เรื่องจริง ปัญหาสุขภาพจิตจากการเสพข่าวการเมืองเกินพอดี

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับน้องชายคนสุดท้องของครอบครัวเราเองค่ะ

ปกติเรา 4 คนพี่น้องรักกันมาก ปรึกษากันตลอด ไปเที่ยวกันยกบ้านเสมอ ทานข้าวด้วยกันทุก 2 สัปดาห์ ทั้งที่ทุกคนมีครอบครัวกันหมดแล้วค่ะ
เรื่องก่อนที่เค้าจะมาโพสประเด็นข้างล่างนี้ เกินขึ้นมาสักพัก ภายในครอบครัวเราทะเลาะกันค่อนข้างรุนแรง
ที่จริงไม่ได้ทะเลาะกันเพราะมีความเห็นต่างในทางการเมืองนะคะ
แต่เป็นเพราะ พฤติกรรมหลังจากที่น้องชายเกิดความเครียดสะสม ในการใช้ชีวิตลำบากขึ้น ค้าขายไม่ได้ ขาดทุนไปเป็นเงินแสน
และแสดงออกทางการเมืองแบบหัวชนฝา ไม่ฟังใครในครอบครัว พี่น้อง ที่ตักเตือนเค้า เค้าก็จะเถียงและแถไปเรื่อยๆ เริ่มหยาบคายขึ้น ความเกลียดชังในใจมีมากขึ้น
ขนาดจขกท.เอนไปทางสีเดียวกับเค้า ยังสังเกตุได้เลยว่า มันชักจะรุนแรง หลงไหล โดนล้างสมอง ไม่แยกแยะ อะไรผิดถูกไม่รู้ ไม่ฟังใคร เสพแต่สื่อที่สนองความต้องการ ความเกลียดชัง  จน จขกท.เริ่มเตือนสติน้องชาย ชี้เหตุผล แต่เค้าไม่ฟังละ
จนพาลทะเลาะกันกับทุกคนในบ้านพี่น้อง พี่สะใภ้ รวมทั้งภรรยา หาว่าทุกคนหาเรื่องมาด่า ไม่ถกการเมืองกันดีๆ ทั้งๆที่ทุกคนพยายามจะบอกว่า มันคือการแยกแยะ อย่าไปหลง พฤติกรรมคุณเปลี่ยนไป........สารพัดจะพูด เค้าก็ไม่รับฟัง

เราอยากให้ทุกคนอย่ามองข้ามเรื่องนี้นะคะ เราเองยังไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดกับคนในครอบครัวเรา
เรามีเพื่อน กปปส. (บางคน) ที่คลั่งแบบเดียวกับน้องชายเรานี้ เห็นเราเห็นต่าง ด่าเราออกอากาศ มาเม้นท์ด่าในโพสเราเลย และบล็อกเราไปเรียบร้อย เจอมาแล้วขั้นรุนแรง
วันนี้มาเจอกับน้องชายตัวเอง ที่เมื่อวาน ประกาศตัดพี่ตัดน้อง  
จนคนในครอบครัวโทรคุยกันกลางดึก ว่าควรทำอะไรสักอย่างได้แล้ว เราต้องช่วยกันนะ เราเป็นห่วงน้องเรากันมากๆ ใครจะรักเรา ห่วงใยเรา มากกว่าคนในครอบครัวล่ะคะ
สุดท้าย ได้น้องชายคนที่ 3 ที่เค้าสนิทที่สุด เป็นคนคุยเตือนสติให้
เราอยากให้เรื่องนี้เป็นประโยชน์ สำหรับคนที่กำลังเจอคนในครอบครัวแบบนี้ เอาข้อความนี้ ช่วยเตือนสติกันค่ะ
เผื่อจะเป็นส่วนเล็กๆช่วยได้บ้าง ให้เค้ามีสติกลับมาบ้างได้เหมือนน้องชายเรา ไม่ว่าคนๆนั้นที่เจอปัญหาอยู่จะเป็นสีไหนก็ตามค่ะ

และข้อความข้างล่าง ต่อไปนี้ เป็นโพสวันนี้ของเค้าค่ะ


************************************************************************************
ใครที่เกลียดผม โกรธผม หรือรู้สึกแย่กับผม ผม "ขอโทษจากใจจริง" ผมอยากให้ทุกคนอ่านในสิ่งที่ผมเขียนจนจบ(แม้จะยาวซะหน่อย) ผมจะเล่าให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้างจนทำให้ผมกลายเป็น ... "คนป่วย" ยกโทษให้ผมด้วย

ผมปิดเฟสบุ๊คตัวเองไป 1 วัน เพื่อสงบสติอารมณ์และนั่งทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวผมบ้าง
เมื่อก่อนผมเป็นกลางผมไม่ชอบทั้งเหลืองและแดงที่สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมืองและมันทำให้คนหากินค้าขายกับชาวต่างชาติอย่างผมเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็น เผาบ้าน เผาเมือง ปิดสนามบินและ ฯลฯ ผมอดทนกับเหตุการณ์พวกนี้มาทุกปี
ผมเริ่มกลายเป็น "แดง" เพราะสุเทพปิดถนนหนทาง ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผมลำบากขึ้น ทำให้ผมขายของไม่ได้ รายได้ของผมลดลงไป "มากกว่าครึ่ง" ต่อเดือน ผมขายของที่สีลมและมีม๊อบตรงนั้นพอดี ผมโดนผลกระทบเต็มๆ ผมเริ่มเครียด เครียดมากขึ้น มากขึ้นทุกวัน (ถ้าคุณทำงานบริษัทและโดนลดเงินเดือนมากกว่าครึ่งแล้วคุณจะเข้าใจว่าผมเครียดขนาดไหน) ในขณะที่ค่าใช้จ่ายของผมไม่ได้ลดลง แถมยังเพิ่มขึ้นจากการที่ต้องเดินทางลำบากกว่าเดิมอีกต่างหาก
ผมเริ่มรู้สึกต่อต้านสุเทพ ผมเริ่มเสพย์สื่อมากขึ้น ค้นหาข้อมูลมากขึ้น มากเท่าที่ผมจะหาได้ อ่านๆๆๆ ดูๆๆๆ เสพย์ๆๆๆๆ ผมเริ่มโพสการเมือง เริ่มด่าสีเหลือง เริ่มด่าสุเทพ ผมเริ่มโพสแรงขึ้น จนญาติฝ่ายพ่อผมทักมาเตือนในแช็ท ว่ามันแรงเกินไป (ฝ่ายนั้นเหลืองทั้งบ้าน) เราแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันพอสมควร หลังจากจบการสนทนาในแช็ท 1 วัน ก็มีญาติผู้ใหญ่ที่ผมนับถือมากเพราะเป็นผู้มีพระคุณโทรมาหาผม เค้าได้ชี้แจงต่างๆนาๆ ว่าทำไมสุเทพต้องปิดถนน เค้าทำเพื่อชาติอย่างไรบ้าง และปิดท้ายด้วยประโยคที่ว่า "ขายของไม่ได้ซักเดือนนึงคงไม่อดตายหรอก" ... ผม ช๊อค มาก ไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้จากคนที่ผมเคารพรักมาก แต่ผมก็ไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดท่านหรอก ... สำหรับผมครอบครัวมาก่อนเสมอ ผมเริ่มต่อต้านมากขึ้นโดยโยนความผิดไปให้สุเทพ โดยให้เหตุผลว่า สุเทพ ทำให้คนที่ผมรักพูดกับผมได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ .... ผมเริ่มเสพย์ข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้นๆๆๆ และผมก็เครียดมากขึ้นๆๆๆทุกวันกับภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้นและรายได้ที่ลดลง และความเครียดของผมก็ทวีคูณหนักขึ้นเมื่อผมโดนด่าว่า "ขี้ข้าทักษิณ" โดยภรรยาของผมเอง ทั้งๆที่ผมไม่ได้อยากจะอยู่ข้างทักษิณแต่ความเกลียดสุเทพทำให้ผมต้องเลือกข้าง ... ภรรยาผมไม่รู้ว่าผมเครียดเรื่องงาน...เธอยังคงด่าผมว่า "ขี้ข้าทักษิณ" ทุกครั้งที่ผมเสพย์ข่าวการเมือง ไม่ว่าจะทาง อินเตอร์เน็ตหรือทางโทรทัศน์ และเพียงแค่ผมจะอธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผม ทำไมผมถึงต้องเข้าข้างทักษิณ... เธอก็จะพูดแค่ว่า "ไม่ฟัง!!! อย่ามายัดเยียด" (ผมไม่ได้อยากจะยัดเยียดผมแค่จะอธิบาย) แล้วก็จะจบลงแบบนี้ทุกครั้ง พร้อมกับคำว่า "ขี้ข้าทักษิณ" ผมอึดอัด ผมอยากระบาย ผมเครียด ภรรยาผมก็ยังไม่เข้าใจผม(ทำไงได้บ้านเธอเหลืองทั้งบ้าน) ผมเสพย์ข้อมูลมากขึ้นและระบายมันลงบนพื้นที่ส่วนตัวของผม ผ่านเฟสบุ๊ค
ความเครียดผสมความเกลียดชังและความแค้นทำให้ผมกลายเป็น "ควายแดง" ผมเริ่มโพสแรงขึ้นเรื่อยๆ ด่าแรงขึ้น ก้าวร้าวขึ้นโดยที่ผมไม่รู้ตัวเอง การเมืองทำให้ผม "ป่วยโดยไม่รู้ตัว" ความแค้นและความเครียดทำให้ผมเกลียดไปหมดถึงขนาดว่า เดินผ่านคนที่ห้อยนกหวีดหรือสวมเสื้อชัตดาวน์กรุงเทพ เป็นคนเลวที่สร้างความเดือดร้อนให้ผม ปิดถนนทำให้ผมขายของไม่ได้ ผมเริ่มสาปแช่งคนเหล่านั้น ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน... แต่ผมยังคงยกเว้นคนในครอบครัวไว้ ... และนั่นแหละยิ่งทำให้ความแค้นของผมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแบบหยุดไม่อยู่อีกต่อไป โพสในเฟบุ๊คของผมกลายเป็นที่ระเลงความโกรธระบายความเกลียด ... เหตุผลเหลือเพียงไม่ถึง 10% อีก 90% เป็นความเคียดแค้นล้วนๆ ... จนถึงจุดแตกหัก ผมทะเลาะกับคนในครอบครัว ซึ่งนี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมไม่อยากให้เกิด ทุกคนในครอบครัวลงความเห็นว่าผมเปลี่ยนไป ในขณะที่ตัวผมเองไม่รู้ตัว ... เมื่อวานผมทำงานด้วยความเครียด ผมทะเลาะกับภรรยาและผมก็ยังขายของไม่ได้เลยซักบาทเดียวทั้งๆที่อีกแค่ 2 ชั่วโมงก็จะต้องเก็บร้านแล้ว ... ผมสับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว น้ำตาที่ไม่เคยไหลมานาน กลับไหลออกมาไม่หยุดโดยไม่มีเหตุผล
ชีวิตผมพังแล้วหรือ ... นี่ผมเป็นอะไรไป??? ผมล้มเหลวในชีวิตหรอ ทุกความคิด ทุกสิ่งอย่างทั้งเรื่องงาน ครอบครัวและคนรัก ถาโถมเข้ามาแบบไม่เรียงคิวให้ผมได้ทันตั้งหลักคิด ทำไมทุกคนรุมด่าผม ทำไมเค้าไม่เข้าใจเรา ทำไม ทำไม ทำไมและอีกหลายๆทำไม... หัวสมองผมแทบจะระเบิด ซักพักไม่นานนัก พี่ชายแท้ๆผมก็มารับผมกลับบ้าน ทั้งๆที่ปรกติไม่เคยมาหาผมที่ร้านเลยซักครั้งเดียว ... เค้ารู้แล้วว่าผมป่วย ... ผมตรงกลับเข้าคอนโดก่อนเพื่อที่จะไปเก็บเสื้อผ้าเพื่อกลับไปนอนที่บ้านเพราะถ้าอยู่กับภรรยาผมก็คงต้องทะเลาะกันอีกและผมคงต้องฆ่าตัวตายแน่ๆ (ตอนนั้นผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ)
พอผมกลับไปพักผ่อนที่บ้านโดยมีพี่ชายผมอยู่เป็นเพื่อน เราได้คุยเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้ร่วม 1 ชั่วโมง โดยที่ส่วนใหญ่ผมเป็นฝ่ายนั่งฟัง ... เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นโดยที่ผมไม่รู้ตัว แต่คนรอบข้างเค้าสัมผัสได้ ซึ่งทั้งหมดผมได้เล่าให้ฟังหมดแล้ว ... ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เฟสบุ๊คเป็นเหมือนดาบ 2 คม มีทั้งคนรัก คนเกลียด คนคอยห่วงใยและคนคอยสมน้ำหน้า ผมก็ไม่ใช่คนโง่นัก ที่จะไม่รู้ว่าใครกำลังสนุกสนานที่เห็นผมทะเลาะกับคนในครอบครัว แต่ผมไม่โกรธหรอกนะ
เรื่องทั้งหมด ถึงการเมืองจะทำให้ผมป่วยแต่ผมไม่คิดจะโทษมัน ผมควรจะโทษตัวเองมากกว่าที่จิตใจไม่เข้มแข็งพอ อ่อนไหวไปตามสิ่งเร้า ... หลังจากโพสนี้ผมจะลบเฟสบุ๊คทิ้งไปซัก 3-5 วัน เพื่อพักรักษาจิตใจตัวเอง ทำใจให้สงบก่อน หากโพสใดๆก่อนหน้านี้ของผม ทำให้ใครไม่พอใจหรือไม่สบายใจ "ผมขอโทษ" ผมได้ลบมันออกไปหมดแล้ว และได้โปรดให้อภัย "คนป่วย" คนนี้ด้วย
ตอนนี้ผมอาจจะต้องการแค่ จิตแพทย์หรือคนรับฟังซักคนและกำลังใจดีจากคนที่ผมรัก เท่านั้นเอง ..........

ปล.ขอบคุณครอบครัว คนรัก และเพื่อนที่ยังรักผม

.... ผมรักทุกคนเสมอ (.........ลงชื่อ..........)

****************************************************************************************
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่