คือ ผมสงสัยมานานแล้ว ได้ยินจากปากคน 100% ว่ามาแบบนี้ ถ้าเอาเด็กทารกนอนหงายบ่อยๆ กะโหลกตรงส่วนท้ายทอยจะแบน ทำให้เป็นคนไม่ฉลาด
ให้นอนคว่ำหรือตะแคงเอา

ผมว่ามันจริงหรือครับ เพราะจากการที่ผมได้คิดไตร่ตรองดู กะโหลกคนเรามันไม่ใช่อ่อนอะไรมาก okถ้าไปโดนหรือตำอะไรที่มันแข็งๆเข้า อาจจะยุบได้
แต่นี่นอนหมอนนุ่มๆ นุ่มกว่าแขนของแม่เวลาอุ้มเสียอีก ทำไมถึงยังแบนได้

ส่วนเหตุผลที่ผมนำมาแย้ง คือ
1.ก่อนอื่น คิดถึงรูปคอกับท้ายทอยคนเรานะครับ ท้ายทอยคนเรามันจะเว้าหรือโค้งเข้าหาคอ และเด็กแรกเกิดกะโหลกท้ายทอยมันจะยื่นออกมามาก และที่เขาว่ามันแบนเมื่อนอนหงายมากๆนั้น จริงๆมันไม่ได้แบนลงหรอก แต่มันเป็นภาพหลอกตาคนเรา หลอกตาคนที่ขาดการสังเกตุหรือไม่ได้พิสูจน์โดยกระบวนการวิทยาศาสตร์ กล่าวคือ จริงๆกะโหลกมันก็คงรูปแบบเดิมนั่นแหล่ะ แต่ที่ดูมันเหมือนแบนขึ้น เกิดจากเมื่อเด็กทารกอายุมากขึ้นได้ประมาณ 2-3 เดือน(อย่าลืมนะครับว่าเด็กวัยนี้โตเร็วมาก น้ำหนักขึ้นพรวดๆเลย) ร่างกายได้สร้างเนื้อตรงด้านหลังของคอและกะโหลกตรงส่วนท้ายทอยมากขึ้น จนทำให้เนื้อตรงส่วนนี้เติมเต็มให้ส่วนเว้าของกะโหลกส่วนท้ายทอยให้เต็มหรือดูตื้นขึ้นมา

2.ถ้ากะโหลกส่วนท้ายทอยมันแบนลงจริง แล้วทำไมเวลาที่เอาเด็กไปตรวจนัดประจำเดือนตามที่ รพ.เขานัด ทำไมเด็กถึงมีเส้นรอบวงของกะโหลกศีรษะเพิ่มมากขึ้นตามอายุ ทำไมไม่ลดลงหรือว่าเท่าเดิมถ้าหัวกะโหลกมันแบนลงจริง จริงไหมครับ
ใครไม่เชื่อและถ้ามีลูกแล้ว ให้กลับไปดูในสมุดสีชมพูนะครับ พยาบาลเขาจะเขียนไว้อยู่ ว่าเส้นรอบวงกะโหลกทุกครั้งที่เราไปตรวจนั้นยาว กี่ cm มีแต่เพิ่มขึ้นๆครับ

เป็นยังไงบ้างครับ สำหรับเหตุผลที่ผมยกมาแย้ง ท่านใดคิดว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ หรือว่าเหตุผลของผมยังไม่ดีพอ ใครที่มีเหตุผลสนับสนุนหรือต้องการแย้ง เชิญมาเสวนาได้เลยครับ เพื่อหาข้อสรุปและจะได้นำไปสู่การลบล้างความเชื่อโบราณๆนี้ออกไปจากรากเง้าของคนไทยซักที