
ความเคลื่อนไหวของ พรรคฝ่ายค้าน ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ
พิจารณาว่า การเลือกตั้งทั่วไปใน ปี 2557 เป็นโมฆะ ตอกย้ำปัญหา
ในระบอบประชาธิปไตยยิ่งขึ้น
ต่อเนื่องจากความพยายามขัดขวางประชาชนทั่วประเทศลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
บทบรรณาธิการของสื่อชาติตะวันตกที่ทรงอิทธิพลอย่างน้อย 3 ฉบับมีเนื้อหาคล้ายกันว่ากระบวน
การ "เอาแต่ใจ" แบบนี้กำลังบั่นทอนประชาธิปไตย
มุมมองสื่อฝรั่งดังกล่าวอาจถูกโจมตีอีกว่าถูกซื้อผ่านระบบล็อบบี้ยิสต์
แต่สิ่งที่แก้ต่างหรือแก้ตัวไม่ได้เลยก็คือ ฝ่ายค้านตัดสินใจพลาดตั้งแต่ต้นวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
ไม่แสดงให้เห็นว่าศรัทธาต่อสถานะ "ฝ่ายค้าน" ที่มีความสำคัญต่อระบอบประชาธิปไตย
แม้แกนนำพรรคฝ่ายค้านยืนยันว่าไม่ได้กลัวแพ้การเลือกตั้ง หลังจากแพ้มาตลอด 20 ปี
แต่ในจังหวะที่พรรครัฐบาลเพลี่ยงพล้ำในการผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย และโครงการ
จำนำข้าวมีปัญหาและจุดอ่อนในระบบเศรษฐกิจ ฝ่ายค้านมีโอกาสช่วงชิงเสียงสนับสนุนจากประชาชน
ที่ไม่พอใจรัฐบาลจนอาจทำให้ชนะการเลือกตั้งอย่างสง่างาม
แต่กลับวิ่งออกไปต่อสู้นอกเส้นทางรัฐสภา
ขณะที่คนในพรรคบางส่วนไปก่อขบวนการโค่นอำนาจ นำเสนอวิธีการเอาชนะแบบเบ็ดเสร็จ ตัดขาด
จากกระบวนการประชาธิปไตย
ตามมาด้วยรณรงค์ว่า คนไม่ช่วยปิดเมืองหลวงและคนไปเลือกตั้งคือคน ไม่รักชาติ ??
ในขณะที่การเผชิญหน้าทางการเมืองส่ง ผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ ความน่าเชื่อถือ กระทบต่อ
การลงทุนและการท่องเที่ยว
ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งเป็นผลเสียต่อประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชน
คนที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่ได้เปรียบ ย่อมไม่กระทบกระเทือน ไม่รู้สึกถึงความเดือดร้อน
เท่ากับคนหาเช้ากินค่ำ
จึงเพิกเฉยต่อความพยายามหาทางออกใน ทุกครั้ง รวมถึงการเลือกตั้งที่ดำเนินตามกติกา แต่จะให้
เป็นโมฆะ
การตัดสินใจผิดพลาดทั้งหมดนี้ทำให้ประเทศไทยต้องเสียหายและถูกรังเกียจในประชาคมโลก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1UWXhNamMzTlE9PQ==§ionid=
เห็นรูปแล้ว ที่บอกว่า ไม่เกี่ยวข้องกับ กปปส. น่าเชื่อถือสักแค่ไหน
ขึ้นเวที กปปส. ชูมือ เป่านกหวีดร่วมกัน บอยคอตการเลือกตั้ง
ใครนำใคร บางที่ก็ตัดสินลำบาก แต่ว่าไปด้วยกันแน่ๆ
พลาดตั้งแต่ต้น บทบรรณาธิการ ข่าวสดออนไลน์ ..... ใครพลาด ตามมาอ่านกันหน่อย
พิจารณาว่า การเลือกตั้งทั่วไปใน ปี 2557 เป็นโมฆะ ตอกย้ำปัญหา
ในระบอบประชาธิปไตยยิ่งขึ้น
ต่อเนื่องจากความพยายามขัดขวางประชาชนทั่วประเทศลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
บทบรรณาธิการของสื่อชาติตะวันตกที่ทรงอิทธิพลอย่างน้อย 3 ฉบับมีเนื้อหาคล้ายกันว่ากระบวน
การ "เอาแต่ใจ" แบบนี้กำลังบั่นทอนประชาธิปไตย
มุมมองสื่อฝรั่งดังกล่าวอาจถูกโจมตีอีกว่าถูกซื้อผ่านระบบล็อบบี้ยิสต์
แต่สิ่งที่แก้ต่างหรือแก้ตัวไม่ได้เลยก็คือ ฝ่ายค้านตัดสินใจพลาดตั้งแต่ต้นวิกฤตจนถึงปัจจุบัน
ไม่แสดงให้เห็นว่าศรัทธาต่อสถานะ "ฝ่ายค้าน" ที่มีความสำคัญต่อระบอบประชาธิปไตย
แม้แกนนำพรรคฝ่ายค้านยืนยันว่าไม่ได้กลัวแพ้การเลือกตั้ง หลังจากแพ้มาตลอด 20 ปี
แต่ในจังหวะที่พรรครัฐบาลเพลี่ยงพล้ำในการผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย และโครงการ
จำนำข้าวมีปัญหาและจุดอ่อนในระบบเศรษฐกิจ ฝ่ายค้านมีโอกาสช่วงชิงเสียงสนับสนุนจากประชาชน
ที่ไม่พอใจรัฐบาลจนอาจทำให้ชนะการเลือกตั้งอย่างสง่างาม
แต่กลับวิ่งออกไปต่อสู้นอกเส้นทางรัฐสภา
ขณะที่คนในพรรคบางส่วนไปก่อขบวนการโค่นอำนาจ นำเสนอวิธีการเอาชนะแบบเบ็ดเสร็จ ตัดขาด
จากกระบวนการประชาธิปไตย
ตามมาด้วยรณรงค์ว่า คนไม่ช่วยปิดเมืองหลวงและคนไปเลือกตั้งคือคน ไม่รักชาติ ??
ในขณะที่การเผชิญหน้าทางการเมืองส่ง ผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ ความน่าเชื่อถือ กระทบต่อ
การลงทุนและการท่องเที่ยว
ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งเป็นผลเสียต่อประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชน
คนที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่ได้เปรียบ ย่อมไม่กระทบกระเทือน ไม่รู้สึกถึงความเดือดร้อน
เท่ากับคนหาเช้ากินค่ำ
จึงเพิกเฉยต่อความพยายามหาทางออกใน ทุกครั้ง รวมถึงการเลือกตั้งที่ดำเนินตามกติกา แต่จะให้
เป็นโมฆะ
การตัดสินใจผิดพลาดทั้งหมดนี้ทำให้ประเทศไทยต้องเสียหายและถูกรังเกียจในประชาคมโลก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1UWXhNamMzTlE9PQ==§ionid=
เห็นรูปแล้ว ที่บอกว่า ไม่เกี่ยวข้องกับ กปปส. น่าเชื่อถือสักแค่ไหน
ขึ้นเวที กปปส. ชูมือ เป่านกหวีดร่วมกัน บอยคอตการเลือกตั้ง
ใครนำใคร บางที่ก็ตัดสินลำบาก แต่ว่าไปด้วยกันแน่ๆ