UK หมี และstoryแบบไม่เม้ม 2 : เริ่มต้นใช้ชีวิตคนเดียว

สวัสดีค่ะ กลับมาอีกแล้ว มามะ เล่าต่อเลย




หลังจากออกจากสนามบิน ด่านต่อไปคือการเข้าหอพัอพัก

หอพักที่หมีอยู่เป็นระบบหอพักสำหรับนักเรียนจ้ะ ทำการจองเรียบร้อยพร้อมจ่ายเงินเสร็จสรรพไปถึงเดือนกันยายน ค่าหอรวมน้ำไฟเนตแล้วประมาณ 99ปอนด์ ซึ่งหอนี้ทางมหาวิทยาลัยจัดหาให้(แต่คนจัดหาก็ได้เปอร์เซ็นจากนร.ไปอีก10%ของค่าเช่าทั้งหมดที่จ่ายล่วงหน้า ฮือออ) หอพักนักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่จะเช่ากันเป็นเทอมๆจ่ายเงินล่วงหน้าไปเลย ไม่เหมือนบ้านที่นักเรียนไปหาเช่ากันเองจะเก็บเป็นอาทิตย์เป็นเดือนก็ว่าไป แต่พวกนั้นจะไม่รวมบิลนะ
    

วันแรกที่มาถึงหอเป็นวันอาทิตย์ซึ่งพนักงานในออฟฟิซหอพักหยุด......


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ลุงแท็กซี่จากสนามบินพยายามถามหมีว่าแน่ใจใช่ไหมว่าเป็นที่นี่ ไอ้เราก็เคยเห็นจากในหน้าเว็บก็คุ้นๆเลยบอกว่าใช่แหละ ลุงก็พยายามย้ำว่าแน่ใจนะ งั้นลุงจอดตรงนี้นะหนู แน่ใจนะ


ณ จุดๆ นี้ ประทับใจในความเป็นห่วงคุณลุงแท็กซี่มาก ขอบคุณค่ะ


ลุงแท็กซี่ดูเป็นกังวลมาก แต่พอยืนยันลุงก็ยอมปิดประตู แต่ก็แอบเห็นนะว่าลุงยังรออยู่ สงสัยกลัวมาผิดที่จริงๆ 555 ปกติประตูรั้วของหอพักจะมีคีย์การ์ดแบบกลมๆเอาไว้แปะเข้าออกรั้ว สำหรับคนนอกต้องให้เพือนพาเข้าหรือกดกริ่งให้ยามออกมารับ แต่ตอนหมีไปถึงมีคนกำลังออกพอดีเลยเนียนๆเดินลากกระเป๋ายักษ์สี่ใบเข้าไปออฟฟิซ


อย่างที่บอกค่ะ วันอาทิตย์ ออฟฟิซมีแต่ยาม หมีเดินเข้าไปเกาะเคาน์เตอร์แลวยื่นเอกสารที่ปรินท์จากไทยไปให้ เป็นเอกสารกึ่งๆหนังสือสัญญาว่าจะเช่าตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน โดยที่ต้องมีแลนลอร์ด(เจ้าของบ้าน/เจ้าของที่อยู่) ผู้เช่า ผู้ปกครอง(กรณีหมีคือคุณพ่อ) และพยาน เซ็นต์กำกับ






หมี : ........................... /หนาว พูดไม่ออก ปากสั่นหงึกๆ

คุณยามเป็นคนดำหน้าโหดแต่ยิ้มแล้วดูใจดีมากๆ คุณยามหยิบเอกสารไปดูแล้วทำหน้างงๆ เดินไปตู้เหล็ก หยิบเอกสารสีฟ้าๆมาโชว์ให้ดู


คุณยาม : มีเอกสารแบบนี้ไหม ปกติผู้เช่าต้องยื่นเอกสารแบบนี้ให้นะครับ
หมี : ไม่มีค่ะ


ตอนนั้นนึกใจใจว่าซวยแล้วชั้น จ่ายเงินอะไรเรียบร้อย ทำไมมีปัญหาหว่า อะไรยังไง ทั้งงงทั้งมึน ดูท่าว่าคุณยามคงเห็นใจหมีไทยหน้ามึนๆเลยยิ้มให้อีกทีนึง


คุณยาม : ไม่เป็นไรนะ ไปนั่งรอก่อน เดี๋ยวจะลองติดต่อกับเจ้าหน้าที่สำนักงานใหญ่ดู ไม่มีอะไรหรอก ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย

    


จุดนั้นจะทำอะไรได้ ก็ลากกะเป๋าไปนั่งรอตรงโซฟา คุณยามก็พยายามโทรติดต่อสองสามครั้งพร้อมกับให้กำลังใจตลอด จนสุดท้ายก็ติดต่อได้ ตอนคุณยามเปิดตู้เอกสารหยิบซองมานี่หน้าคุณพี่เหมือนจะร้องเพลง we are the champion

    

คุณยาม : เรียบร้อยแล้วนะ นี่คีย์การ์ดกับกุญแจ เอกสารสำคัญแล้วก็เช็คลิสต์ต้องเอามาส่งในที่รีเซฟชั่น แต่ไม่ต้องวันนี้ก็ได้ พักผ่อนก่อนเนอะ
หมี : .............../ยิ้มไทยสไมล์
คุณยาม : เดี๋ยวจะพาไปที่ห้องพักนะ



ห้องที่หมีอยู่เป็นแฟลตสามชั้น ชั้นหนึ่งแบ่งเป็นสองด้านแฟลต แฟลตนึงอยู่หกคนเป็นห้องนอนกับห้องน้ำส่วนตัวแต่ใช้ครัวกับโถงกลางและห้องนั่งเล่นรวม หอที่อยู่เป็นหอพักนักเรียนที่มีกฎอยู่พอตัว ภายใต้รั้วเดียวกันมีแฟลตหลายหลังค่ะ ซึ่งทั้งหมดต้องเป็นนักเรียนอาศัยเท่านั้น



หมีเอากระเป๋าไปสี่ใบค่ะ เป็นแบบล้อลาก1 สะพายข้างสอง เป้หนึ่ง คุณยามช่วยยกกระเป๋า พอถึงห้องคุณยามก็เหนื่อยแฮ่กเลย พอแนะนำห้องเสร็จอะไรเสร็จก็ไป



ตอนนั้นหมีเดินเข้าห้องไปคนเดียว ทันทีที่ปิดประตูปุ๊บ.....น้ำตาก็ไหล



มันเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าต่อจากนี้ไปต้องอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียวในที่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่มีคนรู้จักสักคน อยู่ไกลบ้าน ไกลครอบครัวที่เรารัก หมีเป็นคนที่สนิทกับที่บ้านมาก เลยทำให้อาการหนักจนทิ้งกระเป๋ายืนร้องไห้อยู่ในห้องนานสองนาน



แปลกนะ...ทั้งที่ตอนมาส่ง ตอนอยู่เครื่องบิน หมีตื่นเต้นมาก


แต่พออยู่ในห้องคนเดียว...มันเหงาจนทนไม่ไหว


เชื่อไหมว่าตอนนั้นยังคิดว่า....อยากกลับไทย ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง

เหงา วูบโหวง ว่างเปล่าในอก

แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป





หมี อิน เดอะ เซอร์ไววัลเวิลด์






ป.ล. นึกถึงตอนเล่นเกมซิมส์สามเลย รู้แล้วว่าเวลาที่ตัวละครมันขาดความสัมพันธ์ทางสังคม ทำไมมันถึงร้องไห้ ถ้าหมีเป็นเกมส์ซิม คงขึ้นเพชรแดงบนหัวแหงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่