศ
ก่อนหน้านี้ คปก. ได้ทำหนังสือบันทึกความเห็น และข้อเสนอแนะ ถึง กสทช. เรื่องการออก (ร่าง) ประกาศ กสทช.ควบคุมเนื้อหารายการ ว่า ไม่มีอำนาจในการจัดทำร่างประกาศฯ เนื่องจากอาจขัดต่อหลักความชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาได้พิจารณาและเห็นว่าควรส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ช่วยตีความทางกฎหมายต่ออำนาจ และขอบเขตการออกประกาศกำกับเนื้อหาฉบับนี้ เพื่อความรอบคอบต่อการใช้อำนาจของ กสทช.ที่อาจขัดต่อสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลรายใหม่ 24 ช่อง และสื่อวิทยุ-ทีวี.
วันจันทร์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557, 06.00 น.
naewna.com/business/89746