ขอให้อ่านข้อความที่เป็นภาษาบาลี มาดูคำแปลภาษาไทยกันอีกทีหนึ่งให้ชัดๆ
ผู้ใดเห็นความเกิดดับของรูปนามอย่างนี้ มีชีวิตอยู่ได้เพียงวันเดียวแล้วตายเสีย ดีกว่าบุคคลผู้ไม่เห็นความเกิดดับของรูปนาม แต่มีอายุอยู่ได้นานถึง ๑๐๐ ปี ดังนี้ฯ
"อปัสสัง" แปลว่า "ไม่เห็น" "ปัสสโต" แปลว่า "เห็น"
ข้อความนี้มหาโชดกเขียนขึ้นมาเองเพราะเป็นหนังสือของมหาโชดก แต่แล้วมหาโชดก
"เห็น" อะไรบ้างในการปฏิบัติธรรม
เพราะไม่ว่าเห็นอะไร มหาโชดกก็ "เห็นหนอ เห็นหนอ" หมด เพื่อให้ไม่เห็นหมด
ดร. สนอง วรอุไร เห็นนางฟ้า มหาโชดกก็บอกว่าไม่ถูก
แล้วอย่างนี้มหาโชดกจะ
"เห็นความเกิดดับของรูปนาม" ได้อย่างไร?
ตลอดชีวิต นอกจากมหาโชดกจะโกหกตัวเองและลูกศิษย์แล้ว ยังมาโกหกเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำอีก
ชีวิตของมหาโชดกจึงเป็นชีวิตที่สูญเปล่าในทางบุญ และเกิดมาทำลายตัวเองแท้ๆ
รายละเอียดอ่านได้ที่นี่ :
http://lerksonthammakai.blogspot.com/2014/01/50.html
สำหรับ
"เห็นความเกิดดับของรูปนาม" ของวิชาธรรมกาย จะได้มานำเสนอเผยแพร่ต่อไป
มหาโชดกโกหกเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ-[9] "เห็นความเกิดดับของรูปนาม"
ขอให้อ่านข้อความที่เป็นภาษาบาลี มาดูคำแปลภาษาไทยกันอีกทีหนึ่งให้ชัดๆ
ผู้ใดเห็นความเกิดดับของรูปนามอย่างนี้ มีชีวิตอยู่ได้เพียงวันเดียวแล้วตายเสีย ดีกว่าบุคคลผู้ไม่เห็นความเกิดดับของรูปนาม แต่มีอายุอยู่ได้นานถึง ๑๐๐ ปี ดังนี้ฯ
"อปัสสัง" แปลว่า "ไม่เห็น" "ปัสสโต" แปลว่า "เห็น"
ข้อความนี้มหาโชดกเขียนขึ้นมาเองเพราะเป็นหนังสือของมหาโชดก แต่แล้วมหาโชดก "เห็น" อะไรบ้างในการปฏิบัติธรรม
เพราะไม่ว่าเห็นอะไร มหาโชดกก็ "เห็นหนอ เห็นหนอ" หมด เพื่อให้ไม่เห็นหมด
ดร. สนอง วรอุไร เห็นนางฟ้า มหาโชดกก็บอกว่าไม่ถูก
แล้วอย่างนี้มหาโชดกจะ "เห็นความเกิดดับของรูปนาม" ได้อย่างไร?
ตลอดชีวิต นอกจากมหาโชดกจะโกหกตัวเองและลูกศิษย์แล้ว ยังมาโกหกเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำอีก
ชีวิตของมหาโชดกจึงเป็นชีวิตที่สูญเปล่าในทางบุญ และเกิดมาทำลายตัวเองแท้ๆ
รายละเอียดอ่านได้ที่นี่ : http://lerksonthammakai.blogspot.com/2014/01/50.html
สำหรับ "เห็นความเกิดดับของรูปนาม" ของวิชาธรรมกาย จะได้มานำเสนอเผยแพร่ต่อไป