จะทำยังไงดีกับเด็กนิสัยแบบนี้..................

ขออนุญาตใช้พื้นที่พันทิปบ่นหน่อยนะครับ คือไม่ไหวแล้วกับการกระทำเช่นนี้กับเด็กคนนี้ แนวคิดของครอบครัวนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากอดทนอดกลั้น

ขอเกริ่นนิดนึง ที่บ้านผมอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ จริง ๆ ครอบครัวผมมีทั้งหมด 4 คน คือพ่อ แม่ พี่สาว และผม ตั้งแต่เด็กมา พ่อผมได้ซื้อบ้านหลังหนึ่ง เราอยู่กันในครอบครัวอย่างมีความสุขครับ อยู่กัน 4 คน แต่ว่ามีเพิ่มขึ้นมา 1 คนคือน้องสาวลูกพี่ลูกน้อง แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาครับ เท่ากับตอนนั้นบ้านผมอยู่กัน 5 คนก็มีความสุขดีจนกระทั่ง มีครอบครัวของลูกพี่ลูกน้องมาอาศัยร่วมด้วย เนื่องจากเหตุโดนไล่ที่ ครอบครัวเราก็ต้องรับมาอยู่เพราะความสงสาร ตั้งแต่นั้นมาผมรู้สึกว่าเหมือนหายนะ เข้าบ้าน ผมไม่มีความสุขเลย แม่ของลูกพี่ลูกน้องผมร้ายมาก (ไม่อยากจะเล่าถึงความร้ายกาจของผู้หญิงคนนี้ ไม่งั้นจะอีกยาว) ตั้งแต่รับมาอยู่จากที่บ้านผมอยู่กันอย่างมีความสุข กลับกลายพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ บ้านผมไม่มีความสุขอีกต่อไป เงินทุกบาททุกสตางค์ที่พ่อหามาได้ ต้องเอามาเลี้ยงคนในครอบครัวที่เพิ่มขึ้นมา จาก 4 คนเป็น 9 คนโดยที่เค้าก็ไม่เคยคิดจะช่วยเหลืออะไรเราเลย คือมาอยู่ฟรี กินฟรี ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่เคยคิดที่จะช่วยออก จนกระทั่ง พ่อไม่มีเงินที่จะส่งค่าบ้านอีกต่อไป ต้องปล่อยให้โดนยึด

หลังจากบ้านโดนยึดแล้วเราย้ายมาอยู่ห้องแถวครับ เช่า 1 ห้อง มีคนอยู่ทั้งหมด 7 คน (ขาดพ่อกับแม่ของครอบครัวนี้ ไปเช่าห้องอยู่ต่างหาก โดยทิ้งลูกไว้ที่ครอบครัวผมเลี้ยงดู) ห้องแถวที่ผมอยู่เล็กมาก ที่แทบไม่พอนอน ผมอยู่บนความอึดอัดใจแบบนี้มาหลายปี นั่งคอยนับวันที่ผมจะโตจะได้พาพ่อกับแม่ออกไปจากตรงนี้เสียที เราย้ายบ้านหลายครั้งครับ จนมาหลังสุดท้ายที่ผมอยู่ เป็นบ้านค่อนข้างกว้าง มี 3 แต่วิถีชีวิตของผมก็ยังคงเหมือนเดิมคือ พ่อผมเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว

แต่นี้เป็นความเคยชินที่ผมประสบมาตั้งแต่เด็ก ๆ พ่อผมบอกว่าเราทำอะไรไม่ได้นอกซะจากปล่อยให้เป็นไปตามเวรตามกรรมของเรา ครับ!!! ผมยึดถือแนวคิดของพ่อ แต่ก็มีความหวังเล็ก ๆ ที่จะออกไปจากเวรกรรมนี้เสียที เรื่องที่ผมต้องเผชิญคือเวรกรรม โอเค ผมปล่อยไป แต่.......
ผมมีลูกพี่ลูกน้องคนนึง เด็กคนนี้เป็นน้องคนสุดท้องของครอบครัว นี้ เป็นเด็กที่มีนิสัย ขี้ขโมย มาตั้งแต่เด็ก ๆ ขโมยตั้งแต่ 5 บาท 10 บาท ไปจนถึง 100 แล้วก็ Advance ไปจนถึงหลักพัน ความคับแค้นใจผมเพิ่มขึ้นตรงนี้ ผมเป็นเด็กที่ชอบเก็บตังครับ คือพ่อแม่ผมไม่ได้รวย เวลาอยากได้อะไรผมจะเก็บตังเองเสมอ แต่เมื่อมีครอบครัวนี้มา ผมก็โดยไอ้น้องคนนี้ ขโมย แต่ก่อนตอนที่ผมเป็นเด็ก ผมนี่ไปทั้งตี ทั้งชกทั้งต่อยไอ้เด็กนี่เลยนะ (ตอนนั้นเป็นเด็กคิดไรไม่ได้) สุดท้ายผมก็ต้องโดน พ่อ แม่ผมตีที่ไปรังแกมัน ผมเกลียดมันมาก เกลียดแม่มันมากในตอนนั้น ผมมักจะโดนแม่ของมันด่า ผม ตีผม (เวลาพ่อ แม่ผมไม่อยู่) ตีแบบไร้เหตุผล ผมต้องอยู่บนความอดทนอดกั้น แบบนี้มาตลอด ผมพยายามหามาตรการ รักษาความปลอดภัยของผมทุกรูปแบบ แต่ก็ยังไม่แคล้วจะโดยขโมย จนตอนหลัง ๆ ก็ยอมแพ้ครับ ไม่เก็บตัง มีเงินเท่าไรก็กิน ๆๆๆ ให้มันหมด จนผมโตขึ้น ไอ้เด็กคนนี้ก็โตขึ้นตามวัย ผมมีความคิดมากขึ้น ผมให้อภัย ให้อภัยทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น แล้วผมใช้ความอดทนอดกลั้นมาข่มไว้ เวลาเครียดเรื่องนี้มาก ๆ ผมก็จะหาทางออกโดยการนั่งสมาธิ หรือไม่ก็คุยกับแฟน ผมก็จะใจเย็นขึ้นไม่เหมือนตอนเป็นเด็ก

ระยะเวลาผ่านไป ผมเปลี่ยนนิสัยตัวเอง แต่ในขณะที่ผมเปลี่ยนนิสัยตัวเอง แต่จิตใจของไอ้เด็กนี่ ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ซ้ำมีแต่จะเพิ่มขึ้น จากขโมยหลักร้อย มันก็มาขโมยหลักพัน เริ่มต้นจากมันแอบเข้าในห้องของผม ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณตี 3 แม่ของผมตื่นไปทำขนมปัง แต่ไอ้เด็กนี่ก็แอบเข้าไปห้องแม่ ขณะที่ไม่มีคนอยู่ ขโมยตัง ไป 1000 บาท แม่ผมก็ไม่รู้จะทำไง ก็ปล่อยไป ไม่บอกพ่อผมเพราะกลัวว่ามันจะโดนตี แล้วมันก็เริ่ม ขโมยเพิ่มขึ้น เป็น 2000 เป็น 3000 แม่ผมมาคุยกับผมแล้วร้องให้ตลอด แล้วขอให้ผมไม่บอกพ่อ ผมต้องเก็บความลับนี้เอาไว้ อึดอัดมาก ผมทำได้แต่ไปด่ามัน แล้วมันก็ทำหน้าเฉย ๆ จนกระทั่งครั้งหนึ่งผมทนไม่ไหว ไปบอกพ่อ แม่มัน ผมคิดว่าพ่อแม่มันจะอบรมสั่งสอน แต่ตรงกันข้ามครับ มันหัวเราะครับ แล้วบอกว่าเผือกโง่ ไม่เก็บดี ดีเอง สมน้ำหน้า คำพูดนี้ผมเจ็บลึกในใจมาก แต่ผมทำอะไรไม่ได้เพราะเค้าเป็นผู้ใหญ่ แล้วขโมยของในบ้านไม่พอ มันก็ Advance ไปขโมยนอกบ้าน ครั้งแรก มันไปเล่นเกมที่ร้านเกมแถวบ้าน แล้วมันก็แอบขึ้นไปในห้องนอนเค้า (แอบขึ้นไปได้ไง ฟร่ะ!!! ผมสงสัยสัยมาก ทั้ง ๆ ที่คนเต็มร้าน) ขโมยเงินเค้าไป 2000 อันนี้คือที่เค้าจับได้คาหนังคาเขา นะก่อนหน้านี้เค้าบอกหายรวม ๆ เป็นหมื่น ๆ เค้าก็ตามมาเอาเรื่องถึงบ้าน แม่ผมก็สงสาร ก็ไปกราบเค้าไปอ้วนวอนเค้าอย่าเอาเรื่อง สงสารเด็กมัน จนเค้าต้องยอมไม่เอาความ ไม่แจ้งตำรวจ จนกระทั่งไปขโมยเงินที่ร้านค้าหน้าปากซอย 3000 บาท ในระหว่างที่เค้าเดินไปเอาน้ำแป๊ปซี่ใส่ถุง เรื่องก็เดือดร้อนมาที่บ้านผมอีก เค้าตามมาเอาเรื่องบอกว่า ให้รับสารภาพซะจะไม่แจ้งตำรวจ แต่มันไม่รับ แล้วเจ้คนนั้นก็เดินโมโหกลับร้าน แล้วไอ้เด็กนี่มันคงกลัวเลยเข้าไปเอาตัง ไปคืนเค้า 2000 บาท แต่สายไปครับ ตำรวจมาที่หน้าร้านเค้าพอดี แม่ค้าเรียกตำรวจ แล้วตำรวจ ก็จับไอ้เด็กนี่ไปที่โรงพัก ตอนที่มันทำแผน หน้าตาของมันไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด ไม่มีน้ำตา และไม่มีสีหน้าผิด จนผัวเจ้าของร้านหมันไส้ ต่อยมันไปหลายหมัด ในระหว่างที่เกิดเรื่อง แม่ผมขอให้ผมโทรไปบอก พ่อแม่มันให้มาช่วย แต่ผลคือ พ่อแม่มันปฏิเสธครับ พ่อมันบอกให้โทรไปบอกแม่มัน แม่มันให้โทรไปบอกพ่อมัน ไม่มีใครเลยที่จะมาสนใจมัน แม่ผมก็ขอให้ผมช่วยมัน ตอนั้นผมมีเงินติดตัว 4000 บาท ผมต้องเอาเงินไปประกันมัน เจ้าของร้านถึงได้ยอมความเพราะมันเป็นเด็ก หลังจากเรื่องจบมันกลับไปอยู่บ้านของมัน ได้ สัปดาห์กว่า ๆ มันก็กลับมาอยู่ที่บ้านผม โดยขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าร้านที่มันขโมยเงินเขามา โดยไม่สะทกสะท้านใด ๆ

จากขโมยเงิน ก็เริ่มมาสู่การขโมยของในบ้าน เอาหูฟังผมไปบ้าง เอาจอยเกมของน้องผมไปบ้าง จนล่าสุดที่มันก็ขโมยโทรศัพท์ที่ผมซื้อให้พ่อ ไปใช้เป็นโทรศัพท์ยี่ห้อง BB ตอนถามมันบอกไม่ได้เอาไป ไม่รู้เรื่อง พ่อผมก็ไม่อะไรนะ เพราะเค้าถือว่าเค้าเก็บไม่ดีเอง จนกระทั่ง จอยเกมของน้องผม (จริงๆคือลูกพี่ลูกน้องหล่ะ แต่ผมรักมันเหมือนน้อง) หายไป แล้วน้องผมก็เข้าไปหาในห้องของมัน ก็เจอโทรศัพท์ที่ผมซื้อให้พ่อ ในสภาพที่เหมือนเดิมทุกประการ ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย ทั้งรายชื่อ ตรีมโทรศัพท์ ผมโมโหจนหน้าชา ไปเอาโทรศัพท์คืนมา แล้วเอาไปให้พ่อ แต่ผมก็เลือกที่จะเงียบ ปล่อยให้พ่อเค้าจัดการเอง

พ่อผมได้เรียกพ่อของไอ้เด็กนี่มาคุย พ่อมันบอกว่า จะให้ทำไงได้ก็รักษาของไม่ดีเอง จุดเริ่มต้นที่คุย คุยเพราะมันชอบขโมยของ แต่พ่อมันปัดความรับผิดชอบ ทุกอย่าง จนพ่อผมไม่ไหว บอกให้พ่อมันเอามันไปอยู่ด้วยทั้งหมด รู้หรือไม่ว่า มีคำนึงที่ออกมาจากปากของคนเป็นพ่อ(มัน)

“เผือกเอามาเลี้ยงเอง กูไม่ได้ขอให้เอามาเลี้ยง”

เหอะ ๆ สรุป พ่อแม่ผมเผือกครับ เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น คือพ่อแม่ผมเผือก เอาเค้าทั้งครอบครัวมาเลี้ยง.......

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ

ปล.ผมต้องขออภัยนะครับหากผมใช้คำภาษาไทยที่ไม่ถูกต้อง ตกหล่น
ปล.2 ผมตั้งใจเข้ามาบ่นครับ เพราะผมเหนื่อยกับเด็กคนนี้ กับครอบครัวนี้เต็มทน
ปล.3 ผมขอบคุณที่เข้ามาอ่านในสิ่งที่ผมระบายนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่