คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ผมว่า ผ่อนรถที่ราคาถูกลง (ไม่จำเป็นต้องคันละ เจ็ดแสน)
คุณจะภาระเบากว่านี้ และมีเงินเหลือลงทุนพัฒนาต่อยอดมากกว่านี้ครับ
ถ้าขืนเป็นแบบที่คุณเล่ามา คือ คุณไม่ต้องพัฒนาฐานะให้ร่ำรวยขึ้นเลย เพราะเงินไปจมอยู่กับรถหมด
แต่ถ้าคุณเลือกรถเล็กหน่อย แล้วผ่อนน้อยลง คุณจะเหลือเงินเก็บ เอาไปต่อยอดได้
การงานเดี๋ยวนี้แข่งกันเยอะครับ ไม่อยากให้คาดหวังการปรับฐานเงินเดือนในบริษัทมากนัก
คุณจะภาระเบากว่านี้ และมีเงินเหลือลงทุนพัฒนาต่อยอดมากกว่านี้ครับ
ถ้าขืนเป็นแบบที่คุณเล่ามา คือ คุณไม่ต้องพัฒนาฐานะให้ร่ำรวยขึ้นเลย เพราะเงินไปจมอยู่กับรถหมด
แต่ถ้าคุณเลือกรถเล็กหน่อย แล้วผ่อนน้อยลง คุณจะเหลือเงินเก็บ เอาไปต่อยอดได้
การงานเดี๋ยวนี้แข่งกันเยอะครับ ไม่อยากให้คาดหวังการปรับฐานเงินเดือนในบริษัทมากนัก
แสดงความคิดเห็น
ผมจะรับผิดชอบผ่อนรถไหวไหมครับ
ผมตัดสินในทำงานกับบริษัทนี้เพราะได้เป็นพนักงานตัวจริง ไม่ใช่ outsource สวัสดิการก็โอเคคับ มีค่ารักษาพยาบาล โบนัสประจำปี อื่นๆอีกแต่ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้เริ่มเทรน หลังจากได้งาน พ่อกะแม่เลยวางแผนจะซื้อรถให้ผม แต่แค่ดาวน์ให้เท่านั้น ไม่ได้ซื้อให้ทั้งหมด ท่านดาวน์ให้ผม 300,000 ราคารถคือ 704,000 บาท ผมเลือกที่ 5 ปี เพราะไม่ต้องจ่ายมาก คนขายคำนวนให้ผมต้องจ่ายประมาณ 7,691 ต่อเดือน หมายความว่าจะเหลือเงินใช้ประมาณ 8,309 บาท ซึ่งผมต้องจ่ายค่าเน็ทกะโทรศัพท์รวมกันราวๆ 1500 บาท ผมจะเหลือ 6,809 บาท ค่าน้ำมันรถไปกลับทำงานราวๆ 2000 ต่อเดือน เท่ากับผมเหลือ 4,809 บาท ยังไม่รวมค่ากินในเดือนนั้น ไม่รุ้ว่าจะเหลือพอไหม ซึ่งผมวางแผนว่าจะหักฝากเดือนละ 2000 บาท ซึ่งคงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
งี้ผมควรจะซื้อรถดีไหมคับ?
เหตุผลที่ต้องซื้อคือ
1. งานผมต้องเข้างานเป็นกะ เวลาเลิกงานกำหนดไม่ได้
2. หากฝนตกวันไหนขึ้นมา ผมก็ไม่รุ้จะไปทำงานอย่างไร ไม่ให้ตัวเองไม่เปียก
3. เพื่อนๆที่ทำงานมีรถใช้กันหมดแล้ว ผมไม่อาจจะติดรถเค้าไปไหนมาไหนได้
เป็นปัญหาที่กวนใจผมอยุ่ทุกคืน บางคืนถึงกับนอนไม่หลับ ไม่อยากมีภาระถึง 5 ปี บริษัทที่ขายรถก็โทรมาถามว่าจะรับรถเมื่อไหร่ ผมไม่รุ้จะทำยังไงดีคับ
ปฏิเสธไม่เอาตอนนี้จะทันไหม ใครที่ผ่อนรถอยู่ช่วยแนะนำทีครับ