'ปู'อ้างยุบสภา!ทำจำนำข้าวเหลว เหตุต้องทำภายใต้ข้อจำกัดรัฐบาลรักษาการ วอนทุกฝ่ายช่วยชาวนารับหากเป็นรัฐบาลพร้อมทบทวนโครงการ
เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 5 ก.พ.2557 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ปัญหาโครงการรับจำข้าวที่บริษัทของประเทศจีนยกเลิกสัญญาการซื้อขาย รวมถึงการเคลื่อนไหวของชาวนาว่า วันนี้ในส่วนของกระทรวงที่เกี่ยวข้องพยายามทุกอย่าง และเป็นที่ทราบดีว่าขั้นตอนต่างๆ ที่เราจะทำธุรกรรม ที่ผูกพันกับรัฐบาลชุดต่อไป ก็คงจะยังทำไม่ได้ ฉะนั้นก็ยังจะมีข้อจำกัดอยู่ เราจึงต้องทำภายใต้ข้อจำกัดนี้ รวมถึงการที่เราจะดำเนินการใดๆ ก็ต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและต้องใช้เวลา ซึ่งอาจจะต่างกับเมื่อก่อน ที่ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ แต่ก็หวังว่าทุกหน่วยงานจะให้ความเห็นใจประชาชน เราก็หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ และเห็นใจชาวนาเพราะชาวนาก็ลำบาก รัฐบาลเองก็อยากดำเนินการให้เต็มที่ จึงให้ทุกหน่วยงาน ทำงานอย่างเต็มที่สุดกำลังความสามารถ
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวนาที่จะเคลื่อนไหวเข้ามาชุมนุมในกทม.อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังเจรจาทำความเข้าใจ เราก็ต้องขอความเห็นใจ เพราะบางอย่างเราไม่สามรถทำได้ทันที เพราะมีขั้นตอนกฎหมายอยู่
เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลหาแหล่งเงินกู้เพื่อนำมาจ่ายให้กับชาวนาได้หรือยัง นายกฯ กล่าวว่า กำลังดำเนินการ อย่างที่เรียนว่าเราต้องขอเวลาที่จะทำงาน ให้ไปถามนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง โดยรายละเอียดให้รมว.คลัง เป็นผู้ตอบ
เมื่อถามว่าแต่ขณะนี้รมว.คลัง หายตัวไป น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ไม่หายคะ ให้ไปตามหาที่กระทรวง”
เมื่อถามว่าขณะนี้กลุ่มกปปส.โจมตีเรื่องจำนำข้าวบ่อยครั้ง นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่เรียนว่า ส่วนของการพูดในเรื่องโครงการขั้นตอนต่างๆ ป.ป.ช. ก็ตรวจสอบอยู่ ขอให้เป็นขั้นตอนของป.ป.ช. ส่วนการช่วยเหลือชาวนานั้นเป็นอีกส่วนหนึ่ง ที่อยากให้ความเห็นใจเพราะถ้าทุกอย่างหยุดชะงักลงทั้งมหด และไม่มีเงินจ่ายให้กับชาวนา และชาวนาจะทำอย่างไร เพราะในเมื่อข้าวก็อยู่ในโกดังแล้ว ส่วนนี้จึงเป็นสิ่งที่เราต้องดูแล เพราะเกษตรกรต้องมีรายได้ มีค่าใช้จ่าย เพราะถ้าไม่ได้เงินจากโครงการชาวนา ต้องเดือดร้อนและเป็นหนี้เป็นสิน ต้องขอความเห็นใจ
เมื่อถามว่าโครงการรับจำนำถือว่าล้มเหลวหรือไม่ เพราะรัฐบาลหาเงินมาจ่ายให้ชาวนาล่าช้า นายกฯ กล่าวว่า เป็นผลมาจากการยุบสภา เนื่องจากทำให้ข้อกฎหมายต่างๆ ดำเนินการล่าช้า
เมื่อถามว่าถ้ามีโอกาสตั้งรัฐบาลในสมัยหน้า จะเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่ ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทยก็ต้องมีการพิจารณาทบทวนก่อน เราต้องเรียนว่า อะไรที่ประชาชนมีข้อติติง เราปรับได้เราก็ยินดี และเราก็พยายามที่จะรักษา วินัยการเงินการคลัง และกติกาอยู่ ทั้งนี้เราเองยังไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลชุดใหม่ก็ยังพูดไม่ได้ในตอนนี้
ยันเลือกตั้งทำตามรัฐธรรมนูญ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. เป็นโมฆะ ว่า เราทำตามขั้นตอนขอกฎหมาย และทำตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว และเราไม่ได้มีเจตนาตามที่ประชาธิปัตย์กล่าวหา ซึ่งต้องให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการไปตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ประกาศว่าเมื่อเลือกตั้งเสร็จ และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ไม่มีนายกฯ ก็จะถือว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะอยู่รักษาการต่อไป น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราพูดกันหลายครั้ง และจริงแล้วตนมีหน้าที่ ทำงานรักษาตำแหน่งนี้ ภายใต้ข้อกฎหมายของรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ที่มีหน้าที่จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา ซึ่งในส่วนนี้ทางกกต. ก็ได้เร่งจัดการเลือกตั้ง ให้มีจำนวนส.ส. ให้ครบ ฉะนั้นเราก็ต้องทำหน้าที่นี้ต่อไป เพราะถือว่าเป็นการทำหน้าที่โดยตรงตามกฎหมายที่เราต้องปฏิบัติ เพราะถ้าไม่ปฏิบัติก็จะถือว่าเราละเว้นหน้าที่
ต่อข้อถามที่ว่าห่วงหรือไม่ว่าจะเกิดสูญญากาศทางการเมือง นายกฯ กล่าวว่า ในแง่ของข้อกฎหมายไม่ได้ทำให้เกิดสูญญากาศ เพราะในแง่ข้อกฎหมาย ทำให้มีทางออกเช่น ข้อกฎหมายในการเลือกตั้ง ที่ระบุว่าถ้าได้ส.ส.ไม่ครบก็จะมีทางออกในแต่ละขั้นตอน ถ้าเราค่อยๆแก้ตามขั้นตอน ก็จะสามารถดำเนินไปได้ แต่ช่วงนี้อาจจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นต่างจากทุกๆครั้ง เนื่องจากพ้นจากการเลือกตั้งแล้ว จะต้องรอ เพราะจำนวนส.ส.ยังไม่ครบ ซึ่งจะต้องรอฟังกกต. ที่จะประชุมในวันพรุ่งนี้(6ก.พ.) ซึ่งเราหวังว่ากกต.จะมีความชัดเจน มีข้อแนะนำ และทางออก
ธ.ก.ส.ยืดหนี้เกษตรกรจำนำข้าว
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่เกษตรกรนำใบประทวนสินค้ามาติดต่อขอรับเงินตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 กับ ธ.ก.ส. ตามเงื่อนไขที่รัฐบาลโดยคณะกรรมการนโยบายข้าว แห่งชาติ (กขช.) กำหนด แต่รัฐบาลยังไม่สามารถจัดสรรเงินมาให้ ธ.ก.ส. เพื่อจ่ายให้แก่เกษตรกรจนครบถ้วน นั้น
เขากล่าวว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและความกังวลใจของเกษตรกร เกี่ยวกับภาระหนี้สินที่มีอยู่ ธ.ก.ส. จึงได้กำหนดมาตรการยืดเวลาชำระหนี้ดังกล่าวออกไปเป็นเวลา 6 เดือน และในกรณีที่เกษตรกรมีความประสงค์จะใช้เงินเพื่อนำไปลงทุนทำการผลิตในฤดูกาลใหม่ ธ.ก.ส. พร้อมให้เงินกู้ก้อนใหม่ ตามหลักเกณฑ์สินเชื่อปกติของ ธ.ก.ส. ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรเป็นการเฉพาะหน้า และลดปัญหาการไปพึ่งพาเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยในอัตราสูงและเป็นภาระหนัก ถือเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งให้กับพี่น้องเกษตรกร โดยสามารถติดต่อที่ ธ.ก.ส.ใกล้บ้านทุกสาขา ส่วนเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้สถาบันเกษตรกร เช่น สหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส.จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือผ่านระบบของสหกรณ์นั้นๆ ต่อไป
สำหรับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 ธ.ก.ส. ได้ทยอยจ่ายเงินดังกล่าวให้เกษตรกรไปแล้ว 59,518 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณข้าวเปลือกจำนวน 3.7 ล้านตัน โดยเงินที่จ่ายไปแล้วดังกล่าวเป็นเงินจากงบประมาณ และเงินจากการระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ส่งมาชำระคืน โดยไม่ใช้เงินทุน ธ.ก.ส. นายลักษณ์กล่าว
เอกชนชี้'เป่ย ต้าหวง'เลิกสัญญาผวาเจอจับผิด
นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การที่บริษัทเป่ยต้าหวง ยกเลิกซื้อข้าว 1.2 ล้านตัน กับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มองว่ากรณีดังกล่าวไม่ใช่การซื้อขายจีทูจีอยู่แล้ว เพราะตนได้สอบถามไปยังคอฟโกและมีหนังสือยืนยันจากคอฟโกว่า การนำเข้าข้าวของรัฐบาลจีนทั้งหมดจะต้องผ่านคอฟโกเท่านั้น เพราะจีนมีโควตานำเข้าข้าวที่กำหนดไว้แต่ละปี ซึ่งผูกพันไว้กับองค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) ดังนั้นการขายข้าวจีทูจีให้กับบริษัทดังกล่าว จึงเป็นไปไม่ได้แต่แรกอยู่แล้ว
ร.ต.ท. เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า โควตานำเข้าข้าวของจีนแต่ละปีจะจัดสรรตามประวัติการนำเข้าข้าวของแต่ละบริษัท จากปริมาณที่ผูกพันไว้ 5.5 ล้านตัน เป็นข้าวเมล็ดสั้นครึ่งหนึ่งที่เหลือเป็นข้าวเมล็ดยาวแบบที่ไทยส่งออก ซึ่งโควตา ประมาณ2.5 ล้านตันแต่ละปีก็จะจัดสรรให้รายบริษัท เพื่อให้นำเข้าได้ในอัตราภาษี 1% แต่หากเกินจากนี้ ก็จะต้องเสียภาษี 65% โดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวได้รับสิทธิจากการลงนามเอ็มโอยูกับคอฟโก เมื่อครั้งนายกรัฐมนตรีจีนเยือนไทย ปริมาณ 1 ล้านตัน นาน 5 ปี ว่าไทยจะมีโควตา ที่เพิ่มพิเศษกว่าประเทศอื่น ปีละ 2 แสนตัน (ออนท๊อป) ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทางการค้าที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่การผูกพันว่าจีนต้องซื้อจากไทยในปริมาณดังกล่าว
ทั้งนี้ สถิติที่จีนนำเข้าข้าวจากไทยเฉลี่ยปีละไม่กี่แสนตัน แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ระบุว่ามีการขายข้าวให้จีนหลักล้านตัน อาจเป็นข้อมูลที่ต้องตรวจสอบเพราะสถิติการส่งออกจริงฟ้องว่าไทยไม่ได้ขายข้าวให้จีนปริมาณมากอย่างที่รัฐบาลได้กล่าวว่าได้ขายจีทูจีกับจีนไว้ก่อนหน้านี้
แหล่งข่าวจากผู้ส่งออกข้าว กล่าวว่า บริษัท เป่ยต้าหวง เป็นบริษัทขนาดใหญ่ของจีน ที่มีการนำเข้าข้าวในแต่ละปีจำนวนมาก แต่ในทางปฎิบัติกรณีการซื้อข้าวจากไทยมีข้อสังเกตว่า บริษัทดังกล่าวได้โควตานำเข้าข้าวที่เป็นข้าวเมล็ดสั้น ซึ่งเป็นคนละชนิดกับข้าวของไทย ดังไม่น่าจะมีการซื้อขายได้จริง นอกจากนี้ การจะซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ยังเป็นข้อถกเถียงว่าต้องผ่านคอฟโกหรือไม่ เพราะขณะนี้คอฟโกได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน แต่มีรัฐบาลถือหุ้น 100% มีความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น
ที่มา
http://www.komchadluek.net/detail/20140205/178330.html#.UvLk6vl_tRY
'ปู'อ้างยุบสภา!ทำจำนำข้าวเหลว (รัฐบาลเคยโทษฝ่ายตนเองบ้างหรือป่าว)
'ปู'อ้างยุบสภา!ทำจำนำข้าวเหลว เหตุต้องทำภายใต้ข้อจำกัดรัฐบาลรักษาการ วอนทุกฝ่ายช่วยชาวนารับหากเป็นรัฐบาลพร้อมทบทวนโครงการ
เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 5 ก.พ.2557 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ปัญหาโครงการรับจำข้าวที่บริษัทของประเทศจีนยกเลิกสัญญาการซื้อขาย รวมถึงการเคลื่อนไหวของชาวนาว่า วันนี้ในส่วนของกระทรวงที่เกี่ยวข้องพยายามทุกอย่าง และเป็นที่ทราบดีว่าขั้นตอนต่างๆ ที่เราจะทำธุรกรรม ที่ผูกพันกับรัฐบาลชุดต่อไป ก็คงจะยังทำไม่ได้ ฉะนั้นก็ยังจะมีข้อจำกัดอยู่ เราจึงต้องทำภายใต้ข้อจำกัดนี้ รวมถึงการที่เราจะดำเนินการใดๆ ก็ต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและต้องใช้เวลา ซึ่งอาจจะต่างกับเมื่อก่อน ที่ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ แต่ก็หวังว่าทุกหน่วยงานจะให้ความเห็นใจประชาชน เราก็หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ และเห็นใจชาวนาเพราะชาวนาก็ลำบาก รัฐบาลเองก็อยากดำเนินการให้เต็มที่ จึงให้ทุกหน่วยงาน ทำงานอย่างเต็มที่สุดกำลังความสามารถ
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวนาที่จะเคลื่อนไหวเข้ามาชุมนุมในกทม.อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังเจรจาทำความเข้าใจ เราก็ต้องขอความเห็นใจ เพราะบางอย่างเราไม่สามรถทำได้ทันที เพราะมีขั้นตอนกฎหมายอยู่
เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลหาแหล่งเงินกู้เพื่อนำมาจ่ายให้กับชาวนาได้หรือยัง นายกฯ กล่าวว่า กำลังดำเนินการ อย่างที่เรียนว่าเราต้องขอเวลาที่จะทำงาน ให้ไปถามนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง โดยรายละเอียดให้รมว.คลัง เป็นผู้ตอบ
เมื่อถามว่าแต่ขณะนี้รมว.คลัง หายตัวไป น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ไม่หายคะ ให้ไปตามหาที่กระทรวง”
เมื่อถามว่าขณะนี้กลุ่มกปปส.โจมตีเรื่องจำนำข้าวบ่อยครั้ง นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่เรียนว่า ส่วนของการพูดในเรื่องโครงการขั้นตอนต่างๆ ป.ป.ช. ก็ตรวจสอบอยู่ ขอให้เป็นขั้นตอนของป.ป.ช. ส่วนการช่วยเหลือชาวนานั้นเป็นอีกส่วนหนึ่ง ที่อยากให้ความเห็นใจเพราะถ้าทุกอย่างหยุดชะงักลงทั้งมหด และไม่มีเงินจ่ายให้กับชาวนา และชาวนาจะทำอย่างไร เพราะในเมื่อข้าวก็อยู่ในโกดังแล้ว ส่วนนี้จึงเป็นสิ่งที่เราต้องดูแล เพราะเกษตรกรต้องมีรายได้ มีค่าใช้จ่าย เพราะถ้าไม่ได้เงินจากโครงการชาวนา ต้องเดือดร้อนและเป็นหนี้เป็นสิน ต้องขอความเห็นใจ
เมื่อถามว่าโครงการรับจำนำถือว่าล้มเหลวหรือไม่ เพราะรัฐบาลหาเงินมาจ่ายให้ชาวนาล่าช้า นายกฯ กล่าวว่า เป็นผลมาจากการยุบสภา เนื่องจากทำให้ข้อกฎหมายต่างๆ ดำเนินการล่าช้า
เมื่อถามว่าถ้ามีโอกาสตั้งรัฐบาลในสมัยหน้า จะเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่ ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทยก็ต้องมีการพิจารณาทบทวนก่อน เราต้องเรียนว่า อะไรที่ประชาชนมีข้อติติง เราปรับได้เราก็ยินดี และเราก็พยายามที่จะรักษา วินัยการเงินการคลัง และกติกาอยู่ ทั้งนี้เราเองยังไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลชุดใหม่ก็ยังพูดไม่ได้ในตอนนี้
ยันเลือกตั้งทำตามรัฐธรรมนูญ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. เป็นโมฆะ ว่า เราทำตามขั้นตอนขอกฎหมาย และทำตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว และเราไม่ได้มีเจตนาตามที่ประชาธิปัตย์กล่าวหา ซึ่งต้องให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการไปตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ประกาศว่าเมื่อเลือกตั้งเสร็จ และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ไม่มีนายกฯ ก็จะถือว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะอยู่รักษาการต่อไป น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราพูดกันหลายครั้ง และจริงแล้วตนมีหน้าที่ ทำงานรักษาตำแหน่งนี้ ภายใต้ข้อกฎหมายของรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ที่มีหน้าที่จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา ซึ่งในส่วนนี้ทางกกต. ก็ได้เร่งจัดการเลือกตั้ง ให้มีจำนวนส.ส. ให้ครบ ฉะนั้นเราก็ต้องทำหน้าที่นี้ต่อไป เพราะถือว่าเป็นการทำหน้าที่โดยตรงตามกฎหมายที่เราต้องปฏิบัติ เพราะถ้าไม่ปฏิบัติก็จะถือว่าเราละเว้นหน้าที่
ต่อข้อถามที่ว่าห่วงหรือไม่ว่าจะเกิดสูญญากาศทางการเมือง นายกฯ กล่าวว่า ในแง่ของข้อกฎหมายไม่ได้ทำให้เกิดสูญญากาศ เพราะในแง่ข้อกฎหมาย ทำให้มีทางออกเช่น ข้อกฎหมายในการเลือกตั้ง ที่ระบุว่าถ้าได้ส.ส.ไม่ครบก็จะมีทางออกในแต่ละขั้นตอน ถ้าเราค่อยๆแก้ตามขั้นตอน ก็จะสามารถดำเนินไปได้ แต่ช่วงนี้อาจจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นต่างจากทุกๆครั้ง เนื่องจากพ้นจากการเลือกตั้งแล้ว จะต้องรอ เพราะจำนวนส.ส.ยังไม่ครบ ซึ่งจะต้องรอฟังกกต. ที่จะประชุมในวันพรุ่งนี้(6ก.พ.) ซึ่งเราหวังว่ากกต.จะมีความชัดเจน มีข้อแนะนำ และทางออก
ธ.ก.ส.ยืดหนี้เกษตรกรจำนำข้าว
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่เกษตรกรนำใบประทวนสินค้ามาติดต่อขอรับเงินตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 กับ ธ.ก.ส. ตามเงื่อนไขที่รัฐบาลโดยคณะกรรมการนโยบายข้าว แห่งชาติ (กขช.) กำหนด แต่รัฐบาลยังไม่สามารถจัดสรรเงินมาให้ ธ.ก.ส. เพื่อจ่ายให้แก่เกษตรกรจนครบถ้วน นั้น
เขากล่าวว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและความกังวลใจของเกษตรกร เกี่ยวกับภาระหนี้สินที่มีอยู่ ธ.ก.ส. จึงได้กำหนดมาตรการยืดเวลาชำระหนี้ดังกล่าวออกไปเป็นเวลา 6 เดือน และในกรณีที่เกษตรกรมีความประสงค์จะใช้เงินเพื่อนำไปลงทุนทำการผลิตในฤดูกาลใหม่ ธ.ก.ส. พร้อมให้เงินกู้ก้อนใหม่ ตามหลักเกณฑ์สินเชื่อปกติของ ธ.ก.ส. ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรเป็นการเฉพาะหน้า และลดปัญหาการไปพึ่งพาเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยในอัตราสูงและเป็นภาระหนัก ถือเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งให้กับพี่น้องเกษตรกร โดยสามารถติดต่อที่ ธ.ก.ส.ใกล้บ้านทุกสาขา ส่วนเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้สถาบันเกษตรกร เช่น สหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส.จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือผ่านระบบของสหกรณ์นั้นๆ ต่อไป
สำหรับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 ธ.ก.ส. ได้ทยอยจ่ายเงินดังกล่าวให้เกษตรกรไปแล้ว 59,518 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณข้าวเปลือกจำนวน 3.7 ล้านตัน โดยเงินที่จ่ายไปแล้วดังกล่าวเป็นเงินจากงบประมาณ และเงินจากการระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ส่งมาชำระคืน โดยไม่ใช้เงินทุน ธ.ก.ส. นายลักษณ์กล่าว
เอกชนชี้'เป่ย ต้าหวง'เลิกสัญญาผวาเจอจับผิด
นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การที่บริษัทเป่ยต้าหวง ยกเลิกซื้อข้าว 1.2 ล้านตัน กับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มองว่ากรณีดังกล่าวไม่ใช่การซื้อขายจีทูจีอยู่แล้ว เพราะตนได้สอบถามไปยังคอฟโกและมีหนังสือยืนยันจากคอฟโกว่า การนำเข้าข้าวของรัฐบาลจีนทั้งหมดจะต้องผ่านคอฟโกเท่านั้น เพราะจีนมีโควตานำเข้าข้าวที่กำหนดไว้แต่ละปี ซึ่งผูกพันไว้กับองค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) ดังนั้นการขายข้าวจีทูจีให้กับบริษัทดังกล่าว จึงเป็นไปไม่ได้แต่แรกอยู่แล้ว
ร.ต.ท. เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า โควตานำเข้าข้าวของจีนแต่ละปีจะจัดสรรตามประวัติการนำเข้าข้าวของแต่ละบริษัท จากปริมาณที่ผูกพันไว้ 5.5 ล้านตัน เป็นข้าวเมล็ดสั้นครึ่งหนึ่งที่เหลือเป็นข้าวเมล็ดยาวแบบที่ไทยส่งออก ซึ่งโควตา ประมาณ2.5 ล้านตันแต่ละปีก็จะจัดสรรให้รายบริษัท เพื่อให้นำเข้าได้ในอัตราภาษี 1% แต่หากเกินจากนี้ ก็จะต้องเสียภาษี 65% โดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวได้รับสิทธิจากการลงนามเอ็มโอยูกับคอฟโก เมื่อครั้งนายกรัฐมนตรีจีนเยือนไทย ปริมาณ 1 ล้านตัน นาน 5 ปี ว่าไทยจะมีโควตา ที่เพิ่มพิเศษกว่าประเทศอื่น ปีละ 2 แสนตัน (ออนท๊อป) ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทางการค้าที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่การผูกพันว่าจีนต้องซื้อจากไทยในปริมาณดังกล่าว
ทั้งนี้ สถิติที่จีนนำเข้าข้าวจากไทยเฉลี่ยปีละไม่กี่แสนตัน แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ระบุว่ามีการขายข้าวให้จีนหลักล้านตัน อาจเป็นข้อมูลที่ต้องตรวจสอบเพราะสถิติการส่งออกจริงฟ้องว่าไทยไม่ได้ขายข้าวให้จีนปริมาณมากอย่างที่รัฐบาลได้กล่าวว่าได้ขายจีทูจีกับจีนไว้ก่อนหน้านี้
แหล่งข่าวจากผู้ส่งออกข้าว กล่าวว่า บริษัท เป่ยต้าหวง เป็นบริษัทขนาดใหญ่ของจีน ที่มีการนำเข้าข้าวในแต่ละปีจำนวนมาก แต่ในทางปฎิบัติกรณีการซื้อข้าวจากไทยมีข้อสังเกตว่า บริษัทดังกล่าวได้โควตานำเข้าข้าวที่เป็นข้าวเมล็ดสั้น ซึ่งเป็นคนละชนิดกับข้าวของไทย ดังไม่น่าจะมีการซื้อขายได้จริง นอกจากนี้ การจะซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ยังเป็นข้อถกเถียงว่าต้องผ่านคอฟโกหรือไม่ เพราะขณะนี้คอฟโกได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน แต่มีรัฐบาลถือหุ้น 100% มีความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น
ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20140205/178330.html#.UvLk6vl_tRY