ถลกหนังจำนำข้าว โดยนักวิชาเกินเสื้อแดง ไม่ใช่ สลิ่มแอ๊บ

นี่คือนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ใช้เงินรัฐ ซื้อเสียงชาวนา

ขณะที่ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่หาเสียงโดยใช้วาทกรรมและ เกาะกระแส สร้างภาพ พรรค

เทพ พรรคมาร พรรคคนดี ขณะที่ โยบายเนี่ย คุณอลงกรณ์ เคยบอกว่า คิดนโยบายก่อน

เลือกตั้งไม่เกิน ๓ เดือน โดยดูว่าสังคมมีกระแสยังไง นี่คือการทำงานเหมือนรัฐวิสาหกิจ



ในขณะที่พรรคเพื่อไทย (ตั้งแต่ไทยรักไทย) ทำงานเหมือนบริษัท มีการทำวิจัย ผู้บริโภค

(ประชาชน) ว่าต้องการอะไร อย่างเช่น ๓๐ บาทรักษาทุกโรค จำนำข้าว พรรคเพื่อไทยใช้เงิน

หลวงมาซื้อเสียงประชาชน

ข้อเสียของนโยบายพรรคเพื่อไทย คือ คิดแค่มืติเดียว และต้องใช้เงินรัฐมาก

จริงๆ แล้ว เค้าควรจะรู้ปัญหาของนโยบายตั้งเอง แล้วเตรียมทางแก้

อย่างเรื่องจำนำข้าว เนี่ยถ้าคิดนโยบายให้มีหลายมิติ เค้าควรจะตั้งกองทุน

พัฒนาผลผลิตการเกษตรแห่งชาติขึ้นมา ขนาดอิสราเอล พื้นที่เป็นทะเลทราย

ยังปลูกข้าวได้เลย ถ้าผลผลิตการเกษตรของชาวนาดีขึ้น เราก็ลดราคารับจำนำได้

ปัญหาเกิดขึ้นเพราะคิดแค่มิติเดียว

ส่วนเรื่องการขายข้าว จีทูจี คนซื้อเค้าก็ต้องกดราคาอยู่แล้วเพราะรัฐบาลไทย

ฉะนั้นเนี่ยแทนที่จะ ขายเอาเงิน ทำไม ไม่ใช้ Barter Trade

เอาข้าวแลกสินค้าซิครับ ยกตัวอย่างกับญี่ปุ่น เดาข้าวแลกรถไฟฟ้า

กับตะวันออกกลางก็เอาข้าวแลกน้ำมัน กับอเมริกา เอาข้าวแลกเทคโนโลยี

กับจีนก็เอาข้าวแลก ห้าจี

เอาแบบให้เค้าได้ประโยชน์ด้วย ค้าแบบวินวิน รัฐบาลไทยก็ไม่โดนเอาเปรียบ

อันนี้เอาเบื้องต้น เดี๋ยวมีตอนสองครับ

อย่าถามผมว่าโกงไหม ผมไม่รู้ ยังไงเราไม่เห็นต้องกลัวเลย

ตอนนี้เรามี ปปช เอียงสุด ถ้าเค้าโกงจริง โดนฟันอยู่แล้ว

ให้ ปปช เค้าทำหน้าที่ไป ขนาด ประกันราคาข้าวยังดองเค็มอยู่เลย

ถ้าโกงจริงเรามีคนเอาผิดเค้าแน่

ผมออกมา หาทางแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

ปัญหาเกิดกับชาวนา เราก็ช่วยหาทางแก้

ตอนสองจะเป็น เรื่องการแก้ปัญหา อีก หนึ่งมิติ

คือการสร้าง ดีมานให้ข้าวไทย เพื่อช่วยชาวนาได้อย่างยั่งยืน