เครยอนชินจัง (หรือชื่อภาษาไทย ชินจัง จอมแก่น) เป็นผลงานหนังสือการ์ตูนของโยชิโตะ อุซุย ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1990 ก่อนที่จะกลายเป็นแอนิเมชั่นเมื่อปี 1992 กับเรื่องราวของเด็กชายโนฮาระ ชินโนะสุเกะจอมทะเล้นกับเรื่องราวรอบตัวเขา ในตอนแรกชินจังก็ไม่ต่างจากการ์ตูนแก๊กสมัยก่อนทั่วไปคือยังไม่อยู่ตัว ในช่วงแรกๆ จึงเน้นไปที่ความทะลึ่งตึงตังและความเกรียนเสียส่วนใหญ่ ก่อนที่จะเริ่มเข้ารูปเข้ารอยและมีเนื้อหาที่เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัยมากขึ้น
ถึงแม้ว่าเรื่องราวส่วนใหญ่จะดำเนินเกี่ยวกับชีวิตประจำวันเหมือนการ์ตูนเรื่องอื่นอย่าง “ซาซาเอะซัง” หรือ “จิบิมารุโกะจัง” แต่เนื่องจากต้นฉบับของเครยอนชินจังนั้นมีความเป็นแฟนตาซีแฝงอยู่สามารถเล่นกับเนื้อเรื่องและตัวละครได้มากกว่า แต่พลอตหรือมุกหลายจุดก็มีความจริงจังและเป็นผู้ใหญ่มากกว่าแอนิเมชั่นเรื่องอื่นที่ดูอยู่ในฐานลูกค้าเดียวกันอย่างโดราเอม่อน (ชินจังจะมีฉากแอคชั่นและความสมจริงของตัวละครและเรื่องราวมากกว่า)
เครยอนชินจังตอนพิเศษตอนแรกๆ ที่วาดโดยโยชิโตะ อุซุย อย่างหน้ากากแอคชั่นปะทะขบวนการขาเว้าสูง หรือ ผจญภัยในอนาจักรยะเฮ้ เองก็เป็นการเปิดฉากที่ดีให้กับโลกของชินจังฉบับภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในโลกธรรมดาของเด็กๆ หลังจากนั้นฉบับภาพยนตร์ส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องราวแนวนี้โดยแต่ละตอนก็จะมีทั้งแนวขบขันและจริงจังสลับกันไป
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น เครยอนชินจังเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นรอบตัวของเด็กๆ เพราะฉะนั้นเรื่องราวส่วนใหญ่จึงเกี่ยวกับ ครอบครัว เพื่อน โรงเรียน และชีวิตประจำวัน และปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อมีคนแปลกหน้าหรือเหตุการณ์แปลกประหลาดเข้ามาและทำให้ชีวิตของพวกเขายุ่งเหยิง และสุดท้ายการที่ตัวละครทั้งหมดต้องต่อสู้ก็ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่เพื่อนำความสงบสุขของชีวิตประจำวันที่แสนยุ่งเหยิงและปกป้องเหล่าคนสำคัญของพวกเขานั่นเอง
จนถึงตอนนี้เครยอนชินจังฉบับภาพยนตร์ก็มีมาถึง 21 ตอนแล้ว (ตอนที่ 22 จะฉายในเมษายนปี 2014) แม้ว่าใช่ว่าทุกตอนจะประสบความสำเร็จทั้งคำชมและรายได้ เรียกได้ว่าลุ่มๆ ดอนๆ ทั้งสองอย่าง แต่ถึงกระนั้นเครยอนชินจังฉบับภาพยนตร์ก็ได้ฝากความสนุกสนานและความประทับใจมากมายให้กับผู้ชม
สำหรับประเทศไทย การหาชมฉบับภาพยนตร์ค่อนข้างเป็นไปได้อย่างยากลำบาก เพราะนอกจากไม่มีลิขสิทธิ์ ฉบับไม่มีลิขสิทธิ์เองก็จัดเนื้อหาส่วนใหญ่เพื่อให้ลงขายได้ในแผ่นซีดีแผ่นเดียว (60 นาที) ทางเดียวที่ใกล้เคียงที่สุดคือหาอ่านฉบับหนังสือการ์ตูนทั้งแบบวาดใหม่และแบบ Film Book (นำภาพแอนิเมชั่นมาเรียงต่อกันเป็นการ์ตูน) ของสำนักพิมพ์ NED แล้ว ก็คือหาดูจากอินเตอร์เน็ตที่ส่วนใหญ่โดนเจ้าของลิขสิทธิ์อย่าง TV-ASHAHI ลบไปหมดแล้ว
เนื่องจากผู้เขียนเองก็ไม่ได้มีโอกาสดูฉบับภาพยนตร์แบบสมบูรณ์ครบทุกตอนเช่นกัน จึงได้เลือกตอนที่มีคนพูดถึงและน่าจดจำมาเล่าสู่กันฟังบางตอนเท่านั้น
เรื่องน่ารู้:
1. ตัวอย่างภาพยนตร์แอนิเมชั่นกับเนื้อหาจริวๆ อาจจะไม่ตรงกันเพราะบางครั้งสร้างขึ้นมาเพื่อโปรโมทตัวภาพยนตร์ก่อน ฉากที่มีในตัวอย่างภาพยนตร์เลยอาจจะไม่มีในตัวหนังจริงๆ
2. ชินจังฉบับภาพยนตร์หลายตอนมีพลอตซ้อนกันหลายชั้น ดังนั้น ชื่อตอน+โปสเตอร์+ตัวอย่างหนัง อาจจะไม่เหมือนกัน แต่ก็เป็นเรื่องเดียวกัน (งงไหม?)
3. OP ส่วนใหญ่ของฉบับภาพยนตร์นั้นจะเป็นงาน stop motion ดินน้ำมันทั้งหมด (ตอนแรกๆ จะไม่ตรงกับเนื้อเรื่องของภาคนั้นๆ แต่หลังๆ จะเริ่มตรงแล้ว)
4. ผู้เขียน โยชิโตะ อุซุย เคยโผล่มาเป็นตัวประกอบพร้อมพากย์เสียงเองในฉบับภาพยนตร์ด้วย
5. มีเกมที่มีเนื้อหารวมเรื่องของเครยอนชินจังฉบับภาพยนตร์โดยเฉพาะถึง 3 เกม ได้แก่ Crayon Shin-Chan: Arashi no Yobu Cinema-Land no Daibouken! (Gameboy Advance) , Crayon Shin-Chan – Arashi o Yobu Cinema Land – Kachinko Gachinko Daikatsugeki! (Nintendo DS) และ Crayon Shin-chan: Arashi o Yobu Kasukabe Eiga Stars! (Nintendo 3DS)
Crayon Shin-chan The Movie เหล่าเดอะมูฟวี่ที่เราไม่รู้จัก
ถึงแม้ว่าเรื่องราวส่วนใหญ่จะดำเนินเกี่ยวกับชีวิตประจำวันเหมือนการ์ตูนเรื่องอื่นอย่าง “ซาซาเอะซัง” หรือ “จิบิมารุโกะจัง” แต่เนื่องจากต้นฉบับของเครยอนชินจังนั้นมีความเป็นแฟนตาซีแฝงอยู่สามารถเล่นกับเนื้อเรื่องและตัวละครได้มากกว่า แต่พลอตหรือมุกหลายจุดก็มีความจริงจังและเป็นผู้ใหญ่มากกว่าแอนิเมชั่นเรื่องอื่นที่ดูอยู่ในฐานลูกค้าเดียวกันอย่างโดราเอม่อน (ชินจังจะมีฉากแอคชั่นและความสมจริงของตัวละครและเรื่องราวมากกว่า)
เครยอนชินจังตอนพิเศษตอนแรกๆ ที่วาดโดยโยชิโตะ อุซุย อย่างหน้ากากแอคชั่นปะทะขบวนการขาเว้าสูง หรือ ผจญภัยในอนาจักรยะเฮ้ เองก็เป็นการเปิดฉากที่ดีให้กับโลกของชินจังฉบับภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในโลกธรรมดาของเด็กๆ หลังจากนั้นฉบับภาพยนตร์ส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องราวแนวนี้โดยแต่ละตอนก็จะมีทั้งแนวขบขันและจริงจังสลับกันไป
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น เครยอนชินจังเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นรอบตัวของเด็กๆ เพราะฉะนั้นเรื่องราวส่วนใหญ่จึงเกี่ยวกับ ครอบครัว เพื่อน โรงเรียน และชีวิตประจำวัน และปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อมีคนแปลกหน้าหรือเหตุการณ์แปลกประหลาดเข้ามาและทำให้ชีวิตของพวกเขายุ่งเหยิง และสุดท้ายการที่ตัวละครทั้งหมดต้องต่อสู้ก็ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่เพื่อนำความสงบสุขของชีวิตประจำวันที่แสนยุ่งเหยิงและปกป้องเหล่าคนสำคัญของพวกเขานั่นเอง
จนถึงตอนนี้เครยอนชินจังฉบับภาพยนตร์ก็มีมาถึง 21 ตอนแล้ว (ตอนที่ 22 จะฉายในเมษายนปี 2014) แม้ว่าใช่ว่าทุกตอนจะประสบความสำเร็จทั้งคำชมและรายได้ เรียกได้ว่าลุ่มๆ ดอนๆ ทั้งสองอย่าง แต่ถึงกระนั้นเครยอนชินจังฉบับภาพยนตร์ก็ได้ฝากความสนุกสนานและความประทับใจมากมายให้กับผู้ชม
สำหรับประเทศไทย การหาชมฉบับภาพยนตร์ค่อนข้างเป็นไปได้อย่างยากลำบาก เพราะนอกจากไม่มีลิขสิทธิ์ ฉบับไม่มีลิขสิทธิ์เองก็จัดเนื้อหาส่วนใหญ่เพื่อให้ลงขายได้ในแผ่นซีดีแผ่นเดียว (60 นาที) ทางเดียวที่ใกล้เคียงที่สุดคือหาอ่านฉบับหนังสือการ์ตูนทั้งแบบวาดใหม่และแบบ Film Book (นำภาพแอนิเมชั่นมาเรียงต่อกันเป็นการ์ตูน) ของสำนักพิมพ์ NED แล้ว ก็คือหาดูจากอินเตอร์เน็ตที่ส่วนใหญ่โดนเจ้าของลิขสิทธิ์อย่าง TV-ASHAHI ลบไปหมดแล้ว
เนื่องจากผู้เขียนเองก็ไม่ได้มีโอกาสดูฉบับภาพยนตร์แบบสมบูรณ์ครบทุกตอนเช่นกัน จึงได้เลือกตอนที่มีคนพูดถึงและน่าจดจำมาเล่าสู่กันฟังบางตอนเท่านั้น
เรื่องน่ารู้:
1. ตัวอย่างภาพยนตร์แอนิเมชั่นกับเนื้อหาจริวๆ อาจจะไม่ตรงกันเพราะบางครั้งสร้างขึ้นมาเพื่อโปรโมทตัวภาพยนตร์ก่อน ฉากที่มีในตัวอย่างภาพยนตร์เลยอาจจะไม่มีในตัวหนังจริงๆ
2. ชินจังฉบับภาพยนตร์หลายตอนมีพลอตซ้อนกันหลายชั้น ดังนั้น ชื่อตอน+โปสเตอร์+ตัวอย่างหนัง อาจจะไม่เหมือนกัน แต่ก็เป็นเรื่องเดียวกัน (งงไหม?)
3. OP ส่วนใหญ่ของฉบับภาพยนตร์นั้นจะเป็นงาน stop motion ดินน้ำมันทั้งหมด (ตอนแรกๆ จะไม่ตรงกับเนื้อเรื่องของภาคนั้นๆ แต่หลังๆ จะเริ่มตรงแล้ว)
4. ผู้เขียน โยชิโตะ อุซุย เคยโผล่มาเป็นตัวประกอบพร้อมพากย์เสียงเองในฉบับภาพยนตร์ด้วย
5. มีเกมที่มีเนื้อหารวมเรื่องของเครยอนชินจังฉบับภาพยนตร์โดยเฉพาะถึง 3 เกม ได้แก่ Crayon Shin-Chan: Arashi no Yobu Cinema-Land no Daibouken! (Gameboy Advance) , Crayon Shin-Chan – Arashi o Yobu Cinema Land – Kachinko Gachinko Daikatsugeki! (Nintendo DS) และ Crayon Shin-chan: Arashi o Yobu Kasukabe Eiga Stars! (Nintendo 3DS)