Part 2 :
http://pantip.com/topic/31618387/comment8

สืบเนื่องจากการชื่นชอบความน่ารัก คิคุ อาโนเนะ ของสาวๆญี่ปุ่น และจากที่เห็นรีวิวของเพื่อนๆในห้องบลูฯ ตลอดจนคำร่ำลือจากเพื่อนๆรอบข้างที่มา สปอยล์ว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ควรไปมากที่สุดอีกประเทศหนึ่ง และถ้าไปแล้ว ครั้งเดียวไม่เคยพอ จนเราเก็บไปนอนฝันว่า สักวันเราจะต้องไปตะลุยแดนอาทิตย์อุทัย นามว่าญี่ปุ่น ตามหาฟูจิซัง ให้จงได้…..
ปกติแล้ว ผมและผองเพื่อน มักจะหาเวลาช่วงที่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุดยาวที่คาบเกี่ยววันเสาร์อาทิตย์ เพื่อจะนัดรวมพลกันกับเพื่อนๆสมัยเรียนมหาลัย ที่มีรสนิยมเดียวกัน คือ ชื่นชอบการถ่ายรูปและการท่องเที่ยว มาแบกเป้กัน ไปทริปเฮฮาปาจิงโกะ โดยมีเงื่อนไขในการเดินทางว่า
"ไปแบบประหยัด สงัดไม่เป็น เน้นเฮฮา พาหลงไม่กลัว ทัวร์ไม่ง้อ ขอแค่รูปสวยๆ รวยประสบการณ์ชีวิต" ……(สโลแกนประจำกลุ่มเรา 555 เว่อจริงๆ)
การหาเป้าหมายสถานที่ท่องเที่ยวของกลุ่มเรา ง่ายมากๆ คือตามติดโปรของหางแดง สายการบินราคาประหยัดนั่นเอง โดยพวกเราจะคอยมอนิเตอร์เว็บของแอเอเซีย ว่ามีโปรฯอะไรที่ร้อนแรง และพวกเราสามารถลางานกันได้พร้อมๆกัน เมื่อมติส่วนใหญ่ตกลงกันได้ ก็จองทิ้งไว้ข้ามปีกันเลย และแล้วก็มาถึงโปรฯของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเรารอคอยกันมานาน ถึงแม้ไม่ได้ร้อนแรงมาก แต่เมื่อเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย เราก็จองทันที
เราจองตั๋วทิ้งไว้เกือบปี จนลืมไปเลย พอใกล้วันเดินทางประมาณ1เดือน เราจึงมาหาข้อมูลกันอย่างจริงจัง ทั้งจากบรรดาหนังสือต่างๆ ข้อมูลจากห้องบลูฯ ข้อมูลจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยไป เพื่อวางโปรแกรมเที่ยวให้รัดกุมและประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ได้เที่ยวในที่ๆเราต้องการไปให้คุ้มค่ามากที่สุด
เป้าหมายในการเที่ยวญี่ปุ่นของพวกเราคือ

1.ตามหาฟูจิซัง
2.ตามหาหิมะครั้งแรกในชีวิต
3.ชื่นชมอารยธรรมตะวันออก ทั้งวิถีชีวิตดั้งเดิม และสมัยใหม่
แหล่งข้อมูลและลิงค์ต่างๆที่เราไปทริปครั้งนี้
1.หนังสือ
2. ลายแทงแหล่งของกินของช้อปราคาสบายกระเป๋า
>>>>>
https://www.facebook.com/maichaiGURU
3. JR pass โดยเปิดเข้าไปดูเส้นทางก่อนวางโปรแกรมเที่ยว จะได้เที่ยวให้ครอบคลุมและคุ้มเงินมากที่สุด
JR rail pass
>>>
http://www.japanrailpass.net/
JR Kanto pass
>>>
http://www.jreast.co.jp/e/kantoareapass/
4. ที่พัก
ในโตเกียว เราพักที่ K’s house tokyo
>>>
https://www.facebook.com/tokyo.kshouse
>>>
http://www.kshouse.jp/index_e.html
ที่ Kawaguchiko พักที่ Sakuya guest house
>>>
http://www.agoda.com/th-th/guesthouse-sakuya/hotel/fuji-san-jp.html?type=1&site_id=1511223&url=http://www.agoda.com/guesthouse-sakuya/hotel/fuji-san-jp.html&adid=48552058528&network=g&adpos=1t2&expid=&rand=520471587870421793&device=c&tag=4eeb6bc8-be9d-43d1-b93b-df03d8ce3681&gclid=CIy26tTQsrwCFewF4godZQgAew&cklg=1
5. วางแผนการขึ้นรถไฟ(ควรทำเป็นอย่างยิ่ง จะได้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย)
>>>
www.hyperdia.com
6. ข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่นจากห้องบลูฯที่มีอยู่มากมาย (ขอขอบคุณจริงๆครับ)
>>>
http://pantip.com/tag/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8
7. ข้อมูลสนามบิน LCCT Kualalumpur malaysia
>>>
http://www.lcct.com.my/
8. ข้อมูลต่างๆสนามบิน Haneda international Tokyo
>>>
http://www.tokyo-airport-bldg.co.jp/en/
เมื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆได้แล้ว เราก็นัดรวมพลเพื่อวางโปรแกรมเที่ยว
สืบเนื่องมาจาก การที่พวกเราจองตัวของหางแดง AA โดยขึ้นเครื่องที่ สนามบิน LCCT เมือง Kuala lumpur ประเทศ มาเลย์เซีย และเนื่องจากพวกเรา ค่อนข้างจะคุ้นเคยกับประเทศมาเลย์เซีย เป็นอย่างดี เพราะไปเที่ยวกันบ่อยมาก โดยวิธีการไป มีทั้งขับรถไปเอง นั่งรถบัสจากหาดใหญ่ และนั่งเครื่องAA พวกเราเลยมีทางเลือกให้เลือกหลายทาง แต่เมื่อคำนวณเวลา,สมาชิกร่วมเดินทาง5คน,กระเป๋าเดินทาง พวกเราจึงตัดสินใจเลือกขับรถไปเอง แล้วไปฝากรถไว้ที่คอนโดฯของเพื่อนที่ทำงานในประเทศมาเลย์เซีย(จะได้ไม่เสียค่าจอดรถ วันละ500บาทเชียว แพงชิป…)
***ในการไปญี่ปุ่นของเราครั้งนี้ เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เราจึงเลือกที่จะซื้อ JR kanto pass เพราะเมื่อดูรายละเอียดของ pass นี้แล้ว เราสามารถไปภูเขาไฟฟูจิ,ได้ขึ้น รถไฟหัวกระสุน (shinkansen) และเราเลือกไป Nikko เพื่อตามหาหิมะ(โดยเสี่ยงดวงกันว่าน่าจะได้เจอหิมะ)
***JR Pass : จากที่เรารู้ข้อมูลมาว่าถ้าจะไปญี่ปุ่นหลายๆวัน ต้องซื้อ JR rail pass ถึงจะคุ้ม จริงๆก็คุ้มนะครับ แต่จะคุ้มสำหรับคนที่จะไปเที่ยวหลายๆเมือง และเที่ยวอย่างน้อย7วัน ส่วนใครที่ไม่ได้ไปหลายเมือง ก็สามารถเลือกซื้อ JR pass แบบย่อยๆ โดยเขาจะแบ่งเป็นโซนแต่ละภาคของญี่ปุ่น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า เราวางแผนจะไปโซนไหน
พวกเราเลือก JR- east โดยเลือก JR kanto pass ในราคา 8,000 yen / 2,560 บาท โดย pass นี้มีอายุ 3 วัน นับตั้งแต่วันแรกที่เราเปิดใช้ จะต้องใช้ติดต่อกันให้ครบภายใน3วัน โดยสามารถขึ้นรถไฟในเครือ JR ฟรี กี่รอบกี่เที่ยวก็ได้ (คุ้มสุดๆ) และที่สำคัญ
สามารถขึ้นรถไฟหัวกระสุนได้ด้วย
รถไฟที่เราสามารถขึ้นได้ใน Pass นี้คือ
JR East Lines
Tokyo Monorail
Izu Kyuko Line
Fuji Kyuko Line
Joshin Dentetsu Line
Saitama New Urban Transit Line (New Shuttle) – between Omiya and the Railway Museum
นี่คือแผนผังเมืองต่างๆ ที่ JR kanto pass สามาถไปได้
แผนที่รถไฟและรถไฟใต้ดิน ในเครือ JR ที่เราขึ้นได้ (ดูแล้วอาจเกิดอาการตาลาย แต่ต้องทำใจ และดูสถานีต่างๆที่จะไป ให้ชิน ก่อนเดินทาง จะช่วยประหยัดเวลามากครับ)
>>> pdf file :
http://www.jreast.co.jp/e/info/map_a4ol.pdf
และแล้วพวกเราก็ได้โปรแกรมออกมาดังนี้
***Japan trip 4 Dec2013 - 10 Dec2013 ***
Day 1 (4 Dec 2013) --> Start Japan trip
19:00 Drive from Hatyai to KLCC
Day 2 ( 5 Dec 2013 ) -----> KL
14:40 Fly from KL to Tokyo
22:20 Tokyo sleep at Haneda airport
Day 3 ( 6 Dec 2013) ----> Kawakuchigo
06:00 Tokyo station
08:00. ซื้อ JR Kanto pass
08:15. ไป Kawakuchigo
12:00. ถึง Kawakuchigo
13:00 Check in Sakuya guest house
14:00 - 18:00 enjoy Fuji mt. view
19:00 Onsen
Day 4 (7 Dec 2013) --- > Tokyo
06:00 Sun rise at Fuji san mt.
09:00 Back to Tokyo
10:00 Shopping Shibuya,Harachuku
19:00 Tokyo night life
22:00 Sleep at K’s house Tokyo
Day 5 ( 8 Dec 2013 ) -- > Niko-->Tokyo
06:00 ไป Nikko
09:00 ถึง Nikko ขึ้นกระเช้าชมวิว
12:00 ชมใบไม้ผลัดสี กับมื้อเที่ยง
13:00 ชมทะเลสาป อาจเจอหิมะ
14:00 ถ่ายรูปน้ำตก
17:00 Back to Tokyo
Day 6 ( 9 Dec 2013 ) -----> Tokyo (again)
07:00 Tokyo sight seeing
20:00 Check in at Haneda Airport
23:55 Departure
Day 7 ( 10 Dec 2013 ) ----> KL
06:40 Arrived at KLCC
09:00 KL trip and drive to Hatyai
23:00 Arrived Hatyai
ตารางคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆของพวกเรา
หมายเหตุ
- อัตราแลกเปลี่ยน 100Y = 32B
- ค่าใช้จ่ายที่เราจะเก็บเป็นกองกลางประมาณ คนละ 15,000 บาท (แต่เราเผื่อเหลือเผื่อขาดจึงขอเก็บคนละ20,000บาท)
เราคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ เพื่อจะได้ประมาณการ เงินpocket moneyได้ถูก ว่าต้องทำงานเก็บเงินซักเท่าไหร่ในทริปนี้
********************************************************************************
วันนี้ง่วงมากแระ ขออัพแค่นี้ก่อนนะครับ…..แล้วจะรีบมาต่อรายละเอียดเที่ยวในแต่ละวันเร็วๆนี้
[CR] แบกเป้เที่ยวญี่ปุ่น ตามหาฟูจิซัง ครั้งแรก ด้วยงบ30,000บาท (ทริป 5 วัน 4 คืน เมื่อ 5 ธันวาคม 2556 - 9 ธันวาคม 2556)
ปกติแล้ว ผมและผองเพื่อน มักจะหาเวลาช่วงที่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุดยาวที่คาบเกี่ยววันเสาร์อาทิตย์ เพื่อจะนัดรวมพลกันกับเพื่อนๆสมัยเรียนมหาลัย ที่มีรสนิยมเดียวกัน คือ ชื่นชอบการถ่ายรูปและการท่องเที่ยว มาแบกเป้กัน ไปทริปเฮฮาปาจิงโกะ โดยมีเงื่อนไขในการเดินทางว่า "ไปแบบประหยัด สงัดไม่เป็น เน้นเฮฮา พาหลงไม่กลัว ทัวร์ไม่ง้อ ขอแค่รูปสวยๆ รวยประสบการณ์ชีวิต" ……(สโลแกนประจำกลุ่มเรา 555 เว่อจริงๆ)
การหาเป้าหมายสถานที่ท่องเที่ยวของกลุ่มเรา ง่ายมากๆ คือตามติดโปรของหางแดง สายการบินราคาประหยัดนั่นเอง โดยพวกเราจะคอยมอนิเตอร์เว็บของแอเอเซีย ว่ามีโปรฯอะไรที่ร้อนแรง และพวกเราสามารถลางานกันได้พร้อมๆกัน เมื่อมติส่วนใหญ่ตกลงกันได้ ก็จองทิ้งไว้ข้ามปีกันเลย และแล้วก็มาถึงโปรฯของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเรารอคอยกันมานาน ถึงแม้ไม่ได้ร้อนแรงมาก แต่เมื่อเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย เราก็จองทันที
เราจองตั๋วทิ้งไว้เกือบปี จนลืมไปเลย พอใกล้วันเดินทางประมาณ1เดือน เราจึงมาหาข้อมูลกันอย่างจริงจัง ทั้งจากบรรดาหนังสือต่างๆ ข้อมูลจากห้องบลูฯ ข้อมูลจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยไป เพื่อวางโปรแกรมเที่ยวให้รัดกุมและประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ได้เที่ยวในที่ๆเราต้องการไปให้คุ้มค่ามากที่สุด
เป้าหมายในการเที่ยวญี่ปุ่นของพวกเราคือ
1.ตามหาฟูจิซัง
2.ตามหาหิมะครั้งแรกในชีวิต
3.ชื่นชมอารยธรรมตะวันออก ทั้งวิถีชีวิตดั้งเดิม และสมัยใหม่
แหล่งข้อมูลและลิงค์ต่างๆที่เราไปทริปครั้งนี้
1.หนังสือ
2. ลายแทงแหล่งของกินของช้อปราคาสบายกระเป๋า
>>>>> https://www.facebook.com/maichaiGURU
3. JR pass โดยเปิดเข้าไปดูเส้นทางก่อนวางโปรแกรมเที่ยว จะได้เที่ยวให้ครอบคลุมและคุ้มเงินมากที่สุด
JR rail pass
>>> http://www.japanrailpass.net/
JR Kanto pass
>>> http://www.jreast.co.jp/e/kantoareapass/
4. ที่พัก
ในโตเกียว เราพักที่ K’s house tokyo
>>> https://www.facebook.com/tokyo.kshouse
>>> http://www.kshouse.jp/index_e.html
ที่ Kawaguchiko พักที่ Sakuya guest house
>>> http://www.agoda.com/th-th/guesthouse-sakuya/hotel/fuji-san-jp.html?type=1&site_id=1511223&url=http://www.agoda.com/guesthouse-sakuya/hotel/fuji-san-jp.html&adid=48552058528&network=g&adpos=1t2&expid=&rand=520471587870421793&device=c&tag=4eeb6bc8-be9d-43d1-b93b-df03d8ce3681&gclid=CIy26tTQsrwCFewF4godZQgAew&cklg=1
5. วางแผนการขึ้นรถไฟ(ควรทำเป็นอย่างยิ่ง จะได้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย)
>>> www.hyperdia.com
6. ข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่นจากห้องบลูฯที่มีอยู่มากมาย (ขอขอบคุณจริงๆครับ)
>>> http://pantip.com/tag/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8
7. ข้อมูลสนามบิน LCCT Kualalumpur malaysia
>>> http://www.lcct.com.my/
8. ข้อมูลต่างๆสนามบิน Haneda international Tokyo
>>> http://www.tokyo-airport-bldg.co.jp/en/
เมื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆได้แล้ว เราก็นัดรวมพลเพื่อวางโปรแกรมเที่ยว
สืบเนื่องมาจาก การที่พวกเราจองตัวของหางแดง AA โดยขึ้นเครื่องที่ สนามบิน LCCT เมือง Kuala lumpur ประเทศ มาเลย์เซีย และเนื่องจากพวกเรา ค่อนข้างจะคุ้นเคยกับประเทศมาเลย์เซีย เป็นอย่างดี เพราะไปเที่ยวกันบ่อยมาก โดยวิธีการไป มีทั้งขับรถไปเอง นั่งรถบัสจากหาดใหญ่ และนั่งเครื่องAA พวกเราเลยมีทางเลือกให้เลือกหลายทาง แต่เมื่อคำนวณเวลา,สมาชิกร่วมเดินทาง5คน,กระเป๋าเดินทาง พวกเราจึงตัดสินใจเลือกขับรถไปเอง แล้วไปฝากรถไว้ที่คอนโดฯของเพื่อนที่ทำงานในประเทศมาเลย์เซีย(จะได้ไม่เสียค่าจอดรถ วันละ500บาทเชียว แพงชิป…)
***ในการไปญี่ปุ่นของเราครั้งนี้ เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เราจึงเลือกที่จะซื้อ JR kanto pass เพราะเมื่อดูรายละเอียดของ pass นี้แล้ว เราสามารถไปภูเขาไฟฟูจิ,ได้ขึ้น รถไฟหัวกระสุน (shinkansen) และเราเลือกไป Nikko เพื่อตามหาหิมะ(โดยเสี่ยงดวงกันว่าน่าจะได้เจอหิมะ)
***JR Pass : จากที่เรารู้ข้อมูลมาว่าถ้าจะไปญี่ปุ่นหลายๆวัน ต้องซื้อ JR rail pass ถึงจะคุ้ม จริงๆก็คุ้มนะครับ แต่จะคุ้มสำหรับคนที่จะไปเที่ยวหลายๆเมือง และเที่ยวอย่างน้อย7วัน ส่วนใครที่ไม่ได้ไปหลายเมือง ก็สามารถเลือกซื้อ JR pass แบบย่อยๆ โดยเขาจะแบ่งเป็นโซนแต่ละภาคของญี่ปุ่น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า เราวางแผนจะไปโซนไหน
พวกเราเลือก JR- east โดยเลือก JR kanto pass ในราคา 8,000 yen / 2,560 บาท โดย pass นี้มีอายุ 3 วัน นับตั้งแต่วันแรกที่เราเปิดใช้ จะต้องใช้ติดต่อกันให้ครบภายใน3วัน โดยสามารถขึ้นรถไฟในเครือ JR ฟรี กี่รอบกี่เที่ยวก็ได้ (คุ้มสุดๆ) และที่สำคัญ
รถไฟที่เราสามารถขึ้นได้ใน Pass นี้คือ
JR East Lines
Tokyo Monorail
Izu Kyuko Line
Fuji Kyuko Line
Joshin Dentetsu Line
Saitama New Urban Transit Line (New Shuttle) – between Omiya and the Railway Museum
นี่คือแผนผังเมืองต่างๆ ที่ JR kanto pass สามาถไปได้
แผนที่รถไฟและรถไฟใต้ดิน ในเครือ JR ที่เราขึ้นได้ (ดูแล้วอาจเกิดอาการตาลาย แต่ต้องทำใจ และดูสถานีต่างๆที่จะไป ให้ชิน ก่อนเดินทาง จะช่วยประหยัดเวลามากครับ)
>>> pdf file : http://www.jreast.co.jp/e/info/map_a4ol.pdf
และแล้วพวกเราก็ได้โปรแกรมออกมาดังนี้
***Japan trip 4 Dec2013 - 10 Dec2013 ***
Day 1 (4 Dec 2013) --> Start Japan trip
19:00 Drive from Hatyai to KLCC
Day 2 ( 5 Dec 2013 ) -----> KL
14:40 Fly from KL to Tokyo
22:20 Tokyo sleep at Haneda airport
Day 3 ( 6 Dec 2013) ----> Kawakuchigo
06:00 Tokyo station
08:00. ซื้อ JR Kanto pass
08:15. ไป Kawakuchigo
12:00. ถึง Kawakuchigo
13:00 Check in Sakuya guest house
14:00 - 18:00 enjoy Fuji mt. view
19:00 Onsen
Day 4 (7 Dec 2013) --- > Tokyo
06:00 Sun rise at Fuji san mt.
09:00 Back to Tokyo
10:00 Shopping Shibuya,Harachuku
19:00 Tokyo night life
22:00 Sleep at K’s house Tokyo
Day 5 ( 8 Dec 2013 ) -- > Niko-->Tokyo
06:00 ไป Nikko
09:00 ถึง Nikko ขึ้นกระเช้าชมวิว
12:00 ชมใบไม้ผลัดสี กับมื้อเที่ยง
13:00 ชมทะเลสาป อาจเจอหิมะ
14:00 ถ่ายรูปน้ำตก
17:00 Back to Tokyo
Day 6 ( 9 Dec 2013 ) -----> Tokyo (again)
07:00 Tokyo sight seeing
20:00 Check in at Haneda Airport
23:55 Departure
Day 7 ( 10 Dec 2013 ) ----> KL
06:40 Arrived at KLCC
09:00 KL trip and drive to Hatyai
23:00 Arrived Hatyai
ตารางคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆของพวกเรา
หมายเหตุ
- อัตราแลกเปลี่ยน 100Y = 32B
- ค่าใช้จ่ายที่เราจะเก็บเป็นกองกลางประมาณ คนละ 15,000 บาท (แต่เราเผื่อเหลือเผื่อขาดจึงขอเก็บคนละ20,000บาท)
เราคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ เพื่อจะได้ประมาณการ เงินpocket moneyได้ถูก ว่าต้องทำงานเก็บเงินซักเท่าไหร่ในทริปนี้
********************************************************************************
วันนี้ง่วงมากแระ ขออัพแค่นี้ก่อนนะครับ…..แล้วจะรีบมาต่อรายละเอียดเที่ยวในแต่ละวันเร็วๆนี้