มีแต่แพ้กับแพ้ หมัดเหล็ก
การเลือกตั้ง ก่อนที่จะมี คณะกรรมการการเลือกตั้ง ไม่ค่อยวุ่นวายและการแข่งขัน ไม่ดุเดือดเหมือนในยุคที่
มี กกต. อาจจะเป็นเพราะมีกฎเกณฑ์กติกามากขึ้น ทำให้ผู้สมัครเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แม้แต่
ในกรณีการหาเสียงที่มีระเบียบหยุมหยิม เปิดช่องให้มีการร้องเรียนเยอะไปหมด
แต่ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง
ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละเขตก็ได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ ส.ส. ไม่ต้องรอร้อยละ 95 ส่วนผู้สมัค
คนไหนมีการทุจริตการเลือกตั้ง ก็ส่งฟ้องศาลอาญา ม้วนเดียวจบ เป็นธรรมกับทุกฝ่าย การเมืองในอดีตไม่
ค่อยมีปัญหาด้าน นิติบัญญัติ และไม่กระทบไปถึงฝ่ายบริหาร ประเทศก็เดินหน้าไปได้ไม่สะดุด
วันนี้การเลือกตั้งเลือด ที่คาราคาซัง มีการสรุปตัวเลขการลงคะแนนทั่วประเทศจากทั้งหมด 93,952 หน่วย
เลือกตั้ง เปิดลงคะแนนได้ 83,669 หน่วย ปิดไป 10,283 หน่วย มีการประกาศงดการลงคะแนน 18 จังหวัด
มี 9 จังหวัดที่งดลงคะแนนทั้งจังหวัด 31 เขต ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ อีก 9 จังหวัด งดลงคะแนนบาง
ส่วนมีทั้งสิ้น 30 เขต รวมทั้งใน กทม.ด้วย จังหวัดที่มีการเลือกตั้งโดยไม่มีปัญหา 59 จังหวัด 308 เขต จาก
77 จังหวัด 375 เขตเลือกตั้ง
กกต.ฝ่ายกิจการบริหารงานเลือกตั้ง สมชัย ศรีสุทธิยากร ให้สัมภาษณ์ว่า เขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัครเลย 28
เขต เปิดลงคะแนนไม่ได้ 53 เขต รวมแล้วร้อยละ 21 ของเขตเลือกตั้งทั้งหมด คาดว่าผู้มีสิทธิประมาณ 12
ล้านคน ที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 48 ล้านคน
ปัญหาคือจะทำอย่างไรกับเรื่องเหล่านี้
ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งก็ทำไม่ได้ เพราะต้องรอนำคะแนนหน่วยเลือกตั้งที่มีการลงคะแนนบวกกับ
คะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า คะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และคะแนนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่มารวมกันจึง
จะประกาศได้
ขืนประกาศผลคะแนนไปก่อน จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้ เนื่องจากเกิดความไม่เป็นธรรมขึ้น นอกจาก
นี้ ผู้ที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิในการลงคะแนนเลือกตั้งในครั้งนี้ได้ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม รวมทั้งสาเหตุ
จากการชุมนุม ให้ทำหนังสือแจงนายทะเบียนสำนักงานเขตหรืออำเภอเพื่อรักษาสิทธิเอาไว้
หน่วยเลือกตั้งใดที่จัดการเลือกตั้งไม่ได้เลย หรือ ต้องยุติการลงคะแนน ต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด
ประชาชนสามารถที่จะไปลงคะแนนเพื่อรักษาสิทธิทางการเมืองได้อีก รวมทั้งคนที่ไปลงเลือกตั้งไว้แล้วก็ต้อง
ไปลงเลือกตั้งใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ประเด็นที่ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้โอกาสที่จะ โมฆะเป็นไปได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่มีผู้
ไปร้องเรียนให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ซึ่งก็ต้องมี พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่กันทั้งประเทศ
ที่ กปปส.อาจจะกล้าประกาศว่านี่คือชัยชนะ ที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สำเร็จ แต่คนแพ้ไม่ใช่รัฐบาล หรือ กกต.
คนแพ้ในที่นี่ จะต้องรวมเอาประเทศไทย คนไทย รวมทั้งผู้ที่ชุมนุมประท้วงขัดขวางการเลือกตั้ง ต่างก็เป็น
ผู้แพ้.
หมัดเหล็ก
http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/401196
ยกแรก! บนความสำเร็จ กปปส ข่าว ไทยรัฐออนไลน์
ตลอดเวลา 3 เดือน ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. เริ่มใช้ระยะทางเดินเท้า หาแนวร่วมต่อต้าน
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนถึงวันนี้ เขาเดินไปแล้วทั้งสิ้น 205.3 กิโลเมตร รวม 21 ครั้ง ไม่นับรวมวันที่ 3
ก.พ. ที่เดินเท้าไปรับแกนนำ กปปส. พร้อมมวลชนจากเวทีห้าแยกลาดพร้าวและเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เพื่อยุบไปรวมกับเวทีสวนลุมพินี...
http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/401196
ชัยชนะของ กปปส.ต้องตามไปอ่านกันเต็มๆ จาก link
อ่านข่าวนี้ แล้วดูเหมือนวันนี้ ไทยรัฐ จะสวมวิญญาน แนวหน้า ไทยโพสต์ มาเขียนข่าวนี้
หากจับกระแสไทยรัฐ ดูเหมือน วันนี้ ม็อบเป็นต่อ แม้แตการยุบเวที ก็เป็นชัยชนะ
ม็อบประกาศ เลือกตั้งต้องไม่เกิด แต่เลือกตั้งก็เกิดได้ ก็เป็นชัยชนะ เพราะแค่ยังไม่สำเร็จ 100%
นี่เป็นการ โฆษณา ชวนเชื่อให้ม็อบ ใช่ป่าว ????
เอาเถอะค่ะ เอาช่าวนี้ มาให้ กองเชียร์ กปปส.แบบ คุณอดีตหัวหน้าเผ่า คุณตระการฟ้า ตระกองขวัญ
และมิตรสหาย ..... อ่านแล้ว ชื่นใจดี
แต่อย่าลืม อ่านแล้วคิด ในคอลัมน์ หมัดเหล็ก ด้วยก็แล้วกันนะ 
มีแต่แพ้กับแพ้ หมัดเหล็ก vs กกปส. ประกาศชัยชนะ ไทยรัฐออนไลน์
การเลือกตั้ง ก่อนที่จะมี คณะกรรมการการเลือกตั้ง ไม่ค่อยวุ่นวายและการแข่งขัน ไม่ดุเดือดเหมือนในยุคที่
มี กกต. อาจจะเป็นเพราะมีกฎเกณฑ์กติกามากขึ้น ทำให้ผู้สมัครเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แม้แต่
ในกรณีการหาเสียงที่มีระเบียบหยุมหยิม เปิดช่องให้มีการร้องเรียนเยอะไปหมด
แต่ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง
ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละเขตก็ได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ ส.ส. ไม่ต้องรอร้อยละ 95 ส่วนผู้สมัค
คนไหนมีการทุจริตการเลือกตั้ง ก็ส่งฟ้องศาลอาญา ม้วนเดียวจบ เป็นธรรมกับทุกฝ่าย การเมืองในอดีตไม่
ค่อยมีปัญหาด้าน นิติบัญญัติ และไม่กระทบไปถึงฝ่ายบริหาร ประเทศก็เดินหน้าไปได้ไม่สะดุด
วันนี้การเลือกตั้งเลือด ที่คาราคาซัง มีการสรุปตัวเลขการลงคะแนนทั่วประเทศจากทั้งหมด 93,952 หน่วย
เลือกตั้ง เปิดลงคะแนนได้ 83,669 หน่วย ปิดไป 10,283 หน่วย มีการประกาศงดการลงคะแนน 18 จังหวัด
มี 9 จังหวัดที่งดลงคะแนนทั้งจังหวัด 31 เขต ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ อีก 9 จังหวัด งดลงคะแนนบาง
ส่วนมีทั้งสิ้น 30 เขต รวมทั้งใน กทม.ด้วย จังหวัดที่มีการเลือกตั้งโดยไม่มีปัญหา 59 จังหวัด 308 เขต จาก
77 จังหวัด 375 เขตเลือกตั้ง
กกต.ฝ่ายกิจการบริหารงานเลือกตั้ง สมชัย ศรีสุทธิยากร ให้สัมภาษณ์ว่า เขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัครเลย 28
เขต เปิดลงคะแนนไม่ได้ 53 เขต รวมแล้วร้อยละ 21 ของเขตเลือกตั้งทั้งหมด คาดว่าผู้มีสิทธิประมาณ 12
ล้านคน ที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 48 ล้านคน
ปัญหาคือจะทำอย่างไรกับเรื่องเหล่านี้
ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งก็ทำไม่ได้ เพราะต้องรอนำคะแนนหน่วยเลือกตั้งที่มีการลงคะแนนบวกกับ
คะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า คะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และคะแนนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่มารวมกันจึง
จะประกาศได้
ขืนประกาศผลคะแนนไปก่อน จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้ เนื่องจากเกิดความไม่เป็นธรรมขึ้น นอกจาก
นี้ ผู้ที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิในการลงคะแนนเลือกตั้งในครั้งนี้ได้ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม รวมทั้งสาเหตุ
จากการชุมนุม ให้ทำหนังสือแจงนายทะเบียนสำนักงานเขตหรืออำเภอเพื่อรักษาสิทธิเอาไว้
หน่วยเลือกตั้งใดที่จัดการเลือกตั้งไม่ได้เลย หรือ ต้องยุติการลงคะแนน ต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด
ประชาชนสามารถที่จะไปลงคะแนนเพื่อรักษาสิทธิทางการเมืองได้อีก รวมทั้งคนที่ไปลงเลือกตั้งไว้แล้วก็ต้อง
ไปลงเลือกตั้งใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ประเด็นที่ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้โอกาสที่จะ โมฆะเป็นไปได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่มีผู้
ไปร้องเรียนให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ซึ่งก็ต้องมี พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่กันทั้งประเทศ
ที่ กปปส.อาจจะกล้าประกาศว่านี่คือชัยชนะ ที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สำเร็จ แต่คนแพ้ไม่ใช่รัฐบาล หรือ กกต.
คนแพ้ในที่นี่ จะต้องรวมเอาประเทศไทย คนไทย รวมทั้งผู้ที่ชุมนุมประท้วงขัดขวางการเลือกตั้ง ต่างก็เป็น
ผู้แพ้.
หมัดเหล็ก
http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/401196
ยกแรก! บนความสำเร็จ กปปส ข่าว ไทยรัฐออนไลน์
ตลอดเวลา 3 เดือน ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. เริ่มใช้ระยะทางเดินเท้า หาแนวร่วมต่อต้าน
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนถึงวันนี้ เขาเดินไปแล้วทั้งสิ้น 205.3 กิโลเมตร รวม 21 ครั้ง ไม่นับรวมวันที่ 3
ก.พ. ที่เดินเท้าไปรับแกนนำ กปปส. พร้อมมวลชนจากเวทีห้าแยกลาดพร้าวและเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เพื่อยุบไปรวมกับเวทีสวนลุมพินี...
http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/401196
ชัยชนะของ กปปส.ต้องตามไปอ่านกันเต็มๆ จาก link
อ่านข่าวนี้ แล้วดูเหมือนวันนี้ ไทยรัฐ จะสวมวิญญาน แนวหน้า ไทยโพสต์ มาเขียนข่าวนี้
หากจับกระแสไทยรัฐ ดูเหมือน วันนี้ ม็อบเป็นต่อ แม้แตการยุบเวที ก็เป็นชัยชนะ
ม็อบประกาศ เลือกตั้งต้องไม่เกิด แต่เลือกตั้งก็เกิดได้ ก็เป็นชัยชนะ เพราะแค่ยังไม่สำเร็จ 100%
นี่เป็นการ โฆษณา ชวนเชื่อให้ม็อบ ใช่ป่าว ????
เอาเถอะค่ะ เอาช่าวนี้ มาให้ กองเชียร์ กปปส.แบบ คุณอดีตหัวหน้าเผ่า คุณตระการฟ้า ตระกองขวัญ
และมิตรสหาย ..... อ่านแล้ว ชื่นใจดี
แต่อย่าลืม อ่านแล้วคิด ในคอลัมน์ หมัดเหล็ก ด้วยก็แล้วกันนะ